สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 9

"คำมั่นสัญญา" หรือ "คำสาปแห่งรัก"

สุภาพสตรีเทวพรหม






สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 1   http://ppantip.com/topic/31869266
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 2   http://ppantip.com/topic/31872730
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 3   http://ppantip.com/topic/31879577
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 4   http://ppantip.com/topic/31887838
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 5   http://ppantip.com/topic/31946255
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 6   http://ppantip.com/topic/35183351
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 7   http://ppantip.com/topic/35261590
สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 8   http://ppantip.com/topic/35291482

ความเดิมตอนที่แล้ว

             หม่อมราชวงค์พุฒิภัทรมาที่โรงพยาบาลตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ก่อนจะออกเดินทาง ส่วน ม.ล.พนธกร มาถึงโรงพยาบาลในช่วงบ่าย เพื่อมารับรอบต่อจากบิดาของเขา

        "มาแล้วหรอกร" ม.ร.ว.พุฒิภัทร เอ๋ยทักเมื่อเห็นหน้าลูกชายของเขา

        "ครับ" ม.ล.พนธกร บอกพร้อมกับยกมือไหว้

        "ดูโรงพยาบาลเงียบไปเลยนะครับ นักศึกษาแพทย์ก็เหลืออยู่ไม่มาก" ม.ล.พนธกร เล่าสถานการณ์ในโรงพยาบาลตอนนี้

         "นั่นสิ ตอนแรกพ่อคิดว่าโครงการนี้อาจจะยืดออกไป คงต้องขอบคุณหทัยกัญญานะที่ทำให้เร็วขึ้น ถึงจะดูแปลกๆก็เถอะ"

         "แปลกอย่างไรครับ แล้วเกี่ยวอะไรกับดวงใจ" ม.ล.พนธกรเริ่มสงสัย และเค้นหาความจริงจากพ่อของเขา

         "ก็นายปิติ อย่างที่รู้กัน ว่าเขาชอบหทัยกัญญา เกิดนึกอยากจะเล่นแง่ขึ้นมา คงเห็นว่าหทัยกัญญาไม่สนใจเขามั้ง เลยใช่เรื่องโครงการเป็นข้ออ้างเพื่อให้ได้เจอหน้าผู้หญิง นี่พ่อก็ฟังจากพยาบาลมาอีกทีนะ เห็นว่าครั้งนี้หทัยกัญญาต้องยอมไปทานข้าวกับเขา"

        "เรื่องจริงหรอครับ" ม.ล.พนธกรถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ

        "อืม มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ ถึงอย่างนั้น นายปิติก็ไม่เคยทำเรื่องให้หทัยกัญญาเสียหาย และฝ่ายผู้หญิงเองก็วางตัวดีมาโดยตลอด นายปิตินั่นก็แค่หาทางเพื่อที่จะชนะใจหทัยกัญญาให้ได้ ในแบบผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง จนคนที่นี่มองเรื่องที่นายปิติทำ เป็นเรื่องปกติไปแล้ว"

        ม.ล.พนธกร ได้แต่ยืนอึ้ง พยายามประติดประต่อเรื่องราว รวมถึงเรื่องที่ ม.ล.กันต์รพี เล่าให้เขาฟังเมื่อคืน ตอนนี้เขารู้สึกโกรธตัวเองมาก ที่เขาใช้อารมณ์โมโหหึงต่อว่า และทำร้ายจิตใจ ผู้หญิงที่เขารักไปตั้งมากมาย

        "เดี๋ยวผมมานะครับ" ม.ล.พนธกรบอกก่อนจะรีบออกไป แต่พ่อของเขาร้องทักไว้เสีย

        "จะไปไหนกร"

        "ไปหาดวงใจครับ" เขาตอบตรงตามที่หัวใจของเขากำลังเรียกร้อง

        "ไม่ทันแล้วหละ หทัยกัญญานั่งรถไฟไปพร้อมกับแพทย์และพยาบาลตั้งแต่เช้า เธอมาขอเปลี่ยนตัวกับเพื่อนของเธอตั้งแต่เมื่อคืน"

        ม.ร.ว.พุฒิภัทร บอกกับลูกชายของเขาที่กำลังหน้าตาตื่น

        "อะไรนะครับ...ไม่จริงใช่ไหมครับ"

