ณ เมืองเล็ก ๆ ที่สวยและสงบสุขเมืองหนึ่งมีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมาก
ทุกวันพวกเขาจะพากันไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาดตอนฟ้าสาง
และไปส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ชายหาดตอนโพล้เพล้
ทุกคนที่เคยพบเจอพวกเขาจะมองด้วยสายตาที่อิจฉาในความรักของคนคู่นี้เสมอ
แต่แล้ววันหนึ่ง
เกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น ชายหนุ่มผู้โชคร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
เขานอนเงียบอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า เขาก็ยังคงไม่ฟื้นคืนมา
ตอนกลางวัน หญิงสาวจะมาเฝ้าอยู่ที่หน้าเตียง
ร้องเรียกคนรักของเธอเสมอ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ตอบสนองใด ๆ เลย
ตกกลางคืน หญิงสาวจะไปสวดภาวนาอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าที่โบสถ์นอกเมือง
เธอร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง ไม่มีจะไหลออกมาอีกแล้ว
ผ่านไป 1 เดือน
ชายหนุ่มยังคงหลับใหลไม่ฟื้นเหมือนเดิมส่วนหญิงสาวก็ดูจะซูบเซียวขึ้นทุกวัน
แต่ก็ยังคงสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าอยู่เสมอไม่เคยหยุด
และแล้ววันหนึ่ง
พระผู้เจ้าก็เกิดเห็นใจในรักของหญิงสาวและตกลงจะประทานพรให้แก่เธอ
พระผู้เป็นเจ้าได้ถามหญิงสาวว่า
เจ้ายอมที่จะแลกพรนี้ด้วยชีวิตของเจ้าไหมหญิงสาวตอบโดยไม่ลังเลว่า
"ฉันยอมค่ะ"
พระผู้เป็นเจ้าพูดว่า งั้นดี ฉันจะให้คนรักของเจ้าฟื้นขึ้นมา
แต่เจ้าต้องแลกกับการกลายเป็นผีเสื้อเป็นเวลา 3 ปี เจ้าจะตกลงยอมไหม
หญิงสาวได้ฟังดังนั้น ก็ยังคงยืนยันคำตอบเดิม "ฉันยอมค่ะ"
ฟ้าสางแล้ว
หญิงสาวได้กลายเป็นผีเสื้อสวยงามตัวหนึ่ง
เธอบอกลาพระผู้เป็นเจ้าแล้วรีบบินกลับไปที่โรงพยาบาล
ชายหนุ่มฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ มีแพทย์สาวยืนอยู่ข้าง ๆ เขา กำลังคุยเรื่องอะไรกันสักอย่างหนึ่ง
แต่ช่างเสียดายที่เธอไม่สามารถที่จะได้ยิน.
หลายวันผ่านไป
ชายหนุ่มแข็งแรงพอที่จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
แต่เขาดูไม่มีความสุขเลย เขาออกตระเวนหาข่าวคราวของหญิงสาวคนรัก
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าหญิงสาวหายไปอยู่ที่ไหน
ชายหนุ่มยังไม่ละความพยายามที่จะตามหาคนรักของเขา
หญิงสาวในร่างของผีเสื้อได้แต่บินวนเวียนอยู่รอบตัวชายหนุ่มไม่ห่างไปไหน
ทว่าเธอไม่สามารถที่จะส่งเสียง ไม่สามารถโอบกอดเขาได้
เธอทำได้แค่เพียงเฝ้ามองดูชายหนุ่มไม่ให้คาดสายตาเท่านั้นเอง
ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว
ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดใบไม้ปลิวร่วงหล่นจากต้นไม้ใหญ่
เจ้าผีเสื้อน้อยจำต้องจากที่นี่ไปแล้ว
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้บินมาเกาะที่บ่าของชายหนุ่มเธออยากใช้ปีกของเธอลูบใบหน้าของชายคนรัก
อยากใช้ปากเล็ก ๆ จูบที่แก้มเบาๆ
แต่อย่างไรก็ดี
ร่างเล็กบอบบางในคราบของผีเสื้อก็ไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากชายหนุ่มได้
....แค่พริบตา ฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือน
เจ้าผีเสื้อรีบบินกลับมาหาคนรักของเธอ
