เศษวิบากกรรมของพระพุทธเจ้าสมณโคดม
ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภาวิสสันติ สัตว์เหล่าใดทำกรรมใด เป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว สัตว์เหล่านั้นจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
-----------------------------------------------------------------------------------
พระพุทธศาสนาสอนมุ่งเน้นเรื่องกรรมและผลของกรรม บุคคลที่กระทำกรรมดี ก็ย่อมได้รับผลของกรรมดีทั้งในภพปัจจุบันและภพหน้า ไม่มีใครสามารถหลีกหนีผลกรรมที่ตนเองกระทำไว้ได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะหลบหลีก หรือซ้อนตัวอยู่ไหนที่ใดก็ตาม ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “กัมมุนา วัตตติ โลโก สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม”
แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่สามารถจะหลีกหนีกรรมของพระองค์ไปได้ ไม่ว่าจะผ่านมาเนินนานเท่าไร กรรมก็คอยจะให้ผลเปรียบเหมือนเงาตามตัว ในคัมภีร์อปทาน ตอนที่ว่าด้วย ปุพพกัมปิโลติ พุทธาปทาน ข้อ ๓๙๒ พระองค์ตรัสถึงกรรมดีและชั่วที่ทรงกระทำมาแล้วในอดีต และจะต้องได้รับในภพปัจจุบันแม้จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก็ตาม มี ๑๔ ข้อ
๑. กรรมดีจากการถวายผ้าแก่พระสงฆ์ ในอดีตพระองค์เกิดเป็นคนยาจก ได้ฟังเรื่องราวของพระพุทธเจ้าจากพระสาวก เกิดความเลื่อมใสถวายผ้าเก่าต่อพระสาวก แล้วเริ่มตั้งความปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าครั้งแรก ส่งผลต่อเนื่องให้มาเป็นพระพุทธเจ้า
๒. กรรมเคยแกล้งโคไม่ให้ดื่มน้ำ ในอดีตพระองค์เกิดเป็นคนเลี้ยงโค แกล้งโคไม่ให้ดื่มน้ำโดยการกวนให้น้ำขุ่น ครั้งใกล้จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์กระหายน้ำแล้วให้พระอานนท์ไปตั้งน้ำถึง 3 ครั้งจึงจะได้เสวยน้ำ
๓. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีลด้วยเรื่องไม่จริง พระองค์เกิดเป็นนักเลงได้ใส่ร้ายพระปัจเจกพระพุทธเจ้าว่าทำผู้หญิงท้อง ส่งผลให้ถูกนางสุนทริกากล่าวตู่ว่า นางตั้งครรภ์กับพระองค์
๔. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีล พระองค์ทรงกล่าวตู่พระสาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้าด้วยเรื่องชู้สาว ส่งผลให้ถูกนางจิญจมาณวิกากล่าวตู่ด้วยว่า นางตั้งครรภ์กับพระองค์
๕. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีล ทรงเกิดเป็นพราหมณ์ได้กล่าวร้ายฤาษีผู้ได้อภิญญา ๕ ต่อลูกศิษย์ของตนว่า ฤาษีพวกนี้มักชอบบริโภคกาม ลูกศิษย์ก็นำไปพูดต่อกับมหาชน ทำให้พระองค์พร้อมทั้งสาวกของพระองค์ 500 รูป ได้รับคำกล่าวตู่จากนางสุนทริกาว่า เป็นผู้มักมากในกาม