        "โครงการนี้จะจบลงภายในสามเดือน ไม่ได้ไปเป็นปีเสียหน่อย ดูทำหน้าเข้า เราก็เหมือนกันอย่าทำตัวเป็นเด็กๆ ทำหน้าที่ของเราให้ดี"

        ม.ร.ว.พุฒิภัทร เตือนสติลูกชายของเขา เพราะเขารู้ดีว่า ถ้าไม่พูดดักไว้ ได้มีการจองตั๋วรถไฟไปเชียงใหม่ทันทีแน่

        ม.ล.พนธกร ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้อย่างเคว้งคว้าง เขาทำผิดต่อเธอไว้มาก ทำไมเวลาสามเดือนช่างดูเหมือนตลอดกาลเสียอย่างนั้น



***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***


สุภาพสตรีเทวพรหม #ตอนที่ 9

             หม่อมหลวงเกษราลุกขึ้นมาใส่บาตรแต่เช้าพร้อมสามี ก่อนที่ป้าแย้มคนรับใช้คนสนิทจะวิ่งหน้าตาตื่นเพื่อนำจดหมายของหทัยกัญญามาให้ เมื่อผู้รับได้อ่านเนื้อความในจดหมาย เธอก็แทบยืนไม่อยู่ จนสามีของเธอต้องมาประคองไว้ การจากไปของหลานสาวเธอถึงแม้จะแค่สามเดือน แต่ ม.ล.เกษรา กับนึกสังหรณ์ใจบางอย่างที่เธอไม่สามารถอธิบายให้สามีเธอฟังได้

             เช้าวันใหม่ ม.ล.กันต์รพี พร้อมลูกทีมของเขา มาช่วยทีมหน่วยแพทย์อาสา ขนของขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อไปยังหมู่บ้านชาวไทยภูเขาที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปได้ในช่วงแรก

        "ไหวนะครับ" ม.ล.กันต์รพี เอ๋ยถามหทัยกัญญาอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะร่างกายของเธอช่างบอบบางนัก

        "ไหวสิคะ" หทัยกัญญายิ้มตอบ ทั้งที่ยังไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจากนี้ไปเธอจะเจอกับอะไรบ้าง

             หทัยกัญญาอยู่ในทีมแพทย์ ทีมแรกที่ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ม.ล.กันต์รพี ส่งสัญญาณให้ลูกทีมของเขาเอาเครื่องขึ้น ส่วนตัวของเขานั้นจะตามไปในรอบถัดไป หทัยกัญญานั่งใจลอยเมื่ออยู่บนเครื่องและคงอาจเป็นเพราะวิวด้านล่างทำให้เธอคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เหตุผลหลักที่เธอมาที่นี่ เพราะเธอต้องการที่จะหนีปัญหา และลืมเรื่องรางต่างๆที่เกิดขึ้น หทัยกัญญาถอดสร้อยที่ชญานนท์ให้เธอออกมาถือไว้ เพราะว่าเขาคือปัญหาใหญ่สำหรับเธอ หทัยกัญญาไม่ต้องการให้ ม.ล.เกษราต้องทุกข์ใจเรื่องของเธอมากไปกว่านี้

        "ถอดสร้อยทำไมดวงใจ" สิรี ผู้ช่วยพยาบาลร่างท้วมที่ทำงานร่วมกับเธอในครั้งนี้เอ่ยถามด้วยความสงสัย

        "ไม่อยากใส่มันแล้ว สิรีอยากได้ไหม ดวงใจให้" หทัยกัญญาบอกตามตรง ก่อนจะยื่นสร้อยเส้นนั้นให้กับเพื่อนที่ร่วมทำงานกับเธอมานาน

        "จะบ้าหรอดวงใจ ให้กันง่ายๆเลยหรอ ห้ามเปลี่ยนใจแล้วขอคืนที่หลังนะ" สิรี ทำหน้าตกใจในตอนแรก ก่อนจะยิ้มอย่างแป้นแล้นเพราะเธอก็อยากได้

        หทัยกัญญาได้แต่ยิ้มให้เพื่อนของเธออย่างเอ็นดู

       "มาดวงใจใส่ให้" เธอบอกก่อนจะสวมสร้อยเส้นนั้นให้ด้วยมือของเธอเอง

       "บึ้มมมมมมมมมมมมมม"

