นำรถเข้าศูนย์เชฟโรเลตพระราม2 พนักงานเอารถไปทดลองขับโดยไม่แจ้งลูกค้า แล้วเกิดอุบัติเหตุ ศูนย์ไม่รับผิดชอบอะไรเลย

สอบถามมาตรฐานการให้บริการของศูนย์บริการเชฟโรเลต เนื่องจากได้นำรถเข้าซ่อมระบบแอร์ที่ศูนย์เชฟ พระราม 2 ตรงข้ามเซ็นทรัลเมื่อวันที่ 1/6/59 พอถึงวันนัดรับรถโทรสอบถาม ปรากฎว่ายังไม่เสร็จตามกำหนด เราจึงรอพนักงานโทรมาแจ้ง พนักงานโทรมาวันที่ 7/6/59 ว่ารถเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีรถมาขนท้าย และรถของเราก็ไปชนรถคันหน้า รถของเราเสียหายเยอะมาก เพราะเป็นคันกลาง เสียหายทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ใจแทบสลาย เพราะรถเราไม่เคยโดนชน และไม่เคยไปชนใคร แต่ทำไมศูนย์รถทำกับเราแบบนี้ เอารถเราไปลองโดยไม่บอกกับเราเลย พอเราถาม ก็อ้างว่ามีระบุหลังใบรับรถ แต่คุณควรจะบอกกับเราก่อนได้มั้ย เพราะนำรถเข้าศูนย์ครั้งก่อนหน้า เรื่องยกถังน้ำมัน ทางศูนย์ก็ยังให้เราไปลองขับดู ถ้ามีปัญหาก็ให้วนเข้ามาที่ศูย์ เราขอให้ทางศูนย์ชดเชยเราเพราะเราไม่มีรถใช้ ผู้จัดการศูนย์บอกว่า อยากเรียกร้องอะไร ก็ให้ไปฟ้องหรือร้องเอากับคู่กรณีเอาเอง หรือประกันของคู่กรณีเอง รถใครใครก็รัก เราหาเงินซื้อรถมาด้วยความยากลำบาก รถเราก็ต้องใช้งาน มาเกิดเหตุแบบนี้ ทำให้เราเสียรายได้ รถเราชนหนักแบบนี้ ราคาก็ตก แถมศูนย์เองก็ไม่รับผิดชอบ ไม่ช่วยเหลืออะไรเลย เพราะการซ่อมก็เรียกเอากับประกันทุกอย่าง จะชดเชยความเสียหาย หรือแม้แต่จะแสดงน้ำใจได ๆ ก็ไม่มี นี่คือบริการของ ศูนย์เชฟโรเลตพระราม 2

**หมายเหตุ แก้ไขรูปค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 230
เข้าใจและเห็นใจเจ้าของกระทู้-เจ้าของรถเป็นอย่างยิ่งครับ
เราคนใช้ เชฟ หัวอกเดียวกันครับ
ขอให้สู้เพื่อความถูกต้องให้เต็มที่ แนะนำให้ปรึกษาทนายครับ
ให้ผู้รู้กม.เค้าดูแลสิทธิและผลประโยชน์ให้เราครับ

ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เคยใช้บริการศูนย์พระราม2
ผมใช้รถเชฟ แคปติว่า LTZ เบนซิน เซอร์วิสที่นี่ตลอดตามระยะที่ระบุในคู่มือ

ปัญหาที่เจอกับศูนย์นี้

- เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ซึ่งจะต้องใช้บล็อกเฉพาะขันฝาครอบ แต่ศูนย์ฯ กลับ
ใช้คีมจับและขัน ทำให้เกลียวฝาสึกเป็นรอยครูด ผมมาทราบทีหลัง จึงเข้าไป
สอบถาม จนท.บอกว่าตอนนั้นทางศูนย์ฯ ไม่มีบล็อคขันตัวนี้ เนื่องจากทาง
เชฟ(ประเทศไทย) ยังไม่ส่งบลอคขันมาให้ จึงต้องใช้คีมจับและขันแทน
และขอให้ทางผมยอมรับเพราะไม่ทำให้รถเสียหายอะไร

- ซ่อมรอยครูดสีประตูที่นี่ ใช้เวลา 2 อาทิตย์ ผลงานออกมามีรอยหยดสีเยิ้มๆ
บริเวณร่องที่จับประตู ถ้าผมต้องการให้แก้สี ก็ต้องรอคิวรอรถเข้าทำอีกสองอาทิตย์

