สวัสดีชาวพันทิปสาวกเรื่องสยองขวัญ 5555555555555555
เรื่องที่เราจะเล่าเป็นเรื่องที่เราเจอกับตัวเองเมื่อเทอม1ที่ผ่านมา เราเป็นนักศึกษาปี1ของธรรมศาสตร์รังสิต อยู่หอพักในโซนC ไม่บอกตึกนะเดี๋ยวหลอนกันไปหมด 555555555 ใครไม่ชอบไม่อยากอ่านกดปิดไปเลยนะ เรื่องมันค่อนข้างยาว ถ้าขี้เกียจอ่านก็ไม่ต้องอ่านได้นะ เราอยากมาแชร์เฉยๆ ที่เล่านี่เราก็ไหว้พระแล้วบอกว่าเราขอเอาเรื่องนี้มาเล่านะอย่าให้เกิดอะไรแบบนี้อีก จะบอกว่าเราคิดเพ้อไปเองก็อ่านพอเอาขำๆแล้วกัน555555
ตอนเราเข้ามาอยู่ในหอนี้ มันเป็นหอนอนสองคน เราสุ่มเมทได้มา ตอนแรกก็อยู่กันปกติ พออยู่ไปได้เดือนกว่าๆเมทเราก็เริ่มไม่อยู่ห้อง ไปนอนห้องเพื่อนบ่อยขึ้น กลับบ้างไม่กลับบ้าง กลับกลางวันบ้างกลางคืนบ้าง เราเป็นคนติดห้องอยู่แล้ว และก็ชอบอยู่คนเดียว เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ แต่ที่เลือกมีเมทด้วยเพราะว่าแม่อยากให้มีเพื่อน
เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เราจำไม่ได้ แต่เราชอบได้ยินเสียงทรศสั่น อยู่รอบๆตัวเรา เหมือนเสียงโทรศัพท์เราสั่นเลย แต่เปล่า โทรศัพท์เราอยู่ในมือ แล้วก็ไม่มีอะไรสั่นด้วย ตอนแรกเสียงมันก็มาเบาๆนั่นแหละ เราก็พยายามไม่คิดอะไรทั้งที่ใจเป็นคนกลัวผีมากกกกกกก แต่ก็ไม่อยากคิดเยอะอ่ะเนอะเพราะยังไงก็ต้องอยู่ห้องนั้นต่ออีกนาน เลยนิ่งๆไว้ จนได้ยินมาเรื่อยๆแทบทุกวัน พอเมทเรากลับมาเอาของเราก็ถามเมทนะว่าเคยได้ยินเสียงแบบนี้ตอนอยู่คนเดียวบ้างไหม เมทเราก็ตอบว่าเคย
อุ่นใจละ ไม่ได้มีตรูที่ได้ยินคนเดียว 55555 ตอนแรกก็คิดว่าแบบอาจจะเป็นเมทลืมทรศไว้ แต่เมทจะลืมไว้ได้ไง อีกอย่างโทรศัพท์ก็เป็นของจำเป็น แล้วเราได้ยินมานานมากๆนานเกินอาทิตย์นึงแล้วอะ ถ้าเป็นโทรศัพท์ปกติก็ควรแบตหมดตั้งแต่สองสามวันแรกแล้วเปล่า มันสั่นแบบ ครืดครืดครืด เหมือนซัมซุงตอนไลน์เข้าอ่ะ ตอนนั้นยังใจดีสู้เสือเว้ย ยังอยู่ต่อแบบชิลๆไม่คิดอะไร
จนเรื่องแม่.งมาถึงตอนเราพาแม่มาทำเรื่องกู้กรอนี่แหละ แม่เราพาเพื่อนมาด้วย แล้วเพื่อนแม่คนนี้เป็นคนที่มีสัมผัสอะไรแบบนั้นอ่ะ เราก็เลยเล่าให้เขาฟัง แล้วเขาก็ถามเลขห้องเรา เราก็บอกไป เขาก็บอกมาว่า เนี่ย เคยมีคนทำแท้งในห้องเรา เท่านั้นแหละมึ้งงงง กรูนี่ 55555555555 เพื่อนแม่ก็บอกว่าแต่เขาไม่ทำอะไรเรา เขาอยากเล่นด้วยเฉยๆ เขาเหงาอะไรแบบนี้ (คิดในใจว่ามาเล่นกับกรูทำไม๊) ป้าก็บอกมาว่า คุยเล่นกับเขาบ้าง มีอะไรก็เรียกเขากิน แบ่งเขา ซื้อน้ำแดงซื้ออะไรมาวางไว้ให้เขาเล่นหน่อย เราก็แบบเฮ้ยทำไมต้องทำขนาดนั้นT_T ก็นั่งคุยๆกันไปจนแยกย้ายกลับบ้าน