๖. กรรมเก่าจากการเคยฆ่าน้องชายต่างมารดา พระองค์เกิดเป็นลูกเศรษฐี และเกรงว่าทรัพยสมบัติส่วนหนึ่งจะถูกแบ่งไปให้แก่น้องชายต่างมารดา จึงลวงน้องชายไปฆ่าที่ซอกเขาแล้วเอาหินทับไว้ ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัตกลิ้งหินกระทบพระบาทจนห้อพระโลหิต
๗. กรรมเก่าจากการเคยจุดไฟดักทางพระปัจเจกพุทธเจ้า พระองค์เกิดเป็นเด็กแสนซน วันหนึ่งขณะเล่นอยู่กับเพื่อน เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งกำลังเดินมา จึงชวนกันจุดไฟดักทางเพื่อมิให้พระพุทธเจ้าผ่านไปได้ ทำให้พระเทวทัตชักชวนนายขมังธนูผู้ฆ่าคนตายมากให้มาฆ่าพระองค์ ส่งผลให้พระองค์ถูกไฟไหม้ที่พระบาท
๘. กรรมเก่าจากการเคยไสช้างจับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระองค์เกิดเป็นควาญช้าง วันหนึ่งเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งบิณฑบาตแล้วเกลียด จึงไสช้างให้จับพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนั้น ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัตยุยงพระเจ้าอชาตศัตรู ให้ปล่อยช้างนาฬาคีรีมาแทงพระองค์
๙. กรรมเก่าจากการเคยนำทหารออกศึก พระองค์เกิดเป็นแม่ทัพนำทหารออกรบฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก หลังจากที่พระเทวทัตทำให้พระองค์ทรงห้อพระโลหิตแล้ว เสด็จไปให้หมอชีวกรักษา หมอชีวกได้รักษาปรุงยาอย่างแรงกล้าเพื่อสมานแผลแล้วปิดแผล เข้าไปทำธุระในเมือง แต่กลับมาไม่ทันเอายาออก ประตูเมืองปิดก่อน ทำให้พระองค์เกิดความเร่าร้อนในสรีระตลอด ซึ่งต่อมาได้รับสั่งให้พระอานนท์นำยาที่ปิดแผลนั้นออกในตอนค่ำนั่นเอง
๑๐. กรรมเก่าจากการเคยชอบใจเมื่อเห็นคนฆ่าปลา พระองค์เกิดเป็นลูกชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาแล้วเกิดความยินดีสนุกสนาน บาปกรรมส่งผลให้พระองค์รู้สึกปวดพระเศียรเมื่อคราวที่พวกเจ้าศากยะพระประยูรญาติของพระองค์ ถูกพระเจ้าวิฑูฑภะแห่งแคว้นโกศลยกทัพบุกสังหาร
๑๑. กรรมจากการเคยด่าสาวกของพระพุทธเจ้า พระองค์เกิดเป็นคนปากกล้าด่าว่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าผุสสะว่า “ท่านทั้งหลายจงเคี้ยว จงกินแต่ข้าวแดง อย่ากินข้าวสาลีเลย” ส่งผลให้พระองค์ได้รับนิมนต์จากพราหมณ์ให้ไปจำพรรษาในเมืองเวรัญชา ซึ่งเกิดข้าวยากหมากแพง ทำให้พระองค์ต้องเสวยข้าวชนิดเลว (ข้าวแดง) อยู่นานถึง 3 เดือน
๑๒. กรรมจากการเคยจงใจดัดหลังนักมวยปล้ำให้เจ็บ ทรงเกิดในตระกูลคหบดี มีกำลังมากมหาศาล แต่ตัวเตี้ย ต่อมามีนักมวยปล้ำต่างถิ่นมาท้าต่อสู้ ก็ได้จับนักปล้ำผู้นั้นขึ้นแล้วหมุนไปในอากาศแล้วทุ่มลงภาคพื้น จับดัดหลัง จนนักปล้ำผู้นั้น กระดูกหักเจ็บปวดอย่างมาก และยอมแพ้ในที่สุด ส่งผลให้เป็นโรคปวดพระปฤษฏางค์ (ปวดหลัง)
๑๓. กรรมจากการเคยเป็นหมอยารักษาคนไข้ตาย พระองค์เกิดเป็นหมอยาได้รับ รักษาลูกชายเศรษฐี โดยวิธีให้ยาถ่ายจนลูกชายเศรษฐีตายด้วยความจงใจ ส่งผลให้พระองค์เกิดพระโรคปักขันทิกาพาธ (โรคท้องร่วง) หลังจากเสวยสุกรมัททวะก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน
