สวัสดีครับทุกคน
ผมก็ไม่ใช่คนใหม่อะไรในพันทิป แต่ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปนานมาก จำไม่ได้แล้วว่ากระทู้สุดท้ายก่อนหน้านี้คืออะไรยังไง ดังนั้นจะจั่วหัวว่าเป็นกระทู้แรกก็กระดากใจ เพราะมันไม่จริงและอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ จะมาเปิดการ์ดกระทู้แรกกับยืมเพื่อนมาขำขำกันตั้งแต่หัวกระทู้ แบบน้องน้องหลานหลานก็ดูจะยังไงอยู่ แต่จะบอกว่าไม่ได้ตั้งกระทู้นานมากแล้ว เดี่ยวนี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปบ้าง ผู้คน สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมก็ไม่เหมือนเดิม ทำให้ไม่ต้องนึกเลยก็รู้ได้แน่อยู่แล้วว่า กระทู้นี้เต็มต้องไปด้วย
จุดบกพร่องมากมาย สิ่งใดผิดพลาดก็ขออภัยมาณ.ที่นี้ก่อนเลยนะครับ อยากให้แก้อยากให้ปรับตรงไหน เชิญแนะนำได้ตามสะดวกนะครับ
ตั้งแต่เด็กจนโตและแก่อย่างทุกวันนี้ เพิ่งจะได้มากินกาแฟจริงๆจังก็ช่วงปลายปีที่แล้วเป็นมานี่เอง แต่พอเริ่มมากินเพราะต้องการเพิ่มสมาธิให้กับการทำงาน ก็เริ่มสนใจเริ่มจริงจัง เริ่มอ่านเริ่มหาลองชิม เริ่มจะนั้นโน้นนี่มากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน อยู่มาวันหนึ่งก็คิดขึ้นมาว่า เราน่าจะลองสร้างคอนเทนส์บางอย่างขึ้นมาดูบ้าง เลยตัดสินใจว่า จะเขียน "บันทึก" เกี่ยวกับการทดลองชิมกาแฟที่ต่างกัน 30 วัน 30 ร้านลงในพันทิปดู ไม่ใช่โครงการใหญ่โตอะไร แต่ก็น่าจะพอมีคนสนใจบ้าง เลยเกิดเป็นกระทู้นี้ขึ้นมานะครับ
เป็นบันทึกไม่ใช่การรีวิว
กระทู้นี้เป็นบันทึกนะครับ ไม่ใช่การรีวิว เพราะผมรู้สึกว่า กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีความละเอียดอ่อนมาก การจะรีวิวได้ควรจะต้องมีประสบการณ์และผ่านการฝึกฝนและเรียนรู้มาพอสมควร อาจจะต้องมีประสาทสัมผัสที่แยกกลิ่นและรสที่ต่างกันของกาแฟแต่ละสายพันธุ์ได้บ้าง มีความรู้พื้นฐานและการประยุกต์เกี่ยวกับกาแฟพอสมควร ซึ่งผมเป็นแค่มือสมัครเล่น ความรู้พวกนี้แทบจะเรียกว่ามั่วๆเอา คงไม่สามารถเรียกบันทึกของตัวเองนี้ว่ารีวิวได้
ผมเลยตั้งใจจะเขียนในรูปแบบของบันทึก แก้วนี้เป็นยังไง ชอบไม่ชอบ รับรู้รสอะไรได้บ้าง ขมไป เปรี้ยวไป มีรสอร่อยไหม อาฟเตอร์เทส เป็นยังไง ราคาแพงไปไหม อะไรแบบนั้น จะมากินอีกไหม เป็นตัวเลือกรึเปล่า ทั้งหมดเป็นแค่บันทึกความเห็นส่วนตัว ระดับของข้อมูลอาจจะมีมากกว่าคนธรรมดาเล็กน้อย แต่ไม่ได้ระดับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมาตรฐานชี้วัดได้
