สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน เราก็ได้ติดตามกระทู้ของหลายๆคนมาพอสมควรแล้วเนอะ แล้วช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ HOT!!HIT!!
กระทู้หวานแหววแต๋วจ้าฟินเฟอร์ๆแรงทะลุฉุดไม่อยู่ ก็คงหนีไม่พ้นกระทู้แชร์ประสบการณ์สุดฟิน สตอรี่ความรักของหลายๆคู่
เราเองอ่านแล้วก็ฟินจิกหมอนตามไปกับหลายๆนาง ก็เลยคิดว่า
เฮ้ยยยย ของเราก็มีนะเฟ้ย จะรอช้าอยู่ไยก็มาเเชร์ประสบการณ์ความฟินบ้างก็น่าจะดีเหมือนกันนะ
และขออกตัวก่อนเลยนะว่าเราหน่ะเป็นพวกมีเสียงเพลงในหัวใจเสียเหลือเกิน เอาง่ายๆคือไม่ว่าจะทำอะไร
หรืออารมณ์อยู่ในโหมดไหนมันจะมีเพลงผุดขึ้นมาในหัว ยิ่งกว่าละครเวทีเดอะมิวสิเคิล 5555 เพราะงั้นก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ
อย่าพึ่งเบื่อเค้าก่อนหล่ะกันนะจ๊ะตัวเอง
เราขอแทนตัวเองว่า หนูนะ (นม เอ๋ย!! นาม เอ๋ย!! ถูกแล้ว!55) มุกห้าบาทสิบบาทเล่นๆไปเถอะเนอะไม่เสียหาย55555
สรุป คือหนูนามสมมุติของเจ้าของกระทู้
คืองี้เจ้าของกระทู้หน่ะก็เป็นเด็กธรรมดาๆหน้าตาก็ไม่ได้สวยอะไร จัดว่า กลาง กล่าง กล้าง กล๊าง กล็าง มากก
เพราะงั้นก็เลยไม่ค่อยมีคนเข้ามาแจกขนมจีบสักเท่าไหร่ วันๆก็ตื่นนอนไปเรียน เลิกเรียน กลับบ้าน คุยกับแมวกับหมา
พอจะนอนก็ไม่มีคนมาส่งเข้านอนแบบว่า "ฝันดีนะครับที่รัก ไม่มี๊ ไม่มี" วันๆนึงก็น่าเบื่อไปแบบนี้แหละ
จนมาช่วงปิดเทอมของมหาลัยที่ ยาวนานนนนนน มาก ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี เราก็เลยไปหางาน part time ทำ โดยการไปเป็น casual
ที่โรงเเรมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา เราก็ทำไปทุกวัน เสร็จงานก็กลับบ้านไม่มีอะไร จนมาวันนึง เขาคนนั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
แท่น แท้น แท้นนนน ช่วงเวลานั้นคือเพลงเรื่องจริง ของพี่ป๊อดลอยมาเตะหน้าอย่างจัง
“ว่าฉันรักเธอโดยที่ไม่รู้จักและฉันรักเธอตั้งแต่แรกพบหน้า”ตอนนั้นอยากจะหยิบโทรศัพท์ โทรหาแม่เหลือเกินแล้วพูดว่า
"แม่!!หนูรักเขา" อย่าพึ่งหาว่าเราแรดไปซะก่อนนะ แต่มันห้ามใจอยากจริงๆที่จะไม่พูดคำนั้น
คือแบบ เดินผ่านใคร ใครก็มอง หนุ่ม หล่อ ขาวตี๋ ที่สำคัญเขาสูงมากๆเลยแกรเอ๊ย ตรงสเป็คชะนีมากค่าาาา
เขาคนนั้นเราขอแทนว่าช้างนะคะ คือเห็นจากไกลๆก็รู้ว่านางหล่อกิกิ พี่ช้างของหนู นางก็มาทำ casual เหมือนกัน
แต่เอาจริงๆปะรูปร่าง
ไม่เหมาะเลยสักนิดกับการมาทำงาน ถ้าบอกว่าเป็นแขกของโรงแรมยังจะน่าเชื่อมากกว่า
พอเห็นนางปุ๊ปภาระกิจพิชิตใจก็เริ่มขึ้น เพลงพี่ป้างขึ้นมาเลยจ้า “ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว ให้เธอนี้ไม่แคล้วไม่คลาดกัน”
เราก็เลยตัดสินเดินเข้าไปหาพี่ช้างเลยสิ จะรออะไร ชอบก็ต้องขอเบอร์ ไม่ก็ไลน์สิ
บอกกับตัวเองตลอดเวลาว่า สวยมักนก ตลกมักได้ เราจึงเดินไปหาพี่ช้างทันทีเเล้วพูดด้วยเสียงฟังชัดว่า
หนู : โทษนะคะ!!! หลบทางหน่อยคะพอดีจะเข็นรถเก็บแก้วเข้ามาล้าง
เฮ้อออออ งงกับตัวเองเหมือนกันนะว่าพูดแบบนั้นออกไปได้ไงวะ ไหนมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวมากไง
พอไปถึงกลายเป็นหมาง่อย ปากหนักพูดไม่ออก จบการกล่าวทักทายอันแสนโรแมนติก (“หราาา”)อันนั้น
ไปเราก็พยายามหลบหน้าพี่ช้างทันที มันมีความรู้สึกแบบอาย และคิดตลอดว่าเมื่อกี้ทำอะไรลงไปวะ
