บอกก่อนนะครับว่า ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ Samsung
ใช้ มาตั้งแต่ S1-> Note2-> Note5
แฟนใช้ S3->S5->S6
แม่ A7
เมื่อวาน เพิ่งเอาเครื่อง Note5 เข้าศูนย์ หลังจากอยู่ๆ ระบบ touchscreen ใช้งานไม่ได้
ตอนแรก เราก็คิดว่าเครื่องอยู่ในประกันคงไม่มีปัญหาอะไร พอทางศูนย์โทรมาบอกว่า เครื่องมีความชื้น จากช่องเสียบที่ Charge ไม่อยู่ในประกัน
ผมนี้ อึ้งไปหลายวิเลยครับ เพราะ
1. ผมมั่นใจว่าไม่เคยตกน้ำ
2. Case ผมใช้ Otter มีที่ปิดตรงที่ชาร์ตตลอด
3. ไม่เคยตกแบบรุนแรง
เลยถามกลับไปว่า ทำไมไม่ cover ในประกัน ทางฝ่ายช่างก็ได้แต่ตอบว่า เครื่องมีความชื้น ไม่อยู่ในประกัน พอแกะเครื่องออกจากมี chipset ตัวนึงที่จะเปลี่ยนสีเมื่อมีความชื่น ทางช่างจะเอาตรงนั้นเป็นเกณฑ์ ยังงัยถ้าจะซ่อม ต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6xxx บาท ซึ่งผมไม่พอใจอย่างมาก เลยมาตั้งกระทู้ เพื่อเตือนคนที่จะคิดซื้อ Note 5 ไว้เลยว่า ทาง Samsung จะไม่รับผิดชอบใดๆ หากเครื่องเกิดความชื้น โดยที่คุณมีความรู้สึกว่า คุณก็ใช้งานปกติเหมือนการทำงานทั่วๆไป
ผมเสียความรู้สึกมาก แต่ไม่รู้จะระบายที่ไหน ก็เลยคิดมาระบายใน pantip ครับ
คือผมมั่นใจว่า ผมใช้งานแบบปกติ เหมือนเครื่องอื่นๆที่ผมเคยใช้ แต่ผมต้องมารับผิดชอบกับไอ้ความชื้น ที่ผมคิดว่า เกิดจากการผิดพลาดที่การผลิต ที่ทำให้เครื่องรุ่นนี้ มีปัญหาที่ความชื้นแน่นอน แต่กำลังผลักภาระนี้มาให้กับผู้บริโภค
ถ้าประเทศเรา องค์การคุ้มครองผู้บริโภคเข้มแข็ง ปัญหาเหล่านี้ เจ้าของสินค้า จะต้องออกมารับผิดชอบมากว่านี้ ไม่ใช่ให้คนซื้อมาเสียเงินอีก ทั้งที่อยู่ในประกัน ถ้าแบบนั้น จะมีประกันเพื่ออะไร
Samsung มีประกัน แต่บอกว่าเสียแบบนี้ จะไม่รับผิดชอบ ทั้งที่ ผมหาข้อมูลใน pantip หรืออีกหลายๆที่ มีคนเจอปัญหาเรื่องความชื้นเยอะมาก แต่คุณกลับมาแค่ว่าเป็น user error ไม่เกี่ยวกับการ production ของคุณ อย่างนี้ผมเรียกว่าไม่มีความรับผิดชอบ
ถ้าจะมาเถียงว่า ทำไมบางเครื่องไม่เป็น ผมก็ตอบว่าผมไม่รู้เหมือนกัน เพียงแต่มันใช่หน้าที่ผมเหรอที่ต้องมาคอยระวังว่า จะเจอ jackpot เมื่อไร ในเมื่อผมก็ใช้งานปกติ แล้วผมจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ผมเสียเงินเปลี่ยนจอกับคุณแล้ว อีกสักพักจะไม่เกิดปัญหานี้อีก
คือถ้าเครื่องผมเคยตกน้ำ หรือเปียกฝนเยอะ ผมจะไม่บ่นเลย
ผมบอกได้เลย ผมขอไม่ใช้ Samsung อีกต่อไป และขอเตือนให้ผู้คิดจะเลือกมือถือ ให้เลือกที่ความรับผิดชอบต่อผู้ซื้อด้วย มิใช่เอาแต่บอก คนใช้นั่นแหละผิด (บอกแล้วว่า เครื่องผมไม่เคยตกน้ำ แล้วมาต้องระวังยังงัยอีกเหรอ ที่จะทำให้เครื่องไม่ชื้น)
...ขออนุญาติมาแจ้งความคืบหน้าครับ...
