สวัสดีค่ะ วันนี้จะมีรีวิวทริปไปเที่ยวฮ่องกงช่วงวันที่ 20 - 22 พ.ค. ที่ผ่านมากันนะคะ
ปกติได้มีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงหลายครั้งมาทั้งไปทำงาน และช้อปปิ้ง
แต่ไปครั้งนี้ตั้งใจว่าจะไม่ช้อป อยากเดินไปเรื่อยๆ กินไปเรื่อยๆค่ะ
>> แต่สุดท้ายก็เสียทรัพย์ไปไม่น้อย ~_~
**ทริปนี้ไปคนเดียวค่ะ ไม่น่ากลัว สบายใจ เดินหลงไปหลงมา วนวนแบบงงงง สนุกไปอีกแบบ**
เริ่มตารางทริปกันเลยนะคะ
วันแรก
เครื่องออกตอนดี 3 ถึงฮ่องกงตอน 8 โมงเช้า >> นั่ง Airport express ไปลงสถานีฮ่องกง >>
Check in โรงแรม >> Sik Sik Wong Yuen Wong Tai Sin Temple >>
Temple mall >> Nan Lian Garden >> Che Kung Temple >>
Hotel >> Mong Kok >> Back to Hotel
วันที่ 2
Tsim Sha Tsui >> Avenue of Star >> 1881 Heritage >> Causeway bay >> Hotel
วันที่ 3
Tsim Sha Tsui >> Mong Kok >> IFC Mall >> Airport เครื่องออก 3 ทุ่ม ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเกือบๆเที่ยงคืน
เริ่มที่อุปกรณ์ที่เตรียมในการเดินทางครั้งนี้นะคะ
ยาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเดินทางนะคะ โดยเฉพาะอีโน เพราะจะได้ชิม กินได้แบบไม่ยั้งค่ะ ถุงผ้าเตรียมไว้เพราะเวลาช้อปปิ้งเราจะต้องจ่ายค่าถุงกระดาษค่ะ เลยพกไปเองดีกว่า นอกจากนี้ก็จะมีเงิน เสื้อผ้า และร่ม
>> อากาศช่วงนี้มีทั้งร้อน ฝน หนาว ต้องเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ >>
วันแรก
ด้วยความที่ทริปนี้เราไปเที่ยวเองคนเดียวและไม่อยากนั่ง Taxi เลยตัดสินใจขับรถไปจอดที่สนามบินเลย เพื่อความสะดวกสบาย ค่าที่จอดรถวันละ 250 บาท เราบินโดยสายการบิน Hong Kong Airline เช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมินะคะ ตอนเราไปก่อนเวลาเยอะคนเลยต่อแถวไม่มากค่ะ สบายๆไม่ต้องตื่นเต้น ไม่ต้องออกกำลังกายก่อนขึ้นเครื่อง
หลังจากผ่าน ตม.ไทยเข้ามาเดินตรงมาเรื่อยๆก่อนลง Gate จะมีโซนโซฟาให้นั่งงีบได้แปปนึงนะคะ เป็นโซนที่ไฟจะมืดๆหน่อย แต่นอนไปก็กอดกระเป๋าไปด้วยนะคะ เดี๋ยวหายค่ะ ตั้งปลุกไว้ด้วยนะคะ เผื่อนอนเพลิน :p
พอขึ้นเครื่องก็จัดสัมภาระ จัดหมอน กางผ้าห่ม พร้อมนอนต่อค่ะ ที่นั่งสายการบินนี้ไม่แคบมาก ปรับเอนนอนได้สบาย แถมมีจอที่เบาะที่นั่งด้วยนะคะ ถือว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไป
ซักพักจะมีขนมปังมาเสริฟนะคะ อันนี้ไม่ต้องตั้งปลุกไว้นะคะ เพราะกลิ่นของขนมปังจะมาปลุกเราเอง
>> สายการบินนี้เสริฟขนมปังทั้งขาไปและกลับนะคะ ถ้ากลัวไม่อิ่มแนะนำให้ซื้อจากข้างนอกเอามากินบนเครื่องได้ >>
หลังจากครื่องลงจอดก็มีมุมให้ถ่ายรูปเครื่องลำข้างๆนิดหน่อย พอกรุบกริป