- เช็คระยะที่นี่ตลอดตามคู่มือ พอมาถึงที่ระยะ 90,000 กม. ขับๆ อยู่รถดับกลางอากาศ
โทรเข้าศูนย์พระราม2 จนท.บอกว่าให้นำรถเข้าศูนย์ได้เลย ผมจึงให้รถยกนำรถไปส่ง
พอรถไปถึงผจก.ศูนย์ฯ คุณบุญ..อะไรนี่แหละ บอกให้ต้องเซ็นต์เอกสารของทางศูนย์
เพื่อให้ยอมรับก่อนว่า เมื่อทางศูนย์รับรถเข้าตรวจอาการแล้ว ถ้าไม่ซ่อมที่นี่จะต้องเสียค่า
ตรวจ 2,000 บาท ถ้าผมไม่เซ็นต์เอกสารดังกล่าวก็ให้เอารถออกไปได้เลย

ผมบอกว่า ผมเอารถเช็คระยะที่นี่ตลอด เพื่อหวังว่าจะได้รับการดูแลที่ดี ยอมจ่ายให้ศูนย์
เพื่อแลกกับการได้รับบริการที่ดี ได้ใช้รถที่ดีและไว้ใจในสมรรถนะของรถได้ แต่ขับรถอยู่จู่ๆ
รถดับกลางอากาศโดยไม่ทราบสาเหตุ ทางผมต่างหากที่จะต้องต่อว่าทางศูนย์ฯ พระราม2
ว่าดูแลรถผมอย่างไร ไม่สมกับที่ผมให้ความไว้วางใจให้ศูนย์คุณดูแล พอรถมีปัญหา
และส่งให้คุณช่วยแก้ คุณกลับมาตั้งเงื่อนไขในการดูแลลูกค้าของคุณแบบนี้

ผมจ้างรถยกไปเพราะคิดว่าศูนย์ฯ นี้ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนั้น  ยังไงก็ต้อง
ยอมเซ็นต์เอกสารดังกล่าวให้กับทางศูนย์ฯ ผ่านไป 3 วัน ทางศูนย์ฯ โทรมาแจ้งว่า
ไดชาร์จเสีย ขอให้อนุมัติซ่อม ผมจึงสอบถามค่าใช้จ่าย ทางศูนย์แจ้งว่า ไม่รู้ว่าทางเชฟ (ประเทศไทย)
จะส่งรุ่นไหนมาให้ เพราะรหัสเดียวกันมี 3 ตัว ขอประเมินค่าอะไหล่ที่ 10,000 20,000 และ 50,000 บาท
ไม่รวมค่าแรง ผมจึงต่อว่าไปว่า คุณเป็นศูนย์ฯ แต่ไม่รู้ว่าอะไหล่จะเป็นตัวไหน และให้ลูกค้าอนุมัติ
งบให้คุณซ่อมแบบนี้ เป็นไปได้อย่างไร จึงแจ้งให้ตรวจสอบให้ชัดเจน และออกใบรายการซ่อม
เพื่อขออนุมัติซ่อม ทางศูนย์จึงทำรายการซ่อมส่งมาให้

ผมเลือกซ่อมเฉพาะไดชาร์จ เพื่อให้รถวิ่งออกมาจากศูนย์นี้ได้ รวมค่าแรง ที่ประมาณ 12,000 บาท
ผมถามทางศูนย์ว่ารถจะเสร็จเมื่อไร เพราะแค่ตรวจอาการเสีย ยังต้องใช้เวลาถึง 3 วัน ทางศูนย์แจ้งว่า
ต้องรอคิวซ่อม รออะไหล่จากทางเชฟ ถ้ามีอะไหล่ก็ 10 วัน ถ้าไม่มีก็รออะไหล่ 45 วัน ผมถามว่าเปลียน
ไดชาร์จ ทำไมต้องรอนานขนาดนั้น ทางศูนย์แจ้งว่า รถคุณไม่อยู่ในประกันของเชฟ (ประเทศไทย) แล้ว
(ซึ่งรถผมยังวิ่งไม่เกินแสนโล แต่เกิน 3 ปีแล้ว) ทางศูนย์ช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าอยากได้รถเร็ว ก็ไปติดต่อ
ทางเชฟ(ประเทศไทย) ตามอะไหล่มาให้ศูนย์ฯ เอง

ผมต้องโทรหาเชฟ (ประเทศไทย) แบบที่คุณจขท. โทรนี่แหละ เพื่อตามอะไหล่มาให้ศูนย์ และ
เมื่อเชฟ(ประเทศไทย) แจ้งกำหนดส่งอะไหล่ ทางศูนย์แจ้งว่าต้องใช้เวลาซ่อมอีก 7 วัน หลังจาก
ได้รับอะไหล่ เพราะต้องรอคิว ผมบอกว่าเป็นไปได้อย่างไร เปลี่ยนไดชาร์จทำจริงๆ ไม่น่าจะต้อง
ใช้นาน และรถผมทิ้งมาเป็นอาทิตย์แล้วยังต้องรอคิวใครอีก ผมจึงแจ้งทางเชฟ (ประเทศไทย)
ให้ช่วยประสานกับทางศูนย์ และผมได้รับรถในวันถัดมา หลังจากศูนย์ได้รับอะไหล่จากทางเชฟ