แต่เนื้อคู่มันต้องไม่แคล้วกันจริงมั้ยท่านผู้โชมมม คือวันนั้นหน่ะงานยุ่งมาก ขอตัว กอ ไก่ล้านตัว ยุ่งมากถึงมากที่สุด เราก็เลยลืมพี่ช้างไปชั่วขณะ พองานใกล้จะเลิกต้องเคลียร์เก็บแก้ว เราก็เห็นมีผู้ชายคนนึงเก๊ๆ กังๆ พยายามจะเก็บแก้ว เคลีย์แก้วของแขก อยู่ และเราไม่ได้มองหน้าไงว่าอีตานั้นมันเป็นใคร เดินใส่ตีนหมาเข้าไปช่วยเก็บทันที ด้วยความเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี (โฮ้ะๆๆๆๆ) พอเก็บเสร็จ
ผู้ชายคนที่เราเข้าไปช่วยนางก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดว่า “ขอบคุณนะครับ” พร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจผ่านเหล็กจัดฟันมาให้เราทีนึง
ตอนนั้นพูดได้คำเดียวว่า เขิน อึ้ง ตะลึงมากๆ เพราะเขาผู้นั้นก็คือพี่ช้างของน้องหนูเนี้ยเอง เราก็ได้แต่ส่งรอยยิ้มแหะๆไปให้นาง
เรากับพี่ช้างเข้างานกันคนเวลากัน เพราฉะนั้นเราเลยได้เลิกก่อนนาง พอเราขึ้นไปเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว
เห็นนางยืนหันเก็บของอยู่ เพลง Notice me ของ Alli Simpson ขึ้นมาจ้า
“But if these tears were gasoline, I'd light a fire make you notice me
Swim in a lightning storm to make you see
Nothing too crazy, if it makes you notice me”
ตอนนั้นเราก็คิดขึ้นมาได้ว่าต้องทำอะไรสักอย่างให้พี่ช้างได้ยิน พอพี่ช้างได้ยินนางก็จะหันมา
พอหันมาเราก็จะสิ่งยิ้ม แล้วพูดว่ากลับก่อนนะไว้เจอกันใหม่ แล้วส่งรอยยิ้มกลับไปอีกสักรอบเพื่อเป็นการตราตรึง
เหมือนจะพูดเป็นนัยๆว่า “อย่าลืมตรูนะเฟ้ย” เมื่อได้เช่นนั้นแล้วเราก็เลยพูดด้วยเสียงดังฟังชัดๆไปว่า
“ทุกคน เรากลับแล้วนะ” คนอื่นก็หันมาแล้วพูดว่าโอเคกลับดีๆ แต่เดี๋ยวๆทำไมพี่ช้างมันไม่หันมาเลยวะ
หรือว่าเมื่อกี้เราพูดสียงเบาเกินงั้นงั้นก็ ต้องมีเทคที่2
**เทคที่2** เสียงดังฟังชัดกว่าเดิม “ทู๊กกกคน เรากลับแล้วนะ”
ยังๆๆ ยังจะนิ่งยังจะไม่หันมาอีก อีดวก ไม่เป็นไรประโยคนั้นมันอาจจะสั้นเกินไป สงสัยต้องพูดประโยคยาวๆ
**เทคที่3** เล่นใหญ่เข้าไว้ + เสียงดังฟังชัด “ โฮ้!! โห้!!! คุกกี้ช็อคโกแลตชิพผสมแอลมอล์และแมคคาเดเมีย น่ากินมากเลย” และมันก็ยังคงนิ่ง ตอนแรกเราจะเล่นเทคที่4มาและ แต่พี่ที่โรงแรมพูดขึ้นมาว่า
พี่ที่โรงแรม : หนูไม่กลับบ้านหรือไงหะ!
หนู : กำลังจะกลับแล้วค่า @-@
สรุป พี่ช้างนางก็มาหันมา ไม่รู้จะตั้งใจเก็บอะไรหนักหนา ชะนีก็ได้แต่เดินคอตกกลับบ้าน ยิ่งกว่ารายการ AF “เราเสียใจด้วยค่ะ คุณไม่ได้ไปต่อ”
พอหลังจากเจอกันวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอพี่ช้างอีกเลย ก็ว่าแล้วเชียวว่าหน้าแบบนั้นมันจะทำงานอะไรได้วะ ดูบอบบางจะตาย
แต่คนมันชอบไปแล้วอ่ะให้ทำยังไง เราก็เลยไปสืบเสาะหา ว่านางเป็นใครมาจากไหน โดยการไปถาม casual ด้วยกันเอง
ว่ามีใครรู้จักนางมั้งมั้ย ก็ได้ความมาว่า นางชื่อช้าง ปิดเทอมยาวเลยไม่รู้จะทำอะไร เห็นเพื่อนๆมาทำก็เลยนึกสนุกอยากทำมั้ง
และพอดีบังเอิ๊ญ บังเอิญ เราสนิทกับเพื่อนนางพอดี
หุหุเราขอแทนชื่อเพื่อนเราว่าจุกนะ
นอกจากนั้นเรายังรู้ว่าพี่ช้างนั้นหน่ะเป็นถึงเดือนคณะนิเทศศาสตร์เลยนะ ก็ว่าแล้วเชียว
น่าตาเหมาะกับการเป็นสามีแห่งชาติขนาดนี้ ต้องมีตำแหน่งพ่วงท้ายหน่อยสิ
พอรู้ว่านางชื่ออะไร เราก็ไปหาในFacebook ที่แรกเลยจ้า แล้วเราก็เจอ/////
เจอนางจนได้ หลังจากพยายามนั่งหา อยู่นานถึงครึ่งชั่วโมง เจอปุ๊ปก็ดูตรง สถานะที่แรกเลยจ้า