พอเดินออกจากเครื่องก็เดินตามป้าย Immigration เลยค่ะ เดินไม่ยาก มีป้ายตลอดทางค่ะ
บางสายการบินต้องมีขึ้นรถไฟภายในสบามบินเพื่อไปต่อยังจุด ตม. นะคะ
พออกจาก ตม.ก็ไปรับกระเป๋าตามสายพานที่เค้าประกาศไว้นะคะ ถ้าฟังไม่ทันจะมีจอแจ้งไว้ค่ะ ว่า Flight ของเรานั้นต้องไปที่สายพานไหน
**ข้างในสนามบินมี Free Wifi ให้ใช้ตั้งแต่ลงเครื่องเลยค่ะ แต่เราซื้อ Sim card จากที่ไทยไปค่ะ
ราคาใกล้ๆกัน แต่ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปซื้อ
และนั่ง Airport Express เพื่อเข้าเมือง การเข้าเมืองสามารถเดินทางได้ทั้งทางรถเมล์ รถ Taxi (จะมีการแบ่งสีของแต่ละโซนค่ะ ถ้าต้อวการไป Taxi สามารถเดินไปหาเจ้าหน้าที่ประจำประตู ยื่นแผนที่ให้เค้า แล้วเค้าจะแจ้งเราเองค่ะ ว่าให้ไปต่อแถวที่รถ Taxi สีไหน) หรือ Airport Express แล้วแต่ความสะดวก และสัมภาระค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วเลือกใช้ Airport Express ค่ะ เพราะประหยัดเวลา และขากลับตั้งใจจะเอากระเป๋าไป In town check in แล้วไปเดินเล่นต่อแบบตัวปลิวๆๆๆ ~~~
**ถ้าเลือกใช้บริการ Airport Express แนะนำให้ซื้อจากที่ไทยไปก่อนนะคะ เพราะราคาถูกกว่ากันมากมาย ทาง agency ที่นี่จะส่งเป็น E-ticket มาให้เพื่อนำไปแลกได้ที่เคาน์เตอร์ของสบามบินฮ่องกงได้เลยค่ะ >> เราซื้อจาก Hong Kong Fanclub ค่ะ >>
เคาน์เตอร์สำหรับซื้อตั๋ว Airport Express และ Octopus ค่ะ สำหรับคนที่มี E-ticket อยู่แล้ว สามารถขึ้นรถไฟและไปแลกตั๋วที่ปลายทางได้เลยค่ะ เพราะปกติแล้วเคาน์เตอร์นี้คนจะเข้าคิวกันเยอะ รอค่อนข้างนานค่ะ
เมื่อตั๋วพร้อมก็เดินมารอรถไฟกันได้เลยค่ะ
ที่สำหรับวางกระเป๋าบริเวณทางเข้า
ไม่ต้องกลัวลงผิดสถานีนะคะ เพราะมีป้ายไฟ และเสียงแจ้งเตือนตลอดทางค่ะ
ออกจากสถานีฮ่องกงก็เดินต่อไปโรงแรมเลยค่ะ โรงแรมที่พักครั้งนี้ชื่อ Mini Hotel Central เป็นโรงแรมเล็กๆ น่ารักๆ แต่คนที่พักต้องมีความสตรองระดับนึงเลยนะคะ เพราะเป็นทั้งเนิน ทั้งบันได เดินตัวเปล่าๆยังเหนื่อย นี่มีกระเป๋าใบเข่งพร้อมช้อปด้วยนี่ค่ะ ท่าเดินขึ้นโรงแรมไม่สวยเลย -_-"
จริงๆแล้วจากสถานี Hong Kong สามารถเดินข้างนอกมาที่โรงแรมได้เลย แต่ด้วยความโก๊ะๆ งงๆ เบลอๆเดินเข้าไปสถานี Hong Kong อีกรอบ และเดินต่อไปสถานี Central เสียตังแบบงงงง
จากสถานี Central ออกตรงทางออก D1 และเลี้ยวไปทางขวา หลังจากนั้น มองบนไปทางเดิน และหายใจลึกๆ คิดจะมาเที่ยวคนเดียวต้องเข้มแข็ง เดินเองได้ แบกกระเป๋าเองได้~~~
มองไปบนนั้น ยังไม่สุดค่ะ มีต่อ
ในที่สุด
เรามาก่อนเวลา Check in เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อน เดี๋ยวบ่ายๆค่อยกลับมาใหม่ค่ะ
