เรากับแฟนเลิกกันได้ประมาณ 5 เดือนแล้วค่ะ สาเหตุเพราะ "มือที่สาม" เขาไปคบกับผู้หญิงอีกคน ซึ่งผู้หญิงเองก็คบซ้อน (แต่โกหกแฟนเราว่าเลิกกับแฟนแล้ว แต่ความจริงยังไม่ได้เลิก เพราะตอนที่นางแอบคุยแอบไปไหนมาไหนกับแฟนเรา Facebook แฟนนางยังขึ้นสถานะ in relationship กับนางด้วยซ้ำ พอมาดูเฟสนางคือ นางซ่อนสถานะฯ ไว้ค่ะ) ใน IG นางก็ดราม่าว่าเลิกกับแฟนโง้นงี้ (เล่นละครเก่งสุดๆ ) เราเห็นแฟนเราชอบไปติดตามผู้หญิงคนนี้บ่อยๆ ใน facebook และ ig หายไปบ่อยๆ โทรไปก็ไม่ค่อยรับสาย เราก็เริ่มระแวง และทะเลาะกัน สุดท้ายเลิกกัน เขาก็ยืนยันไม่ได้เป็นเพราะ ผู้หญิงคนนี้แน่นอน แถมก่อนเลิกกับเรายังว่าเราเสียๆ หายๆ ให้เรารู้สึกผิดมากที่ระแวง เราก็โง่ดันไปง้อให้มันกลับมา แต่มันไม่กลับมา
หลังจากเลิกกับเราได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็ไปเที่ยวด้วยกัน (มันคงคิดว่าเราไม่รู้เพราะแฟนเก่าเรามันบล๊อก ig เรา) สุดท้ายความลับของแฟนเก่าเรามันก็ค่อยๆ เผยตัวให้เห็น เราเริ่มเก็บหลักฐาน ปะติดปะต่อเรื่องราวจนยากจะหาเหตุผลอื่นมาอธิบายได้ นอกจากคำว่า "มันนอกใจเราก่อนจะเลิกกับเราซะอีก" ทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นเพื่อให้มันเลิกกับเราแบบ มันไม่มีความผิดติดตัว แต่เรื่องชั่วๆ มันไม่เคยเป็นความลับหรอก ความสัมพันธ์ที่อยู่บนความไม่ถูกต้อง ก็ไม่ยั่งยืนเช่นกัน แฟนเก่าเราคบกับผู้หญิงคนนั้นได้ไม่ถึงสามเดือน แฟนนางก็มาทวงนางคืน เพราะจับทอแรเมียตัวเองได้ (แต่ไม่รู้ว่าได้เสียกับแฟนเก่าเรารึยังนะ) นางก็จำเป็นต้องกลับไปง้อผัวล่ะทีนี้ แฟนเรามันก็ถูก "เท" และก็ตามบท มันกลับมาหาเรา มาคุย มาขอโทษ คิดถึง อยากเจอ แก้ตัวสาระพัด ถึงจะร้ายขนาดนี้ แต่ถามว่าเรารักไหม? ก็ยังรักนะ รักเพราะความเห็นอกเห็นใจ ความผูกพันมากกว่า แต่มันไม่เหลือความศรัทธาอยู่เลย ทุกครั้งที่คิดว่าจะให้อภัยเขาได้ ให้โอกาสตัวเองไปเจอ หรือไปคุย ก็บอกตัวเองเสมอว่า เขาเคยหลอกใช้เรา ทำร้ายเราไว้ยังไง เราจะไม่มีวันกลับไปคุยกัน ไม่ว่าในฐานะอะไรก็ตาม แม้แต่จะเป็นเพื่อนก็เถอะ เพราะคนที่เป็นเพื่อนมันต้องประกอบด้วยความจริงใจ ทุกครั้งที่เราใจอ่อนคุยกับเขา หรือยอมให้เขาเข้ามาในชีวิต เราจะรู้สึกสมเพสตัวเองมาก รู้สึกตัวเองไม่มีศักดิ์ศรีที่ปล่อยให้คนที่ทำร้ายเรา (โดยเจตนา) มาลอยหน้าลอยตาอยู่ในชีวิตเรา พูดคุยกับเราเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปากเขาก็พูดว่าขอโทษ แต่เรารู้สึกได้ว่ามันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ นานวันเข้า เราก็ร้องไห้ ร้องไห้เพราะรู้สึกว่า เขาคิดว่าเราโง่
หลังๆมานี้เราร้องไห้แทบทุกวัน เรากลัวมากว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า เราเคยเลิกกับแฟนคนแรกแต่เราแทบจะไม่ร้องไห้ให้กับเขาเลย (อาจเป็นเพราะเขาทำกับเราไว้เยอะ เลยไม่มีอะไรจะเสียดาย) ไม่เกิน 4 เดือนก็กลับมาร่าเริงได้เป็นปกติละ แต่กับแฟนคนล่าสุดนี่ เราคิดถึงเขาทุกวัน ร้องไห้ทุกอาทิตย์ ตลอด 5 เดือนที่เลิกกันไป (ทั้งๆ ที่ก็คบกันไม่นานเท่าคนแรกด้วยซ้ำ แต่ผูกพันมาก เพราะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตตลอดเวลา) เจอหน้าเขา ก็แอบร้องไห้ แอบน้ำตาซึม มันสะเทือนใจแบบบอกไม่ถูก เวลาไม่ช่วยอะไรจริงๆ ยิ่งเผอิญต้องมาทำงานที่เดียวกันอีก ยิ่งทำใจลำบากเข้าไปใหญ่ เราควรไปพบจิตแพทย์ไหม หรือยังไง ปกติมีใครร้องไห้ข้ามปีแบบเราไหม เราไม่แน่ใจ กลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าจนทำงานทำการไม่ได้จริงๆ เพราะชีวิตกำลังเริ่มต้นใหม่ ไม่อยากให้จิตใจเสียหายไปมากกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้ ขนาดลองนั่งสมาธิ สวดมนตร์ก็แล้ว ยังร้องไห้ น้ำตาไหลทั้งๆ ที่หลับตานั่งสมาธิอยู่นั่นแหละ เหนื่อยกับตัวเอง สงสารตัวเองมากจริงๆ แต่ห้ามความเศร้าไม่ให้เกิดไม่ได้จริงๆ
...