จุดประสงค์เป็นไปเพื่อการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในระหว่างเพื่อนสมาชิกที่สนใจกาแฟเป็นหลัก อาจจะข้อมูลสะท้อนความคิดเห็นแก่คนที่อยู่ในวงการกาแฟได้บ้างก็คงจะดี และถ้าท่านได้ไม่เห็นด้วย คิดไม่ตรงกับผม หรือมีข้อมูลอะไรที่ผมอาจจะผิดพลาดไปก็โปรดแนะนำด้วยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ
เลือกอเมริกาโน่เป็นตัวแทน
ที่เลือกอเมริกาโน่เย็นเป็นตัวแทน เพราะผมมองความสะดวกของตัวเอง เพราะมันคือเอสเพรสโซ่เติมน้ำกับน้ำแข็ง ซึ่งยังมีความเป็นตัวกาแฟเองอยู่มาก และก็ค่อนข้างสะดวกแก่ตัวผมเอง ปรกติผมทานลาเต้เย็นหวานน้อยถึงไม่หวานเลย โดยจะทานหลังออกกำลังกายตอนเช้า บางทีก็ลาเต้จริง บางทีก็กระป๋องที่เขียนว่าลาเต้ (แต่มันไม่ใช่) แล้วแต่ปัจจัยทรัพย์และเวลา แต่การบันทึกถึงลาเต้ ไม่ใช่ของง่าย เพราะตัวแปรมันเยอะกว่านั้น คุณภาพนม และวัฒนธรรมการชงกาแฟของเราก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ความหลากหลายเยอะ นมเองก็ปิดกั้นการรับรู้ถึงกาแฟไปส่วนหนึ่งแล้ว จริงๆควรใช้เอสเพรสโซ่ร้อนเป็นตัวทดลอง แต่ผมไม่สะดวกที่จะต้องเดิมเอสร้อนทุกเช้า เพราะหลังออกกำลังกายก็อยากจะดื่มอะไรเย็นๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่ผ่านมา เลยจบลงที่ อเมริกาโน่เย็น
แต่ปัญหาของเอมริกาโน่เย็นคือการถ่ายรูป เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มสีดำ การวัดแสงและตั้งค่าแสงขาวของกล้องมือถือรุ่นเก่าและกระจอกมากของผมมันไปไม่เป็นหรอกครับ หลังๆต้องใช้ iPad ถ่ายบ้าง มือถือแฟนถ่ายบ้าง แต่ตอนเช้าไม่สะดวกในการพกกล้องไปถ่ายจริงๆครับ ภาพออกมาไม่ค่อยดี เพราะผมแทบจะไม่ได้วางแผนตรงจุดนี้เลย ถ่ายมาแต่ละแก้วไม่ตรงกันเลย เปี้ยวไปเปี้ยวมา น่าละอายใจยิ่งนัก ผมไม่ได้วาดไว้ในหัวก่อนว่าจะเอามาทำเลย์เอาท์ทำรูปออกมายังไง ทำให้คุณภาพของงานต่ำกว่าเกณฑ์ไปมาก อันนี้คงต้องขออภัยทุกท่านมาณ.ที่นี้เลยนะครับ
รสอร่อยของกาแฟ
ปรกติตามตำราที่เคยอ่านมา กาแฟ ก็จะมีรสขมเป็นหลัก ยิ่งกาแฟดีรสขมก็จะลดลง แต่สำหรับคนไทย ถ้ากาแฟขมน้อยก็จะมีปัญหาเวลาเอาไปทำกาแฟเย็น ที่มักจะทำให้รู้สึกว่ากาแฟไม่เข้มข้ม เพราะนมข้นหวานข้นจืดบดบังรสชาติไปนั้นเอง รสเปรี้ยวของกาแฟเป็นสิ่งหนึ่งที่คนไทยน่าจะชอบกันมาก เพราะอ่านในบอร์ดที่คุยกันทีไรก็มักจะพูดถึงกันว่า ช่างคั่วกาแฟมักจะถูกถามว่า เปรี้ยวไหม ต้องเปรี้ยวนะ อะไรแบบนั้น อาฟเตอร์เทสเป็นสิ่งที่เคยอ่านเจอแต่เพิ่งมาสังเกตได้จริงก็ช่วงนี้ละครับ
ส่วน
