อายุน้อย ยังมีโอกาสแก้ตัวได้ มันจะจริงเสมอไปหรอ

อายุน้อย ยังมีโอกาสแก้ตัวได้ มันจะจริงเสมอไปหรอ

ทุกคนที่เกิดมา หากผ่านชีวิตมาประมาณนึง ก็จะพบว่า การใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ มันจะต้องอาศัยความอดทนอย่างมากๆ ซึ่งความทุกข์หลักๆเลย ของมนุษย์ส่วนใหญ่ นั่นก็คือ การจะต้องหาน้ำและอาหาร มาหล่อเลี้ยงชีวิต เพียงแต่ว่า คนเรานั้นเกิดมา ไม่ได้เท่ากัน บางคนเกิดมามีกินมีใช้ ก็สบายหน่อย ไม่ต้องทุกข์ร้อนเรื่องพวกนี้มากนัก ขณะที่ คนที่ไม่มี อย่าไปพูดถึงการมีชีวิตสุขสบายเลย แค่ใช้ชีวิตให้รอดแต่ละวันก็ยากเหลือเกิน

แล้วนับตั้งแต่ที่ลืมตาดูโลกมา ตอนเรียนหนังสือ ก็ต้องพยายามสอบให้ได้คณะสูงๆ หรือ ไม่ก็อย่าทำคะแนนต่ำเกินไป จนไม่สามารถเรียนต่อไปได้ ยิ่งถ้าทำคะแนนได้ดี โอกาสต่างๆก็จะเข้ามามาก เช่น ทุนการศึกษา ถ้าฐานะยากจนมากๆ แต่เรียนเก่งโคตรๆ และ มีคนเห็น ก็จะได้ตรงส่วนนี้ไป แล้วถ้าอยากจะเรียนต่อ ก็ต้องสอบชิงทุนอีก แน่นอนหล่ะว่า มันก็ไม่ได้มาง่ายๆกันทุกคนหรอก

***ซึ่งถ้าหากไม่ได้เรียนหนังสือ หรือ ทิ่งช่วงนี้ไปนาน การเข้าไปสมัครเรียนใหม่ ก็เรียกได้ว่า อาจจะแทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะพวกที่ วุฒิต่ำกว่า ม 3 เรียนจบแล้ว แต่ไม่เรียนต่อ ม 4 แต่ก็มีผู้ใหญ่ บางคน กลับไปเรียนใหม่เหมือนกัน แต่คงเรียนตาม กศน เพื่อปรับวุฒิ แล้วไป ต่อ  ป ตรี ภาคค่ำ ไม่ก็ ม เปิด ตามแต่ที่เขาจะเปิดสอน แต่ขณะก็มีให้เลือกน้อย กว่าจะเรียนจบ ก็ใช้เวลาอีกหลายปีเหมือนกัน แล้วคนที่จบ อายุเยอะๆ โอกาสต่างๆ ในการเป็นลูกจ้างก็ยิ่งน้อยลง

จากนั้น พอมาถึงชีวิตหลังเรียนจบ (คงจะหมายถึง ป ตรี ) ก็ต้องแข่งขันกันไปสมัครเป็นพนักงานตามองค์กรต่างๆ เสนอประวัติการศึกษา หรือ ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมา เพื่อจะได้ให้เขาจ้าง แน่นอนว่า การแข่งขันทุกวันนี้ก็สูงมาก ถึงจะไม่มีแล้ว การจ้างเป็นพนักงาน ตลอดชีวิต แต่ทุกคนก็ต้องพยายาม อยู่กับองค์กรให้นานที่สุด จนกว่าเขาจะไม่จ้าง เหตุผลก็เพื่อจะได้มีกินมีใช้ ขณะที่คนจำนวนนึง ก็พยายามพัฒนาความสามารถ (ในการเป็นลูกจ้าง) เพื่อให้องค์กรต่างๆ ต้องการตัว หรือ ไปสมัครที่อื่นต่อได้ง่ายขึ้น เพราะบริษัทคิดว่า สามารถทำประโยชน์ให้องค์กรได้ และ คุ้มกับ ค่าจ้าง ก็ยังสามารถ เปลี่ยนที่ได้ แต่คนส่วนใหญ่ ไม่สามารถทำแบบนี้ได้ เพราะ เรียนมาน้อย ไม่ได้จบ ม ดัง (หมายถึงว่า ม ดัง ๆมีการสอนที่ดีกว่า) จบมา การสมัครเข้าเป็นพนักงานที่ต่างๆจึงยาก แล้วถ้าหากไม่รู้จักพอใจกับชีวิต ไปอยากได้นั่นนี่ เช่น รถหรู คอนโด ใจกลางเมือง พอองค์กรมีนโยบายปรับโครงสร้าง ปลดคนออก เท่านั้นแหล่ะ เดือดร้อนเลย

***การเป็นพนักงาน ถ้าหาก ไม่สามารถ เอาประสบการณ์ ความรู้ต่างๆมาได้ พออายุมากขึ้น มันก็จะยิ่งลำบากในการ ที่จะไปสมัครที่ต่างๆต่อ หรือ ต่อให้มีประสบการณ์มาอยางดี แต่องค์กร มักจะไปจ้าง พวก คนอายุน้อยกว่า เพราะไม่ต้องจ้างสูงไง ไอความเชื่อที่ว่า เก่งซะอย่างที่ไหนก็รับ มันไม่จริงเสมอไปนะ ถ้าไม่งั้น พนักงานแก่ๆเก่งๆหายไปไหนหมด

