"ปฏิบัติการง่ายง่าย ทำได้ รวยได้ใน 8 ข้อ"
คนเราถ้าจะรวยต้องลงมือทำ เพียงแค่คิดก็ไม่มีวันที่จะพาชีวิตไปสัมผัสความรวยได้ หากลงมือทำได้เร็วเท่าไหร่ก็จะรวยเร็วมากขึ้นเท่านั้น ก่อนที่เราจะเก่งอะไร เราก็ต้องมีความกล้า ดังนั้นถ้าเราจะเป็นคนรวยหรือเอาแค่เป็นคนไม่มีหนี้ เราก็ต้องมีความกล้าที่จะลงมือทำ แต่กล้าอย่างเดียวโดยไม่มีสติปัญญา ทำอย่างเดียวโดยไม่มีวิธีการที่ถูกต้องก็คงจะพบความรวยได้ยาก ขอแค่หมดหนี้ยังยาก เพราะเอาแต่ทำทำทำ ทำงานหัวซุกหัวซุน ทำงานจนไม่มีเวลา ตะบี้ตะบันทำแต่งาน ลงแรงกายแรงใจ แต่ยังขาดแรงสมอง หรือวิธีการที่จะพิชิตความรวย จึงไม่รวยสักที ถ้าคุณอยากรวยจริงๆใช้แต่แรงทำงานอย่างเดียวไม่พอ 8 ตัวช่วยนี้ทำให้คุณรวย
1. (มุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง ไม่ย่อท้อหรือท้อถอย)
เราต้องทำงานหนัก เราต้องรู้จักจัดสรรเวลาทำงานให้เต็มเวลาเต็มกำลังเต็มความสามารถ เราต้องทำงานหลายที่ทำงานหลายอย่าง เพราะส่วนใหญ่แล้วการทำงานหนักจะนำเงินมาให้เรา ในขณะที่การพูดมากแต่ไม่ทำจะนำความยากจนมาให้เรา อย่าขี้เกียจ ต่อให้รวยร้อยล้าน ถ้าขี้เกียจไม่ทำงานเอาแต่ใช้เงิน อย่าคิดว่าเงินจะไม่มีวันหมด ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย มัวแต่รอคอยความหวัง เราจะต้องตกอยู่ในวังวนวิกฤตการณ์ทางการเงินที่แย่ๆไปจนตายแน่นอน
2.(หารายได้จากหลายๆที่ ทำงานหลายๆอย่างที่ถนัด)
การหารายรับจากหลายแหล่ง ข้อนี้เป็นเคล็ดลับของมหาเศรษฐีหลายคน เพราะการพึ่งรายได้จากแหล่งเดียว ทำให้เราตกอยู่ในความเสี่ยงของภาวะที่ไม่แน่นอน เราต้องมีการลงทุนที่ฉลาดเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เช่น ถ้าเราเป็นมนุษย์เงินเดือน เราควรมีรายได้ส่วนอื่นจากการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ที่สามารถสร้างรายรับเข้ามาในแต่ละเดือนได้ด้วย การลงทุนที่ว่าอาจไม่จำเป็นต้องเอาเงินไปต่อเงิน ถ้าเราไม่มีเงิน เราควรใช้การลงทุนจากแรงกายแรงสมองที่เรามี อาชีพเสริมที่เราถนัด ความสามารถที่เรามี ที่จะสร้างรายได้สร้างเงินเพิ่มขึ้นมา
3.(ตัดรายจ่ายแฝงที่ไม่จำเป็นออกให้หมด)
ควบคุมรายจ่าย เมื่อไหร่ที่เราเริ่มจ่ายเงินซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น เราไม่ได้มีความต้องการจริง ๆ เราก็กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจต้องขายสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดแทน ดังนั้นเราต้องคิดและตั้งสติก่อนที่จะจ่ายเงินซื้ออะไรในชีวิตเสมอ ไม่ใช่เสื้อตัวนี้เราชอบซื้อทีเดียวเจ็ดตัวเจ็ดสีแต่ใส่จริงๆตัวเดียว รองเท้ารุ่นนี้เราอยากได้มีกี่สีซื้อหมด ทั้งทั้งที่ใส่จริงๆแค่ครั้งล่ะคู่