ช่วงหลังๆที่เราได้ยินถี่ๆเราคอลไลน์กับเพื่อนไว้ตลอด กลัว55555555 คือก็ไม่ชอบไปนอนห้องคนอื่นอ่ะเข้าใจไหม พอกลับถึงห้องก็แบบเป็นบ้าอะไรไม่รู้ เปิดประตูห้องแล้วพูดว่า กลับมาแล้ว ซื้อข้าวมาด้วย มากินด้วยกันมา (โอ้โห ตอนนี้นี่มาคิดแล้วก็แบบ ทำไปได้ไงวะ) แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกวันๆ
ตอนนั้นเรามีกีต้าร์ตัวนึง ยืมเพื่อนมา เราชอบเล่นกีต้าร์ไปร้องเพลงไป ก็เล่นบ่อยแบบเวลาได้ยินเสียงอะไรแบบนั้นก็จะหยิบมาเล่น แล้วคืนนั้นก็จะไม่มีเสียงเลยเว้ย เลยอุปทานไปว่า น้องเขาชอบฟังเราเล่นกีต้าร์หรอ ทุกวันก็เลยจะนั่งเล่นกีต้าร์หลังจากกลับมาที่ห้อง ก็ไม่รู้ว่าเราเพ้อไปเองหรือเปล่า แต่ระหว่างตอนเล่นกีต้าร์ปกติกีต้าร์จะพาดที่ขาขวาใช่ไหม แต่อันนี้เราชาที่ข้างซ้ายเหมือนมีอะไรมาทับตลอดเวลา แต่พอเล่นจบแล้วพูดว่า เล่นเสร็จแล้วลุกได้แล้ว อาการแบบนี้ก็หายไปเฉย ทำแบบนั้นทุกวันจนเหมือนสิ่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราเป็นเวลาเกือบเดือน
มาใกล้สอบไฟนอลละ ถ้าใครอยู่มธจะรู้ว่าช่วงเวลาสอบไฟนอลยาวนานมากกก อย่างเทอมแรกที่ผ่านมาสอบตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.58ถึงม.ค.59 เราก็เริ่มอ่านหนังสือเยอะขึ้น จนไม่ค่อยได้เล่นกีต้าร์ ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าอยากจะเล่น แต่เพื่อนก็บอกว่าไม่ต้องเล่น อ่านหนังสือไป วันถัดมาเราคอลไลน์ไว้กับแฟนเรา(ตอนนี้เป็นแฟนเก่าไปละ) ก็คุยๆเล่นกัน จนมาถึงตอนที่เราฟังเขาพูด แล้วอยู่ดีๆมีอะไรมาดลใจให้หยิบกีต้าร์มาเล่นตอนนั้นเลย
ก็บอกมันไว้ว่า หยุดพูด ขอเล่นกีต้าร์ก่อน แล้วเราก็หยิบมาเล่น เล่นตั้งแต่อินโทร ระหว่างที่เริ่มเล่นจนกำลังจะเข้าท่อนฮุค เรารู้สึกแปลกๆตลอดเวลา เหมือนมือมันสั่นไปหมด แต่ก็ต้องเล่น จนถึงท่อนฮุค มันตะโกนขึ้นมาว่า 'ปิดไมค์! ปิดไมค์!' เราก็ตกใจหยุดเล่นทันที ขนลุกไปหมด ถามว่ามีอะไร มันบอกว่า 'ปิดไมค์ก่อน เล่นให้จบแล้วค่อยเปิด'