และที่สำคัญ กว่าจะได้เงินเดือน ก็ต้องเอาแรงกาย แรงใจไปแลก ส่วนมากจะต้องกลับบ้านดึก ไ่ม่ใช่ห้าโมงเลิกนะ แล้วก็อย่าไปคิดว่าคนเงินเดือนเยอะจะสบาย ทุกคน และ ไม่มีใจากการเป็นลูกจ้างนะ

ซึ่งการเป็นพนักงานองค์กรนั้น อีกด้านหนึ่ง ก็อาจจะมาสมัครสอบราชการ แน่นอนหล่ะว่า มันก็ไม่ได้ง่ายอีก บางทีถ้าไม่ติดตามข่าว และ สอบให้ได้ อายุก็จะค่อยๆมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้าย ก็ขาดคุณสมบัติในการสอบไปอีกเช่นกัน หรือ อย่างบางกรม เช่น กรมศุล เปิดสอบ 4 ปี ครั้ง ซึ่งคนที่พลาดไม่ได้ ก็จะต้องรออีกถึง 4 ปี กว่าจะเปิดใหม่ แล้วการสอบเข้าก็ยากโคตรๆด้วย ยิ่งหลังๆ ก็ยิ่งยากเพราะยิ่งเปิดสอบน้อยลง

แล้วถึงแม้ ราชการ มีสวัสดิการเรือ่งค่ารักษา แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่ได้ชอบตรงนี้ เพราะอะไร ก็เพราะจะต้องจากบ้านไปไกลๆ หรือ ไม่ก็โชคร้าย เจอเพื่อนราชการแย่ๆ จะออกแบบเอกชนเลยก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้เมื่อไหร่จะเปิดสอบใหม่ แล้วถ้าจะทำเรือ่งย้าย ก็ต้องอยูที่เดิมถึงสองปี เสียสุขภาพจิต หลายปีเหมือนกัน เพื่อหวังว่า จะได้เงินบำนาญไว้หล่อเลี้ยงช่วงสุดท้ายของชีวิต

ส่วนคนที่ทำธุรกิจส่วนตัว ก็บอกเลยว่า ส่วนมากมักจะเป็นผู้ที่สานต่อกิจการมา เพราะการเริ่มเองหมดทุกอย่าง มันแทบเป็นไปไม่ได้แล้วในสมัยนี้ อย่าไปเชื่อไอหนังสือ how to ต่างๆเลย เพราะมันเหมือนเป็นแค่ ประกาศ ที่คอยประชาสัมพันธ์ธุรกิจเขาเท่านั้น เพราะถ้าไม่งั้นแล้ว ป่านนี้ โลกนี้คงจะไม่มีพนักงานแล้วสิ มีแต่เจ้าของกิจการกันหมด แล้วเขาก็ไม่ได้สบายซะทั้งหมด เจ้าของจะต้องคิดเยอะ มีเรือ่งปวดหัวมากกว่าพนักงาน

***ประเด็นการทำธุรกิจ บางคนอาจจะบอกเจ๊งแล้วกลับมาใหม่ได้ อยู่ที่ความคิด ฟังดูอาจจะเป็นโลกสวยไปหน่อย ลองไปดูสิว่า มันจะทำได้กันกี่คนเชียว เพราะธุรกิจ ใช้เงินทุนหลายสิบล้านนะ แล้วถ้าหมดตัว เป็นหนี้ จะไปหาเงินจากไหน หรือ จะบอกหรอว่า ขยันเก็บขวดขายใช้หนี้

แล้วก็อย่าลืมนะว่า ตอนประสบความสำเร็จ ใครๆก็อยากจะเป็นเพื่อนด้วย แต่คราวใดหมดตัว ไอพวกนั้นแหล่ะ ที่จะสมน้ำหน้า ยังไงดุคน ดูตอนยามยากจะมีดีกว่า

ทีนี้ก็จะมี ปัญหานึงที่หลายๆคนเจอ นั่นก็คือ ปัญหาครอบครัว บ้างก็เจอพ่อแม่ทะเลาะกันแต่เด็ก หรือ ไม่ก็พ่อแม่แยกทาง แน่นอนว่า ย่อมจะรู้สึกแย่ และ ไม่มีหวังกับชีวิต แล้วก็อาจจะยากหน่อย ที่จะประคองตัวเองให้อยู่ต่อ และ พ้นจากสภาพพวกนี้ ซึ่งก็อาจจะมีบางคน โชคดีหน่อย ที่อาจจะมีญาติพี่น้อง ที่คอยปรึกษา ให้กำลังใจ จึงอาจจะยังรู้สึกดีกับตัวเองอยู่ แต่ไอคนที่ไม่มีใครเลยหล่ะ ก็ต้องพึ่งดูแลจิตใจตัวเองไง แน่นอน มันไม่ง่ายหรอก ขนาดพวกที่ มีคนคอยรับฟัง ปรึกษา พอเจอปัญหาหนักๆก็เสียสติก็มี

***
***
***
แล้วไอทีว่ามาหมดนี่ ไม่ใช่อะไร ก็ขอให้ยอมรับความจริง และ อดทนใช้ชีวิตอย่างมีสติมากๆ

น่าคิด 23-06-59
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่