สวัสดีชาวบลูแพลนเน็ตทุกคนครับ ทริปนี้เป็นทริปที่สองหลังจากครั้งแรกไปตลุยญี่ปุ่น พอกลับมา รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคนเสพติดการเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองไปซ่ะแล้ว โดยครั้งนี้มีโอกาสไปฮ่องกง จากตั๋วโปรโมชั่นของสายการบิน Hong Kong Airline เมื่อต้นปี ราคา 4,965 บาท/คน

แผนการเดินทางก็ไม่มีอะไรมาก คงคอนเซ็ปมือใหม่ คือไปเที่ยวแบบครบๆ กิน ช้อป เที่ยว บางท่านอาจไปกันบ่อยแล้ว ก็ขอรีวิวเป็นข้อมูลให้มือใหม่นำไปเป็นไกด์ไลน์กันครับ

ขออนุญาตแปะลิงค์ทริปครั้งก่อนเผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่จะไปญี่ปุ่น ตามนี้ครับ

"ทริปสูตรสำเร็จ" Tokyo-Kawaguchiko กิน ช้อป เที่ยว 4 วันทำไมจะทำไม่ได้
Part 1 : http://ppantip.com/topic/34531532
Part 2 : http://ppantip.com/topic/34591317
Part 3 : http://ppantip.com/topic/34671062

แผนการเที่ยวในครั้งนี้ครับ มีเวลา 3 วัน 2 คืน

ไฟล์ทHX780 เวลา 03:35 ถึงฮ่องกง 08:00 บินดึกถึงเช้าจะได้เที่ยวต่อได้เลย ก่อนหน้านี้จขกทถูกเลื่อนเวลาบิน เนื่องจากสนามบินฮ่องกงมีการปรับตารางบินใหม่ครับ

เคาน์เตอร์ของฮ่องกงแอร์ไลน์จะอยู่ ROW " K " เปิดให้เช็คอินตั้งแต่ 23.00 (อาจมีเลทนิดหน่อย)

เกทของHXจะยังไม่โชว์จนกว่าจะใกล้ถึงเวลาบอร์ดิ้ง เพราะฉะนั้นต้องคอยดูจากมอนิเตอร์อย่างเดียว วันที่จขกทบินได้เกท F6 ซึ่งอยู่ปลายสุดครับ เดินไกลพอสมควร



ประมาณตีสามนิดๆพี่จีนก็ลุกมาต่อแถวกันแล้ว เครื่องที่จะไปฮ่องกงไฟล์ทนี้เป็น AIRBUS A330-300 ตอนที่เช็คอินออนไลน์เพื่อเลือกที่นั่ง จะขึ้นแถวที่ 31 จนถึง 60กว่าๆ ซึ่งไม่มีภาพปีกเครื่อง จขกทหาข้อมูลในอากู๋ก็ไม่เจอเลยวัดดวงเลือก 43 ไปครับ สรุปเจอปีกเต็มๆ
คือ ตั้งแต่ 31 - 33 ช่วงเครื่องยนต์ 34 - 45 ปีก 46 - 47 เป็นแฟลบ หลังจากนั้นก็ส่วนท้ายเครื่องครับ


เรื่องที่นั่งเนื่องจากเป็นฟูลเซอร์วิสแน่นอนว่ากว้าง พอได้ยืดเข้งยืดขาสบายหน่อย เบาะถูกจัดให้เรียงแบบ 2-4-2 เหมาะสำหรับคนที่เดินทางเป็นคู่ ไร้กขค555 ทุกที่นั่งมีจอPTV ผ้าห่ม ผ้าเย็น แอร์ก็น่ารักดี



เครื่องเทคออฟได้สักพักก็แจกแซนวิชตามภาพ ข้างในเป็นแฮมกับมัสตาร์ด รสชาติโอเคแต่เล็กไปหน่อย +น้ำอัดลม ชา กาแฟ ไวน์ แล้วแต่จะสั่งครับ


เวลาที่ฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชม. บินไปได้ชั่วโมงกว่าๆก็เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว

08.00
เครื่องลงตรงเวลา เจอละอองฝนนิดหน่อย ตามแพลนเช้านี้จขกทจะเอากระเป๋าไปฝากที่ CityGate แล้วไปขึ้นกระเช้าไหว้พระใหญ่กันครับ

