ดิฉันทำประกัน 3+ กับเมืองไทยประกันภัยค่ะ ทุน 200,000 เบี้ยประกัน 8200 บาท/ปี ซึ่งเงื่อนไขความรับผิดชอบความเสียหายต่อทรัพย์สิน(รถยนต์คันทำประกันภัย)ที่ตัวแทนแจ้งให้ทราบคือ
1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุ รถผู้เอาประกันชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
2. ในกรณีผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ต้องรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท/ครั้ง
ปรากฎว่าเอาเข้าจริง รถดิฉันเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 4/11/15 เวลาประมาณ 17.20 น.ที่ผ่านมา ดิฉันไปรับลูกกลับจากโรงเรียน กำลังจะกลับบ้าน ซึ่งจะต้องผ่านสามแยกที่ไม่มีไฟแดง โดยแยกซ้ายมือนั้นมุ่งหน้าเข้าไปยังห้างบิ๊กซี ดิฉันขับมาทางตรงด้วยความเร็วไม่มากนัก พอใกล้ถึงแยก สังเกตุเห็นรถเก๋งวีออสสีบอร์นเงินจอดรอข้ามแยกอยู่แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกมา เนื่องจากรถทางตรงยังมีเป็นระยะๆ ดิฉันจึงขับตรงไปเรื่อยๆ แต่ปรากฎว่าทันใดนั้นมีรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลตสีดำขับแซงเก๋งวีออสมาแถวสองแล้วแตะเบรคนิดนึง แล้วจู่ๆ ก็พุ่งพรวดออกมา ดิฉันทั้งเบรคทั้งบีบแตรแต่ด้วยระยะกระชั้นชิดมากจึงชนคู่กรณีที่บริเวณซุ้มล้อหน้า ดิฉันจอดรถทันทีหวังว่าจะได้เคลียกับคู่กรณี อีกทั้งลูกสาวที่อยู่ในรถก็ได้รับบาดเจ็บ และร้องให้ด้วยความตกใจ ตัวเองก็ตกใจจนไม่สามารถขับรถต่อไปได้ แต่พอดิฉันกำลังจะลงจากรถ ก็เห็นว่าคู่กรณีได้เร่งเครื่องและหนีไป นาทีนั้นร้องให้เลยค่ะ ทั้งตกใจ เสียใจที่เขาหนี ทำอะไรไม่ถูก ยืนอยู่กลางแยกอย่างนั้น จนได้ยินเสียงลูกสาวร้องเรียกจึงได้รีบวิ่งไปหาแก
จากนั้นก็มีผู้เห็นเหตุการณ์เข้ามาถามไถ่ รวมทั้งมีพี่ใจดีคนนึงเอารูปถ่ายรพคู่กรณีมาให้ แต่ถ่ายด้วยความรีบร้อนจึงมองทะเบียนไม่ชัด(ภาพเบลอๆ) ดิฉันแจ้งตำรวจ แจ้งประกันและมีตัวแทนประกันเข้ามาดูที่เกิดเหตุพร้อมๆกับตำรวจ ทุกคนปลอบใจดิฉันว่า ไม่เป็นไร เด๋วก็ยกไปซ่อม
สักพัก ตัวแทนเดินมาบอกใหม่ ว่าของดิฉันเป็นประกัน 3+ ถ้าจับคู่กรณีไม่ได้ ก็จะเคลมไม่ได้ หรือถ้าจับไม่ได้ก็จะต้องจำทะเบียนรถให้ได้ .....ร้องให้อีกครั้งค่ะ ...ดิฉันเป็นคนสายตาสั้นขณะที่รถชนแว่นตากระเด็นหาย มองอะไรก็ไม่ค่อยจะเห็นแล้ว รวมทั้งมีลูกเล็กๆ อยู่ในรถ เป็นไปไม่ได้ที่จะทิ้งรถไล่ตามคู่กรณี หรือมองให้เห็นทะเบียนรถ แต่นี่..คือสาเหตุที่เมืองไทยปฎิเสธการเคลมรถของดิฉันค่ะ
แสดงว่าเงื่อนไขที่แจ้งไว้ 2 ข้อในกรมธรรม์ใช้ไม่ได้เหรอคะ ทำไมไม่แจ้งด้วยว่า "ชนกับพาหนะทางบกก็ยังไม่พอ แต่ผู้เสียหายต้องจับคู่กรณีไว้หรือกระ
