100 โรงแป้งมันจ่อหยุดผลิตยาวถึงปลายปี หลังขาดแคลนวัตถุดิบหนัก จากแล้งจัดทำผลิตวูบและบางส่วนเสียหาย รายใหญ่ “บางนาแป้งมัน” คาดปีนี้ผลผลิต และยอดขายวูบ 10% ขณะโรงงานมันเส้นโดนด้วย“เอสทีซี ทาปิโอก้า กรุ๊ป” คาดปีนี้ส่งออกลดลงกว่าครึ่ง จากหัวมันขาดจีนลดนำเข้า ฟันธงภาพรวมส่งออกมันเส้นไทยปีนี้ลดเหลือระดับ 5 ล้านตัน จาก 7.2 ล้านตัน ปี 58 ขณะผลผลิตมันปี 59/60 ยังต้องลุ้น
นายปรีชา เต็มพร้อม นายกสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางนาแป้งมัน จำกัด (บจก.)เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการแป้งมันสำปะหลังที่เป็นสมาชิกของสมาคมประมาณ 100 ราย กำลังได้รับผลกระทบอย่างมากจากวัตถุดิบมันสำปะหลังป้อนโรงงานขาดแคลน อันเนื่องมาจากวิกฤติภัยแล้งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลผลิตหัวมันสดของเกษตรกรได้รับความเสียหาย รวมถึงต้องปลูกซ่อมแซม ขณะที่หัวมันสดที่ขุดขึ้นมาแล้วก็มีคุณภาพเชื้อแป้งที่ลดลง เช่นจากที่เคยมีเชื้อแป้ง 25-30% ก็ลดลงเหลือ 15-20% เป็นต้น
“ภัยแล้งในปีนี้รุนแรงมาก หัวมันสำปะหลังทั่วประเทศตอนนี้ก็ใกล้หมด จะมีผลผลิตใหม่อีกทีในช่วงเดือนตุลาคม แต่ปีนี้คาดผลผลิตจะออกช้าเพราะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้การปลูกและการเก็บเกี่ยวของเกษตรกรต้องล่าช้าออกไป คาดปีนี้จะมีของออกมาอีกทีช่วงเดือนธันวาคม 2559 – มกราคม 2560 ดังนั้นสิ้นเดือนนี้โรงงานแป้งมันส่วนใหญ่คงปิดกันเป็นแถวเพราะไม่มีวัตถุดิบใช้ในการผลิต และจากปกติจะไปเปิดการผลิตกันอีกทีช่วงเดือนตุลาคม แต่ปีนี้คงเปิดผลิตล่าช้าออกไปตามวัตถุดิบ ภาพรวมอุตสาหกรรมแป้งมันปีนี้ไม่ค่อยดี”
สำหรับการผลิตแป้งมันของบริษัทบางนาแป้งมันซึ่งมี 3 โรงงานผลิต ในแต่ละปีที่ผ่านมาจะผลิตสินค้าได้ 6-7 เดือนต่อปี และเฉลี่ยสามารถผลิตสินค้าได้ราว 8 หมื่นตันต่อปี ในจำนวนนี้ส่งออกต่างประเทศสัดส่วน 80% (ส่งออกไปตลาดจีนสัดส่วน 35% อินโดนีเซีย 35% และอีก 30% จำหน่ายในประเทศ) ซึ่งจากผลกระทบจากภัยแล้งวัตถุดิบขาดแคลนคาดยอดขายของบริษัทในปีนี้ทั้งในแง่ปริมาณ และมูลค่าจะลดลงในเบื้องต้น 10%
เช่นเดียวกับนายเจน วงศ์บุญสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ(อาวุโส) บจก.เอสทีซี ทาปิโอก้า กรุ๊ป หนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรายใหญ่ ที่กล่าวว่า ในภาพรวมการส่งออกมันเส้นซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังกลุ่มหลักของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีผลผลิตและส่งออกลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 1.5 ล้านตัน อันเนื่องมาจาก 1.ผลผลิตหัวมันสดของไทยได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตลดลง 15% และ 2.ราคาข้าวโพดในจีน(ซึ่งรัฐบาลจีนให้ใช้ผลิตแอลกอฮอล์แทนมันเส้น) ลดลงจาก 2,300 หยวนต่อตัน เหลือราว 2,000 หยวนต่อตัน กระทบต่อราคามันเส้นลดลงไปด้วย
“ทั่วโลกกำลังจับตามองสหรัฐฯที่กำลังปลูกข้าวโพดในคร็อปใหม่ว่าในอีก 6-7 สัปดาห์นับจากนี้จะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งหรือไม่ ถ้าเขาแล้งและผลผลิตเขาเสียหายราคาธัญพืชก็จะสูงขึ้น ขณะที่เวลานี้ราคามันเส้นส่งออก(FOB)อยู่ที่ 185-190 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน(ราคา ณ 14 มิ.ย.59) ลดลงจากปี 2558 ที่ราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 205-235 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน”