เพื่อจะพบว่า...ร่างอันคุ้นตานั้นบัดนี้ได้ยืนเคียงคู่อยู่กับหญิงสาวรูปร่างบอบบางคนหนึ่ง
ภาพ ๆ นั้นทำให้ผีเสื้อน้อยเกือบจะบินตกลงมาจากอากาศเลยทีเดียว
ชาวบ้านต่างกล่าวขานถึงเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บสาหัสจนทำให้ได้พบกับแพทย์สาวที่น่ารัก และ ใจดี คนนั้น
แน่นอนพวกเขายังคงกล่าวถึงความรักของคนทั้งคู่ที่เหมือนถูกกำหนดมาอย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มดูสดใสร่าเริงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายนัก
ผีเสื้อน้อยรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก หลังจากนั้นไม่กี่วัน
ชายหนุ่มหนุ่มก็พาคนรักคนใหม่ไปชายทะเลเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกด้วยกัน
แต่สำหรับเจ้าผีเสื้อน้อย นอกจากบินมาเกาะที่บ่าของชายหนุ่มแล้ว เธอไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นเลย
หน้าร้อนของปีนี้ช่างยาวนานนัก
เจ้าผีเสื้อน้อยบินต่ำลง ๆ ทุกวันด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด
เธอไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะบินเข้าใกล้ ชายอันเป็นที่รัก
ท่าทางการพูดคุยกันอย่างสนิทสนมของคนทั้งคู่ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทั้งคู่ ทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งนัก
ย่างเข้าฤดูร้อนของปีที่ 3
ผีเสื้อน้อยไม่อยากไปเฝ้าดูคนรักของเขาอีกแล้ว
บ่าของเขาบัดนี้ถูกโอบกอดด้วยมือของคนรักคนใหม่
ใบหน้าที่มีความสุขของเขาคนนั้น
ดูแล้วไม่มีทางเลยที่จะมีเวลาไปคิดถึงผีเสื้อน้อยที่เจ็บปวดตัวหนึ่ง
และยิ่งไม่มีทางที่จะคิดถึง"อดีต"ที่ผ่านไปแล้ว
วันครบรอบปีที่ 3 ที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้ใกล้มาถึงแล้ว
คนรักของผีเสื้อน้อยกับหญิงสาวคนใหม่ได้จัดพิธีแต่งงานขึ้นในวันสุดท้ายนั้นเอง
เจ้าผีเสื้อน้อยค่อย ๆ บินเข้าไปในโบสถ์ และไปเกาะที่บ่าของพระผู้เป็นเจ้า
เธอได้ยินเสียงของคนรักที่ดังมาจากข้างล่างตอบรับคำสาบานของพระผู้เป็นเจ้าว่า
ผมยอมรับครับ
เธอเห็นหญิงสาวคนนั้นสวมแหวนให้คนรักของเธอ
ตามด้วยจุมพิตที่แสนหวานของคนทั้งคู่
เจ้าผีเสื้อน้อยปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาเป็นสาย
พระผู้เป็นเจ้าถามผีเสื้อน้อยว่า
เจ้ารู้สึกเสียใจไหมเจ้าผีเสื้อน้อยเช็ดน้ำตาแล้วตอบว่า เปล่า
พระผู้เป็นเจ้าถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า
งั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ได้กลับเป็นเจ้าคนเดิมแล้วผีเสื้อน้อยส่ายหน้าอย่างช้า ๆ
ก่อนตอบว่า
ขอฉันเป็นผีเสื้ออย่างนี้ไปตลอดชีวิตเถอะค่ะ
..
ฉันรู้ว่า...บางคน ชะตาอาจถูกกำหนดมาเพื่อที่ต้องสูญเสียบางคนไป
บางบุพเพ ตอนจบอาจไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
และรู้ว่า...การรักคน ๆ หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องได้รับรักตอบ...เสมอไป
แต่...เมื่อมีโอกาสได้รักใครสักหนึ่ง...ฉันก็อยากดูแลรักษาเขาไว้อย่างดีที่สุด...
"อยากเป็นผีเสื้อปีกใส โบกโบยบินไปอยู่ใกล้เธอ
เฝ้ามองและเป็นกำลังใจให้เสมอ ได้เห็นเธอเป็นสุข...ก็สุขใจ"
คุณหล่ะ...เคยสนใจ"ผีเสื้อ"บนบ่าคุณบ้างไหม
บนบ่าของคุณมีผีเสื้อมั้ย ?????