4.(ให้ความสำคัญกับการออมเป็นหลักก่อนหักรายจ่าย)
เราต้องตั้งใจออม เราต้องให้ความสำคัญในการออมเลยทันทีทุกครั้งที่ได้รับเงินมาหรือมีรายรับเข้ามา อย่ารอเก็บออมเงินที่เหลือหลังจากที่เราได้ใช้จ่ายจนพอใจ แต่เราต้องกันเงินส่วนหนึ่งของรายได้มาเพื่อเก็บสะสมก่อน แล้วจึงนำส่วนที่เหลือไปใช้จ่าย หลายคนมักจะเข้าใจผิด ใช้จ่ายแล้วเหลือจึงนำเข้าแบงก์ ที่จริงต้องนำออกมาออม ก่อนจะไปทำอย่างอื่น
5.(ห้ามกู้เงินจากทุกคน กดเงินสดล่วงหน้าจากตู้ทุกที่)
งดกู้ยืม ถ้าเราก่อหนี้ โดยการกู้ยืมเงินจากคนอื่น เราจะตกเป็นทาสของคนที่เราไปกู้ยืม ดังนั้นต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมุ่งมั่นและหนักแน่น พยายามมีชีวิตอยู่ตามอัตภาพเท่าที่เราหามาได้ อย่าไปสร้างหนี้สิน โดยไม่จำเป็น พยายามใช้ชีวิตอยู่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้ได้
6.(ทำบัญชีรายรับรายจ่ายและตรวจสอบความถูกต้องทุกวันกันลืม)
จัดระบบบัญชีของเราให้ดี เราต้องจดทุกอย่าง ทั้งรายรับและรายจ่าย จดอย่างละเอียดไม่ว่าทุกครั้งที่เงินออกจากกระเป๋าเราไปกี่บาทกี่สตางค์ก็ต้องจด และทุกครั้งที่เราได้รับเงินเข้ามาเราก็ต้องรีบหักออก10%ออมไว้ก่อนเลย การจดโดยละเอียดนั้นจะทำให้เราเห็นรายจ่ายแฝงที่ไม่จำเป็นต่างๆ ชนิดที่ว่าไม่จ่ายออกไปก็ไม่ตาย บางอย่างไม่จำเป็นต้องกิน ต้องใช้ ต้องจ่าย แต่เรายังจ่ายออกไปทำให้เงินเราหายออกไปจากชีวิตบ่อยบ่อย ที่เราไม่รวยก็เพราะรายจ่ายแฝงเล็กๆน้อยๆเหล่านี้นี่แหละ ดังนั้นการที่เราจดจะทำให้เรารู้ทุกอย่างทำให้เราสามารถจัดระบบบัญชีของชีวิตเราได้ นั่นคือเราต้องอย่าทำให้มีจุดรั่วไหลออกของเงิน หมั่นตรวจสอบรายรับรายจ่าย เราต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบมากมาก เพราะว่าค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ บ่อยๆก็ทำให้เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่และมหาศาลได้ ที่สำคัญทำให้เราหมดตัวได้ ดังนั้นอย่ามองข้ามค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ต้องให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายทุกชนิดเสมอ
7.(บริหารจัดการความเสี่ยงของชีวิต)
ความเสี่ยงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ ตัวอย่างเช่น เราไม่ควรจะทดสอบสมรรถนะของรถว่าเร็วแรงและปลอดภัยแค่ไหน ด้วยการเสี่ยงเอาตัวเองเข้าไปขับรถให้เร็วและแรง เพราะอย่าลืมว่าบนท้องถนนไม่ได้มีรถเราคันเดียว ยังมีผู้อื่นและสิ่งต่างๆที่เราไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งอาจทำให้เราต้องเสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุและอาจทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นด้วย