แต่ก่อนผมใช้ชื่อล็อคอินนี้ว่า ยองเจียงใหม่ ก็สิงอยู่ในห้องศาสนามาพอสมควร สามารถแวะเวียนทั้งตั้ง/ตอบ กระทู้ศาสนาต่างๆได้ด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน
จนเกิดกรณีธรรมกายที่เกิดเรื่องอยากที่ทราบกันก้อนาถใจกับชาวพุทธไทยในห้องนี้ จึงขออนุญาตคนที่ตามอ่านนิยายที่ผมแต่งไว้ด้วย เพราะอันที่จริงผมก็กะจะเขียนต่อ แต่เรื่องนี้ก็อยากระบายเหมือนกัน
ที่อนาถใจคือหลายล็อคอินที่เป็นชาวพุทธ แต่กลับใช้สำนวนภาาา ด่าว่า ถากถาง ล้อเลียน จาบจ้วง ทั้งพระและวัด ด้วยสำคัญว่าพระนั้นปาราชิกและวัดนั้นนอกรีต ชาดกหนึ่ง สมัยที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพยาช้างฉัททันต์ คราวหนึ่ง พระมเหสีที่ในอดีตชาติเป็นเมียของพญาช้างได้ร้องขอให้นำงาของพญาช้างมาเป็นแท่นบรรทม นายพรานนึงอาสาเข้าป่าไปล่าช้าง โดยห่มผ้ากาสาวพัสตร์(ผ้าย้อมฝาด)พันกายแล้วจึงลอบยิง แต่เมื่อพญาช้างรู้ตัวจึงเอางวงคล้านายพรานเอาไว้เพื่อฆ่าให้ตาย แต่เมื่อเห็นผ้ากาสาวพัสตร์ก็ระลึกได้ว่าผ้ากาสาวพัสตร์เป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์ แม้ผู้สวมไม่ใช่พระก็ไม่ควรทำลายอันจะเป็นการลบหลู่ของสูง จึงสงบและวางนายพรานลงเสียครั้นเจรจากันก็ทราบว่าอดีตภรรยาผูกเวร จึงมอบงาให้เป็นทานทั้งเป็นเพื่อสัมโพธิยาณ จากนั้นจึงขาดใจตาย
แต่ชาวพุทธเหล่านี้ก็กลับใช้วาจาว่ากล่าว จาบจ้วง ด่าว่า ล้อเลียน ผู้ที่มีผ้ากาสาวพัสตร์ พันกาย แม้ผู้นั้นอาจจะปาราชิกไปแล้ว แต่ก็ถือว่าหมิ่นธงชัยแห่งพระอรหันต์ ซึ่งเป็นการไม่ควร เพราะแม้พระทุศีลนั้นจะมีผ้ากาสาวพัสตร์ พันกายก็เหมือนมีเหล้กร้อนแดงพันกาย สองมือที่สาธุชนกราบไหว้ ก็เหมือนหอกดาบทิ่มแทง ก้อนข้าวก็เหมือนก้อนเหล็กที่ต้องกลืน จะมีประโยชน์อะไรที่ต้องเอาใจไปผูกด้วยของร้อนของไหม้เหล่านั้น ถ้าจะบอกว่าเพื่อปกป้องศาสนา อยากถามว่าการปกป้องศาสนาของท่านนั้น ทำให้ใจ สะอาด สงบ สบาย ปลอดโปร่งหรือ ถ้ายังไม่ใช่แล้วจะว่าเป็นบุญได้อย่างไร
แล้วยังล้อเลียน เจดีย์ที่เขาตั้งใจด้วยกุศลจิตเป็นพุทธบูชา เป็นพุทธานุสติ อีก ก้ไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าชาวพุทธได้เช่นไรเมื่อยังล้อเลียน สิ่งที่ระลึกถึงพระศาสดาเช่นนี้
ผมไม่ได้ปกป้องธรรมกาย ผมไม่ได้ศรัทธาธรรมกาย เหมือนกับที่ไม่ได้ศรัทธาพระป่า ธรรมยุติ มหานิกาย หรือสำนักไหน ผมจะศรัทธาในลัทธิไหนก็ตามที่สอน อริยสัจ อริยมรรค สอนให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส สอนเรื่องความไม่ประมาท และผมไม่ได้รีบปฏิบัติเพื่อนิพพานในชาตินี้ เพราะรู้ตัวว่าบารมียังไม่เต็ม เพราะฉะนั้นผมก็จะสร้างบารมี30ทัศ เวียนว่ายตายเกิดในสงสารวัฏนี้ อย่างมีความสุข ในมนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติ จนกว่าจะถึงอริยสมบัติ ที่พระพุทธเจ้าทั้งปวงตรัสรู้ก็แล้วกัน ไม่ว่าจะมีคนจะว่าผมโง่ ทำบุญทำทานเพื่อไปสวรรค์ก็ตาม
สุดท้ายนี้ขอยกคำกล่าวของพระที่ผมศรัทธา ว่า
ตั้งปรารถนาขอหื้อได้ถึงธรรมะ ยึดเหนี่ยวเอาพระนิพพานสิ่งเดียว
และท้ายที่สุดขอให้ผู้อ่านทั้งหลายที่เข้าใจถึงเจตนาของข้าพเจ้านั้น ให้อุดมไปด้วย มนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติ และอริยสมบัติ เทอญ