ว่า มีผู้สาว คนได๋จองไว้หรือยัง สรุป โสดจ้า นางงงงงโสดดดดด!!! ขั้นต่อไปก็ไปดูโพสของนางสักหน่อย
แต่อะเด๋!! ทำไมมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมดเลยอ่ะ ทั้งรูปคู่ รูปหมู่ รูปเดี่ยว บลาๆ และคือไม่ซ้ำหน้า ที่สำคัญ
ผู้หญิงมีโพสหน้าวอลกันเต็มไปหมด ทั้ง ฝันดีนะคะ – ขอบคุณที่รับแอดนะคะ และอีกมากมาย
แต่น้องหนูคนนี้ไม่เชื่ออะไรง่ายๆหรอกอาจจะเพื่อนนางก็ได้ปะวะ คิดในแง่บวก ยิ่งกว่าการเป็นผู้หญิงคิดบวก
เราก็เลยโทรหาเพื่อนเราที่เป็นทั้งเพื่อนเราและเพื่อนพี่ช้างว่า นางเป็นคนยังไงเหย๋อ ก็ได้คำตอบกลับมาว่า
จุก:ไอ้ช้างอะนะ เสือผู้หญิงจะตาย สาวๆในสต็อคของมันเต็มไปหมด ระดับดาวคณะทั้งนั้นเลยนะ ไปไหนไม่เคยที่จะไม่ได้เบอร์หญิงติดมือกลับบ้าน มันหน่ะทั้งคุยทั้งสลับรางเก่งจะตาย เออแล้วทำไมอยู่ๆแกว่ามาวะ
หนู: อ่อเปล่าๆ พอดีเพื่อนเราชอบหน่ะเลยให้เรามาถาม
จุก:อ่อ งั้นก็ฝากบอกเพื่อนนะว่าอย่าเล่นกับไฟเลย มันคุยกับใครแปปๆมันก็เทแล้ว
หลังจากจบบทสนทนาเราก็มีความรู้สึกเศร้า ผิดหวัง อกหัก แหมมมผู้หญิงของพี่ช้างมีแต่ระดับดาวคณะทั้งนั้น
เราจะเอาอะไรไปสู้ได้วะ ก็คิดได้เพียงว่าตัดใจเหอะ
เราเลยตัดสินใจไม่แอดพี่ช้างไป เพราะยังไงเราก็ไม่มีวันได้คุยกับพี่ช้าง เวลามันก็ผ่านมาเกือบเดือน แล้ววันนึง เสียงไลน์เราก็เด้งขึ้น
ช้าง : Hello
เราไม่ทันได้มองว่าใครส่งไลน์เข้ามา พอเห็นทักมาเป็นภาษาอังกฤษเราก็คิดในใจว่า ผู้บ่าวบักหรั่งที่ไหนมันทักมาวะ แต่พอเลื่อนสายตามาดูชื่อผู้ส่ง ชอ อา ไม้โท ช้างงงงง อ๊ากกกก นี่เราฝันอยู่หรือเปล่า หรือว่ายังไง ตบแก้มตัวเองไปซะทีนึง เฮ้ยยยความจริงวะ ทำไงดี !!!ดี๋ด๋าไปมันจะดูมิงาม
เราต้องวางเชิงไปสักหน่อยละกัน เป็นผู้หญิงต้องเก็บอาการ
หนู:ใครคะ?
ช้าง:จำเราได้มั้ย?
โอ้ยยพ่อคุณใครจะจำหล่อนไม่ได้หล่ะยะ จำได้สิ
หนู:เอออโทษที เธอเป็นใครอะ เราจำไม่ได้จริงๆ
ช้าง:โหหหเราเสียใจวะ ดันจำเราไม่ได้ เราช้างเพื่อนจุกไง ที่วันนั้นเธอมาช่วยเราเก็บแก้วอะ พอจำได้มั้ย
หนู: อ่อ จำได้ละ แล้วเธอไปเอาไลน์เรามาจากไหนอ่ะ
ช้าง:จากจุกไง จะใครหล่ะ พอดีอยากจะส่งข้อความมาขอบคุณเรื่องวันนั้น
หนู:เรื่องแค่นี้เองไม่เห็นต้องลำบากไปขอไลน์จากจุกมาเลย เมื่อตอนนั้นเราว่างๆอยู่พอดี เห็นเธอยุ่งๆเราเลยอยากช่วย ยังไงก็เป็นเพื่อนร่วมงานกัน
หนู: และนี่ทำอะไรอยู่อ่ะ
ช้าง : **Read**
คืออ่านแต่ไม่ตอบแต่ เราก็เป็นผู้หญิงคิดบวกไง นางคงแบตหมด หรือเรียนอยู่ หรือว่าติดธุระอะไรก็ได้มั้ง เราก็เลยถือโทรศัพท์ไว้ในมือ รอ รอ รอ รอ รอ
5 นาทีผ่านไป
10นาทีผ่านไป
30นาทีผ่านไป
คือหล่อนอ่านปุ๊ปแล้วเดินไปเหยียบกับระเบิดตายไง!!! พอๆเลิกรอ เรากำลังจะไปกินข้าวละ นางก็ส่งข้อความตอบกลับมาว่า
ช้าง:เธอๆโทษทีเมื่อกี้เราตีปิงปองอยู่ในโรงยิมหน่ะ
คิดในใจ เหอะๆแผนตื้นๆของพวกผู้ชายเจ้าชู้ ตีปิงปองเเล้วมาคุยไลน์ได้ไง ไปหลอกควายนู่นไป!!! เมือกี้คุยกับสาวๆอยู้สินะ หึ!!! ชั้นรู้ทันแก ช่วงที่กำลังคิดอะไรต่อมิอะไรอยู่ในหัว นางก็ส่งข้อความกลับมาพร้อมรูปภาพปลากรอบบบ
ช้าง: ***Photo*** ส่งรูปในโรงยิมมา โต๊ะปิงปอง และก็รูปนางตอนเหงื่อนิโชกเลยจ้า
ช้าง: อะ เดี๋ยวไม่เชื่อส่งมาให้ดู
หนู:แล้วทำไมเราจะไม่เชื่อหล่ะ ส่งมาเพื่อ! แล้วเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเราอยากเห็นรูปเธอ
ช้าง:ไม่รู้อ่ะแค่ไม่อยากให้สงสัยในตัวเรา เราแฟร์ๆ
หนู:คงทำแบบนี้กับทุกคนหน่ะสิ
ช้าง:อยากรู้ป่ะล่ะ งั้นเธอ!!!!