๑๔. กรรมจากการเคยเยาะเย้ยพระพุทธเจ้า พระองค์เกิดเป็นชายหนุ่ม วันหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากัสสปะ กราบทูลทำนองเย้ยหยันว่า “ทำไมจึงตรัสรู้ช้า ต้องบำเพ็ญเพียรอยู่นานกว่าจะตรัสรู้ได้” จึงส่งผลให้พระองค์หลงทางในการแสวงหาโมกธรรมจนต้องบำเพ็ญทุกรกิริยา และประสบกับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส 6 ปี จึงตรัสรู้
ทั้งหมดนี้ คือกรรมเก่าของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงกระทำไว้ในอดีต ตั้งแต่ยังมิได้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นกรรมดีเพียงข้อ ๑ ข้อ กรรมชั่ว ๑๓ ข้อ จะเห็นได้ว่า ไม่มีใครหลีกหนีกรรมได้พ้นแม้แต่พระพุทธเจ้า หรือว่า พระโมคคัลลานะผู้ได้รับเอตทัคคะว่า เลิศทางฤทธิ์มาก ก็ยังถูกโจรทุบตีจนร่างกายแหลกเหลว เพราะกรรมที่เคยทุบตีพ่อแม่ในอดีต ดังนั้น สัตว์ทั้งหลายควรหมั่นกระทำบุญ หรือความดีบ่อย ๆ บุญ หรือความดีเท่านั้นจะติดตามสัตว์ทั้งหลายไปในอนาคต ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า ปุญฺญญฺเจ ปุริโส กยิรา กยิราเถนํ ปุนปฺปุนํ ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย แปลว่า ถ้าบุคคลจะทำบุญ ก็ควรทำบุญหรือความดีนั้นบ่อยๆ ควรทำความพอใจในบุญนั้น เพราะการสั่งสมบุญเป็นเหตุให้เกิดสุข ฯ
เศษวิบากกรรมของพระพุทธเจ้าสมณโคดม
ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภาวิสสันติ สัตว์เหล่าใดทำกรรมใด เป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว สัตว์เหล่านั้นจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
-----------------------------------------------------------------------------------
พระพุทธศาสนาสอนมุ่งเน้นเรื่องกรรมและผลของกรรม บุคคลที่กระทำกรรมดี ก็ย่อมได้รับผลของกรรมดีทั้งในภพปัจจุบันและภพหน้า ไม่มีใครสามารถหลีกหนีผลกรรมที่ตนเองกระทำไว้ได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะหลบหลีก หรือซ้อนตัวอยู่ไหนที่ใดก็ตาม ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “กัมมุนา วัตตติ โลโก สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม”
แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่สามารถจะหลีกหนีกรรมของพระองค์ไปได้ ไม่ว่าจะผ่านมาเนินนานเท่าไร กรรมก็คอยจะให้ผลเปรียบเหมือนเงาตามตัว ในคัมภีร์อปทาน ตอนที่ว่าด้วย ปุพพกัมปิโลติ พุทธาปทาน ข้อ ๓๙๒ พระองค์ตรัสถึงกรรมดีและชั่วที่ทรงกระทำมาแล้วในอดีต และจะต้องได้รับในภพปัจจุบันแม้จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก็ตาม มี ๑๔ ข้อ