ทาง ผจก.service center ของศูนย์ได้มาโทรคุยกับผมเมื่อตอนบ่ายๆ เรียกให้ผมเข้าไปดูเครื่องที่ทางช่างฯได้แกะทิ้งไว้
ผมบอกไม่ต้องเข้าไปดูหรอก เพราะเข้าไปดู ก็จะเห็นรอยชื้นที่โชว์อยู่ที่ตัวบอร์ด ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รอยชื้น เพราะมันเป็นอยู่แล้ว และผมก็เข้าใจกับการจัดการเบื้องต้นของคุณด้วยว่า ดูที่ความชื้นเป็นหลัก
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ทำไมถึงเกิดรอยชื้นกับเครื่องรุ่นนี้ จนทำให้ mainboard เสียขณะที่ยังอยู่ในประกัน และไม่เคยทำตกน้ำ (คือถ้าตกน้ำ และเสีย ผมยอมรับได้ครับ) และเครื่องผมไม่ได้เป็นแค่เครื่องเดียวในกรณีนี้ แต่ยังมีผู้ใช้อีกจำนวนหนึ่งที่เกิดปัญหาเหมือนๆกัน ซึ่งทำให้ผมสันนิฐานได้ว่า เครื่องรุ่นนี้แพ้ความชื้น ในประเทศที่มีความชื้นสูงอย่างประเทศไทยหรือเปล่า
ถ้าถามผมว่า เป็นหลายเครื่องไหม ผมก็บอกผมไม่รู้ว่าเยอะไหม เหมือนกับเวลารถมีปัญหาซ้ำๆ ทางบริษัทรถจะเช็คว่าเป็น user error หรือ production error ถ้าใช่อย่างหลัง ก็จะเรียกรถรุ่นที่มีปัญหาคืนทั้งหมด เพื่อที่จะจัดการแก้ไขปัญหา
ผมก็อยากให้ทาง Samsung เข้าใจตรงนี้ เพราะอย่างที่บอก ผมก็ใช้ของคุณมาหลายเครื่องอยู่ ซึ่งทางผจก.ก็รับทราบ และจะรายงาน case แบบนี้เข้าทางฝ่ายการผลิต เพื่อปรับปรุงแก้ไข
เวลาผ่านไปไม่นาน ทาง Samsung ก็มีคำตอบในการแก้ไขปัญหาให้กับผม ซึ่งก็พอใจระดับนึง
...บทสรุป...
ปัญหามีอยู่ทุกที่ อยู่ที่ว่าจะจัดการกับปัญหาอย่างไรให้มีความเป็นธรรม และเกิดความพึงพอใจกับทั้ง 2 ฝ่าย
ถ้าคุณแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ดี ก่อนลูกค้าจะเสียความรู้สึก ก็จะเกิด brand loyalty ขึ้นครับ
ซึ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหาครั้งนี้ ถือว่าทำได้ดี ให้ปิด case ได้ครับ
ขอบคุณทุกฝ่ายนะครับ ที่ช่วยกันแก้ปัญหา
Galaxy Note 5 กับความชื้นที่ทำให้เสียความรู้สึกกับ Samsung
ใช้ มาตั้งแต่ S1-> Note2-> Note5
แฟนใช้ S3->S5->S6
แม่ A7
เมื่อวาน เพิ่งเอาเครื่อง Note5 เข้าศูนย์ หลังจากอยู่ๆ ระบบ touchscreen ใช้งานไม่ได้
ตอนแรก เราก็คิดว่าเครื่องอยู่ในประกันคงไม่มีปัญหาอะไร พอทางศูนย์โทรมาบอกว่า เครื่องมีความชื้น จากช่องเสียบที่ Charge ไม่อยู่ในประกัน
ผมนี้ อึ้งไปหลายวิเลยครับ เพราะ
1. ผมมั่นใจว่าไม่เคยตกน้ำ
2. Case ผมใช้ Otter มีที่ปิดตรงที่ชาร์ตตลอด
3. ไม่เคยตกแบบรุนแรง
เลยถามกลับไปว่า ทำไมไม่ cover ในประกัน ทางฝ่ายช่างก็ได้แต่ตอบว่า เครื่องมีความชื้น ไม่อยู่ในประกัน พอแกะเครื่องออกจากมี chipset ตัวนึงที่จะเปลี่ยนสีเมื่อมีความชื่น ทางช่างจะเอาตรงนั้นเป็นเกณฑ์ ยังงัยถ้าจะซ่อม ต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6xxx บาท ซึ่งผมไม่พอใจอย่างมาก เลยมาตั้งกระทู้ เพื่อเตือนคนที่จะคิดซื้อ Note 5 ไว้เลยว่า ทาง Samsung จะไม่รับผิดชอบใดๆ หากเครื่องเกิดความชื้น โดยที่คุณมีความรู้สึกว่า คุณก็ใช้งานปกติเหมือนการทำงานทั่วๆไป
ผมเสียความรู้สึกมาก แต่ไม่รู้จะระบายที่ไหน ก็เลยคิดมาระบายใน pantip ครับ
คือผมมั่นใจว่า ผมใช้งานแบบปกติ เหมือนเครื่องอื่นๆที่ผมเคยใช้ แต่ผมต้องมารับผิดชอบกับไอ้ความชื้น ที่ผมคิดว่า เกิดจากการผิดพลาดที่การผลิต ที่ทำให้เครื่องรุ่นนี้ มีปัญหาที่ความชื้นแน่นอน แต่กำลังผลักภาระนี้มาให้กับผู้บริโภค