หนู:...........
ช้าง: ขอเบอร์หน่อยดิ เราไม่ชอบการพิมพ์คุยหน่ะ มันจะทำให้ความหมายคลาดเคลื่อน คุยได้ยินเสียงไปเลยความหมายชัดเจนดี ไม่ต้องไปคิดตีความเอาเองทีหลัง
หนู: คืออย่ามาอ่อยเราแถวนี้ ไปอ่อยคนอื่นนู่น
ช้าง:ไม่ให้ใช่ปะงั่นเราแปป
หนู:...........
ช้าง: ***Calling ****
เห้ย
โทรเข้ามาในไลน์เลยวะ
ช้าง:รับสายสิ ไม่ให้เบอร์ งั้นโทรในไลน์ละกัน
แล้วเราก็คุยกันไปเรื่อย มาดูเวลาจาก6โมงเย็นถึง5 ทุ่มแล้วเราก็สนิทกันมากขึ้นๆๆ คุยกันทุกวันทุกเวลาไลน์นี่เด้งตลอด คุยกันมาได้3วันเราก็คิดว่าอยากเจอวะทำไงดี อ่อยยังไงไม่ให้รู้ว่าเราอ่อย ก็เลยโทรไปหาพี่ช้าง
หนู:ช้างพอดีวันนี้หนูขับรถผ่านมหาลัยเธออ่ะ เจอกันป่ะ เพราะต้องจอดรถรอเวลาให้รถแถวนั้นมันไม่ติด เบื่อมากเลยมาเอาของให้แม่แถวนี้รู้งี้มาเวลาอื่นก็ดีอ่ะ เซ็งมากๆ
ช้าง:เหรอ งั้นเจอก็ได้
หนู:ใช้คำว่าก็ได้เลยเหรอ ไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรไม่ว่ากัน
ช้าง:เต็มใจค๊าบบบบ
แต่จริงๆแล้วชะนีไม่ได้ขับผ่านอะไรเลย ตรูกุเรื่องขึ้นมาทั้งนั้น
อ้อมโลกมากจ้าอยู่กันคนละฝั่งกทมเลยไอ้บ้า เเต่เอาวะ ทุ่มสุดตัว ช่วงนี้น้ำมันลดราคาด้วยชิลๆ ถ้าน้ำมันแพงชั้นไม่มีทางขับอ้อมโลกมาหรอกยะ บอกเลยว่าเรื่องงก น้องหนูก็ไม่เป็นสองรองใคร
ขับมาถึงมหาลัยพี่ช้าง เห็นนางยืนรออยู่ตรงป้ายรถเมล์ โหหหห ออร่าพุ่งทะลุเข้า2เบ้าตาเต็มๆเราก็จอดรับนางขึ้นมา ใจเต้นตึกๆตักๆเหงื่อซึมออกเต็ม2มือ
ช้าง:เป็นอะไร ทำไมเหงื่อเเตก
หนู:อ่อ ร้อนหน่ะ
ช้าง:เร่งเเอร์สิยัยเบ๊อะ! อืมม มองใกล้ๆตัวอ้วนเหมือนกันนะเนี้ยเรา ฟันนี่หุบเข้ามั้ยนั้น สาบานว่าดัดฟัน หัวนี่เหม่งมาก อย่าาาา!!อย่าหันมานะ นึกว่าพระอาทิตย์ขึ้นอีกดวงบนรถ
หนู:เอิ่มมมมมม ลงไปจากรถเลยมะ ปากหมามาก
ช้าง:55555 ล้อเล่น
ระหว่างทางเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆแล้วอยู่ๆนางก็มาปิดเพลงจากเครื่องเรา
ช้าง:อะไร เป็นคนไทยซะป่าวฟังแต่สากล งั้นเราขอฟังเพลงขอเราละกันนะ ละก็เอาไปเปิดเลยจ้า
คือถ้าจะทำขนาดนี้ไม่ต้องถามเราก็ไม่ได้มั้งง. เรากับพี่ช้างอายุห่างกันแค่1ปี เราเลยเรียกแค่ชื่อมัน ไม่น้ำหน้าคำว่าพี่เเต่อย่างใด. ละนางก็เปิดเพลงของนางเราก็ฟังๆไปจนถึงท่อนนี้
"อยากจะได้คนนี้เป็นแฟน
ก็ฉันนั้นอยากจะได้คนนี้เป็นแฟน
ถ้าหากได้คนนี้เป็นแฟนก็ดี"
ดีใจนะที่เราพบกัน
กระทู้หวานแหววแต๋วจ้าฟินเฟอร์ๆแรงทะลุฉุดไม่อยู่ ก็คงหนีไม่พ้นกระทู้แชร์ประสบการณ์สุดฟิน สตอรี่ความรักของหลายๆคู่
เราเองอ่านแล้วก็ฟินจิกหมอนตามไปกับหลายๆนาง ก็เลยคิดว่า
เฮ้ยยยย ของเราก็มีนะเฟ้ย จะรอช้าอยู่ไยก็มาเเชร์ประสบการณ์ความฟินบ้างก็น่าจะดีเหมือนกันนะ
และขออกตัวก่อนเลยนะว่าเราหน่ะเป็นพวกมีเสียงเพลงในหัวใจเสียเหลือเกิน เอาง่ายๆคือไม่ว่าจะทำอะไร
หรืออารมณ์อยู่ในโหมดไหนมันจะมีเพลงผุดขึ้นมาในหัว ยิ่งกว่าละครเวทีเดอะมิวสิเคิล 5555 เพราะงั้นก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ
อย่าพึ่งเบื่อเค้าก่อนหล่ะกันนะจ๊ะตัวเอง
เราขอแทนตัวเองว่า หนูนะ (นม เอ๋ย!! นาม เอ๋ย!! ถูกแล้ว!55) มุกห้าบาทสิบบาทเล่นๆไปเถอะเนอะไม่เสียหาย55555