เริ่มที่แรกต้องไปไหว้พระก่อนนะคะ Sik Sik Wong Yuen Wong Tai Sin Temple เดินทางไปโดย MRT ไปสายสีเขียว ลงสถานี Wong Tai Sin ทางออก B3 เดินทางที่นี่ไม่ยาก เพราะออกจากสถานีก็จะเจอวัดเลยค่ะ วัดนี้มีกลุ่มทัวร์แยอะมากค่ะ เวลาเดินต้องระวังธูปกันนิดนึงค่ะ
วันนี้คนเยอะจริงๆค่ะ
โซน 12 นักษัตร
ทางเดินขึ้นไปที่จุดไหว้พระต่อค่ะ
ต่อไปก็ต้องหาอาหารเติมเข้าร่างกายกันนิดนึง เพราะขนมปังที่ทางบนเครื่องย่อยตั้งแต่ยกกระเป๋าขึ้นโรงแรมแล้วค่ะ
จากวัดเดินย้อนกลับมาจะมีห้างชื่อ Temple Mall มีธูปกลมๆ ลอยอยู่หน้าห้างค่ะ ข้างในมีร้านค้ามากมาย
เราเลือกทางร้าน Tsui Wah อาหารเด็ดของเค้าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาน้ำซุปถือว่าเด็ดค่ะ ตอนเราไปยังเช้าอยู่เลยเป็นเมนูอาหารเช้า แต่ก็มีบะหมี่เกี๊ยวให้เลือกค่ะ เราเลยสั่งบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง แต่สงสัยเค้ารู้ว่าเป็นคนไทย เลยมีเพิ่มน้ำมันพริกมาให้แซบแต่เช้า
หลังจากเติงพลังความแซบแล้ว ก็ไปต่อที่ Nian Lian Garden ค่ะ นั่ง MRT ต่อจากสถานี Wong Tai Sin ไป 1 สถานี ไปลงที่ Diamond Hill ทางออก C2 ออกมาจะเจอร้าน Unilqo ไปทางขวา พอเจอถนนใหญ่ให้เลี้ยวไปทางซ้ายต่อค่ะ เดินไปนิดเดียว และข้ามถนนก็ถึงแล้วค่ะ
มีป้ายบอกทางตลอดค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ความร่มรื่น
สวนนี้เป็นที่ที่ชอบมากที่นึง เพราะเป็นที่ที่สวย และสงบ ท่ามกลางตึกมากมาย และชีวิตที่เร่งรีบของชาวฮ่องกง
ภายในสวนนั้นมีการแบ่งเป็นโซนต่างๆ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ >> เดี๋ยวจะมารีวิวแบบละเอียดอีกรอบนะคะ ^^
ต่อกันที่ Che Kung Temple หรือวัดกังหัน อยู่ไม่ไกลจากสถานี Diamond Hill ค่ะ โดยขึ้น MRT ไปลงสถานี Tai Wai สายสีฟ้า ออกทางออก B เดินออกมาจะเจอสถานีจอดรถเมล์ ออกมาที่ถนนใหญ่ให้เลี้ยวไปทางซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆ จะมีทางลอดใต้สะพานไปฝั่งตรงข้ามค่ะ และต่อออกไปไม่ไกลก็จะเห็นประตูแดงๆค่ะ
สถานีรถเมล์เดินออกมาที่ถนนใหญ่เลยค่ะ
ทางลอดไปฝั่งตรงข้าม และเดินต่อไปทางซ้ายค่ะ
วันนี้เน้นคนไทยนะคะ มีคนพูดไทยได้ มีภาษาไทยให้อ่านค่ะ ธูปเยอะไม่ต้องงงนะคะ มีเจ้าหน้าที่คอยบอกว่าต้องปักธูปตรงจุดไหนบ้างค่ะ
ต่อจากนั้นแวะซื้อข้าวหมูแดงที่ร้าน cafe de coral เข้าไปทานที่โรงแรม อร่อยแล้วก็ราคาถูกมีสาขาเยอะน้องๆ sasa เลยค่ะ ที่สำคัญให้เยอะมาก
กลับเข้าโรงแรมไปอาบนำ้และ งีบค่ะ ทริปนี้ เน้นสบายๆๆ เมื่อยก็นั่ง ง่วงก็นอน
Review Hong Kong : เที่ยว เดิน กิน ช้อป ไปคนเดียว ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ : Day1
Review Hong Kong : เที่ยว เดิน กิน ช้อป ไปคนเดียว ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ : Day 1