"รสอร่อย" ที่ผมจะพูดถึงบ่อยๆนั้น ผมได้มาจากที่วันหนึ่งผมมีโอกาสได้ ไปชมคลิปการแข่งขันของ Hidenori Izaki อดีตแชมป์บริสต้าโลกชาวญี่ปุ่น พบว่าแก Present ถึงคำว่า Umami อยู่หลายครั้ง ผมก็มานั่งจับสังเกตดู ใช่แล้วกาแฟเองก็มีรสที่เป็น "รสอร่อย" ที่เกิดจากการผสมผสานของรสต่างๆขึ้นมา หรืออาจจะมีรสแฝงที่ซ่อนอยู่ รสนี้แหละที่ทำให้เราพึ่งพอใจ เป็นรสที่อยู่นอกเหนือจากรสขม รสเปรี้ยว รสหวาน หรือกลิ่นหอมของกาแฟ (ซึ่งคำว่า umami นี้อาจจะไม่ได้หมายถึง สารพวกกรดกูลตามิกหรือกูลตาเมทเหมือนแบบในผงชูรส เป็นแค่คำยืม อาจจะตรงกับคำว่า savory ในภาษาอังกฤษ และคำว่า กลมกล่อม ในภาษาไทย) และหลังจากสัมผัสกับ "รสอร่อย" ของกาแฟได้แล้ว ผมก็ไม่เคยดื่มกาแฟด้วยความรู้สึกเดิมอีกเลย ซึ่งอันนี้เป็นความคิดเห็นที่ค่อนข้างจะส่วนตัวมากทีเดียวนะครับ
มุมมองในเชิงธุรกิจ
เนื่องจากผมอยู่ในธุรกิจค้าปลีก แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเอาเสียเลย แต่ก็พอจะเข้าใจคนทำธุรกิจเหมือนกัน ร้านกาแฟแข่งขันสูง งานไม่ได้สบายมาก เพราะถ้าสบายมากก็อาจจะไม่มีเงินกินข้าว ความยากในตัวมันเองก็ต้องมี ในภาวะปัจจุบันการจะประสบความสําเร็จในธุรกิจนี้น่าจะลำบากอยู่ สิ่งที่ขายอาจจะไม่ใช่กาแฟ แต่อาจจะเป็นบรรยากาศ ช่วงเวลา อาจจะมีเน้นขายขนม ขายความสุข ซึ่งอาจจะทำให้ราคามันออกมาสูง แตกต่างกันไปตามตำแหน่งทางการตลาด อันนี้บางทีเราก็ต้องทำความเข้าใจ ผมพยายามไม่ตัดสินและพยายามที่จะทำความเข้าใจมากกว่า
แต่ เพราะกาแฟสดเป็นอาหารที่ผมถือว่าค่อนข้างแพงนะครับ แม้จะมีหลายระดับราคา แต่แก้วถูกที่สุดที่เคยทานมาก็ 20 บาท. ซึ่งขมมากเลยครับ คั่วมาขมปี๋เลยละ แม้แต่คนชงเองยังบอกเลยว่าคุณเก่งนะทานได้ ผมเลยบอกลุงแกว่า ผมใช้นึกเอาว่ากินยาขมอยู่น่ะครับ ไม่รู้ว่าจะเข้าใจไหม ซึ่งจากที่ทานมาพักนึง ผมว่าถ้าจะให้ทานได้จริงๆ สำหรับกาแฟสดก็ต้องมีอย่างน้อย 30-40 บาทขึ้นไป ซึ่งก็คือราคาข้าวแกงหนึ่งจาน หรือข้าวหนึ่งมื้อแล้ว ดังนั้นสำหรับฐานะการเงินอย่างผม ผมคงต้องมองจุดนี้พอสมควรนะครับ เลยอาจจะคอมเมนท์ถึงอยู่เสมอ
เนื้อหาจะแบ่งเป็นพาร์ทที่สิบแก้ว เรียงกันไปตามวันที่ทาน โดยจะทานทุกวันตอนสายๆหลังออกกำลังกายแล้ว ส่วนวันไหนวันหยุดก็อาจจะได้ทานมากกว่านั้น ทีแรกตั้งใจว่าจะปิดโปรเจกท์ตอนช่วงปลายเดือนเมษายน แต่สุดท้ายตัดออกไปแก้วหนึ่งด้วยเหตผลหลายประการ เลยมีการซ่อมด้วยกาแฟเกาหลีที่เพิ่งมาเปิดใหม่เมื่อเร็วๆนี้
ทีแรกคิดว่าขึ้นกระทู้ใหม่ที่ละพาร์ท แต่ตอนหลังคงจะอัพให้เสร็จในกระทู้เดียวกันต่อไปเลย และจะแยกกาแฟแต่ละแก้วเป็นแต่ละคอมเมนท์ จะได้ Reply กันได้โดยตรง และจะทยอยอัพที่ละพาร์ท
ฝากบ้าน
https://www.facebook.com/KhunBhaesaj/
ข้างในยังไม่มีอะไร กำลังจะเร่งทำ ปรกติเอาไว้เป็นเพจของร้าน แต่เพจของร้านมันไม่มีอะไรน่าสนใจ เลยพยายามจะลองทำอะไรต่อไปดูน่ะครับ