สรุป คือหนูนามสมมุติของเจ้าของกระทู้
คืองี้เจ้าของกระทู้หน่ะก็เป็นเด็กธรรมดาๆหน้าตาก็ไม่ได้สวยอะไร จัดว่า กลาง กล่าง กล้าง กล๊าง กล็าง มากก
เพราะงั้นก็เลยไม่ค่อยมีคนเข้ามาแจกขนมจีบสักเท่าไหร่ วันๆก็ตื่นนอนไปเรียน เลิกเรียน กลับบ้าน คุยกับแมวกับหมา
พอจะนอนก็ไม่มีคนมาส่งเข้านอนแบบว่า "ฝันดีนะครับที่รัก ไม่มี๊ ไม่มี" วันๆนึงก็น่าเบื่อไปแบบนี้แหละ
จนมาช่วงปิดเทอมของมหาลัยที่ ยาวนานนนนนน มาก ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี เราก็เลยไปหางาน part time ทำ โดยการไปเป็น casual
ที่โรงเเรมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา เราก็ทำไปทุกวัน เสร็จงานก็กลับบ้านไม่มีอะไร จนมาวันนึง เขาคนนั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
แท่น แท้น แท้นนนน ช่วงเวลานั้นคือเพลงเรื่องจริง ของพี่ป๊อดลอยมาเตะหน้าอย่างจัง
“ว่าฉันรักเธอโดยที่ไม่รู้จักและฉันรักเธอตั้งแต่แรกพบหน้า”ตอนนั้นอยากจะหยิบโทรศัพท์ โทรหาแม่เหลือเกินแล้วพูดว่า
"แม่!!หนูรักเขา" อย่าพึ่งหาว่าเราแรดไปซะก่อนนะ แต่มันห้ามใจอยากจริงๆที่จะไม่พูดคำนั้น
คือแบบ เดินผ่านใคร ใครก็มอง หนุ่ม หล่อ ขาวตี๋ ที่สำคัญเขาสูงมากๆเลยแกรเอ๊ย ตรงสเป็คชะนีมากค่าาาา
เขาคนนั้นเราขอแทนว่าช้างนะคะ คือเห็นจากไกลๆก็รู้ว่านางหล่อกิกิ พี่ช้างของหนู นางก็มาทำ casual เหมือนกัน
แต่เอาจริงๆปะรูปร่างไม่เหมาะเลยสักนิดกับการมาทำงาน ถ้าบอกว่าเป็นแขกของโรงแรมยังจะน่าเชื่อมากกว่า
พอเห็นนางปุ๊ปภาระกิจพิชิตใจก็เริ่มขึ้น เพลงพี่ป้างขึ้นมาเลยจ้า “ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว ให้เธอนี้ไม่แคล้วไม่คลาดกัน”
เราก็เลยตัดสินเดินเข้าไปหาพี่ช้างเลยสิ จะรออะไร ชอบก็ต้องขอเบอร์ ไม่ก็ไลน์สิ
บอกกับตัวเองตลอดเวลาว่า สวยมักนก ตลกมักได้ เราจึงเดินไปหาพี่ช้างทันทีเเล้วพูดด้วยเสียงฟังชัดว่า
หนู : โทษนะคะ!!! หลบทางหน่อยคะพอดีจะเข็นรถเก็บแก้วเข้ามาล้าง
เฮ้อออออ งงกับตัวเองเหมือนกันนะว่าพูดแบบนั้นออกไปได้ไงวะ ไหนมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวมากไง
พอไปถึงกลายเป็นหมาง่อย ปากหนักพูดไม่ออก จบการกล่าวทักทายอันแสนโรแมนติก (“หราาา”)อันนั้น
ไปเราก็พยายามหลบหน้าพี่ช้างทันที มันมีความรู้สึกแบบอาย และคิดตลอดว่าเมื่อกี้ทำอะไรลงไปวะ
แต่เนื้อคู่มันต้องไม่แคล้วกันจริงมั้ยท่านผู้โชมมม คือวันนั้นหน่ะงานยุ่งมาก ขอตัว กอ ไก่ล้านตัว ยุ่งมากถึงมากที่สุด เราก็เลยลืมพี่ช้างไปชั่วขณะ พองานใกล้จะเลิกต้องเคลียร์เก็บแก้ว เราก็เห็นมีผู้ชายคนนึงเก๊ๆ กังๆ พยายามจะเก็บแก้ว เคลีย์แก้วของแขก อยู่ และเราไม่ได้มองหน้าไงว่าอีตานั้นมันเป็นใคร เดินใส่ตีนหมาเข้าไปช่วยเก็บทันที ด้วยความเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี (โฮ้ะๆๆๆๆ) พอเก็บเสร็จ
ผู้ชายคนที่เราเข้าไปช่วยนางก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดว่า “ขอบคุณนะครับ” พร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจผ่านเหล็กจัดฟันมาให้เราทีนึง