https://ppantip.com/topic/36518433
Review Hong Kong : เที่ยว เดิน กิน ช้อป ไปคนเดียว ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ : Day 2
https://ppantip.com/topic/36535706
Review Hong Kong : เที่ยว เดิน กิน ช้อป ไปคนเดียว ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ : Day 3
https://ppantip.com/topic/36553594
*******
ปกติได้มีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงหลายครั้งมาทั้งไปทำงาน และช้อปปิ้ง
แต่ไปครั้งนี้ตั้งใจว่าจะไม่ช้อป อยากเดินไปเรื่อยๆ กินไปเรื่อยๆค่ะ
>> แต่สุดท้ายก็เสียทรัพย์ไปไม่น้อย ~_~
**ทริปนี้ไปคนเดียวค่ะ ไม่น่ากลัว สบายใจ เดินหลงไปหลงมา วนวนแบบงงงง สนุกไปอีกแบบ**
เริ่มตารางทริปกันเลยนะคะ
วันแรก
เครื่องออกตอนดี 3 ถึงฮ่องกงตอน 8 โมงเช้า >> นั่ง Airport express ไปลงสถานีฮ่องกง >>
Check in โรงแรม >> Sik Sik Wong Yuen Wong Tai Sin Temple >>
Temple mall >> Nan Lian Garden >> Che Kung Temple >>
Hotel >> Mong Kok >> Back to Hotel
วันที่ 2
Tsim Sha Tsui >> Avenue of Star >> 1881 Heritage >> Causeway bay >> Hotel
วันที่ 3
Tsim Sha Tsui >> Mong Kok >> IFC Mall >> Airport เครื่องออก 3 ทุ่ม ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเกือบๆเที่ยงคืน
เริ่มที่อุปกรณ์ที่เตรียมในการเดินทางครั้งนี้นะคะ
ยาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเดินทางนะคะ โดยเฉพาะอีโน เพราะจะได้ชิม กินได้แบบไม่ยั้งค่ะ ถุงผ้าเตรียมไว้เพราะเวลาช้อปปิ้งเราจะต้องจ่ายค่าถุงกระดาษค่ะ เลยพกไปเองดีกว่า นอกจากนี้ก็จะมีเงิน เสื้อผ้า และร่ม
>> อากาศช่วงนี้มีทั้งร้อน ฝน หนาว ต้องเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ >>
วันแรก
ด้วยความที่ทริปนี้เราไปเที่ยวเองคนเดียวและไม่อยากนั่ง Taxi เลยตัดสินใจขับรถไปจอดที่สนามบินเลย เพื่อความสะดวกสบาย ค่าที่จอดรถวันละ 250 บาท เราบินโดยสายการบิน Hong Kong Airline เช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมินะคะ ตอนเราไปก่อนเวลาเยอะคนเลยต่อแถวไม่มากค่ะ สบายๆไม่ต้องตื่นเต้น ไม่ต้องออกกำลังกายก่อนขึ้นเครื่อง
หลังจากผ่าน ตม.ไทยเข้ามาเดินตรงมาเรื่อยๆก่อนลง Gate จะมีโซนโซฟาให้นั่งงีบได้แปปนึงนะคะ เป็นโซนที่ไฟจะมืดๆหน่อย แต่นอนไปก็กอดกระเป๋าไปด้วยนะคะ เดี๋ยวหายค่ะ ตั้งปลุกไว้ด้วยนะคะ เผื่อนอนเพลิน :p
พอขึ้นเครื่องก็จัดสัมภาระ จัดหมอน กางผ้าห่ม พร้อมนอนต่อค่ะ ที่นั่งสายการบินนี้ไม่แคบมาก ปรับเอนนอนได้สบาย แถมมีจอที่เบาะที่นั่งด้วยนะคะ ถือว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไป
ซักพักจะมีขนมปังมาเสริฟนะคะ อันนี้ไม่ต้องตั้งปลุกไว้นะคะ เพราะกลิ่นของขนมปังจะมาปลุกเราเอง
