สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 8

"คำมั่นสัญญา" หรือ "คำสาปแห่งรัก"

สุภาพสตรีเทวพรหม






สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 1   http://ppantip.com/topic/31869266
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 2   http://ppantip.com/topic/31872730
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 3   http://ppantip.com/topic/31879577
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 4   http://ppantip.com/topic/31887838
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 5   http://ppantip.com/topic/31946255
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 6   http://ppantip.com/topic/35183351
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 7   http://ppantip.com/topic/35261590


***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***


ความเดิมตอนที่แล้ว

        ม.ล.กันต์รพี อุ้มหทัยกัญญามา ก่อนจะค่อยๆวางเธอลงที่เก้าอี้ ใกล้กับตู้ยาสามัญประจำบ้าน หทัยกัญญายกมือไหว้ขอบคุณ เธอรู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายมาก กลัวจะถูกนินทาเพราะเรื่องของเธอ ชายหนุ่มเปิดตู้หายาทา ก่อนจะยื่นให้หญิงสาว

        "ต้องขอโทษที่อุ้มเธอมาแบบนั้นเพราะความใจร้อน แต่ใครจะทนอยู่กับผู้หญิงแบบนั้นไหว ผู้หญิงนี่น่ากลัวกว่าที่ผมคิดไว้นะ" ม.ล.กันต์รพีพูดติดตลกเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ

        "ค่ะ ดวงใจเข้าใจ" หญิงสาวบอกพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณเขาอีกครั้งก่อนจะหยิบยาทามาถือไว้

        "เข้าใจความใจร้อนของผม หรือเข้าใจนิสัยของผู้หญิงคนนั้น" เขาถามก่อนจะยิ้มให้เธอ หญิงสาวได้แต่ยิ้มตอบ แต่เลือกที่จะไม่ตอบคำถาม

        "ทายาเองได้ใช่ไหม" เขาถามอย่างไม่คิดอะไร

        "ได้ค่ะ" หญิงสาวตอบจากใจจริง อีกฝ่ายได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปช่วยในงานต่อ

        หทัยกัญญากำลังก้มทายาทีข้อเท้า แต่ถูกใครบางคนแย่งหลอดยาไปเสียก่อน

        "คุณกร" หทัยกัญญาเรียกอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเป็นเขา

        "ยังจำกันได้อยู่หรอ" เขาประชดเธอก่อนจะบีบยาลงในมือ แล้วนั่งคุกเข่าทายาให้ที่ข้อเท้าของหญิงสาวอย่างไม่รังเกียจ

        "ดวงใจทายาเองได้ค่ะ มือคุณจะเปื้อนไปด้วย" หทัยกัญญาขยับเท้าหนี เพราะเธอเห็นว่ามันไม่สมควรที่เขาจะทำอย่างนี้ให้เธอ

        "นอกจากจำกันไม่ได้ เธอยังลืมไปอีก ว่าฉันเป็นหมอ ต่อให้มันสกปรก หรือเปื้อนมากไปกว่านี้ ฉันก็จะทำให้คนไข้ด้วยความเต็มใจ" เขาพูดพร้อมกับมองค้อนอีกฝ่ายเพราะยังไม่หายเคืองเธอ เขาดึงข้อเท้าของเธอมาใกล้ๆแล้วทายาให้เธออย่างเบามือที่สุด กรองแก้วผ่านมาเห็นเข้าพอดี เธอได้แต่แอบมองการกระทำของลูกชายด้วยความแปลกใจเพราะนอกจากเธอ และ ม.ล.พจณิชา ลูกชายของเธอไม่เคยทำให้ใครแบบนี้

        "ในฐานะคนไข้สินะคะ" คำพูดที่ตัดพ้อของเธอช่างเบานัก เธออดน้อยใจเขาไม่ได้เช่นกันกับน้ำเสียงที่แสนเย็นชาของเขา

        ม.ล.พนธกร เงยหน้ามองหญิงสาว ต่อให้เสียงเธอเบามากกว่านี้เขาก็ได้ยิน เพราะเขาใส่ใจคำพูดของเธอเสมอ

        "ใช่ ในฐานะคนไข้" ม.ล.พนธกร ฝืนใจตอบ เพราะคำสัญญาที่ค้ำคอ ทำให้เขาต้องตัดใจจากเธอ นี่คงเป็นเหตุผลที่หลังจากที่เขาทานข้าวกับเธอคืนนั้น เขาก็ไม่ได้ไปหาเธออีกเลย