๑. กรรมดีจากการถวายผ้าแก่พระสงฆ์ ในอดีตพระองค์เกิดเป็นคนยาจก ได้ฟังเรื่องราวของพระพุทธเจ้าจากพระสาวก เกิดความเลื่อมใสถวายผ้าเก่าต่อพระสาวก แล้วเริ่มตั้งความปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าครั้งแรก ส่งผลต่อเนื่องให้มาเป็นพระพุทธเจ้า
๒. กรรมเคยแกล้งโคไม่ให้ดื่มน้ำ ในอดีตพระองค์เกิดเป็นคนเลี้ยงโค แกล้งโคไม่ให้ดื่มน้ำโดยการกวนให้น้ำขุ่น ครั้งใกล้จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์กระหายน้ำแล้วให้พระอานนท์ไปตั้งน้ำถึง 3 ครั้งจึงจะได้เสวยน้ำ
๓. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีลด้วยเรื่องไม่จริง พระองค์เกิดเป็นนักเลงได้ใส่ร้ายพระปัจเจกพระพุทธเจ้าว่าทำผู้หญิงท้อง ส่งผลให้ถูกนางสุนทริกากล่าวตู่ว่า นางตั้งครรภ์กับพระองค์
๔. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีล พระองค์ทรงกล่าวตู่พระสาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้าด้วยเรื่องชู้สาว ส่งผลให้ถูกนางจิญจมาณวิกากล่าวตู่ด้วยว่า นางตั้งครรภ์กับพระองค์
๕. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีล ทรงเกิดเป็นพราหมณ์ได้กล่าวร้ายฤาษีผู้ได้อภิญญา ๕ ต่อลูกศิษย์ของตนว่า ฤาษีพวกนี้มักชอบบริโภคกาม ลูกศิษย์ก็นำไปพูดต่อกับมหาชน ทำให้พระองค์พร้อมทั้งสาวกของพระองค์ 500 รูป ได้รับคำกล่าวตู่จากนางสุนทริกาว่า เป็นผู้มักมากในกาม
๖. กรรมเก่าจากการเคยฆ่าน้องชายต่างมารดา พระองค์เกิดเป็นลูกเศรษฐี และเกรงว่าทรัพยสมบัติส่วนหนึ่งจะถูกแบ่งไปให้แก่น้องชายต่างมารดา จึงลวงน้องชายไปฆ่าที่ซอกเขาแล้วเอาหินทับไว้ ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัตกลิ้งหินกระทบพระบาทจนห้อพระโลหิต
๗. กรรมเก่าจากการเคยจุดไฟดักทางพระปัจเจกพุทธเจ้า พระองค์เกิดเป็นเด็กแสนซน วันหนึ่งขณะเล่นอยู่กับเพื่อน เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งกำลังเดินมา จึงชวนกันจุดไฟดักทางเพื่อมิให้พระพุทธเจ้าผ่านไปได้ ทำให้พระเทวทัตชักชวนนายขมังธนูผู้ฆ่าคนตายมากให้มาฆ่าพระองค์ ส่งผลให้พระองค์ถูกไฟไหม้ที่พระบาท
๘. กรรมเก่าจากการเคยไสช้างจับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระองค์เกิดเป็นควาญช้าง วันหนึ่งเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งบิณฑบาตแล้วเกลียด จึงไสช้างให้จับพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนั้น ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัตยุยงพระเจ้าอชาตศัตรู ให้ปล่อยช้างนาฬาคีรีมาแทงพระองค์
๙. กรรมเก่าจากการเคยนำทหารออกศึก พระองค์เกิดเป็นแม่ทัพนำทหารออกรบฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก หลังจากที่พระเทวทัตทำให้พระองค์ทรงห้อพระโลหิตแล้ว เสด็จไปให้หมอชีวกรักษา หมอชีวกได้รักษาปรุงยาอย่างแรงกล้าเพื่อสมานแผลแล้วปิดแผล เข้าไปทำธุระในเมือง แต่กลับมาไม่ทันเอายาออก ประตูเมืองปิดก่อน ทำให้พระองค์เกิดความเร่าร้อนในสรีระตลอด ซึ่งต่อมาได้รับสั่งให้พระอานนท์นำยาที่ปิดแผลนั้นออกในตอนค่ำนั่นเอง