>> สายการบินนี้เสริฟขนมปังทั้งขาไปและกลับนะคะ ถ้ากลัวไม่อิ่มแนะนำให้ซื้อจากข้างนอกเอามากินบนเครื่องได้ >>
หลังจากครื่องลงจอดก็มีมุมให้ถ่ายรูปเครื่องลำข้างๆนิดหน่อย พอกรุบกริป
พอเดินออกจากเครื่องก็เดินตามป้าย Immigration เลยค่ะ เดินไม่ยาก มีป้ายตลอดทางค่ะ
บางสายการบินต้องมีขึ้นรถไฟภายในสบามบินเพื่อไปต่อยังจุด ตม. นะคะ
พออกจาก ตม.ก็ไปรับกระเป๋าตามสายพานที่เค้าประกาศไว้นะคะ ถ้าฟังไม่ทันจะมีจอแจ้งไว้ค่ะ ว่า Flight ของเรานั้นต้องไปที่สายพานไหน **ข้างในสนามบินมี Free Wifi ให้ใช้ตั้งแต่ลงเครื่องเลยค่ะ แต่เราซื้อ Sim card จากที่ไทยไปค่ะ
ราคาใกล้ๆกัน แต่ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปซื้อ
และนั่ง Airport Express เพื่อเข้าเมือง การเข้าเมืองสามารถเดินทางได้ทั้งทางรถเมล์ รถ Taxi (จะมีการแบ่งสีของแต่ละโซนค่ะ ถ้าต้อวการไป Taxi สามารถเดินไปหาเจ้าหน้าที่ประจำประตู ยื่นแผนที่ให้เค้า แล้วเค้าจะแจ้งเราเองค่ะ ว่าให้ไปต่อแถวที่รถ Taxi สีไหน) หรือ Airport Express แล้วแต่ความสะดวก และสัมภาระค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วเลือกใช้ Airport Express ค่ะ เพราะประหยัดเวลา และขากลับตั้งใจจะเอากระเป๋าไป In town check in แล้วไปเดินเล่นต่อแบบตัวปลิวๆๆๆ ~~~
**ถ้าเลือกใช้บริการ Airport Express แนะนำให้ซื้อจากที่ไทยไปก่อนนะคะ เพราะราคาถูกกว่ากันมากมาย ทาง agency ที่นี่จะส่งเป็น E-ticket มาให้เพื่อนำไปแลกได้ที่เคาน์เตอร์ของสบามบินฮ่องกงได้เลยค่ะ >> เราซื้อจาก Hong Kong Fanclub ค่ะ >>เคาน์เตอร์สำหรับซื้อตั๋ว Airport Express และ Octopus ค่ะ สำหรับคนที่มี E-ticket อยู่แล้ว สามารถขึ้นรถไฟและไปแลกตั๋วที่ปลายทางได้เลยค่ะ เพราะปกติแล้วเคาน์เตอร์นี้คนจะเข้าคิวกันเยอะ รอค่อนข้างนานค่ะ
เมื่อตั๋วพร้อมก็เดินมารอรถไฟกันได้เลยค่ะ
ที่สำหรับวางกระเป๋าบริเวณทางเข้า
ไม่ต้องกลัวลงผิดสถานีนะคะ เพราะมีป้ายไฟ และเสียงแจ้งเตือนตลอดทางค่ะ
ออกจากสถานีฮ่องกงก็เดินต่อไปโรงแรมเลยค่ะ โรงแรมที่พักครั้งนี้ชื่อ Mini Hotel Central เป็นโรงแรมเล็กๆ น่ารักๆ แต่คนที่พักต้องมีความสตรองระดับนึงเลยนะคะ เพราะเป็นทั้งเนิน ทั้งบันได เดินตัวเปล่าๆยังเหนื่อย นี่มีกระเป๋าใบเข่งพร้อมช้อปด้วยนี่ค่ะ ท่าเดินขึ้นโรงแรมไม่สวยเลย -_-"
จริงๆแล้วจากสถานี Hong Kong สามารถเดินข้างนอกมาที่โรงแรมได้เลย แต่ด้วยความโก๊ะๆ งงๆ เบลอๆเดินเข้าไปสถานี Hong Kong อีกรอบ และเดินต่อไปสถานี Central เสียตังแบบงงงง
จากสถานี Central ออกตรงทางออก D1 และเลี้ยวไปทางขวา หลังจากนั้น มองบนไปทางเดิน และหายใจลึกๆ คิดจะมาเที่ยวคนเดียวต้องเข้มแข็ง เดินเองได้ แบกกระเป๋าเองได้~~~