เธอ ถึงตอนนั้นเป็นเธอจะกล้าเล่นต่อไหม เราก็ปิดไมค์ เล่นต่อเว้ย แต่ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกแล้วมือปากมันสั่นไปหมด ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ5ทุ่มครึ่ง เราคิดไรไม่ออก คือรีบออกจากห้อง แล้วก็ไปที่หอเพื่อนสนิทที่ม.เดียวกันอ่ะ ระหว่างทาง เราก็บอกมันว่า 'อย่าเล่านะ เรากลัว แต่พูดคร่าวๆได้ไหมว่าเป็นยังไง' มันบอกว่า 'ฟังไม่ได้ เขาไม่ให้ฟัง'
เราถามว่าทำไม มันบอกว่า 'ดึงหูฟังออกแล้วก็ยังได้ยิน ฟังไม่ได้ ไม่ใช่เสียงกีต้าร์ มันบาดหู' โอ้ย เล่าตอนนี้ก็ยังขนลุก 555555555555555555555555 ตอนนั้นแรงเดินยังแทบจะไม่มีเลยมั้ง มันตื้อไปหมด แต่คนเยอะ เพราะเด็กมหาลัยห้าทุ่มครึ่งมันยังเรียกว่าสามทุ่มใช่ป่ะล่ะ 55555 ก็ออกมานอนหอเพื่อน แต่ไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟังเพราะเพื่อนกลัว
คืนนั้นพี่เราที่สนิทกันโทรมาพอดี ช่วงประมาณตีสาม เราก็ออกไปที่ระเบียง เพราะเพื่อนนอนแล้วแต่เราอ่านหนังสืออยู่ เราก็เล่าให้พี่เราฟังหมดเลย แต่เข้าใจความรู้สึกตอนพูดถึงที่มันจะขนลุกแล้วก็ขาสั่นปากสั่นอยู่ตลอดเวลาที่พูดถึงไหม มันเป็นแบบนั้นเลย
ขอเล่าเกริ่นไว้เท่านี้ก่อนนะ อันนี้มีได้ประมาณ1/3ของเรื่องทั้งหมด ถ้ายาวไป ไม่ชอบอ่าน คิดว่าพร่ำเพ้อ คิดว่าเรื่องแต่ง กดออกได้เลยค่ะ ไม่เจอกับตัวไม่เข้าใจจริงๆ
เรื่องที่ไม่เคยเล่า จากหอพักในมธ.รังสิต
เรื่องที่เราจะเล่าเป็นเรื่องที่เราเจอกับตัวเองเมื่อเทอม1ที่ผ่านมา เราเป็นนักศึกษาปี1ของธรรมศาสตร์รังสิต อยู่หอพักในโซนC ไม่บอกตึกนะเดี๋ยวหลอนกันไปหมด 555555555 ใครไม่ชอบไม่อยากอ่านกดปิดไปเลยนะ เรื่องมันค่อนข้างยาว ถ้าขี้เกียจอ่านก็ไม่ต้องอ่านได้นะ เราอยากมาแชร์เฉยๆ ที่เล่านี่เราก็ไหว้พระแล้วบอกว่าเราขอเอาเรื่องนี้มาเล่านะอย่าให้เกิดอะไรแบบนี้อีก จะบอกว่าเราคิดเพ้อไปเองก็อ่านพอเอาขำๆแล้วกัน555555
ตอนเราเข้ามาอยู่ในหอนี้ มันเป็นหอนอนสองคน เราสุ่มเมทได้มา ตอนแรกก็อยู่กันปกติ พออยู่ไปได้เดือนกว่าๆเมทเราก็เริ่มไม่อยู่ห้อง ไปนอนห้องเพื่อนบ่อยขึ้น กลับบ้างไม่กลับบ้าง กลับกลางวันบ้างกลางคืนบ้าง เราเป็นคนติดห้องอยู่แล้ว และก็ชอบอยู่คนเดียว เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ แต่ที่เลือกมีเมทด้วยเพราะว่าแม่อยากให้มีเพื่อน
เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เราจำไม่ได้ แต่เราชอบได้ยินเสียงทรศสั่น อยู่รอบๆตัวเรา เหมือนเสียงโทรศัพท์เราสั่นเลย แต่เปล่า โทรศัพท์เราอยู่ในมือ แล้วก็ไม่มีอะไรสั่นด้วย ตอนแรกเสียงมันก็มาเบาๆนั่นแหละ เราก็พยายามไม่คิดอะไรทั้งที่ใจเป็นคนกลัวผีมากกกกกกก แต่ก็ไม่อยากคิดเยอะอ่ะเนอะเพราะยังไงก็ต้องอยู่ห้องนั้นต่ออีกนาน เลยนิ่งๆไว้ จนได้ยินมาเรื่อยๆแทบทุกวัน พอเมทเรากลับมาเอาของเราก็ถามเมทนะว่าเคยได้ยินเสียงแบบนี้ตอนอยู่คนเดียวบ้างไหม เมทเราก็ตอบว่าเคย
อุ่นใจละ ไม่ได้มีตรูที่ได้ยินคนเดียว 55555 ตอนแรกก็คิดว่าแบบอาจจะเป็นเมทลืมทรศไว้ แต่เมทจะลืมไว้ได้ไง อีกอย่างโทรศัพท์ก็เป็นของจำเป็น แล้วเราได้ยินมานานมากๆนานเกินอาทิตย์นึงแล้วอะ ถ้าเป็นโทรศัพท์ปกติก็ควรแบตหมดตั้งแต่สองสามวันแรกแล้วเปล่า มันสั่นแบบ ครืดครืดครืด เหมือนซัมซุงตอนไลน์เข้าอ่ะ ตอนนั้นยังใจดีสู้เสือเว้ย ยังอยู่ต่อแบบชิลๆไม่คิดอะไร
จนเรื่องแม่.งมาถึงตอนเราพาแม่มาทำเรื่องกู้กรอนี่แหละ แม่เราพาเพื่อนมาด้วย แล้วเพื่อนแม่คนนี้เป็นคนที่มีสัมผัสอะไรแบบนั้นอ่ะ เราก็เลยเล่าให้เขาฟัง แล้วเขาก็ถามเลขห้องเรา เราก็บอกไป เขาก็บอกมาว่า เนี่ย เคยมีคนทำแท้งในห้องเรา เท่านั้นแหละมึ้งงงง กรูนี่ 55555555555 เพื่อนแม่ก็บอกว่าแต่เขาไม่ทำอะไรเรา เขาอยากเล่นด้วยเฉยๆ เขาเหงาอะไรแบบนี้ (คิดในใจว่ามาเล่นกับกรูทำไม๊) ป้าก็บอกมาว่า คุยเล่นกับเขาบ้าง มีอะไรก็เรียกเขากิน แบ่งเขา ซื้อน้ำแดงซื้ออะไรมาวางไว้ให้เขาเล่นหน่อย เราก็แบบเฮ้ยทำไมต้องทำขนาดนั้นT_T ก็นั่งคุยๆกันไปจนแยกย้ายกลับบ้าน
ช่วงหลังๆที่เราได้ยินถี่ๆเราคอลไลน์กับเพื่อนไว้ตลอด กลัว55555555 คือก็ไม่ชอบไปนอนห้องคนอื่นอ่ะเข้าใจไหม พอกลับถึงห้องก็แบบเป็นบ้าอะไรไม่รู้ เปิดประตูห้องแล้วพูดว่า กลับมาแล้ว ซื้อข้าวมาด้วย มากินด้วยกันมา (โอ้โห ตอนนี้นี่มาคิดแล้วก็แบบ ทำไปได้ไงวะ) แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกวันๆ
ตอนนั้นเรามีกีต้าร์ตัวนึง ยืมเพื่อนมา เราชอบเล่นกีต้าร์ไปร้องเพลงไป ก็เล่นบ่อยแบบเวลาได้ยินเสียงอะไรแบบนั้นก็จะหยิบมาเล่น แล้วคืนนั้นก็จะไม่มีเสียงเลยเว้ย เลยอุปทานไปว่า น้องเขาชอบฟังเราเล่นกีต้าร์หรอ ทุกวันก็เลยจะนั่งเล่นกีต้าร์หลังจากกลับมาที่ห้อง ก็ไม่รู้ว่าเราเพ้อไปเองหรือเปล่า แต่ระหว่างตอนเล่นกีต้าร์ปกติกีต้าร์จะพาดที่ขาขวาใช่ไหม แต่อันนี้เราชาที่ข้างซ้ายเหมือนมีอะไรมาทับตลอดเวลา แต่พอเล่นจบแล้วพูดว่า เล่นเสร็จแล้วลุกได้แล้ว อาการแบบนี้ก็หายไปเฉย ทำแบบนั้นทุกวันจนเหมือนสิ่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราเป็นเวลาเกือบเดือน