จอดซ่ะหัวเชียว - -)



สำหรับมือใหม่ ไม่ว่าจะสนามบินไหนเราต้องไป Immigration ก่อน ถ้าหาป้ายไม่เจอก็เดินตามกลุ่มเขาไปครับ
เดินตามป้ายไปเรื่อยๆจนมาถึงจุดต่อรถใต้ดินไปอาคารหลัก(ซึ่งขากลับก็เช่นเดียวกัน เกทไกลมาก)


ช่วงเช้าคนไม่เยอะเท่าไร นั่งตู้หัวขบวนจะได้ชมวิวแบบนี้ครับ


พอผ่านพิธีการต่างๆแล้ว ออกมาด้านนอก เราก็มองหาร้าน1010 ซื้อซิมเน็ตไว้ใช้งาน ในรีวิวเก่าๆร้านเดิมจะอยู่ที่ชั้น6 แต่ปัจจุบันอยู่ชั้นเดียวกับตม.แล้วครับ เดินออกมาก็หาร้านแม็คโดนัลก่อนเลย

ร้านจะอยู่ตรงข้ามกันครับ หาไม่ยาก

จขกทเลือกโปรสำหรับนักท่องเที่ยวของCSL ราคา 18 HKD ใช้ได้แปดวัน แล้วเปิดแชร์ให้อีกเครื่อง เน็ตเร็วดีครับ



จากนั้นเราก็ไปซื้อบัตร Octopus ที่เคาน์เตอร์ Airport Express ซึ่งอยู่เยื่องๆตรงข้ามร้าน 1010 เดินออกประตูด้านขวาร้านแม็คก็เจอครับ

ใบละ 150 HKD ค่ามัดจำบัตร 50+เงินไว้ใช้ 100 จริงๆก็ใช้เกินได้ครับ มันจะไปหักค่ามัดจำ



แล้วเราก็เดินไปสถานีรถบัส จากเคาน์เตอร์AE เลี้ยวซ้ายตรงไปจนสุดก็จะเจอครับ


จขกทจะขึ้นบัส S1 ไปลง Tung Chung(CityGate) เพื่อฝากกระเป๋าที่ชั้นใต้ดินครับ

อย่างแรกที่เห็นแล้วชอบคือรถบัสเขาจะมีกล้องวงจรปิด วางกระเป๋าไว้ชั้นล่างขึ้นไปนั่งชั้นบนก็เห็น และการใช้ระบบขนส่งสาธารณะในฮ่องกงสะดวกมาก แค่แตะบัตรปลาหมึกใบเดียว! ทำไมบ้านเราไม่เอามาใช้บ้างนะ...



จากป้ายที่เราลง เดินเลาะซ้ายมาอีกนิดก็จะถึงทางเข้าห้างครับ เดินตามป้ายลงไปชั้นใต้ดินได้เลย เช้าล็อคเกอร์จะว่าง สายๆจะเต็มเพราะมีน้อยมาก

สถานี MTR Tung Chung อยู่ติดกัน

เดินลงแล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเจอ(ลืมถ่ายรูปแหะๆ) ล็อคเกอร์ที่นี้จะเป็นแบบอัตโนมัติ มีสองขนาดค่าบริการตามนี้ครับ(เล็ก 10 HKD / ใหญ่ 20 HKD ต่อ 2 ชม.) คือตอนแรกจ่ายไปก่อนแค่ 2 ชม.ส่วนต่างที่เกินมาค่อยมาจ่ายตอนเอากระเป๋าออก(เกิน 6 ชม.ขึ้นไปจะเป็นอีกราคา)

*ขั้นตอนการฝากตามนี้ 1.เปลี่ยนภาษา>2.เลือกขนาด>3.จ่ายเงิน (เงินสดหรือOctopusก็ได้ แล้วตู้จะเลือกเปิดให้เอง)>4.รับใบบาร์โค๊ด เอากระเป๋าใส่ตู้ ปิด จบไปเที่ยวได้ ส่วนตอนเอากระเป๋าออกก็แค่สแกนบาร์โค๊ด จ่ายส่วนต่าง(ถ้าเกิน 2 ชม.แรก) เพราะฉะนั้นห้ามทำบาร์โค็ดหายครับ