             เสียงระเบิดดังที่ส่วนท้ายของเฮลิคอปเตอร์ ช่างเครื่องรีบตรวงสอบและรายงานให้ นักบินที่ 1 ทราบอย่างเร่งด่วน  เสียงกรีดร้องของทีมแพทย์ดังไปทั่วด้วยความตกใจ เสียงสัญญาณฉุกเฉินดังขึ้น นักบินที่ 1 และ นักบินที่ 2 ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถในการประคองเครื่อง แต่เครื่องเสียการทรงตัว นักบินที่ 1 พยายามลดระดับความสูง ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียการบังคับ ล่วงสู้พื้นป่าด้านล่างพร้อมเพลิงที่ลุกไหม้ขึ้นทันที

             ม.ล.กันต์รพี ที่ฟังความเคลื่อนไหวที่ศูนย์บัญชาการมาโดยตลอด เริ่มใจหายเมื่อรู้ว่า เครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นหายไปจากจอเรดาร์ และ สัญญาณเสียงสุดท้ายก่อนที่จะดับไปคือเสียงระเบิด เสียงเอะอะโวยวายเกิดขึ้นทันทีพร้อมกับเสียงร้องไห้ของทีมแพทย์ พยาบาลที่เหลือ โครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ถูกเปลี่ยนเป็นการค้นหาผู้รอดชีวิตแทน

             ม.ล.กันต์รพี เริ่มตั้งสติอีกครั้ง หลังจากที่มันเคว้งคว้างเพราะเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ เพื่อน แพทย์ พยาบาล และผู้หญิงที่เป็นดั่งดวงใจของญาติผู้พี่เขา ต้องเผชิญกับอะไรบ้าง  ม.ร.ว.พุฒิภัทร หลังจากได้รับรายงานเรื่องนี้จากหลานชายของตนแล้ว เขารีบรายงานให้ผู้อำนวยการทราบและเรียกประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทันที

***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***


             สถานการณ์ในห้องประชุมเป็นไปอย่างตึงเครียด มีการกระจายงานความรับผิดชอบ ในด้านการแจ้งญาติของผู้สูญหายเพราะยังไม่ได้รับรายงานเรื่องผู้เสียชิวิต ม.ล.พนธกร รู้ตัวเองดีว่า หัวใจของเขานั้นเหมือนกำลังจะแตกสลาย เหมือนกายหยาบของเขาอยู่ที่นี่ แต่กายละเอียดนั้นล่องลอยไปที่เชียงใหม่แล้ว จนพ่อของเขาต้องเตือนสติอยู่บ่อยๆ ม.ล.พนธกรได้แต่กำมือเน่นอย่างข่มความรู้สึก ทำหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบจากที่ประชุม บางคนในที่ประชุมนั้นไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้เพราะสนิทและคุ้นเคยกับผู้ประสบเหตุ

             หลังจากการประชุมจบลง ม.ล.พนธกร ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เขาได้แต่ภาวนาว่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝัน ม.ร.ว.พุฒิภัทร เข้าใจความรู้สึกของลูกชายของตนดี เขาได้แต่เดินเข้ามาตบบ่าลูกชายของเขาเบาๆเป็นการปลอบใจ นี่คงเป็นครั้งแรก ที่ ม.ล.พนธกรร้องไห้ต่อหน้าพ่อของเขา ความเข้มแข็งที่มีได้พังทลายลง เขาไม่อายเลยที่น้ำตาของเขาต้องหลั่งไหลออกมาอย่างมากมายขนาดนี้

             ม.ล.กันต์รพี พร้อมด้วยลูกทีมของเขาได้รับมอบหมาย ให้เข้าไปช่วยเหลือและค้นหาผู้รอดชีวิต เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ นักบินไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ ทำให้ ม.ล.กันต์รพี และลูกทีม ต้องโรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ม.ล.กันต์รพี เมื่อลงสู่ภาคพื้น เข้าวิ่งเขาไปที่ซากเครื่องบินอย่างมีความหวัง เพื่อนของเขา ทีมแพทย์ ผู้หญิงที่พี่ชายเขารัก ต้องรอดชีวิต นั่นคือสิ่งที่เขาคิดในหัวสมองตลอด แต่ทว่า ซากเครื่องบินที่ถูกพญาเพลิงทำลายจนเกือบหมดทั้งลำ ทำให้เขาแทบจะถอดใจ