ในการจัดการความเสี่ยง เราต้องมีแผนสำรองเสมอ ไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราต้องบริหารจัดการความเสี่ยงที่กำลังเผชิญอยู่อย่างมีสติปัญญาและชาญฉลาดที่สุด เอาเป็นว่าเลือกวิธีที่เสี่ยงแล้วปลอดภัยที่สุดถ้าจำเป็นจะต้องเสี่ยงจริงๆ เพราะการลงทุนคือความเสี่ยง ถ้ารู้ว่าเสี่ยงแล้วไม่คุ้มให้รีบถอนตัวทันทีอย่าดันทุรังเสี่ยงต่อไป เพราะชีวิตยังมีการลงทุนให้เสี่ยงอีกเยอะ
8.(บริหารจัดการการลงทุนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า)
อย่าเอาเงินทั้งหมดไปทุ่มลงทุนในสิ่งเดียว เพราะถ้าเกิดว่าอะไรอะไรไม่เป็นดั่งที่เราคิด หรือมันเจ๊งขึ้นมาเราจะหมดตัวในทันที ดังนั้นเราต้องกระจายความเสี่ยง เพราะอาชีพหนึ่งอาจจะอยู่ในช่วงขาลง แต่อีกอาชีพหนึ่งอาจจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้เรายังมีรายได้มีเงินเหลือพอที่จะทำสิ่งอื่นๆต่อไป
อย่าลงทุนซื้อของที่ไม่จำเป็นให้กับชีวิตมากมาย เพราะตอนเราตายเราก็ไม่ได้ใช้มัน สุดท้ายก่อนที่เราจะตายเราอาจต้องขายของที่จำเป็นที่สุดสำหรับชีวิตไป ดังนั้นอย่าเสียเวลาอยู่เลย ลองทำดูนะคะ ถ้าอยากมีความสุขด้วยรวยด้วยใช้ 8 ตัวช่วยนี้นะคะ แล้วเราจะรวยด้วยความสุขค่ะ
ดร.ลูกโป่ง ตีสิบ
23/06/2559
#ธนาคารแห่งความลับ
" ปฏิบัติการปลดหนี้ 8 ข้อ ที่คุณสามารถเข้าใจง่ายและปฏิบัติได้จริง "
คนเราถ้าจะรวยต้องลงมือทำ เพียงแค่คิดก็ไม่มีวันที่จะพาชีวิตไปสัมผัสความรวยได้ หากลงมือทำได้เร็วเท่าไหร่ก็จะรวยเร็วมากขึ้นเท่านั้น ก่อนที่เราจะเก่งอะไร เราก็ต้องมีความกล้า ดังนั้นถ้าเราจะเป็นคนรวยหรือเอาแค่เป็นคนไม่มีหนี้ เราก็ต้องมีความกล้าที่จะลงมือทำ แต่กล้าอย่างเดียวโดยไม่มีสติปัญญา ทำอย่างเดียวโดยไม่มีวิธีการที่ถูกต้องก็คงจะพบความรวยได้ยาก ขอแค่หมดหนี้ยังยาก เพราะเอาแต่ทำทำทำ ทำงานหัวซุกหัวซุน ทำงานจนไม่มีเวลา ตะบี้ตะบันทำแต่งาน ลงแรงกายแรงใจ แต่ยังขาดแรงสมอง หรือวิธีการที่จะพิชิตความรวย จึงไม่รวยสักที ถ้าคุณอยากรวยจริงๆใช้แต่แรงทำงานอย่างเดียวไม่พอ 8 ตัวช่วยนี้ทำให้คุณรวย
1. (มุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง ไม่ย่อท้อหรือท้อถอย)
เราต้องทำงานหนัก เราต้องรู้จักจัดสรรเวลาทำงานให้เต็มเวลาเต็มกำลังเต็มความสามารถ เราต้องทำงานหลายที่ทำงานหลายอย่าง เพราะส่วนใหญ่แล้วการทำงานหนักจะนำเงินมาให้เรา ในขณะที่การพูดมากแต่ไม่ทำจะนำความยากจนมาให้เรา อย่าขี้เกียจ ต่อให้รวยร้อยล้าน ถ้าขี้เกียจไม่ทำงานเอาแต่ใช้เงิน อย่าคิดว่าเงินจะไม่มีวันหมด ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย มัวแต่รอคอยความหวัง เราจะต้องตกอยู่ในวังวนวิกฤตการณ์ทางการเงินที่แย่ๆไปจนตายแน่นอน