ทั้งนี้จากวัตถุดิบหัวมันสดของไทยที่ลดลงจากผลกระทบภัยแล้ง และจีนผู้นำเข้ามันเส้นรายใหญ่ของไทยลดการนำเข้า คาดในปีนี้การส่งออกมันเส้นของไทยอาจลดลงเหลือระดับ 5 ล้านตัน จากปี 2558 ส่งออกได้ 7.2 ล้านตันหรือลดลง 2.2 ล้านตัน โดยในส่วนของเอสทีซีฯ ในปีนี้การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของบริษัทอาจจะลดลง 50% จากปี 2558 ส่งออกได้กว่า 4 แสนตัน รวมถึงผู้ประกอบการรายอื่นก็จะส่งออกลดลงเช่นเดียวกัน
ขณะที่นางสุรีย์ ยอดประจง นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เผยว่า สมาคมการค้ามันสำหลังทุกสมาคม และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้เคยประเมินร่วมกันถึงผลผลิตหัวมันสดของไทยในปีการผลิต 2558/2559 (จะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จภายใน ต.ค.59) จะมีผลผลิต 32 ล้านตัน แต่ผลการสำรวจล่าสุดคาดจะอยู่ที่ 28-30 ล้านตัน ขณะที่ในปีการผลิต 2559/2560 ที่สัดส่วนประมาณ 20% เกษตรกรได้เริ่มปลูกมันในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 คาดผลผลิตจะเสียหายจากภัยแล้งประมาณ 10% ส่วนสัดส่วนอีก 80% ที่เริ่มปลูกในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายังต้องลุ้นว่าจะมีฝนตก และทำให้ผลผลิตไม่ได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ดีผลผลิตหัวมันในปี 2559/2560 คาดการเก็บเกี่ยวจะล่าช้าออกไป โดยจะเริ่มเก็บผลผลิตในเดือนธันวาคม 2559 ถึงมกราคม 2560 รวมถึงผลผลิตต่อไร่ก็คาดว่าจะลดลง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 – 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559
JJNY : เศรษฐดี๊ดี(อีกแล้ว)...โรงแป้งมัน-มันเส้นวิกฤติ วัตถุดิบขาดแคลนหนัก/จีนหวดซํ้าส่งออกวูบ
นายปรีชา เต็มพร้อม นายกสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางนาแป้งมัน จำกัด (บจก.)เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการแป้งมันสำปะหลังที่เป็นสมาชิกของสมาคมประมาณ 100 ราย กำลังได้รับผลกระทบอย่างมากจากวัตถุดิบมันสำปะหลังป้อนโรงงานขาดแคลน อันเนื่องมาจากวิกฤติภัยแล้งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลผลิตหัวมันสดของเกษตรกรได้รับความเสียหาย รวมถึงต้องปลูกซ่อมแซม ขณะที่หัวมันสดที่ขุดขึ้นมาแล้วก็มีคุณภาพเชื้อแป้งที่ลดลง เช่นจากที่เคยมีเชื้อแป้ง 25-30% ก็ลดลงเหลือ 15-20% เป็นต้น
“ภัยแล้งในปีนี้รุนแรงมาก หัวมันสำปะหลังทั่วประเทศตอนนี้ก็ใกล้หมด จะมีผลผลิตใหม่อีกทีในช่วงเดือนตุลาคม แต่ปีนี้คาดผลผลิตจะออกช้าเพราะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้การปลูกและการเก็บเกี่ยวของเกษตรกรต้องล่าช้าออกไป คาดปีนี้จะมีของออกมาอีกทีช่วงเดือนธันวาคม 2559 – มกราคม 2560 ดังนั้นสิ้นเดือนนี้โรงงานแป้งมันส่วนใหญ่คงปิดกันเป็นแถวเพราะไม่มีวัตถุดิบใช้ในการผลิต และจากปกติจะไปเปิดการผลิตกันอีกทีช่วงเดือนตุลาคม แต่ปีนี้คงเปิดผลิตล่าช้าออกไปตามวัตถุดิบ ภาพรวมอุตสาหกรรมแป้งมันปีนี้ไม่ค่อยดี”