        "พบศพผู้เสียชีวิตแล้วครับ" หนึ่งในทีมค้นหารายงาน ทำให้ ม.ล.กันต์รพีแทบทรุด รีบวิ่งไปอีกด้านมีหลายศพโดยไฟเผาจนแทบแยกรูปพรรณสัณฐานไม่ได้ ม.ล.กันต์รพี พร้อมลูกทีมลำเลียงศพออกมาวางเรียงกันไว้ น้ำตาของเขาเริ่มซึมออก แต่ต้องทำหน้าที่ของชายชาติทหารต่ออย่างเข้มแข็ง

        "นายทหาร 3 นาย พลเรือนอีก 5 ชีวิต พบศพแล้ว 5 ศพ แล้วอีก 3 คนที่เหลือหละ" ม.ล.กันต์รพี พูดขึ้น ก่อนที่เขาและลูกทีมหันไปมองที่ซากเฮลิคอปเตอร์นั่นอีกครั้ง รอยไหม้เกือบหมด แทนคำตอบที่พวกเขาสงสัย

        ม.ล.กันต์รพี หันกลับไปตรวจศพทั้ง 5 ศพอีกครั้ง เรี่ยวแรงที่มากมายก่อนหน้านี้ มลายหายไปจนหมดสิ้น

        "เราจะพาของเพื่อนเรากลับบ้าน" ม.ล.กันต์รพี สั่งลูกทีมของเขาอย่างเฉียบขาด

       "กลับบ้านกันนะ หทัยกัญญา" เขาบอกกับศพนั้นทั้งน้ำตา เขาสงสารเธอจับใจ และเขาไม่รู้เลยว่าจะบอกกับญาติผู้พี่ของเขาอย่างไร กับ การสูญเสียในครั้งนี้

***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***


        "นายแน่ใจนะว่าเป็นเธอ" ม.ล.พนธกรถาม เขาแทบไม่มีแรงถือโทรศัพท์  น้ำตาของเขาไหลออกมาตอนไหน ตัวเขาเองแทบไม่รู้สึก

        "ครับพี่กร"  ม.ล.กันต์รพีตอบอย่างหนักแน่น ทำให้สิ่งที่ ม.ล.พนธกร กำลังภาวนาอยู่นั้น ไม่อาจเกิดขึ้นได้จริง



             ม.ล.พนธกร แทบไม่มีแรงพูดหรือถามอะไรต่อ จน ม.ร.ว.พุฒิภัทร ต้องเป็นฝ่ายแย่งโทรศัพท์นั้นมาเพื่อถามถึงรายระเอียดที่เหลือเกี่ยวกับทีมแพทย์ เพราะเขาคิดว่าลูกชายของเขาคงไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบงานในส่วนนี้ต่อ เมื่อ ม.ร.ว.พุฒิภัทร วางสาย เขาหันกลับมามองลูกชายอย่างสงสารจับใจ ที่พยายามฝืนไม่ให้ตัวเองร้องไห้ เพราะยังอยู่ในที่ประชุม

             ผู้อำนวยการกระจายงานความรับผิดชอบให้แต่ละคน แต่ในหัวสมองของ ม.ล.พนธกร นั้นแทบไม่รับรู้อะไรเลย จน ม.ร.ว พุฒิภัทร ต้องจดงานในส่วนของลูกชายเขามาทำเอง เมื่อทุกคนออกจากห้องประชุมไปแล้ว เหลือแต่เพียงสองพ่อลูก และ ความเงียบ เสียงสะอื้นของ ม.ล.พนธกร เริ่มดังขึ้น เขาไม่อาจต้านทานมันไว้ได้อีกต่อไป

        "ผมขอโทษครับคุณพ่อ"

        ม.ร.ว.พุฒิภัทร ได้แต่ใช้มือบีบไปที่บ่าของลูกชายเขา เป็นการปลอบใจแบบลูกผู้ชาย ที่ไม่ต้องแสดงออกมาก แต่ก็รับรู้ความรู้สึกนั้นได้

        "คุณพ่อครับ ผมอยากลางาน ผมต้องการไปรับเธอกลับบ้านด้วยตัวของผมเอง" ม.ล.พนธกร บอกทั้งน้ำตา ม.ร.ว.พุฒิภัทร ได้แต่พยักหน้าเป็นการอนุญาติอย่างเข้าใจ

***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่