มาใกล้สอบไฟนอลละ ถ้าใครอยู่มธจะรู้ว่าช่วงเวลาสอบไฟนอลยาวนานมากกก อย่างเทอมแรกที่ผ่านมาสอบตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.58ถึงม.ค.59 เราก็เริ่มอ่านหนังสือเยอะขึ้น จนไม่ค่อยได้เล่นกีต้าร์ ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าอยากจะเล่น แต่เพื่อนก็บอกว่าไม่ต้องเล่น อ่านหนังสือไป วันถัดมาเราคอลไลน์ไว้กับแฟนเรา(ตอนนี้เป็นแฟนเก่าไปละ) ก็คุยๆเล่นกัน จนมาถึงตอนที่เราฟังเขาพูด แล้วอยู่ดีๆมีอะไรมาดลใจให้หยิบกีต้าร์มาเล่นตอนนั้นเลย
ก็บอกมันไว้ว่า หยุดพูด ขอเล่นกีต้าร์ก่อน แล้วเราก็หยิบมาเล่น เล่นตั้งแต่อินโทร ระหว่างที่เริ่มเล่นจนกำลังจะเข้าท่อนฮุค เรารู้สึกแปลกๆตลอดเวลา เหมือนมือมันสั่นไปหมด แต่ก็ต้องเล่น จนถึงท่อนฮุค มันตะโกนขึ้นมาว่า 'ปิดไมค์! ปิดไมค์!' เราก็ตกใจหยุดเล่นทันที ขนลุกไปหมด ถามว่ามีอะไร มันบอกว่า 'ปิดไมค์ก่อน เล่นให้จบแล้วค่อยเปิด'
เธอ ถึงตอนนั้นเป็นเธอจะกล้าเล่นต่อไหม เราก็ปิดไมค์ เล่นต่อเว้ย แต่ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกแล้วมือปากมันสั่นไปหมด ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ5ทุ่มครึ่ง เราคิดไรไม่ออก คือรีบออกจากห้อง แล้วก็ไปที่หอเพื่อนสนิทที่ม.เดียวกันอ่ะ ระหว่างทาง เราก็บอกมันว่า 'อย่าเล่านะ เรากลัว แต่พูดคร่าวๆได้ไหมว่าเป็นยังไง' มันบอกว่า 'ฟังไม่ได้ เขาไม่ให้ฟัง'
เราถามว่าทำไม มันบอกว่า 'ดึงหูฟังออกแล้วก็ยังได้ยิน ฟังไม่ได้ ไม่ใช่เสียงกีต้าร์ มันบาดหู' โอ้ย เล่าตอนนี้ก็ยังขนลุก 555555555555555555555555 ตอนนั้นแรงเดินยังแทบจะไม่มีเลยมั้ง มันตื้อไปหมด แต่คนเยอะ เพราะเด็กมหาลัยห้าทุ่มครึ่งมันยังเรียกว่าสามทุ่มใช่ป่ะล่ะ 55555 ก็ออกมานอนหอเพื่อน แต่ไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟังเพราะเพื่อนกลัว
คืนนั้นพี่เราที่สนิทกันโทรมาพอดี ช่วงประมาณตีสาม เราก็ออกไปที่ระเบียง เพราะเพื่อนนอนแล้วแต่เราอ่านหนังสืออยู่ เราก็เล่าให้พี่เราฟังหมดเลย แต่เข้าใจความรู้สึกตอนพูดถึงที่มันจะขนลุกแล้วก็ขาสั่นปากสั่นอยู่ตลอดเวลาที่พูดถึงไหม มันเป็นแบบนั้นเลย
ขอเล่าเกริ่นไว้เท่านี้ก่อนนะ อันนี้มีได้ประมาณ1/3ของเรื่องทั้งหมด ถ้ายาวไป ไม่ชอบอ่าน คิดว่าพร่ำเพ้อ คิดว่าเรื่องแต่ง กดออกได้เลยค่ะ ไม่เจอกับตัวไม่เข้าใจจริงๆ