๑๐. กรรมเก่าจากการเคยชอบใจเมื่อเห็นคนฆ่าปลา พระองค์เกิดเป็นลูกชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาแล้วเกิดความยินดีสนุกสนาน บาปกรรมส่งผลให้พระองค์รู้สึกปวดพระเศียรเมื่อคราวที่พวกเจ้าศากยะพระประยูรญาติของพระองค์ ถูกพระเจ้าวิฑูฑภะแห่งแคว้นโกศลยกทัพบุกสังหาร
๑๑. กรรมจากการเคยด่าสาวกของพระพุทธเจ้า พระองค์เกิดเป็นคนปากกล้าด่าว่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าผุสสะว่า “ท่านทั้งหลายจงเคี้ยว จงกินแต่ข้าวแดง อย่ากินข้าวสาลีเลย” ส่งผลให้พระองค์ได้รับนิมนต์จากพราหมณ์ให้ไปจำพรรษาในเมืองเวรัญชา ซึ่งเกิดข้าวยากหมากแพง ทำให้พระองค์ต้องเสวยข้าวชนิดเลว (ข้าวแดง) อยู่นานถึง 3 เดือน
๑๒. กรรมจากการเคยจงใจดัดหลังนักมวยปล้ำให้เจ็บ ทรงเกิดในตระกูลคหบดี มีกำลังมากมหาศาล แต่ตัวเตี้ย ต่อมามีนักมวยปล้ำต่างถิ่นมาท้าต่อสู้ ก็ได้จับนักปล้ำผู้นั้นขึ้นแล้วหมุนไปในอากาศแล้วทุ่มลงภาคพื้น จับดัดหลัง จนนักปล้ำผู้นั้น กระดูกหักเจ็บปวดอย่างมาก และยอมแพ้ในที่สุด ส่งผลให้เป็นโรคปวดพระปฤษฏางค์ (ปวดหลัง)
๑๓. กรรมจากการเคยเป็นหมอยารักษาคนไข้ตาย พระองค์เกิดเป็นหมอยาได้รับ รักษาลูกชายเศรษฐี โดยวิธีให้ยาถ่ายจนลูกชายเศรษฐีตายด้วยความจงใจ ส่งผลให้พระองค์เกิดพระโรคปักขันทิกาพาธ (โรคท้องร่วง) หลังจากเสวยสุกรมัททวะก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน
๑๔. กรรมจากการเคยเยาะเย้ยพระพุทธเจ้า พระองค์เกิดเป็นชายหนุ่ม วันหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากัสสปะ กราบทูลทำนองเย้ยหยันว่า “ทำไมจึงตรัสรู้ช้า ต้องบำเพ็ญเพียรอยู่นานกว่าจะตรัสรู้ได้” จึงส่งผลให้พระองค์หลงทางในการแสวงหาโมกธรรมจนต้องบำเพ็ญทุกรกิริยา และประสบกับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส 6 ปี จึงตรัสรู้
ทั้งหมดนี้ คือกรรมเก่าของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงกระทำไว้ในอดีต ตั้งแต่ยังมิได้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นกรรมดีเพียงข้อ ๑ ข้อ กรรมชั่ว ๑๓ ข้อ จะเห็นได้ว่า ไม่มีใครหลีกหนีกรรมได้พ้นแม้แต่พระพุทธเจ้า หรือว่า พระโมคคัลลานะผู้ได้รับเอตทัคคะว่า เลิศทางฤทธิ์มาก ก็ยังถูกโจรทุบตีจนร่างกายแหลกเหลว เพราะกรรมที่เคยทุบตีพ่อแม่ในอดีต ดังนั้น สัตว์ทั้งหลายควรหมั่นกระทำบุญ หรือความดีบ่อย ๆ บุญ หรือความดีเท่านั้นจะติดตามสัตว์ทั้งหลายไปในอนาคต ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า ปุญฺญญฺเจ ปุริโส กยิรา กยิราเถนํ ปุนปฺปุนํ ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย แปลว่า ถ้าบุคคลจะทำบุญ ก็ควรทำบุญหรือความดีนั้นบ่อยๆ ควรทำความพอใจในบุญนั้น เพราะการสั่งสมบุญเป็นเหตุให้เกิดสุข ฯ