08.35
จากนั้นเราก็เดินย้อนมาทางป้ายรถบัส เลาะมาทางขวามือจะมีบันไดเลื่อน มีจนทชุดสีเขียวยืนอยู่+ป้ายบอกชัดเจน ตอนจขกทไปเป็นรอบแรกมีคนมาต่อคิวกันแล้ว(กระเช้าเปิด 9 โมง)
*สำหรับคนที่ซื้อตั๋วมาจากไทย ให้เข้าช่องทางขวาได้เลย ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วครับ(Fast Lane)


จขกทซื้อเป็นVoucherมาต้องแลกเป็นตั๋วจริงอีกที สำหรับกระเช้าแบบคริสตัลจะมีสายรัดข้อมือให้เราสวมเพื่อแยกประเภท นั่งได้ 4-6 คน หรือถ้าต้องการนั่งแบบส่วนตัวก็มีบริการครับ(ติดต่อได้ที่ช่องขายตั๋ว)


เวลาที่มีลมแรงๆพัดตีกระเช้าบนยอดเขา แอบหวิวเหมือนกันครับ555


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที หรือใครจะนับหอคอยก็ได้ 7 สถานี แนะนำว่าให้เช็คสภาพอากาศก่อนมาครับ เพราะบางวันมีเมฆมาก เดี๋ยวจะอดถ่ายรูปสวยๆ



ลงจากกระเช้าก็จะผ่านจุดขายของที่ระลึก ก่อนขึ้นมาจะมีจนทคอยถ่ายรูปทุกคน พอถึงด้านบนปุ๊ปรูปก็ถูกใส่กรอบเตรียมขายให้เรา ถ้าชอบก็ซื้อแต่ราคาแพงเอาเรื่องครับ



เรามาถึงด้านบนตอน 09.33 ท้องร้อง.. ข้าวเช้ายังไม่ได้ทาน เลยปฏิบัติการตามรอยลุงเด้ง(HKFC) กับร้าน"Zen Taiwanese Bistro" ที่เขาว่าถูกสุดบนนี้(แค่ 25 เหรียญ) เดินตามหาอยู่สองรอบถึงรู้ว่าร้านเปลี่ยนไปซ่ะแล้ว


ซ้ายปัจจุบัน ขวารีวิวลุงเด้ง สภาพตึกไม่ต่าง ไหนๆแล้วก็ขอรีวิวร้านใหม่ซ่ะเลย ร้านนี้ชื่อ "Feng Chia Market" ขายอาหารคล้ายๆกับ Zen Bistro ครับ



ราคาไม่ธรรมดา 40อัพ



เมนูแรกเป็นบะหมี่ลูกชิ้นหมู Pork Ball with Noodle in Soup ราคา 45 HKD เส้นกับน้ำซุปเฉยๆ แต่ลูกชิ้นอร่อยดีครับ(ให้มา 5 ลูก)

ต่อมาเป็นบะหมี่เกี๊ยว จขกทซูมเพิ่งเห็นว่าเป็น Meat & Vegetable Dumpling(นึกว่ากุ้ง มิ๊น่าคันๆ) ราคา 45 HKD ไม่ได้อร่อยเลย ไม่ผ่าน

สุดท้ายเป็นไก่ทอด ราคา 32 HKD รสชาติดีสุดครับ อีกเมนูจขกทสั่งน้ำมะม่วงปั่นก็ไม่อร่อย รสชาติแปลกพิกล(- -')


สรุปมื้อนี้จ่ายไป 159 HKD(730 บาท) แนะนำว่ายอมเสียเพิ่มอีกนิดไปกินร้านตรงเวิ้งทางเข้าหมู่บ้านดีกว่าครับ



พออิ่มก็ลุยกันต่อ เห็นแค่บันใดก็ปวดขาขึ้นมาทันที





นั่งพักชมวิวกินเมฆเกือบสองชั่วโมง เราก็กลับลงเขาเพื่อไปเช็คอินที่โรงแรม Shamrock Hotel ครับ

ตอนกลับขาเริ่มตึง555

สำหรับกระเช้า Ngong ping จขกทว่าถ้ามีโอกาสอยากให้มาลองนั่งกันดูครับ อาจแพลนไว้ตอนขามาถึงฮ่องกงหรือวันสุดท้ายที่จะกลับ จะไม่เสียเวลา และวิวที่ได้เห็นมันคุ้มค่าจริงๆ


ต่อความเห็นที่ 30 ครับ