บันทึก: อเมริกาโน่สามสิบแก้วกับฉันคนนี้
ผมก็ไม่ใช่คนใหม่อะไรในพันทิป แต่ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปนานมาก จำไม่ได้แล้วว่ากระทู้สุดท้ายก่อนหน้านี้คืออะไรยังไง ดังนั้นจะจั่วหัวว่าเป็นกระทู้แรกก็กระดากใจ เพราะมันไม่จริงและอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ จะมาเปิดการ์ดกระทู้แรกกับยืมเพื่อนมาขำขำกันตั้งแต่หัวกระทู้ แบบน้องน้องหลานหลานก็ดูจะยังไงอยู่ แต่จะบอกว่าไม่ได้ตั้งกระทู้นานมากแล้ว เดี่ยวนี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปบ้าง ผู้คน สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมก็ไม่เหมือนเดิม ทำให้ไม่ต้องนึกเลยก็รู้ได้แน่อยู่แล้วว่า กระทู้นี้เต็มต้องไปด้วย จุดบกพร่องมากมาย สิ่งใดผิดพลาดก็ขออภัยมาณ.ที่นี้ก่อนเลยนะครับ อยากให้แก้อยากให้ปรับตรงไหน เชิญแนะนำได้ตามสะดวกนะครับ
ตั้งแต่เด็กจนโตและแก่อย่างทุกวันนี้ เพิ่งจะได้มากินกาแฟจริงๆจังก็ช่วงปลายปีที่แล้วเป็นมานี่เอง แต่พอเริ่มมากินเพราะต้องการเพิ่มสมาธิให้กับการทำงาน ก็เริ่มสนใจเริ่มจริงจัง เริ่มอ่านเริ่มหาลองชิม เริ่มจะนั้นโน้นนี่มากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน อยู่มาวันหนึ่งก็คิดขึ้นมาว่า เราน่าจะลองสร้างคอนเทนส์บางอย่างขึ้นมาดูบ้าง เลยตัดสินใจว่า จะเขียน "บันทึก" เกี่ยวกับการทดลองชิมกาแฟที่ต่างกัน 30 วัน 30 ร้านลงในพันทิปดู ไม่ใช่โครงการใหญ่โตอะไร แต่ก็น่าจะพอมีคนสนใจบ้าง เลยเกิดเป็นกระทู้นี้ขึ้นมานะครับ
เป็นบันทึกไม่ใช่การรีวิว
กระทู้นี้เป็นบันทึกนะครับ ไม่ใช่การรีวิว เพราะผมรู้สึกว่า กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีความละเอียดอ่อนมาก การจะรีวิวได้ควรจะต้องมีประสบการณ์และผ่านการฝึกฝนและเรียนรู้มาพอสมควร อาจจะต้องมีประสาทสัมผัสที่แยกกลิ่นและรสที่ต่างกันของกาแฟแต่ละสายพันธุ์ได้บ้าง มีความรู้พื้นฐานและการประยุกต์เกี่ยวกับกาแฟพอสมควร ซึ่งผมเป็นแค่มือสมัครเล่น ความรู้พวกนี้แทบจะเรียกว่ามั่วๆเอา คงไม่สามารถเรียกบันทึกของตัวเองนี้ว่ารีวิวได้
ผมเลยตั้งใจจะเขียนในรูปแบบของบันทึก แก้วนี้เป็นยังไง ชอบไม่ชอบ รับรู้รสอะไรได้บ้าง ขมไป เปรี้ยวไป มีรสอร่อยไหม อาฟเตอร์เทส เป็นยังไง ราคาแพงไปไหม อะไรแบบนั้น จะมากินอีกไหม เป็นตัวเลือกรึเปล่า ทั้งหมดเป็นแค่บันทึกความเห็นส่วนตัว ระดับของข้อมูลอาจจะมีมากกว่าคนธรรมดาเล็กน้อย แต่ไม่ได้ระดับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมาตรฐานชี้วัดได้