วันรับรถ รถผมสตาร์ทไม่ติด จนท.แจ้งว่า ไดชาร์จเสียอาจทำให้แบตเสียด้วยแต่เมื่อเช้าก็มีการชาร์จแบตให้
ช่วงทดสอบรถก็ไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็นำรถอีกคันมาพ่วงแบตเพื่อสตาร์ทรถ ผมขับรถออกมาพร้อมกับ
นึกสาบส่ง ศูนย์พระราม 2 และเชฟ(ประเทศไทย)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
โจทย์คุณไม่ใช่คู่กรณีครับ คุณเอารถให้ศูย์ก็อยู่ในความดูแลของศูนย์ ไม่ใช่ไปฟ้องกับคู่กรณี โจทย์ของคู่กรณีคือศูนย์ ศูนย์จะไปเรียกร้องอะไรก็เรื่องของศูนย์ แต่ไม่ใช่เรื่องของคุณ ศูนย์ผลักภาระให้แบบนี้ทุเรศมาก

อีกอย่างที่น่าห่วงคือรุ่นนี้ขายไม่ค่อยได้ อะไหล่ไม่น่าจะสต็อคไว้ อาจนานพอสมควรแถมต้องนำเข้าด้วย
ความคิดเห็นที่ 104
ได้ร้องเรียนไปที่สำนักงานใหญ่ เชฟโรเลตไทยแลนด์แล้วนะคะ เข้าไป post ที่ facebook chevrolet thailand มีพนักงานให้เรา inbox เข้าไปแจ้งข้อมูลทะเบียนรถ เลขตัวถัง ชื่อจดทะเบียน เบอร์โทรเรา พอเราแจ้งข้อมูลไปก็มีพนักงานโทรเข้ามาสอบถามถึงเหตุการณ์ ว่าเจรจาอะไรกับผู้จัดการไปบ้าง เราเล่าถึงเหตุการณ์ว่าแม้แต่คำขอโทษยังไม่มีเลยเพราะเค้าถือว่าเหตุการณ์นี้ คนของเค้าไม่ได้ผิด พนักงานที่โทรเข้ามาแจ้งว่าซ่อมแอร์แต่ทำไมใช้เวลา ถึง 6 - 7 วัน และยังบอกอีกว่าถึงอย่างไรแล้ว รถเราใช้มาแค่ 2 ปีกว่า ยังอยู่ในประกันศูนย์ ศูนย์ต้องหารถใช้ระหว่างซ่อมให้ หรือชดเชยให้ลูกค้า เช่นวันละ 500 บาทเป็นต้น เพราะเราบอกพนักงานไปว่า รถเราซื้อมาใช้ทำงาน ไม่มีรถคันนี้ เราก็ทำงานไม่ได้ จะให้เราเช่ารถมาใช้ มันก็ไม่คุ้ม พนักงานเชฟไทยแลนด์ และพนักงานก็ถามเพิ่มเติมว่าเราต้องการให้ศูนย์รับผิดชอบอะไร เราบอกว่า รถเราชนหนัก โดนทั้งข้างหน้า ข้างหลัง เรากังวลเรื่องเกียร์ เรื่องเพลาในอนาคต เราไม่มีความรู้เรื่องรถ เราเลยถามคนทีเก่งเรื่องรถ เค้าบอกอาจมีปัญหาในอนาคตได้ เราเลยถามผู้จัดการศูยน์ไป ว่ารถเราอยู่ในประกันศูนย์ ไม่เกิน 3 ปี ขับมาได้ไม่เกิน 50,000 km. ให้เค้าดูแลเรื่องเกียร์กับเพลาให้เราต่อสักช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าเปลี่ยนได้ก็ขอให้เปลี่ยน ข้อนี้เค้าบอกไม่ได้
ข้อต่อมาคือ เราขอรถใช้ระหว่างซ่อม เพราะเราต้องทำมาหากิน แต่รถมาเป็นแบบนี้จะทำงานอย่างไร เค้าบอกให้ไม่ได้ เพราะพนักงานเค้าไม่ผิด จะเอาเหตุผลอะไรมาเอารถให้ใช้
และเราบอกรถเราซื้อมาไม่ได้คิดว่าจะใช้จนหมดอายุรถ เราคิดว่าถ้าเราผ่อนหมด 5 ปี เราก็จะขาย แต่ศูนย์เอารถเราไปเกิดอุบัติเหตุ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้รู้เรื่องว่าต้องทดลองขับเลย คือถ้าเรามาทดลองขับเองพนักงานนั่งไปด้วยยังพอว่า แต่นี่ขับออกไปถนนโดยไม่บอกเรา เราเองดูแลรถเราดีมาก เผื่อว่าถ้าขายจะได้ราคา แต่นี่มาเอาของเราไปขับยังไงไม่รู้ ชนมาซะเละ รถเราก็ราคาตกสิ รถมันยับทั้งข้างหน้าข้างหลัง เราก็ถามเค้า ให้เค้ารับผิดชอบเรื่องนี้ จะชดเชยหรือจะให้เราเป็นอะไร กับโอกาสที่เราเสียไป แต่ศูนย์ไม่ให้อะไรตามที่เราเสนอเลย เราก็บอกกับพนักงานที่โทรมาแบบนี้แหล่ะ เค้าบอกจะรับเรื่องไปประสานงานให้ เค้าบอกว่าไม่ต้องกังวล (แต่ก็ยังกังวล) บอกตรง ๆ ไม่อยากจะฟ้องให้เป็นคดีเลยนะ เราคนทำงาน หาเช้ากินค่ำ เราก็กลัวว่าจะแพ้คดี กลัวค่าทนาย ค่าธรรมเนียมแพง เราเองก็เสียเวลา แต่ลองวิธีนี้ก่อน ถ้าทางศูนย์ใหญ่เค้าช่วยเราได้จริง เราก็จะได้ไม่ต้องคิดเรื่องฟ้อง เหมือนที่หลายๆคน มาให้คำแนะนำ แต่ถ้าเราแพ้ทุกทาง คงต้องคิดเรื่องนี้บ้าง อยู่ดีๆแท้ๆ แค่เอารถไปซ่อมแอร์ เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยยังพอว่า นี่ชนหนักเลย ศูนย์ก็หัวหมอสุด ๆ ไม่รับผิดชอบทุกกรณี เพราะเค้าไม่ได้ชนเค้าไม่ผิด
ขอบคุณทุก ๆ comment ทำให้เรารู้ว่าทุก ๆ ความเห็นคือความสนใจของสังคม และไม่ได้มีแค่เราที่รู้สึกว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร หากได้เรื่องยังไงจะมา Update ต่อนะคะ