อนาถใจกับชาวพุทธไทยในห้องศาสนา (กระทู้สุดท้ายในห้องศาสนาจนกว่าเรื่องธรรมกายจะสิ้นสุด)
จนเกิดกรณีธรรมกายที่เกิดเรื่องอยากที่ทราบกันก้อนาถใจกับชาวพุทธไทยในห้องนี้ จึงขออนุญาตคนที่ตามอ่านนิยายที่ผมแต่งไว้ด้วย เพราะอันที่จริงผมก็กะจะเขียนต่อ แต่เรื่องนี้ก็อยากระบายเหมือนกัน
ที่อนาถใจคือหลายล็อคอินที่เป็นชาวพุทธ แต่กลับใช้สำนวนภาาา ด่าว่า ถากถาง ล้อเลียน จาบจ้วง ทั้งพระและวัด ด้วยสำคัญว่าพระนั้นปาราชิกและวัดนั้นนอกรีต ชาดกหนึ่ง สมัยที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพยาช้างฉัททันต์ คราวหนึ่ง พระมเหสีที่ในอดีตชาติเป็นเมียของพญาช้างได้ร้องขอให้นำงาของพญาช้างมาเป็นแท่นบรรทม นายพรานนึงอาสาเข้าป่าไปล่าช้าง โดยห่มผ้ากาสาวพัสตร์(ผ้าย้อมฝาด)พันกายแล้วจึงลอบยิง แต่เมื่อพญาช้างรู้ตัวจึงเอางวงคล้านายพรานเอาไว้เพื่อฆ่าให้ตาย แต่เมื่อเห็นผ้ากาสาวพัสตร์ก็ระลึกได้ว่าผ้ากาสาวพัสตร์เป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์ แม้ผู้สวมไม่ใช่พระก็ไม่ควรทำลายอันจะเป็นการลบหลู่ของสูง จึงสงบและวางนายพรานลงเสียครั้นเจรจากันก็ทราบว่าอดีตภรรยาผูกเวร จึงมอบงาให้เป็นทานทั้งเป็นเพื่อสัมโพธิยาณ จากนั้นจึงขาดใจตาย
แต่ชาวพุทธเหล่านี้ก็กลับใช้วาจาว่ากล่าว จาบจ้วง ด่าว่า ล้อเลียน ผู้ที่มีผ้ากาสาวพัสตร์ พันกาย แม้ผู้นั้นอาจจะปาราชิกไปแล้ว แต่ก็ถือว่าหมิ่นธงชัยแห่งพระอรหันต์ ซึ่งเป็นการไม่ควร เพราะแม้พระทุศีลนั้นจะมีผ้ากาสาวพัสตร์ พันกายก็เหมือนมีเหล้กร้อนแดงพันกาย สองมือที่สาธุชนกราบไหว้ ก็เหมือนหอกดาบทิ่มแทง ก้อนข้าวก็เหมือนก้อนเหล็กที่ต้องกลืน จะมีประโยชน์อะไรที่ต้องเอาใจไปผูกด้วยของร้อนของไหม้เหล่านั้น ถ้าจะบอกว่าเพื่อปกป้องศาสนา อยากถามว่าการปกป้องศาสนาของท่านนั้น ทำให้ใจ สะอาด สงบ สบาย ปลอดโปร่งหรือ ถ้ายังไม่ใช่แล้วจะว่าเป็นบุญได้อย่างไร
แล้วยังล้อเลียน เจดีย์ที่เขาตั้งใจด้วยกุศลจิตเป็นพุทธบูชา เป็นพุทธานุสติ อีก ก้ไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าชาวพุทธได้เช่นไรเมื่อยังล้อเลียน สิ่งที่ระลึกถึงพระศาสดาเช่นนี้
ผมไม่ได้ปกป้องธรรมกาย ผมไม่ได้ศรัทธาธรรมกาย เหมือนกับที่ไม่ได้ศรัทธาพระป่า ธรรมยุติ มหานิกาย หรือสำนักไหน ผมจะศรัทธาในลัทธิไหนก็ตามที่สอน อริยสัจ อริยมรรค สอนให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส สอนเรื่องความไม่ประมาท และผมไม่ได้รีบปฏิบัติเพื่อนิพพานในชาตินี้ เพราะรู้ตัวว่าบารมียังไม่เต็ม เพราะฉะนั้นผมก็จะสร้างบารมี30ทัศ เวียนว่ายตายเกิดในสงสารวัฏนี้ อย่างมีความสุข ในมนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติ จนกว่าจะถึงอริยสมบัติ ที่พระพุทธเจ้าทั้งปวงตรัสรู้ก็แล้วกัน ไม่ว่าจะมีคนจะว่าผมโง่ ทำบุญทำทานเพื่อไปสวรรค์ก็ตาม
สุดท้ายนี้ขอยกคำกล่าวของพระที่ผมศรัทธา ว่า
ตั้งปรารถนาขอหื้อได้ถึงธรรมะ ยึดเหนี่ยวเอาพระนิพพานสิ่งเดียว
และท้ายที่สุดขอให้ผู้อ่านทั้งหลายที่เข้าใจถึงเจตนาของข้าพเจ้านั้น ให้อุดมไปด้วย มนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติ และอริยสมบัติ เทอญ