        หทัยกัญญารู้สึกชาที่ใบหน้าหลังจากที่ได้ยิน เธอไม่ได้คาดหวังว่าคำตอบมันจะดีกว่านี้ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะแตกต่างไปจากทุกครั้งเช่นนี้

        ม.ล.พนธกร ทายาให้เธอจนเสร็จ หทัญกัญญามองภาพนั้นอย่างสับสน นี่เธอสมควรดีใจหรือเสียใจกันแน่

        "เช็ดมือก่อนนะคะ" หทัยกัญญาส่งผ้าเช็ดหน้า ที่ ม.ล.กันต์รพี ให้เธอเมื่อวันก่อน ยื่นให้ ม.ล.พนธกร อย่างไม่คิดอะไร แต่อีกฝ่ายนั้นคิดไปไกลเสียแล้ว เขาจำผ้าเช็ดหน้าของญาติผู้น้องของเขาได้ เพราะ ผ้าเช็ดหน้าของวังจุฑาเทพจะมีอักษรย่อของเจ้าของทุกคน

        "กันต์รพี เป็นคนดี"

        "หมายความว่ายังไงคะ" หทัยกัญญาไม่เข้าใจว่าเขาบอกกับเธอเพราะเหตุใด

        "ถ้าเป็นเค้า ฉันจะสนับสนุนเต็มที่ อย่างน้อยก็ยังดีว่านายปิตินั่น" ม.ล.พนธกร บอกกับเธออย่างฝืนความรู้สึกอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างหทัยกัญญากับ ม.ล.กันต์รพี ถึงแม้เขาจะรู้สึกหึงและหวง แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้

        หญิงสาวเริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้ เธอจึงดึงผ้าเช็ดหน้าเจ้าปัญหาผืนนั้นคืน

        "ค่ะ คงจะดีกว่า คุณชญานนท์ด้วย" หญิงสาวไม่พูดเปล่า เธอใช้นิ้วมือลูบไปที่ชื่อที่ปักไว้บนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเบาๆ

        คำพูดของเธอยิ่งตอกย้ำให้เขาเจ็บปวด การกระทำยิ่งทำให้เขาเริ่มที่จะทนไม่ไหว ถึงเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายประชดกลับ แต่เขาก็ทนถือทิฐิต่อไปไม่ไหว

        "มันใช่เรื่องไหมดวงใจ ที่เธอมาทำร้ายความรู้สึกฉันตอนนี้ นี่ฉันยังเสียใจไม่พออีกหรอ"

        "ก็คุณเริ่มก่อนนี่ค่ะ นึกว่าคุณจะชอบ ที่ให้เป็นอย่างนี้เสียอีก" หทัยกัญญาบอกความรู้สึกของเธอตามตรง

        "ฉันไม่ชอบ"

        "อะไรนะคะ" หทัยกัญญาถามซ้ำ เพราะเธอไม่แน่ใจในสิ่งที่เธอได้ยิน

        "ฉันบอกว่าฉันไม่ชอบ ไม่ชอบที่ต้องเห็นเธออยู่กับใคร หรือต้องยัดเยียดใครให้กับเธอ" ม.ล.พนธกร บอกกับเธอตามตรง จนเเธอตั้งตัวไม่ทัน



        "คุณกร"

        สายตาของทั้งคู่ประสานกัน ม.ล.พนธกร อยากหยุดเวลาทุกอย่างไว้ตอนนี้ เขาขยับเข้าไปใกล้เธอทั้งๆที่คุกเข่าอยู่ หญิงสาวไม่อาจขยับหนีไปไหนได้เพราะเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ ซึ่งตอนนี้มือทั้งสองข้างของเขา จับอยู่บนที่พักแขนทั้งสองข้างของเก้าอี้ เพื่อล๊อคเธอเอาไว้

        "ฉันขอโทษนะดวงใจ" ม.ล.พนธกร บอกกับเธออย่างสื่อความหมาย

        หทัยกัญญาชักสีหน้าสงสัย ว่าเขาขอโทษเธอเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ทันที่เธอจะคิดอะไรได้ต่อ มือของเขาที่จับบนที่พักแขน เลื่อนมาโอบกอดเธอไว้ด้วยความรักที่เขามีให้เธออย่างสุดหัวใจ

        "คุณกร" หทัยกัญญาอุธานอย่างตกใจ การกระทำของเขาทำให้เธอหวั่นไหวและเริ่มทำตัวไม่ถูก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขากอดเธอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขากอดเธออย่างแนบแน่นและสื่อความหมายในใจของเขาอย่างแท้จริง