กระสนขึ้นมาถ่ายรูปทะเบียนรถคู่กรณีไว้ให้ได้ ไม่ว่าตอนนั้นคุณจะเจ็บมากเจ็บน้อย หรือเกือบตายอยู่ก็ตาม" เพราะมิฉะนั้นประกันจะหลับหูหลับตามองว่าเป็นกรณีที่ไม่มีคู่กรณีทันที เท่ากับว่าเราจะไม่สามารถเคลมประกันได้แม้แต่สตางค์แดงเดียว
วันรุ่งขึ้น ดิฉันเดินไปที่เกิดเหตุ หาว่าร้านไหนพอมีกล้องวงจรปิดที่จะเห็นรูปรถคู่กรณี ก็ได้ภาพมาค่ะ นำไปให้ตำรวจเปิด (ขอโทษค่ะ ดิฉันต้องทำเองทั้งหมด เพราะเดือดร้อนจริงๆ ไม่มีตังค์จะซ่อมรถให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้) แต่ภาพก็เห็นด้านข้างรถที่มีรอยชนตรงตามที่ดิฉันแจ้งแต่มองไม่เห็นทะเบียน แจ้งทางประกันไปก็ได้รับคำตอบว่าเคลมไม่ได้อีก ร้องให้มันอีกครั้ง และอีกหลายๆครั้ง เสียดายตังค์ที่ทำประกันกับที่นี่มากค่ะ เสียดายความรู้สึกกับบ.ประกันของคนไทยเพื่อคนไทย ที่ประกอบธุรกิจอย่างไร้จริยธรรม สงสารลูกที่ต้องมาประสพอุบัติเหตุทั้งตกใจทั้งบาดเจ็บ สงสารรถที่ตั้งแต่ซื้อมาก็ไม่เคยขับชนอะไรเลยแต่ตอนนี้ยับเยินจนดูไม่ได้ ที่สำคัญงานที่เพิ่งได้รับมาวันนี้ จบแล้วค่ะ...ไม่มีรถไปทำงาน อย่าว่าแต่เงินซ่อมรถเลย ต่อไปจะเอาอะไรกิน จะเอาอะไรเลี้ยงลูก
ขอโทษนะคะ ถ้ากระทู้นี้ไม่มีสาระอะไร แต่ถ้ามีใครพอจะแนะนำดิฉันได้บ้าง ก็จะขอขอบพระคุณอย่างสูงเลยค่ะ หมดที่พึ่งแล้วจริงๆ
ทำประกัน 3+ กับเมืองไทยประกันภัย แต่คู่กรณีหนีเคลมไม่ได้จริงเหรอ
1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุ รถผู้เอาประกันชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
2. ในกรณีผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ต้องรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท/ครั้ง
ปรากฎว่าเอาเข้าจริง รถดิฉันเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 4/11/15 เวลาประมาณ 17.20 น.ที่ผ่านมา ดิฉันไปรับลูกกลับจากโรงเรียน กำลังจะกลับบ้าน ซึ่งจะต้องผ่านสามแยกที่ไม่มีไฟแดง โดยแยกซ้ายมือนั้นมุ่งหน้าเข้าไปยังห้างบิ๊กซี ดิฉันขับมาทางตรงด้วยความเร็วไม่มากนัก พอใกล้ถึงแยก สังเกตุเห็นรถเก๋งวีออสสีบอร์นเงินจอดรอข้ามแยกอยู่แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกมา เนื่องจากรถทางตรงยังมีเป็นระยะๆ ดิฉันจึงขับตรงไปเรื่อยๆ แต่ปรากฎว่าทันใดนั้นมีรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลตสีดำขับแซงเก๋งวีออสมาแถวสองแล้วแตะเบรคนิดนึง แล้วจู่ๆ ก็พุ่งพรวดออกมา ดิฉันทั้งเบรคทั้งบีบแตรแต่ด้วยระยะกระชั้นชิดมากจึงชนคู่กรณีที่บริเวณซุ้มล้อหน้า ดิฉันจอดรถทันทีหวังว่าจะได้เคลียกับคู่กรณี อีกทั้งลูกสาวที่อยู่ในรถก็ได้รับบาดเจ็บ และร้องให้ด้วยความตกใจ ตัวเองก็ตกใจจนไม่สามารถขับรถต่อไปได้ แต่พอดิฉันกำลังจะลงจากรถ ก็เห็นว่าคู่กรณีได้เร่งเครื่องและหนีไป นาทีนั้นร้องให้เลยค่ะ ทั้งตกใจ เสียใจที่เขาหนี ทำอะไรไม่ถูก ยืนอยู่กลางแยกอย่างนั้น จนได้ยินเสียงลูกสาวร้องเรียกจึงได้รีบวิ่งไปหาแก