จุดประสงค์เป็นไปเพื่อการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในระหว่างเพื่อนสมาชิกที่สนใจกาแฟเป็นหลัก อาจจะข้อมูลสะท้อนความคิดเห็นแก่คนที่อยู่ในวงการกาแฟได้บ้างก็คงจะดี และถ้าท่านได้ไม่เห็นด้วย คิดไม่ตรงกับผม หรือมีข้อมูลอะไรที่ผมอาจจะผิดพลาดไปก็โปรดแนะนำด้วยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ
เลือกอเมริกาโน่เป็นตัวแทน
ที่เลือกอเมริกาโน่เย็นเป็นตัวแทน เพราะผมมองความสะดวกของตัวเอง เพราะมันคือเอสเพรสโซ่เติมน้ำกับน้ำแข็ง ซึ่งยังมีความเป็นตัวกาแฟเองอยู่มาก และก็ค่อนข้างสะดวกแก่ตัวผมเอง ปรกติผมทานลาเต้เย็นหวานน้อยถึงไม่หวานเลย โดยจะทานหลังออกกำลังกายตอนเช้า บางทีก็ลาเต้จริง บางทีก็กระป๋องที่เขียนว่าลาเต้ (แต่มันไม่ใช่) แล้วแต่ปัจจัยทรัพย์และเวลา แต่การบันทึกถึงลาเต้ ไม่ใช่ของง่าย เพราะตัวแปรมันเยอะกว่านั้น คุณภาพนม และวัฒนธรรมการชงกาแฟของเราก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ความหลากหลายเยอะ นมเองก็ปิดกั้นการรับรู้ถึงกาแฟไปส่วนหนึ่งแล้ว จริงๆควรใช้เอสเพรสโซ่ร้อนเป็นตัวทดลอง แต่ผมไม่สะดวกที่จะต้องเดิมเอสร้อนทุกเช้า เพราะหลังออกกำลังกายก็อยากจะดื่มอะไรเย็นๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่ผ่านมา เลยจบลงที่ อเมริกาโน่เย็น
แต่ปัญหาของเอมริกาโน่เย็นคือการถ่ายรูป เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มสีดำ การวัดแสงและตั้งค่าแสงขาวของกล้องมือถือรุ่นเก่าและกระจอกมากของผมมันไปไม่เป็นหรอกครับ หลังๆต้องใช้ iPad ถ่ายบ้าง มือถือแฟนถ่ายบ้าง แต่ตอนเช้าไม่สะดวกในการพกกล้องไปถ่ายจริงๆครับ ภาพออกมาไม่ค่อยดี เพราะผมแทบจะไม่ได้วางแผนตรงจุดนี้เลย ถ่ายมาแต่ละแก้วไม่ตรงกันเลย เปี้ยวไปเปี้ยวมา น่าละอายใจยิ่งนัก ผมไม่ได้วาดไว้ในหัวก่อนว่าจะเอามาทำเลย์เอาท์ทำรูปออกมายังไง ทำให้คุณภาพของงานต่ำกว่าเกณฑ์ไปมาก อันนี้คงต้องขออภัยทุกท่านมาณ.ที่นี้เลยนะครับ
รสอร่อยของกาแฟ
ปรกติตามตำราที่เคยอ่านมา กาแฟ ก็จะมีรสขมเป็นหลัก ยิ่งกาแฟดีรสขมก็จะลดลง แต่สำหรับคนไทย ถ้ากาแฟขมน้อยก็จะมีปัญหาเวลาเอาไปทำกาแฟเย็น ที่มักจะทำให้รู้สึกว่ากาแฟไม่เข้มข้ม เพราะนมข้นหวานข้นจืดบดบังรสชาติไปนั้นเอง รสเปรี้ยวของกาแฟเป็นสิ่งหนึ่งที่คนไทยน่าจะชอบกันมาก เพราะอ่านในบอร์ดที่คุยกันทีไรก็มักจะพูดถึงกันว่า ช่างคั่วกาแฟมักจะถูกถามว่า เปรี้ยวไหม ต้องเปรี้ยวนะ อะไรแบบนั้น อาฟเตอร์เทสเป็นสิ่งที่เคยอ่านเจอแต่เพิ่งมาสังเกตได้จริงก็ช่วงนี้ละครับ