ตอนนั้นพูดได้คำเดียวว่า เขิน อึ้ง ตะลึงมากๆ เพราะเขาผู้นั้นก็คือพี่ช้างของน้องหนูเนี้ยเอง เราก็ได้แต่ส่งรอยยิ้มแหะๆไปให้นาง
เรากับพี่ช้างเข้างานกันคนเวลากัน เพราฉะนั้นเราเลยได้เลิกก่อนนาง พอเราขึ้นไปเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว
เห็นนางยืนหันเก็บของอยู่ เพลง Notice me ของ Alli Simpson ขึ้นมาจ้า
“But if these tears were gasoline, I'd light a fire make you notice me
Swim in a lightning storm to make you see
Nothing too crazy, if it makes you notice me”
ตอนนั้นเราก็คิดขึ้นมาได้ว่าต้องทำอะไรสักอย่างให้พี่ช้างได้ยิน พอพี่ช้างได้ยินนางก็จะหันมา
พอหันมาเราก็จะสิ่งยิ้ม แล้วพูดว่ากลับก่อนนะไว้เจอกันใหม่ แล้วส่งรอยยิ้มกลับไปอีกสักรอบเพื่อเป็นการตราตรึง
เหมือนจะพูดเป็นนัยๆว่า “อย่าลืมตรูนะเฟ้ย” เมื่อได้เช่นนั้นแล้วเราก็เลยพูดด้วยเสียงดังฟังชัดๆไปว่า
“ทุกคน เรากลับแล้วนะ” คนอื่นก็หันมาแล้วพูดว่าโอเคกลับดีๆ แต่เดี๋ยวๆทำไมพี่ช้างมันไม่หันมาเลยวะ
หรือว่าเมื่อกี้เราพูดสียงเบาเกินงั้นงั้นก็ ต้องมีเทคที่2
**เทคที่2** เสียงดังฟังชัดกว่าเดิม “ทู๊กกกคน เรากลับแล้วนะ”
ยังๆๆ ยังจะนิ่งยังจะไม่หันมาอีก อีดวก ไม่เป็นไรประโยคนั้นมันอาจจะสั้นเกินไป สงสัยต้องพูดประโยคยาวๆ
**เทคที่3** เล่นใหญ่เข้าไว้ + เสียงดังฟังชัด “ โฮ้!! โห้!!! คุกกี้ช็อคโกแลตชิพผสมแอลมอล์และแมคคาเดเมีย น่ากินมากเลย” และมันก็ยังคงนิ่ง ตอนแรกเราจะเล่นเทคที่4มาและ แต่พี่ที่โรงแรมพูดขึ้นมาว่า
พี่ที่โรงแรม : หนูไม่กลับบ้านหรือไงหะ!
หนู : กำลังจะกลับแล้วค่า @-@
สรุป พี่ช้างนางก็มาหันมา ไม่รู้จะตั้งใจเก็บอะไรหนักหนา ชะนีก็ได้แต่เดินคอตกกลับบ้าน ยิ่งกว่ารายการ AF “เราเสียใจด้วยค่ะ คุณไม่ได้ไปต่อ”
พอหลังจากเจอกันวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอพี่ช้างอีกเลย ก็ว่าแล้วเชียวว่าหน้าแบบนั้นมันจะทำงานอะไรได้วะ ดูบอบบางจะตาย
แต่คนมันชอบไปแล้วอ่ะให้ทำยังไง เราก็เลยไปสืบเสาะหา ว่านางเป็นใครมาจากไหน โดยการไปถาม casual ด้วยกันเอง
ว่ามีใครรู้จักนางมั้งมั้ย ก็ได้ความมาว่า นางชื่อช้าง ปิดเทอมยาวเลยไม่รู้จะทำอะไร เห็นเพื่อนๆมาทำก็เลยนึกสนุกอยากทำมั้ง
และพอดีบังเอิ๊ญ บังเอิญ เราสนิทกับเพื่อนนางพอดี
หุหุเราขอแทนชื่อเพื่อนเราว่าจุกนะ
นอกจากนั้นเรายังรู้ว่าพี่ช้างนั้นหน่ะเป็นถึงเดือนคณะนิเทศศาสตร์เลยนะ ก็ว่าแล้วเชียว
น่าตาเหมาะกับการเป็นสามีแห่งชาติขนาดนี้ ต้องมีตำแหน่งพ่วงท้ายหน่อยสิ
พอรู้ว่านางชื่ออะไร เราก็ไปหาในFacebook ที่แรกเลยจ้า แล้วเราก็เจอ/////
เจอนางจนได้ หลังจากพยายามนั่งหา อยู่นานถึงครึ่งชั่วโมง เจอปุ๊ปก็ดูตรง สถานะที่แรกเลยจ้า
ว่า มีผู้สาว คนได๋จองไว้หรือยัง สรุป โสดจ้า นางงงงงโสดดดดด!!! ขั้นต่อไปก็ไปดูโพสของนางสักหน่อย
แต่อะเด๋!! ทำไมมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมดเลยอ่ะ ทั้งรูปคู่ รูปหมู่ รูปเดี่ยว บลาๆ และคือไม่ซ้ำหน้า ที่สำคัญ
ผู้หญิงมีโพสหน้าวอลกันเต็มไปหมด ทั้ง ฝันดีนะคะ – ขอบคุณที่รับแอดนะคะ และอีกมากมาย