สำหรับการผลิตแป้งมันของบริษัทบางนาแป้งมันซึ่งมี 3 โรงงานผลิต ในแต่ละปีที่ผ่านมาจะผลิตสินค้าได้ 6-7 เดือนต่อปี และเฉลี่ยสามารถผลิตสินค้าได้ราว 8 หมื่นตันต่อปี ในจำนวนนี้ส่งออกต่างประเทศสัดส่วน 80% (ส่งออกไปตลาดจีนสัดส่วน 35% อินโดนีเซีย 35% และอีก 30% จำหน่ายในประเทศ) ซึ่งจากผลกระทบจากภัยแล้งวัตถุดิบขาดแคลนคาดยอดขายของบริษัทในปีนี้ทั้งในแง่ปริมาณ และมูลค่าจะลดลงในเบื้องต้น 10%
เช่นเดียวกับนายเจน วงศ์บุญสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ(อาวุโส) บจก.เอสทีซี ทาปิโอก้า กรุ๊ป หนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรายใหญ่ ที่กล่าวว่า ในภาพรวมการส่งออกมันเส้นซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังกลุ่มหลักของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีผลผลิตและส่งออกลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 1.5 ล้านตัน อันเนื่องมาจาก 1.ผลผลิตหัวมันสดของไทยได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตลดลง 15% และ 2.ราคาข้าวโพดในจีน(ซึ่งรัฐบาลจีนให้ใช้ผลิตแอลกอฮอล์แทนมันเส้น) ลดลงจาก 2,300 หยวนต่อตัน เหลือราว 2,000 หยวนต่อตัน กระทบต่อราคามันเส้นลดลงไปด้วย
“ทั่วโลกกำลังจับตามองสหรัฐฯที่กำลังปลูกข้าวโพดในคร็อปใหม่ว่าในอีก 6-7 สัปดาห์นับจากนี้จะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งหรือไม่ ถ้าเขาแล้งและผลผลิตเขาเสียหายราคาธัญพืชก็จะสูงขึ้น ขณะที่เวลานี้ราคามันเส้นส่งออก(FOB)อยู่ที่ 185-190 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน(ราคา ณ 14 มิ.ย.59) ลดลงจากปี 2558 ที่ราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 205-235 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน”
ทั้งนี้จากวัตถุดิบหัวมันสดของไทยที่ลดลงจากผลกระทบภัยแล้ง และจีนผู้นำเข้ามันเส้นรายใหญ่ของไทยลดการนำเข้า คาดในปีนี้การส่งออกมันเส้นของไทยอาจลดลงเหลือระดับ 5 ล้านตัน จากปี 2558 ส่งออกได้ 7.2 ล้านตันหรือลดลง 2.2 ล้านตัน โดยในส่วนของเอสทีซีฯ ในปีนี้การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของบริษัทอาจจะลดลง 50% จากปี 2558 ส่งออกได้กว่า 4 แสนตัน รวมถึงผู้ประกอบการรายอื่นก็จะส่งออกลดลงเช่นเดียวกัน
ขณะที่นางสุรีย์ ยอดประจง นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เผยว่า สมาคมการค้ามันสำหลังทุกสมาคม และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้เคยประเมินร่วมกันถึงผลผลิตหัวมันสดของไทยในปีการผลิต 2558/2559 (จะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จภายใน ต.ค.59) จะมีผลผลิต 32 ล้านตัน แต่ผลการสำรวจล่าสุดคาดจะอยู่ที่ 28-30 ล้านตัน ขณะที่ในปีการผลิต 2559/2560 ที่สัดส่วนประมาณ 20% เกษตรกรได้เริ่มปลูกมันในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 คาดผลผลิตจะเสียหายจากภัยแล้งประมาณ 10% ส่วนสัดส่วนอีก 80% ที่เริ่มปลูกในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายังต้องลุ้นว่าจะมีฝนตก และทำให้ผลผลิตไม่ได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ดีผลผลิตหัวมันในปี 2559/2560 คาดการเก็บเกี่ยวจะล่าช้าออกไป โดยจะเริ่มเก็บผลผลิตในเดือนธันวาคม 2559 ถึงมกราคม 2560 รวมถึงผลผลิตต่อไร่ก็คาดว่าจะลดลง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 – 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559