2.(หารายได้จากหลายๆที่ ทำงานหลายๆอย่างที่ถนัด)
การหารายรับจากหลายแหล่ง ข้อนี้เป็นเคล็ดลับของมหาเศรษฐีหลายคน เพราะการพึ่งรายได้จากแหล่งเดียว ทำให้เราตกอยู่ในความเสี่ยงของภาวะที่ไม่แน่นอน เราต้องมีการลงทุนที่ฉลาดเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เช่น ถ้าเราเป็นมนุษย์เงินเดือน เราควรมีรายได้ส่วนอื่นจากการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ที่สามารถสร้างรายรับเข้ามาในแต่ละเดือนได้ด้วย การลงทุนที่ว่าอาจไม่จำเป็นต้องเอาเงินไปต่อเงิน ถ้าเราไม่มีเงิน เราควรใช้การลงทุนจากแรงกายแรงสมองที่เรามี อาชีพเสริมที่เราถนัด ความสามารถที่เรามี ที่จะสร้างรายได้สร้างเงินเพิ่มขึ้นมา
3.(ตัดรายจ่ายแฝงที่ไม่จำเป็นออกให้หมด)
ควบคุมรายจ่าย เมื่อไหร่ที่เราเริ่มจ่ายเงินซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น เราไม่ได้มีความต้องการจริง ๆ เราก็กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจต้องขายสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดแทน ดังนั้นเราต้องคิดและตั้งสติก่อนที่จะจ่ายเงินซื้ออะไรในชีวิตเสมอ ไม่ใช่เสื้อตัวนี้เราชอบซื้อทีเดียวเจ็ดตัวเจ็ดสีแต่ใส่จริงๆตัวเดียว รองเท้ารุ่นนี้เราอยากได้มีกี่สีซื้อหมด ทั้งทั้งที่ใส่จริงๆแค่ครั้งล่ะคู่
4.(ให้ความสำคัญกับการออมเป็นหลักก่อนหักรายจ่าย)
เราต้องตั้งใจออม เราต้องให้ความสำคัญในการออมเลยทันทีทุกครั้งที่ได้รับเงินมาหรือมีรายรับเข้ามา อย่ารอเก็บออมเงินที่เหลือหลังจากที่เราได้ใช้จ่ายจนพอใจ แต่เราต้องกันเงินส่วนหนึ่งของรายได้มาเพื่อเก็บสะสมก่อน แล้วจึงนำส่วนที่เหลือไปใช้จ่าย หลายคนมักจะเข้าใจผิด ใช้จ่ายแล้วเหลือจึงนำเข้าแบงก์ ที่จริงต้องนำออกมาออม ก่อนจะไปทำอย่างอื่น
5.(ห้ามกู้เงินจากทุกคน กดเงินสดล่วงหน้าจากตู้ทุกที่)
งดกู้ยืม ถ้าเราก่อหนี้ โดยการกู้ยืมเงินจากคนอื่น เราจะตกเป็นทาสของคนที่เราไปกู้ยืม ดังนั้นต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมุ่งมั่นและหนักแน่น พยายามมีชีวิตอยู่ตามอัตภาพเท่าที่เราหามาได้ อย่าไปสร้างหนี้สิน โดยไม่จำเป็น พยายามใช้ชีวิตอยู่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้ได้
6.(ทำบัญชีรายรับรายจ่ายและตรวจสอบความถูกต้องทุกวันกันลืม)