แต่น้องหนูคนนี้ไม่เชื่ออะไรง่ายๆหรอกอาจจะเพื่อนนางก็ได้ปะวะ คิดในแง่บวก ยิ่งกว่าการเป็นผู้หญิงคิดบวก
เราก็เลยโทรหาเพื่อนเราที่เป็นทั้งเพื่อนเราและเพื่อนพี่ช้างว่า นางเป็นคนยังไงเหย๋อ ก็ได้คำตอบกลับมาว่า
จุก:ไอ้ช้างอะนะ เสือผู้หญิงจะตาย สาวๆในสต็อคของมันเต็มไปหมด ระดับดาวคณะทั้งนั้นเลยนะ ไปไหนไม่เคยที่จะไม่ได้เบอร์หญิงติดมือกลับบ้าน มันหน่ะทั้งคุยทั้งสลับรางเก่งจะตาย เออแล้วทำไมอยู่ๆแกว่ามาวะ
หนู: อ่อเปล่าๆ พอดีเพื่อนเราชอบหน่ะเลยให้เรามาถาม
จุก:อ่อ งั้นก็ฝากบอกเพื่อนนะว่าอย่าเล่นกับไฟเลย มันคุยกับใครแปปๆมันก็เทแล้ว
หลังจากจบบทสนทนาเราก็มีความรู้สึกเศร้า ผิดหวัง อกหัก แหมมมผู้หญิงของพี่ช้างมีแต่ระดับดาวคณะทั้งนั้น
เราจะเอาอะไรไปสู้ได้วะ ก็คิดได้เพียงว่าตัดใจเหอะ
เราเลยตัดสินใจไม่แอดพี่ช้างไป เพราะยังไงเราก็ไม่มีวันได้คุยกับพี่ช้าง เวลามันก็ผ่านมาเกือบเดือน แล้ววันนึง เสียงไลน์เราก็เด้งขึ้น
ช้าง : Hello
เราไม่ทันได้มองว่าใครส่งไลน์เข้ามา พอเห็นทักมาเป็นภาษาอังกฤษเราก็คิดในใจว่า ผู้บ่าวบักหรั่งที่ไหนมันทักมาวะ แต่พอเลื่อนสายตามาดูชื่อผู้ส่ง ชอ อา ไม้โท ช้างงงงง อ๊ากกกก นี่เราฝันอยู่หรือเปล่า หรือว่ายังไง ตบแก้มตัวเองไปซะทีนึง เฮ้ยยยความจริงวะ ทำไงดี !!!ดี๋ด๋าไปมันจะดูมิงาม
เราต้องวางเชิงไปสักหน่อยละกัน เป็นผู้หญิงต้องเก็บอาการ
หนู:ใครคะ?
ช้าง:จำเราได้มั้ย?
โอ้ยยพ่อคุณใครจะจำหล่อนไม่ได้หล่ะยะ จำได้สิ
หนู:เอออโทษที เธอเป็นใครอะ เราจำไม่ได้จริงๆ
ช้าง:โหหหเราเสียใจวะ ดันจำเราไม่ได้ เราช้างเพื่อนจุกไง ที่วันนั้นเธอมาช่วยเราเก็บแก้วอะ พอจำได้มั้ย
หนู: อ่อ จำได้ละ แล้วเธอไปเอาไลน์เรามาจากไหนอ่ะ
ช้าง:จากจุกไง จะใครหล่ะ พอดีอยากจะส่งข้อความมาขอบคุณเรื่องวันนั้น
หนู:เรื่องแค่นี้เองไม่เห็นต้องลำบากไปขอไลน์จากจุกมาเลย เมื่อตอนนั้นเราว่างๆอยู่พอดี เห็นเธอยุ่งๆเราเลยอยากช่วย ยังไงก็เป็นเพื่อนร่วมงานกัน
หนู: และนี่ทำอะไรอยู่อ่ะ
ช้าง : **Read**
คืออ่านแต่ไม่ตอบแต่ เราก็เป็นผู้หญิงคิดบวกไง นางคงแบตหมด หรือเรียนอยู่ หรือว่าติดธุระอะไรก็ได้มั้ง เราก็เลยถือโทรศัพท์ไว้ในมือ รอ รอ รอ รอ รอ
5 นาทีผ่านไป
10นาทีผ่านไป
30นาทีผ่านไป
คือหล่อนอ่านปุ๊ปแล้วเดินไปเหยียบกับระเบิดตายไง!!! พอๆเลิกรอ เรากำลังจะไปกินข้าวละ นางก็ส่งข้อความตอบกลับมาว่า
ช้าง:เธอๆโทษทีเมื่อกี้เราตีปิงปองอยู่ในโรงยิมหน่ะ
คิดในใจ เหอะๆแผนตื้นๆของพวกผู้ชายเจ้าชู้ ตีปิงปองเเล้วมาคุยไลน์ได้ไง ไปหลอกควายนู่นไป!!! เมือกี้คุยกับสาวๆอยู้สินะ หึ!!! ชั้นรู้ทันแก ช่วงที่กำลังคิดอะไรต่อมิอะไรอยู่ในหัว นางก็ส่งข้อความกลับมาพร้อมรูปภาพปลากรอบบบ
ช้าง: ***Photo*** ส่งรูปในโรงยิมมา โต๊ะปิงปอง และก็รูปนางตอนเหงื่อนิโชกเลยจ้า
ช้าง: อะ เดี๋ยวไม่เชื่อส่งมาให้ดู
หนู:แล้วทำไมเราจะไม่เชื่อหล่ะ ส่งมาเพื่อ! แล้วเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเราอยากเห็นรูปเธอ
ช้าง:ไม่รู้อ่ะแค่ไม่อยากให้สงสัยในตัวเรา เราแฟร์ๆ
หนู:คงทำแบบนี้กับทุกคนหน่ะสิ
ช้าง:อยากรู้ป่ะล่ะ งั้นเธอ!!!!
