คาดปี60 สนามบินอู่ตะเภาแล้วเสร็จ-รองรับผู้โดยสาร3ล้านคน/ปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่จ.ระยอง ว่า รัฐบาลนี้มีแนวคิดพัฒนาโครงเศรษฐกิจสร้างใหม่ของประเทศและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ จึงได้เข้ามาดูท่าอากาศยานอู่ตะเภาที่มีอยู่แล้วให้เกิดมูลค่าเพิ่มให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ ที่จะต้องวางแผนงบประมาณ
ทั้งนี้จะต้องพัฒนาด้านเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศเดินหน้าและสร้างความเชื่อมั่นไปพร้อมๆกัน และต้องให้ประชาชนทุกฝ่ายพอใจ โดยคาดว่าภายในเดือน ส.ค.2560 อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาจะแล้วเสร็จ และรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 3 ล้านคน พร้อมสร้างความเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ อีกทั้งให้องค์กรต่างๆรวมถึงองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ไอซีเอโอ) มาตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยและความเชื่อมั่น
นอกเหนือจากนี้ยังต้องเตรียมความพร้อมเชื่อมโยงสนามบินทั้ง 3 แห่งของไทย เพื่อลดความหนาแน่นของผู้โดยสารแต่ละสนามบิน ผ่านการเชื่อมต่อแอร์พอร์ตเรียลลิงค์และรถไฟความเร็วสูง อีกทั้งจะความเชื่อมโยงทางเรือในการสัญจรและท่องเที่ยวที่บริเวณท่าเรือจุกเสม็ด โดยรัฐบาลมีนโยบายให้ไปพิจาณาจัดทำแผนใช้เรือเฟอร์รี่ เพื่อลดการใช้รถยนต์ รวมถึงจะต้องสร้างศูนย์ซ่อมอากาศให้รองรับเครื่องบินของสายการบินนานาชาติได้ด้วย ซึ่งได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ
http://www.lokwannee.com/web2013/?p=224697
คาดปี 2560 สนามบินอู่ตะเภา แล้วเสร็จ-รองรับผู้โดยสาร3ล้านคน/ปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่จ.ระยอง ว่า รัฐบาลนี้มีแนวคิดพัฒนาโครงเศรษฐกิจสร้างใหม่ของประเทศและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ จึงได้เข้ามาดูท่าอากาศยานอู่ตะเภาที่มีอยู่แล้วให้เกิดมูลค่าเพิ่มให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ ที่จะต้องวางแผนงบประมาณ
ทั้งนี้จะต้องพัฒนาด้านเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศเดินหน้าและสร้างความเชื่อมั่นไปพร้อมๆกัน และต้องให้ประชาชนทุกฝ่ายพอใจ โดยคาดว่าภายในเดือน ส.ค.2560 อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาจะแล้วเสร็จ และรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 3 ล้านคน พร้อมสร้างความเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ อีกทั้งให้องค์กรต่างๆรวมถึงองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ไอซีเอโอ) มาตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยและความเชื่อมั่น
นอกเหนือจากนี้ยังต้องเตรียมความพร้อมเชื่อมโยงสนามบินทั้ง 3 แห่งของไทย เพื่อลดความหนาแน่นของผู้โดยสารแต่ละสนามบิน ผ่านการเชื่อมต่อแอร์พอร์ตเรียลลิงค์และรถไฟความเร็วสูง อีกทั้งจะความเชื่อมโยงทางเรือในการสัญจรและท่องเที่ยวที่บริเวณท่าเรือจุกเสม็ด โดยรัฐบาลมีนโยบายให้ไปพิจาณาจัดทำแผนใช้เรือเฟอร์รี่ เพื่อลดการใช้รถยนต์ รวมถึงจะต้องสร้างศูนย์ซ่อมอากาศให้รองรับเครื่องบินของสายการบินนานาชาติได้ด้วย ซึ่งได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ
http://www.lokwannee.com/web2013/?p=224697