มองไปบนนั้น ยังไม่สุดค่ะ มีต่อ
ในที่สุด
เรามาก่อนเวลา Check in เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อน เดี๋ยวบ่ายๆค่อยกลับมาใหม่ค่ะ
เริ่มที่แรกต้องไปไหว้พระก่อนนะคะ Sik Sik Wong Yuen Wong Tai Sin Temple เดินทางไปโดย MRT ไปสายสีเขียว ลงสถานี Wong Tai Sin ทางออก B3 เดินทางที่นี่ไม่ยาก เพราะออกจากสถานีก็จะเจอวัดเลยค่ะ วัดนี้มีกลุ่มทัวร์แยอะมากค่ะ เวลาเดินต้องระวังธูปกันนิดนึงค่ะ
วันนี้คนเยอะจริงๆค่ะ
โซน 12 นักษัตร
ทางเดินขึ้นไปที่จุดไหว้พระต่อค่ะ
ต่อไปก็ต้องหาอาหารเติมเข้าร่างกายกันนิดนึง เพราะขนมปังที่ทางบนเครื่องย่อยตั้งแต่ยกกระเป๋าขึ้นโรงแรมแล้วค่ะ
จากวัดเดินย้อนกลับมาจะมีห้างชื่อ Temple Mall มีธูปกลมๆ ลอยอยู่หน้าห้างค่ะ ข้างในมีร้านค้ามากมาย
เราเลือกทางร้าน Tsui Wah อาหารเด็ดของเค้าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาน้ำซุปถือว่าเด็ดค่ะ ตอนเราไปยังเช้าอยู่เลยเป็นเมนูอาหารเช้า แต่ก็มีบะหมี่เกี๊ยวให้เลือกค่ะ เราเลยสั่งบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง แต่สงสัยเค้ารู้ว่าเป็นคนไทย เลยมีเพิ่มน้ำมันพริกมาให้แซบแต่เช้า
หลังจากเติงพลังความแซบแล้ว ก็ไปต่อที่ Nian Lian Garden ค่ะ นั่ง MRT ต่อจากสถานี Wong Tai Sin ไป 1 สถานี ไปลงที่ Diamond Hill ทางออก C2 ออกมาจะเจอร้าน Unilqo ไปทางขวา พอเจอถนนใหญ่ให้เลี้ยวไปทางซ้ายต่อค่ะ เดินไปนิดเดียว และข้ามถนนก็ถึงแล้วค่ะ
มีป้ายบอกทางตลอดค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ความร่มรื่น
สวนนี้เป็นที่ที่ชอบมากที่นึง เพราะเป็นที่ที่สวย และสงบ ท่ามกลางตึกมากมาย และชีวิตที่เร่งรีบของชาวฮ่องกง
ภายในสวนนั้นมีการแบ่งเป็นโซนต่างๆ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ >> เดี๋ยวจะมารีวิวแบบละเอียดอีกรอบนะคะ ^^
ต่อกันที่ Che Kung Temple หรือวัดกังหัน อยู่ไม่ไกลจากสถานี Diamond Hill ค่ะ โดยขึ้น MRT ไปลงสถานี Tai Wai สายสีฟ้า ออกทางออก B เดินออกมาจะเจอสถานีจอดรถเมล์ ออกมาที่ถนนใหญ่ให้เลี้ยวไปทางซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆ จะมีทางลอดใต้สะพานไปฝั่งตรงข้ามค่ะ และต่อออกไปไม่ไกลก็จะเห็นประตูแดงๆค่ะ
สถานีรถเมล์เดินออกมาที่ถนนใหญ่เลยค่ะ
ทางลอดไปฝั่งตรงข้าม และเดินต่อไปทางซ้ายค่ะ
วันนี้เน้นคนไทยนะคะ มีคนพูดไทยได้ มีภาษาไทยให้อ่านค่ะ ธูปเยอะไม่ต้องงงนะคะ มีเจ้าหน้าที่คอยบอกว่าต้องปักธูปตรงจุดไหนบ้างค่ะ
ต่อจากนั้นแวะซื้อข้าวหมูแดงที่ร้าน cafe de coral เข้าไปทานที่โรงแรม อร่อยแล้วก็ราคาถูกมีสาขาเยอะน้องๆ sasa เลยค่ะ ที่สำคัญให้เยอะมาก
กลับเข้าโรงแรมไปอาบนำ้และ งีบค่ะ ทริปนี้ เน้นสบายๆๆ เมื่อยก็นั่ง ง่วงก็นอน