ขอบคุณทุกสำหรับทุกคำตอบค่ะ
แชร์ประสบการณ์ เลิกกับแฟนมา 5 เดือน แต่ยังร้องไห้บ่อยๆ เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าไหม?
หลังจากเลิกกับเราได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็ไปเที่ยวด้วยกัน (มันคงคิดว่าเราไม่รู้เพราะแฟนเก่าเรามันบล๊อก ig เรา) สุดท้ายความลับของแฟนเก่าเรามันก็ค่อยๆ เผยตัวให้เห็น เราเริ่มเก็บหลักฐาน ปะติดปะต่อเรื่องราวจนยากจะหาเหตุผลอื่นมาอธิบายได้ นอกจากคำว่า "มันนอกใจเราก่อนจะเลิกกับเราซะอีก" ทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นเพื่อให้มันเลิกกับเราแบบ มันไม่มีความผิดติดตัว แต่เรื่องชั่วๆ มันไม่เคยเป็นความลับหรอก ความสัมพันธ์ที่อยู่บนความไม่ถูกต้อง ก็ไม่ยั่งยืนเช่นกัน แฟนเก่าเราคบกับผู้หญิงคนนั้นได้ไม่ถึงสามเดือน แฟนนางก็มาทวงนางคืน เพราะจับทอแรเมียตัวเองได้ (แต่ไม่รู้ว่าได้เสียกับแฟนเก่าเรารึยังนะ) นางก็จำเป็นต้องกลับไปง้อผัวล่ะทีนี้ แฟนเรามันก็ถูก "เท" และก็ตามบท มันกลับมาหาเรา มาคุย มาขอโทษ คิดถึง อยากเจอ แก้ตัวสาระพัด ถึงจะร้ายขนาดนี้ แต่ถามว่าเรารักไหม? ก็ยังรักนะ รักเพราะความเห็นอกเห็นใจ ความผูกพันมากกว่า แต่มันไม่เหลือความศรัทธาอยู่เลย ทุกครั้งที่คิดว่าจะให้อภัยเขาได้ ให้โอกาสตัวเองไปเจอ หรือไปคุย ก็บอกตัวเองเสมอว่า เขาเคยหลอกใช้เรา ทำร้ายเราไว้ยังไง เราจะไม่มีวันกลับไปคุยกัน ไม่ว่าในฐานะอะไรก็ตาม แม้แต่จะเป็นเพื่อนก็เถอะ เพราะคนที่เป็นเพื่อนมันต้องประกอบด้วยความจริงใจ ทุกครั้งที่เราใจอ่อนคุยกับเขา หรือยอมให้เขาเข้ามาในชีวิต เราจะรู้สึกสมเพสตัวเองมาก รู้สึกตัวเองไม่มีศักดิ์ศรีที่ปล่อยให้คนที่ทำร้ายเรา (โดยเจตนา) มาลอยหน้าลอยตาอยู่ในชีวิตเรา พูดคุยกับเราเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปากเขาก็พูดว่าขอโทษ แต่เรารู้สึกได้ว่ามันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ นานวันเข้า เราก็ร้องไห้ ร้องไห้เพราะรู้สึกว่า เขาคิดว่าเราโง่
หลังๆมานี้เราร้องไห้แทบทุกวัน เรากลัวมากว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า เราเคยเลิกกับแฟนคนแรกแต่เราแทบจะไม่ร้องไห้ให้กับเขาเลย (อาจเป็นเพราะเขาทำกับเราไว้เยอะ เลยไม่มีอะไรจะเสียดาย) ไม่เกิน 4 เดือนก็กลับมาร่าเริงได้เป็นปกติละ แต่กับแฟนคนล่าสุดนี่ เราคิดถึงเขาทุกวัน ร้องไห้ทุกอาทิตย์ ตลอด 5 เดือนที่เลิกกันไป (ทั้งๆ ที่ก็คบกันไม่นานเท่าคนแรกด้วยซ้ำ แต่ผูกพันมาก เพราะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตตลอดเวลา) เจอหน้าเขา ก็แอบร้องไห้ แอบน้ำตาซึม มันสะเทือนใจแบบบอกไม่ถูก เวลาไม่ช่วยอะไรจริงๆ ยิ่งเผอิญต้องมาทำงานที่เดียวกันอีก ยิ่งทำใจลำบากเข้าไปใหญ่ เราควรไปพบจิตแพทย์ไหม หรือยังไง ปกติมีใครร้องไห้ข้ามปีแบบเราไหม เราไม่แน่ใจ กลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าจนทำงานทำการไม่ได้จริงๆ เพราะชีวิตกำลังเริ่มต้นใหม่ ไม่อยากให้จิตใจเสียหายไปมากกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้ ขนาดลองนั่งสมาธิ สวดมนตร์ก็แล้ว ยังร้องไห้ น้ำตาไหลทั้งๆ ที่หลับตานั่งสมาธิอยู่นั่นแหละ เหนื่อยกับตัวเอง สงสารตัวเองมากจริงๆ แต่ห้ามความเศร้าไม่ให้เกิดไม่ได้จริงๆ
...
ขอบคุณทุกสำหรับทุกคำตอบค่ะ