ส่วน "รสอร่อย" ที่ผมจะพูดถึงบ่อยๆนั้น ผมได้มาจากที่วันหนึ่งผมมีโอกาสได้ ไปชมคลิปการแข่งขันของ Hidenori Izaki อดีตแชมป์บริสต้าโลกชาวญี่ปุ่น พบว่าแก Present ถึงคำว่า Umami อยู่หลายครั้ง ผมก็มานั่งจับสังเกตดู ใช่แล้วกาแฟเองก็มีรสที่เป็น "รสอร่อย" ที่เกิดจากการผสมผสานของรสต่างๆขึ้นมา หรืออาจจะมีรสแฝงที่ซ่อนอยู่ รสนี้แหละที่ทำให้เราพึ่งพอใจ เป็นรสที่อยู่นอกเหนือจากรสขม รสเปรี้ยว รสหวาน หรือกลิ่นหอมของกาแฟ (ซึ่งคำว่า umami นี้อาจจะไม่ได้หมายถึง สารพวกกรดกูลตามิกหรือกูลตาเมทเหมือนแบบในผงชูรส เป็นแค่คำยืม อาจจะตรงกับคำว่า savory ในภาษาอังกฤษ และคำว่า กลมกล่อม ในภาษาไทย) และหลังจากสัมผัสกับ "รสอร่อย" ของกาแฟได้แล้ว ผมก็ไม่เคยดื่มกาแฟด้วยความรู้สึกเดิมอีกเลย ซึ่งอันนี้เป็นความคิดเห็นที่ค่อนข้างจะส่วนตัวมากทีเดียวนะครับ
มุมมองในเชิงธุรกิจ
เนื่องจากผมอยู่ในธุรกิจค้าปลีก แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเอาเสียเลย แต่ก็พอจะเข้าใจคนทำธุรกิจเหมือนกัน ร้านกาแฟแข่งขันสูง งานไม่ได้สบายมาก เพราะถ้าสบายมากก็อาจจะไม่มีเงินกินข้าว ความยากในตัวมันเองก็ต้องมี ในภาวะปัจจุบันการจะประสบความสําเร็จในธุรกิจนี้น่าจะลำบากอยู่ สิ่งที่ขายอาจจะไม่ใช่กาแฟ แต่อาจจะเป็นบรรยากาศ ช่วงเวลา อาจจะมีเน้นขายขนม ขายความสุข ซึ่งอาจจะทำให้ราคามันออกมาสูง แตกต่างกันไปตามตำแหน่งทางการตลาด อันนี้บางทีเราก็ต้องทำความเข้าใจ ผมพยายามไม่ตัดสินและพยายามที่จะทำความเข้าใจมากกว่า
แต่ เพราะกาแฟสดเป็นอาหารที่ผมถือว่าค่อนข้างแพงนะครับ แม้จะมีหลายระดับราคา แต่แก้วถูกที่สุดที่เคยทานมาก็ 20 บาท. ซึ่งขมมากเลยครับ คั่วมาขมปี๋เลยละ แม้แต่คนชงเองยังบอกเลยว่าคุณเก่งนะทานได้ ผมเลยบอกลุงแกว่า ผมใช้นึกเอาว่ากินยาขมอยู่น่ะครับ ไม่รู้ว่าจะเข้าใจไหม ซึ่งจากที่ทานมาพักนึง ผมว่าถ้าจะให้ทานได้จริงๆ สำหรับกาแฟสดก็ต้องมีอย่างน้อย 30-40 บาทขึ้นไป ซึ่งก็คือราคาข้าวแกงหนึ่งจาน หรือข้าวหนึ่งมื้อแล้ว ดังนั้นสำหรับฐานะการเงินอย่างผม ผมคงต้องมองจุดนี้พอสมควรนะครับ เลยอาจจะคอมเมนท์ถึงอยู่เสมอ
เนื้อหาจะแบ่งเป็นพาร์ทที่สิบแก้ว เรียงกันไปตามวันที่ทาน โดยจะทานทุกวันตอนสายๆหลังออกกำลังกายแล้ว ส่วนวันไหนวันหยุดก็อาจจะได้ทานมากกว่านั้น ทีแรกตั้งใจว่าจะปิดโปรเจกท์ตอนช่วงปลายเดือนเมษายน แต่สุดท้ายตัดออกไปแก้วหนึ่งด้วยเหตผลหลายประการ เลยมีการซ่อมด้วยกาแฟเกาหลีที่เพิ่งมาเปิดใหม่เมื่อเร็วๆนี้
ทีแรกคิดว่าขึ้นกระทู้ใหม่ที่ละพาร์ท แต่ตอนหลังคงจะอัพให้เสร็จในกระทู้เดียวกันต่อไปเลย และจะแยกกาแฟแต่ละแก้วเป็นแต่ละคอมเมนท์ จะได้ Reply กันได้โดยตรง และจะทยอยอัพที่ละพาร์ท
ฝากบ้าน
https://www.facebook.com/KhunBhaesaj/
ข้างในยังไม่มีอะไร กำลังจะเร่งทำ ปรกติเอาไว้เป็นเพจของร้าน แต่เพจของร้านมันไม่มีอะไรน่าสนใจ เลยพยายามจะลองทำอะไรต่อไปดูน่ะครับ