หนู:...........
ช้าง: ขอเบอร์หน่อยดิ เราไม่ชอบการพิมพ์คุยหน่ะ มันจะทำให้ความหมายคลาดเคลื่อน คุยได้ยินเสียงไปเลยความหมายชัดเจนดี ไม่ต้องไปคิดตีความเอาเองทีหลัง
หนู: คืออย่ามาอ่อยเราแถวนี้ ไปอ่อยคนอื่นนู่น
ช้าง:ไม่ให้ใช่ปะงั่นเราแปป
หนู:...........
ช้าง: ***Calling ****
เห้ยโทรเข้ามาในไลน์เลยวะ
ช้าง:รับสายสิ ไม่ให้เบอร์ งั้นโทรในไลน์ละกัน
แล้วเราก็คุยกันไปเรื่อย มาดูเวลาจาก6โมงเย็นถึง5 ทุ่มแล้วเราก็สนิทกันมากขึ้นๆๆ คุยกันทุกวันทุกเวลาไลน์นี่เด้งตลอด คุยกันมาได้3วันเราก็คิดว่าอยากเจอวะทำไงดี อ่อยยังไงไม่ให้รู้ว่าเราอ่อย ก็เลยโทรไปหาพี่ช้าง
หนู:ช้างพอดีวันนี้หนูขับรถผ่านมหาลัยเธออ่ะ เจอกันป่ะ เพราะต้องจอดรถรอเวลาให้รถแถวนั้นมันไม่ติด เบื่อมากเลยมาเอาของให้แม่แถวนี้รู้งี้มาเวลาอื่นก็ดีอ่ะ เซ็งมากๆ
ช้าง:เหรอ งั้นเจอก็ได้
หนู:ใช้คำว่าก็ได้เลยเหรอ ไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรไม่ว่ากัน
ช้าง:เต็มใจค๊าบบบบ
แต่จริงๆแล้วชะนีไม่ได้ขับผ่านอะไรเลย ตรูกุเรื่องขึ้นมาทั้งนั้น อ้อมโลกมากจ้าอยู่กันคนละฝั่งกทมเลยไอ้บ้า เเต่เอาวะ ทุ่มสุดตัว ช่วงนี้น้ำมันลดราคาด้วยชิลๆ ถ้าน้ำมันแพงชั้นไม่มีทางขับอ้อมโลกมาหรอกยะ บอกเลยว่าเรื่องงก น้องหนูก็ไม่เป็นสองรองใคร
ขับมาถึงมหาลัยพี่ช้าง เห็นนางยืนรออยู่ตรงป้ายรถเมล์ โหหหห ออร่าพุ่งทะลุเข้า2เบ้าตาเต็มๆเราก็จอดรับนางขึ้นมา ใจเต้นตึกๆตักๆเหงื่อซึมออกเต็ม2มือ
ช้าง:เป็นอะไร ทำไมเหงื่อเเตก
หนู:อ่อ ร้อนหน่ะ
ช้าง:เร่งเเอร์สิยัยเบ๊อะ! อืมม มองใกล้ๆตัวอ้วนเหมือนกันนะเนี้ยเรา ฟันนี่หุบเข้ามั้ยนั้น สาบานว่าดัดฟัน หัวนี่เหม่งมาก อย่าาาา!!อย่าหันมานะ นึกว่าพระอาทิตย์ขึ้นอีกดวงบนรถ
หนู:เอิ่มมมมมม ลงไปจากรถเลยมะ ปากหมามาก
ช้าง:55555 ล้อเล่น
ระหว่างทางเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆแล้วอยู่ๆนางก็มาปิดเพลงจากเครื่องเรา
ช้าง:อะไร เป็นคนไทยซะป่าวฟังแต่สากล งั้นเราขอฟังเพลงขอเราละกันนะ ละก็เอาไปเปิดเลยจ้า
คือถ้าจะทำขนาดนี้ไม่ต้องถามเราก็ไม่ได้มั้งง. เรากับพี่ช้างอายุห่างกันแค่1ปี เราเลยเรียกแค่ชื่อมัน ไม่น้ำหน้าคำว่าพี่เเต่อย่างใด. ละนางก็เปิดเพลงของนางเราก็ฟังๆไปจนถึงท่อนนี้
"อยากจะได้คนนี้เป็นแฟน
ก็ฉันนั้นอยากจะได้คนนี้เป็นแฟน
ถ้าหากได้คนนี้เป็นแฟนก็ดี"