        "กอดฉันไว้หน่อยได้ไหม ถือว่าฉันขอร้องเธอก็ได้" เขาบอกทั้งๆที่ยังคงกอดเธอไว้อยู่ เสียงที่เหมือนกระซิบข้างใบหู ทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่ต่างอะไรกับมือที่กำลังสั่นระริกด้วยความที่กล้าๆกลัวๆ ว่าจะทำตามที่เขาขอร้องดีหรือไม่

        มือเล็กๆของหญิงสาว โอบกอดชายหนุ่มไว้ ตามที่ใจเธอปรารถนา สำหรับเธอแล้ว มันอาจจะเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายที่ได้กอดเขาไว้แบบนี้

        ม.ล.พนธกร รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่เขาสูญเสีย หม่อมย่าทวดอันเป็นที่รัก นี่คงเป็นอีกครั้งที่เขาแอบหลั่งน้ำตา ด้วยความตื้นตัน และหดหู่ ที่เขาไม่อาจสานสัมพันธ์นี่ต่อไปได้

        "ฉันขอโทษนะดวงใจ ฟังแล้วอาจจะดูแย่ แต่ฉันต้องตัดใจจากเธอ หลังจากจบงานนี้ ฉันต้องหมั้น และ แต่งงานกับน้องนี"

        เหมือนเสียงสายฟ้าฟาดลงกลางใจของเธอ การได้ยินเรื่องนี้จากปากของคนอื่น หรือ จะเจ็บปวดเท่า ได้ฟังจากปากของเขาในตอนนี้

        "ดวงใจทราบค่ะ  ทราบมานานแล้ว" เสียงตอบของเธอช่างสั่นเครือนัก

        "เพราะอย่างนี้ เธอถึงไม่เคยเปิดใจให้ฉันใช่ไหม" เขาถามในสิ่งที่ค้างคาใจเขามานาน

        หทัยกัญญาพยักช้าๆ บนไหล่กว้างของเขาแทนคำตอบในใจของเธอ

        "ดีแล้วดวงใจ เราสองคนจะได้ไม่ต้องมีใครเสียใจมากไปกว่านี้ สุดท้าย...กลายเป็นฉันที่ต้องปล่อยเธอไป" เขายิ่งพูดก็ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้น เหมือนต้องการซึมซับและเก็บช่วงเวลานี้เอาไว้ เธอเองก็เช่นกัน

        "ฉันเคยอยากรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับฉัน แต่ฉันก็ขอเลือกที่จะไม่ถาม เพราะคำตอบของเธอ มันไม่สามารถเปลี่ยนเรื่องระหว่างเราได้อีกแล้ว แต่จำไว้นะดวงใจ"

        "จำอะไรคะ" เธอผละออกจากอ้อมกอดของเขาเพื่อถาม

        "จำไว้ ว่าฉันรักเธอ รักมาโดยตลอด ดวงใจของฉัน หทัยกัญญา" เขาบอกกับเธอทั้งน้ำตาที่สุดจะกลั้น กอดจะสวมกอดเธอไว้อีกครั้งอย่างช้าๆแต่แนบแน่น จนร่างของทั้งคู่แทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

        หทัยกัญญาได้แต่ซบหน้าลงบนไหล่กว้างของม.ล.พนธกร น้ำตาของเธอรินไหลออกมาอย่างตื้นตัน เพราะคำว่ารักคำนี้เป็นสิ่งที่เธอเฝ้ารอมาตลอด เธอไม่นึกเลยว่า เธอจะได้ยินคำนี้ในวันที่ต้องตัดใจจากเขา อ้อมกอดของทั้งคู่กำลังเยียวยากันและกัน เพราะจากวันนี้ไป ความจริงที่โหดร้ายคือสิ่งที่ทั้งคู่ต้องเผชิญ      

        กรองแก้ว ได้แต่มองลูกชายของเธอด้วยความสงสารจับใจ เธอรู้ดีว่าลูกชายของเธอรู้สึกเช่นไรต่อหทัยกัญญา เพราะเธอเอง เคยแบกรับความรู้สึกนี้ไว้มาก่อนแล้ว เมื่อครั้งเธอกับสามี