ณ เมืองเล็ก ๆ ที่สวยและสงบสุขเมืองหนึ่งมีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมาก
ทุกวันพวกเขาจะพากันไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาดตอนฟ้าสาง
และไปส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ชายหาดตอนโพล้เพล้
ทุกคนที่เคยพบเจอพวกเขาจะมองด้วยสายตาที่อิจฉาในความรักของคนคู่นี้เสมอ
แต่แล้ววันหนึ่ง
เกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น ชายหนุ่มผู้โชคร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
เขานอนเงียบอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า เขาก็ยังคงไม่ฟื้นคืนมา
ตอนกลางวัน หญิงสาวจะมาเฝ้าอยู่ที่หน้าเตียง
ร้องเรียกคนรักของเธอเสมอ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ตอบสนองใด ๆ เลย
ตกกลางคืน หญิงสาวจะไปสวดภาวนาอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าที่โบสถ์นอกเมือง
เธอร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง ไม่มีจะไหลออกมาอีกแล้ว
ผ่านไป 1 เดือน
ชายหนุ่มยังคงหลับใหลไม่ฟื้นเหมือนเดิมส่วนหญิงสาวก็ดูจะซูบเซียวขึ้นทุกวัน
แต่ก็ยังคงสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าอยู่เสมอไม่เคยหยุด
และแล้ววันหนึ่ง
พระผู้เจ้าก็เกิดเห็นใจในรักของหญิงสาวและตกลงจะประทานพรให้แก่เธอ
พระผู้เป็นเจ้าได้ถามหญิงสาวว่า
เจ้ายอมที่จะแลกพรนี้ด้วยชีวิตของเจ้าไหมหญิงสาวตอบโดยไม่ลังเลว่า
"ฉันยอมค่ะ"
พระผู้เป็นเจ้าพูดว่า งั้นดี ฉันจะให้คนรักของเจ้าฟื้นขึ้นมา
แต่เจ้าต้องแลกกับการกลายเป็นผีเสื้อเป็นเวลา 3 ปี เจ้าจะตกลงยอมไหม
หญิงสาวได้ฟังดังนั้น ก็ยังคงยืนยันคำตอบเดิม "ฉันยอมค่ะ"
ฟ้าสางแล้ว
หญิงสาวได้กลายเป็นผีเสื้อสวยงามตัวหนึ่ง
เธอบอกลาพระผู้เป็นเจ้าแล้วรีบบินกลับไปที่โรงพยาบาล
ชายหนุ่มฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ มีแพทย์สาวยืนอยู่ข้าง ๆ เขา กำลังคุยเรื่องอะไรกันสักอย่างหนึ่ง
แต่ช่างเสียดายที่เธอไม่สามารถที่จะได้ยิน.
หลายวันผ่านไป
ชายหนุ่มแข็งแรงพอที่จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
แต่เขาดูไม่มีความสุขเลย เขาออกตระเวนหาข่าวคราวของหญิงสาวคนรัก
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าหญิงสาวหายไปอยู่ที่ไหน
ชายหนุ่มยังไม่ละความพยายามที่จะตามหาคนรักของเขา
หญิงสาวในร่างของผีเสื้อได้แต่บินวนเวียนอยู่รอบตัวชายหนุ่มไม่ห่างไปไหน
ทว่าเธอไม่สามารถที่จะส่งเสียง ไม่สามารถโอบกอดเขาได้
เธอทำได้แค่เพียงเฝ้ามองดูชายหนุ่มไม่ให้คาดสายตาเท่านั้นเอง
ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว
ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดใบไม้ปลิวร่วงหล่นจากต้นไม้ใหญ่
เจ้าผีเสื้อน้อยจำต้องจากที่นี่ไปแล้ว
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้บินมาเกาะที่บ่าของชายหนุ่มเธออยากใช้ปีกของเธอลูบใบหน้าของชายคนรัก
อยากใช้ปากเล็ก ๆ จูบที่แก้มเบาๆ
แต่อย่างไรก็ดี
ร่างเล็กบอบบางในคราบของผีเสื้อก็ไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากชายหนุ่มได้
....แค่พริบตา ฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือน
เจ้าผีเสื้อรีบบินกลับมาหาคนรักของเธอ