จัดระบบบัญชีของเราให้ดี เราต้องจดทุกอย่าง ทั้งรายรับและรายจ่าย จดอย่างละเอียดไม่ว่าทุกครั้งที่เงินออกจากกระเป๋าเราไปกี่บาทกี่สตางค์ก็ต้องจด และทุกครั้งที่เราได้รับเงินเข้ามาเราก็ต้องรีบหักออก10%ออมไว้ก่อนเลย การจดโดยละเอียดนั้นจะทำให้เราเห็นรายจ่ายแฝงที่ไม่จำเป็นต่างๆ ชนิดที่ว่าไม่จ่ายออกไปก็ไม่ตาย บางอย่างไม่จำเป็นต้องกิน ต้องใช้ ต้องจ่าย แต่เรายังจ่ายออกไปทำให้เงินเราหายออกไปจากชีวิตบ่อยบ่อย ที่เราไม่รวยก็เพราะรายจ่ายแฝงเล็กๆน้อยๆเหล่านี้นี่แหละ ดังนั้นการที่เราจดจะทำให้เรารู้ทุกอย่างทำให้เราสามารถจัดระบบบัญชีของชีวิตเราได้ นั่นคือเราต้องอย่าทำให้มีจุดรั่วไหลออกของเงิน หมั่นตรวจสอบรายรับรายจ่าย เราต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบมากมาก เพราะว่าค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ บ่อยๆก็ทำให้เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่และมหาศาลได้ ที่สำคัญทำให้เราหมดตัวได้ ดังนั้นอย่ามองข้ามค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ต้องให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายทุกชนิดเสมอ
7.(บริหารจัดการความเสี่ยงของชีวิต)
ความเสี่ยงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ ตัวอย่างเช่น เราไม่ควรจะทดสอบสมรรถนะของรถว่าเร็วแรงและปลอดภัยแค่ไหน ด้วยการเสี่ยงเอาตัวเองเข้าไปขับรถให้เร็วและแรง เพราะอย่าลืมว่าบนท้องถนนไม่ได้มีรถเราคันเดียว ยังมีผู้อื่นและสิ่งต่างๆที่เราไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งอาจทำให้เราต้องเสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุและอาจทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นด้วย ในการจัดการความเสี่ยง เราต้องมีแผนสำรองเสมอ ไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราต้องบริหารจัดการความเสี่ยงที่กำลังเผชิญอยู่อย่างมีสติปัญญาและชาญฉลาดที่สุด เอาเป็นว่าเลือกวิธีที่เสี่ยงแล้วปลอดภัยที่สุดถ้าจำเป็นจะต้องเสี่ยงจริงๆ เพราะการลงทุนคือความเสี่ยง ถ้ารู้ว่าเสี่ยงแล้วไม่คุ้มให้รีบถอนตัวทันทีอย่าดันทุรังเสี่ยงต่อไป เพราะชีวิตยังมีการลงทุนให้เสี่ยงอีกเยอะ
8.(บริหารจัดการการลงทุนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า)
อย่าเอาเงินทั้งหมดไปทุ่มลงทุนในสิ่งเดียว เพราะถ้าเกิดว่าอะไรอะไรไม่เป็นดั่งที่เราคิด หรือมันเจ๊งขึ้นมาเราจะหมดตัวในทันที ดังนั้นเราต้องกระจายความเสี่ยง เพราะอาชีพหนึ่งอาจจะอยู่ในช่วงขาลง แต่อีกอาชีพหนึ่งอาจจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้เรายังมีรายได้มีเงินเหลือพอที่จะทำสิ่งอื่นๆต่อไป
อย่าลงทุนซื้อของที่ไม่จำเป็นให้กับชีวิตมากมาย เพราะตอนเราตายเราก็ไม่ได้ใช้มัน สุดท้ายก่อนที่เราจะตายเราอาจต้องขายของที่จำเป็นที่สุดสำหรับชีวิตไป ดังนั้นอย่าเสียเวลาอยู่เลย ลองทำดูนะคะ ถ้าอยากมีความสุขด้วยรวยด้วยใช้ 8 ตัวช่วยนี้นะคะ แล้วเราจะรวยด้วยความสุขค่ะ
ดร.ลูกโป่ง ตีสิบ
23/06/2559
#ธนาคารแห่งความลับ