***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***


สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 8

             หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของ หม่อมเอียด จุฑาเทพ ณ อยุธยา ถึงแม้จะผ่านมาได้ร่วมสัปดาห์แต่กลิ่นอายความโศกเศร้ายังคงไม่จางหาย ย่าอ่อน เองเหมือนจะรู้สังขารของตัวเองดี ว่าอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน จึงเรียก หลานชาย ม.ร.ว.พุฒิภัทร และ กรองแก้ว มาคุยเรื่องการหมั้นหมายระหว่าง
ม.ล.พนธกร และ ชญานี ให้เป็นกิจลักษณะ ทั้ง ม.ร.ว.พุฒิภัทร และ กรองแก้ว ต่างรับฟังเรื่องนี้ด้วยความหนักใจ ถึงแม้ลูกชายของเขาจะเป็นฝ่ายรับปาก และ ชญานี คือสุภาพสตรีเทวพรหม ที่เหมาะสมขนาดไหน แต่ก็ไม่ใช่งานแต่งานที่เกิดขึ้นจากความรักทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน

             หทัยกัญญากลับมาฝึกงานที่โรงพยาบาลเหมือนอย่างเคย ทุกอย่างคงไม่อาจเป็นปกติได้อีกต่อไปแล้ว หมอใหม่ หรือ ม.ล.พนธกร กำลังเป็นที่กล่าวขวัญ เพราะเป็นลูกชายที่ ถอดแบบ มาจาก ม.ร.ว.พุฒิภัทร ที่อดีตเคยเป็นคุณชายในฝันของใครๆหลายๆคน ตอนนี้บุตรชายของเขาเองก็ได้
สมญานามนี้เช่นกัน หทัยกัญญาได้แต่แอบบมอง ม.ล.พนธกร อย่างชื่นชม ในความสามารถ และ ความเป็นมิตรของเขา เธอแอบเผลอยิ้มตามคนไข้ไปด้วยในทุกครั้งที่แอบมอง แต่แล้ว เธอ ก็ต้องหุบยิ้มลงทันที เมือเห็น ชญานี เดินมาพร้อมกล่องอาหาร จากร้านชื่อดังแถวเยาวราช หทัยกัญญามองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ของเธอ จึงรู้ว่าใกล้ถึงเวลาพักแล้ว นี่คงเป็นอีกเรื่อง ที่ทำให้โรงพยาบาลนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะ ชญานี เริ่มมาที่นี่บ่อยขึ้น เหมือนจะต้องการแสดงตัว ว่าเธอคือว่าที่คู่หมั้น คือ สะใภ้คนต่อไปของวังจุฑาเทพ

        "มาอีกแล้ว นี่เธอไม่ไปทักผู้มีพระคุณของเธอหน่อยหรอ" วิไลวรรณพูดขึ้น อย่างอดไม่ได้ เพราะเธอเป็นหนึ่งใน ผู้ที่ชื่นชอบ ม.ล.พนธกร

        "ไม่หรอก รบกวนเขาเปล่าๆ ไปกันเถอะ" หทัยกัญญา บอกก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง

             ม.ล.กันต์รพี พร้อมคณะ มาหา ม.ร.ว. พุฒิภัทร และผู้อำนวยการของทางโรงพยาบาล ในฐานะ ทหารอากาศ ที่มาประชุมเรื่อง ค่ายอาสาของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่ทางโรงพยาบาลให้การสนับสนุน และ ม.ร.ว. พุฒิภัทร ดูแลโครงการนี้อยู่โดยตรง เมื่อ ม.ล.กันต์รพี ประชุมเสร็จเรียบร้อยจึงเดินออกมาด้านนอก เห็น หทัยกัญญา เดินอยู่ข้างล่าง จึงเดินเข้าไปหาเพื่อทักทายตามประสาคนรู้จักกัน เมื่อหญิงสาวเห็นหน้า จึงยกมือไหว้ตามมารยาท พร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร

        "เดี๋ยวนี้เราเจอกันบ่อยนะครับ หวังว่าคงไม่เบื่อกันไปซะก่อน" ม.ล.กันต์รพี พูดติดตลก

        "ไม่หรอกค่ะ แต่วันนี้ คุณกันต์ มาซะเต็มยศเลยนะคะ สาวๆมองกันใหญ่เชียว" หทัยกัญญา อดแซวเขาไม่ได้ พร้อมกับส่งสายตาไปรอบๆให้เขารู้ตัว ว่าที่เธอพูดนั้นป็นเรื่องจริง

        ชายหนุ่มยิ้มเขินจนตาหยี หทัยกัญญาอดที่จะยิ้มหวานตามเขาไม่ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่