เพื่อจะพบว่า...ร่างอันคุ้นตานั้นบัดนี้ได้ยืนเคียงคู่อยู่กับหญิงสาวรูปร่างบอบบางคนหนึ่ง
ภาพ ๆ นั้นทำให้ผีเสื้อน้อยเกือบจะบินตกลงมาจากอากาศเลยทีเดียว
ชาวบ้านต่างกล่าวขานถึงเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บสาหัสจนทำให้ได้พบกับแพทย์สาวที่น่ารัก และ ใจดี คนนั้น
แน่นอนพวกเขายังคงกล่าวถึงความรักของคนทั้งคู่ที่เหมือนถูกกำหนดมาอย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มดูสดใสร่าเริงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายนัก
ผีเสื้อน้อยรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก หลังจากนั้นไม่กี่วัน
ชายหนุ่มหนุ่มก็พาคนรักคนใหม่ไปชายทะเลเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกด้วยกัน
แต่สำหรับเจ้าผีเสื้อน้อย นอกจากบินมาเกาะที่บ่าของชายหนุ่มแล้ว เธอไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นเลย
หน้าร้อนของปีนี้ช่างยาวนานนัก
เจ้าผีเสื้อน้อยบินต่ำลง ๆ ทุกวันด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด
เธอไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะบินเข้าใกล้ ชายอันเป็นที่รัก
ท่าทางการพูดคุยกันอย่างสนิทสนมของคนทั้งคู่ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทั้งคู่ ทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งนัก
ย่างเข้าฤดูร้อนของปีที่ 3
ผีเสื้อน้อยไม่อยากไปเฝ้าดูคนรักของเขาอีกแล้ว
บ่าของเขาบัดนี้ถูกโอบกอดด้วยมือของคนรักคนใหม่
ใบหน้าที่มีความสุขของเขาคนนั้น
ดูแล้วไม่มีทางเลยที่จะมีเวลาไปคิดถึงผีเสื้อน้อยที่เจ็บปวดตัวหนึ่ง
และยิ่งไม่มีทางที่จะคิดถึง"อดีต"ที่ผ่านไปแล้ว
วันครบรอบปีที่ 3 ที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้ใกล้มาถึงแล้ว
คนรักของผีเสื้อน้อยกับหญิงสาวคนใหม่ได้จัดพิธีแต่งงานขึ้นในวันสุดท้ายนั้นเอง
เจ้าผีเสื้อน้อยค่อย ๆ บินเข้าไปในโบสถ์ และไปเกาะที่บ่าของพระผู้เป็นเจ้า
เธอได้ยินเสียงของคนรักที่ดังมาจากข้างล่างตอบรับคำสาบานของพระผู้เป็นเจ้าว่า
ผมยอมรับครับ
เธอเห็นหญิงสาวคนนั้นสวมแหวนให้คนรักของเธอ
ตามด้วยจุมพิตที่แสนหวานของคนทั้งคู่
เจ้าผีเสื้อน้อยปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาเป็นสาย
พระผู้เป็นเจ้าถามผีเสื้อน้อยว่า
เจ้ารู้สึกเสียใจไหมเจ้าผีเสื้อน้อยเช็ดน้ำตาแล้วตอบว่า เปล่า
พระผู้เป็นเจ้าถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า
งั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ได้กลับเป็นเจ้าคนเดิมแล้วผีเสื้อน้อยส่ายหน้าอย่างช้า ๆ
ก่อนตอบว่า
ขอฉันเป็นผีเสื้ออย่างนี้ไปตลอดชีวิตเถอะค่ะ
..
ฉันรู้ว่า...บางคน ชะตาอาจถูกกำหนดมาเพื่อที่ต้องสูญเสียบางคนไป
บางบุพเพ ตอนจบอาจไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
และรู้ว่า...การรักคน ๆ หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องได้รับรักตอบ...เสมอไป
แต่...เมื่อมีโอกาสได้รักใครสักหนึ่ง...ฉันก็อยากดูแลรักษาเขาไว้อย่างดีที่สุด...
"อยากเป็นผีเสื้อปีกใส โบกโบยบินไปอยู่ใกล้เธอ
เฝ้ามองและเป็นกำลังใจให้เสมอ ได้เห็นเธอเป็นสุข...ก็สุขใจ"
คุณหล่ะ...เคยสนใจ"ผีเสื้อ"บนบ่าคุณบ้างไหม
บทความจาก : TeeNee.com
http://variety.teenee.com/foodforbrain/6831.html