จากนั้นก็มีผู้เห็นเหตุการณ์เข้ามาถามไถ่ รวมทั้งมีพี่ใจดีคนนึงเอารูปถ่ายรพคู่กรณีมาให้ แต่ถ่ายด้วยความรีบร้อนจึงมองทะเบียนไม่ชัด(ภาพเบลอๆ) ดิฉันแจ้งตำรวจ แจ้งประกันและมีตัวแทนประกันเข้ามาดูที่เกิดเหตุพร้อมๆกับตำรวจ ทุกคนปลอบใจดิฉันว่า ไม่เป็นไร เด๋วก็ยกไปซ่อม
สักพัก ตัวแทนเดินมาบอกใหม่ ว่าของดิฉันเป็นประกัน 3+ ถ้าจับคู่กรณีไม่ได้ ก็จะเคลมไม่ได้ หรือถ้าจับไม่ได้ก็จะต้องจำทะเบียนรถให้ได้ .....ร้องให้อีกครั้งค่ะ ...ดิฉันเป็นคนสายตาสั้นขณะที่รถชนแว่นตากระเด็นหาย มองอะไรก็ไม่ค่อยจะเห็นแล้ว รวมทั้งมีลูกเล็กๆ อยู่ในรถ เป็นไปไม่ได้ที่จะทิ้งรถไล่ตามคู่กรณี หรือมองให้เห็นทะเบียนรถ แต่นี่..คือสาเหตุที่เมืองไทยปฎิเสธการเคลมรถของดิฉันค่ะ
แสดงว่าเงื่อนไขที่แจ้งไว้ 2 ข้อในกรมธรรม์ใช้ไม่ได้เหรอคะ ทำไมไม่แจ้งด้วยว่า "ชนกับพาหนะทางบกก็ยังไม่พอ แต่ผู้เสียหายต้องจับคู่กรณีไว้หรือกระกระสนขึ้นมาถ่ายรูปทะเบียนรถคู่กรณีไว้ให้ได้ ไม่ว่าตอนนั้นคุณจะเจ็บมากเจ็บน้อย หรือเกือบตายอยู่ก็ตาม" เพราะมิฉะนั้นประกันจะหลับหูหลับตามองว่าเป็นกรณีที่ไม่มีคู่กรณีทันที เท่ากับว่าเราจะไม่สามารถเคลมประกันได้แม้แต่สตางค์แดงเดียว
วันรุ่งขึ้น ดิฉันเดินไปที่เกิดเหตุ หาว่าร้านไหนพอมีกล้องวงจรปิดที่จะเห็นรูปรถคู่กรณี ก็ได้ภาพมาค่ะ นำไปให้ตำรวจเปิด (ขอโทษค่ะ ดิฉันต้องทำเองทั้งหมด เพราะเดือดร้อนจริงๆ ไม่มีตังค์จะซ่อมรถให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้) แต่ภาพก็เห็นด้านข้างรถที่มีรอยชนตรงตามที่ดิฉันแจ้งแต่มองไม่เห็นทะเบียน แจ้งทางประกันไปก็ได้รับคำตอบว่าเคลมไม่ได้อีก ร้องให้มันอีกครั้ง และอีกหลายๆครั้ง เสียดายตังค์ที่ทำประกันกับที่นี่มากค่ะ เสียดายความรู้สึกกับบ.ประกันของคนไทยเพื่อคนไทย ที่ประกอบธุรกิจอย่างไร้จริยธรรม สงสารลูกที่ต้องมาประสพอุบัติเหตุทั้งตกใจทั้งบาดเจ็บ สงสารรถที่ตั้งแต่ซื้อมาก็ไม่เคยขับชนอะไรเลยแต่ตอนนี้ยับเยินจนดูไม่ได้ ที่สำคัญงานที่เพิ่งได้รับมาวันนี้ จบแล้วค่ะ...ไม่มีรถไปทำงาน อย่าว่าแต่เงินซ่อมรถเลย ต่อไปจะเอาอะไรกิน จะเอาอะไรเลี้ยงลูก
ขอโทษนะคะ ถ้ากระทู้นี้ไม่มีสาระอะไร แต่ถ้ามีใครพอจะแนะนำดิฉันได้บ้าง ก็จะขอขอบพระคุณอย่างสูงเลยค่ะ หมดที่พึ่งแล้วจริงๆ