ความคิดเห็นที่ 9
ง่ายครับ เรื่องนี้เป็นคดีทำให้เสียทรัพย์อยู่แล้ว
หาทนายแจ้งความฟ้องร้องเลยครับ
แล้วไปเจรจาที่ศาล
ตกลงให้ได้ก่อนทำไรทั้งนั้นครับ
เพราะบางที่พอจวนตัวก็รับปากไปก่อนซ่อมไม่จบแล้วลากยาวยึกยัก
คุยมากเสียอารมครับ เอาทนายไปคุยให้จบดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 3
ซ่อมแอร์ทำไมต้องเอารถออกไปวิ่งครับ? แนะนำให้แจ้งประกันและแจ้งความนะครับ และร้องเรียนไปสำนักงานใหญ่ด้วยครับ
ความคิดเห็นที่ 17
เราไปที่ศูนย์ 2 ครั้ง เจรจาให้เค้าให้เราใช้ระหว่างซ่อม เพราะเราต้องใช้รถทำงาน ผู้จัดการศูนย์ก็ยังยืนยันว่าพนักงานเค้าไม่ผิด จะมาเอาความผิดจากเขาไม่ได้ ถ้าต้องใช้รถ ให้ไปร้องเอากับประกันคู่กรณีเอง แต่เราเอารถไปไว้ที่ศูนย์ ให้เค๊าซ่อมแอร์เพราะมันไม่เย็น พอเกิดเหตุแบบนี้เค้าไม่ช่วยอะไรเลย แถมเค้ายังได้ค่าซ่อมจากประกันคู่กรณีอีก มีแต่เราที่ต้องมานั่งเสียใจ เสียเวลาไม่มีรถใช้ ถ้าเราจะขายรถคันนี้ ราคารถก็ตกอีกเพราะเคยโดนชนหนักมา เราพูดกับผู้จัดการศูนย์แบบนี้ ว่าเราต้องได้รับผลกระทบอะไรบ้างจากเหตุการณ์นี้ ขอความเห็นใจจากเขา แต่ไม่มีความช่วยเหลือ หรือมีน้ำใจอะไรกับเราเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่