ถ้าประเทศเรา องค์การคุ้มครองผู้บริโภคเข้มแข็ง ปัญหาเหล่านี้ เจ้าของสินค้า จะต้องออกมารับผิดชอบมากว่านี้ ไม่ใช่ให้คนซื้อมาเสียเงินอีก ทั้งที่อยู่ในประกัน ถ้าแบบนั้น จะมีประกันเพื่ออะไร
Samsung มีประกัน แต่บอกว่าเสียแบบนี้ จะไม่รับผิดชอบ ทั้งที่ ผมหาข้อมูลใน pantip หรืออีกหลายๆที่ มีคนเจอปัญหาเรื่องความชื้นเยอะมาก แต่คุณกลับมาแค่ว่าเป็น user error ไม่เกี่ยวกับการ production ของคุณ อย่างนี้ผมเรียกว่าไม่มีความรับผิดชอบ
ถ้าจะมาเถียงว่า ทำไมบางเครื่องไม่เป็น ผมก็ตอบว่าผมไม่รู้เหมือนกัน เพียงแต่มันใช่หน้าที่ผมเหรอที่ต้องมาคอยระวังว่า จะเจอ jackpot เมื่อไร ในเมื่อผมก็ใช้งานปกติ แล้วผมจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ผมเสียเงินเปลี่ยนจอกับคุณแล้ว อีกสักพักจะไม่เกิดปัญหานี้อีก
คือถ้าเครื่องผมเคยตกน้ำ หรือเปียกฝนเยอะ ผมจะไม่บ่นเลย
ผมบอกได้เลย ผมขอไม่ใช้ Samsung อีกต่อไป และขอเตือนให้ผู้คิดจะเลือกมือถือ ให้เลือกที่ความรับผิดชอบต่อผู้ซื้อด้วย มิใช่เอาแต่บอก คนใช้นั่นแหละผิด (บอกแล้วว่า เครื่องผมไม่เคยตกน้ำ แล้วมาต้องระวังยังงัยอีกเหรอ ที่จะทำให้เครื่องไม่ชื้น)
...ขออนุญาติมาแจ้งความคืบหน้าครับ...
ทาง ผจก.service center ของศูนย์ได้มาโทรคุยกับผมเมื่อตอนบ่ายๆ เรียกให้ผมเข้าไปดูเครื่องที่ทางช่างฯได้แกะทิ้งไว้
ผมบอกไม่ต้องเข้าไปดูหรอก เพราะเข้าไปดู ก็จะเห็นรอยชื้นที่โชว์อยู่ที่ตัวบอร์ด ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รอยชื้น เพราะมันเป็นอยู่แล้ว และผมก็เข้าใจกับการจัดการเบื้องต้นของคุณด้วยว่า ดูที่ความชื้นเป็นหลัก
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ทำไมถึงเกิดรอยชื้นกับเครื่องรุ่นนี้ จนทำให้ mainboard เสียขณะที่ยังอยู่ในประกัน และไม่เคยทำตกน้ำ (คือถ้าตกน้ำ และเสีย ผมยอมรับได้ครับ) และเครื่องผมไม่ได้เป็นแค่เครื่องเดียวในกรณีนี้ แต่ยังมีผู้ใช้อีกจำนวนหนึ่งที่เกิดปัญหาเหมือนๆกัน ซึ่งทำให้ผมสันนิฐานได้ว่า เครื่องรุ่นนี้แพ้ความชื้น ในประเทศที่มีความชื้นสูงอย่างประเทศไทยหรือเปล่า
ถ้าถามผมว่า เป็นหลายเครื่องไหม ผมก็บอกผมไม่รู้ว่าเยอะไหม เหมือนกับเวลารถมีปัญหาซ้ำๆ ทางบริษัทรถจะเช็คว่าเป็น user error หรือ production error ถ้าใช่อย่างหลัง ก็จะเรียกรถรุ่นที่มีปัญหาคืนทั้งหมด เพื่อที่จะจัดการแก้ไขปัญหา
ผมก็อยากให้ทาง Samsung เข้าใจตรงนี้ เพราะอย่างที่บอก ผมก็ใช้ของคุณมาหลายเครื่องอยู่ ซึ่งทางผจก.ก็รับทราบ และจะรายงาน case แบบนี้เข้าทางฝ่ายการผลิต เพื่อปรับปรุงแก้ไข
เวลาผ่านไปไม่นาน ทาง Samsung ก็มีคำตอบในการแก้ไขปัญหาให้กับผม ซึ่งก็พอใจระดับนึง
...บทสรุป...
ปัญหามีอยู่ทุกที่ อยู่ที่ว่าจะจัดการกับปัญหาอย่างไรให้มีความเป็นธรรม และเกิดความพึงพอใจกับทั้ง 2 ฝ่าย
ถ้าคุณแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ดี ก่อนลูกค้าจะเสียความรู้สึก ก็จะเกิด brand loyalty ขึ้นครับ
ซึ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหาครั้งนี้ ถือว่าทำได้ดี ให้ปิด case ได้ครับ
ขอบคุณทุกฝ่ายนะครับ ที่ช่วยกันแก้ปัญหา