เคยมีปัญหาจากเพื่อนสนิทจนแตกแยกกันไหมคะ

เริ่มมาจากเรากับเพื่อนคนนี้เคยสนิทกันมากจนเรียนมหาลัยเดียวกันเลยเป็นรูมเมทกัน อยู่กันแรกๆไม่มีปัญหาอะไรแต่พอต่างคนต่างมีแฟนก็จะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันแล้ว โดยเพื่อนเรามีแฟนปุ้ปก็จะอยู่ทางบ้านแฟนเค้ามากกว่า และเราพอมีแฟนๆเราก็จะมาหาเป็นครั้งๆบ้างที่หอเรา โดยช่วงแรกๆที่เพื่อนไม่อยู่เพื่อนเคยเอ่ยปากมาว่าพาแฟนมาได้เลย แฟนเราเลยมาอยู่บ่อยขึ้น จนมาเริ่มรู้สึกแปลกๆเวลาที่เพื่อนมาห้องและแฟนของเพื่อนเราก็มาด้วย (***เราทั้ง4คนรู้จักกันอยู่แล้วก็สนิทกันระดับนึง เพราะแฟนนเรากับแฟนนเพื่อนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในรร.เดียวกัน***) โดยเราไม่ได้มีปัญหากับแฟนนเพื่อนเลยทุกครั้งที่มาก็คุยกันสนุกๆอยู่ปกติแล่กลับเป็นเพื่อนเราที่เวลามาจะไม่ค่อยคุยกับเรา เรารู้สึกได้เลยว่าเราคุยกับทางแฟนนของเพื่อนมากกว่า จนมาช่วงที่เราตัดสินใจกันว่าจะยกเลิกสัญญาหอเพราะเพื่อนไม่ได้อยู่เพื่อนก็มาขนของปกติ แต่ความสัมพันธ์ของเรากัลเพื่อนมันเริ่มไม่ค่อยอะไรกันมาสักพักแล้วคุยกันน้อยลงทั้งๆที่เรียนด้วยกัน จนออกจากหอกันไปก็ไม่ได้มีอะไร แต่ขอบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่เซนซิถีปเรื่องเพื่อนมาตั้งแต่มัธยมเราเลยมักจะมีงอนเพื่อนบ้างบ่อยครั้ง อย่างเวลาที่เรางอนมันจะเป็นเรื่องอาจจะไม่ได้เจอเพื่อนนานเราก็เห็นเพื่อนนัดกัน เราก็อยากร่วมจอยด้วยแต่ถ้าอยู่จะให้ไปพูดเลยเราว่ามันก็ไม่น่าเพราะเค้าไม่ได้ชวน เราก็เอาไปเก็บคนเดียว จนมารอบล่าสุดเรารู้สึกไม่ไหว**ตรงส่วนนี้เราผิดเองเราเข้าใจ เพราะเราอารมณ์ชั่ววูบอันฟอลอจ.เพื่อนไป และเราเลยทักเพื่อนไปถามทีหลังว่าเป็นอะไรกับเรารึป่าวที่ไม่ค่อยคุยกับเรา เพื่อนก็ตอบกับมาว่าไม่ได้เป็น แต่เค้าก็ไม่เข้าใจว่าเราทำไมต้องไปโทษเค้าเป็นฝ่ายผิด ทั้งที่เราอันฟอลเค้าไปก่อน จนเราเคลียร์ที่เหมือนไม่เคลียร์เพื่อนเพื่อนก็ไม่ได้แคร์เราแล้วเราก็มาคิดว่ามันก็เป็นที่เราด้วยเพื่อนเกิดจากนิสัยเรา จนก็แยกกันแบบไม่คุยกันแล้ว แล้วเรามารู้ที่หลังจากเพื่อนมหาลัยว่าเพื่อนไปเล่าให้คนอื่นฟังในทางที่บิดเบือนไปหลายอย่าง เป็นเรื่องจากตอนที่เป็นรูมเมทกัน เรื่องแรกที่เราไม่ค่อยโอเค (เรื่องนี้อาจจะงงๆ เพราะมีหลายบุคคลในเรื่อง)ในช่วงที่ก่อนจะเริ่มขนของย้ายหอเพื่อนเราทักมาถามว่าเราบอกทางแม่ว่ายังไงที่จะย้ายหอ เราก็บอกตามความจริงคือเพื่อนเราไม่ค่อยได้อยู่ห้อง แชะเพื่อนก็ได้บอกว่าแม่ของเค้าได้ยินในมาว่าเพื่อนกลับห้องเช้าทุกวัน ซึ่งใช่ที่เราเคยพูดกับทางแม่ของเราแต่ไม่ใช่ในทางความหมายแบบนี้ เรื่องจริงๆคือ แม่เรา เเม่เพื่อนรูมเมท และแม่ของเพื่อนอีก1คน รู้จักกันและอยู่หมู่บ้านเดียวกัน โดยแม่เราและแม่เพื่อนอีกคนนึงได้มาเจอกันและก็ถามกันปกติว่าเป็นยังไง เราสบายดีมัเยแม่เราก็บอกไปว่าเราไม่สบาย เมทก็ไม่ได้อยู่หอแต่เค้าห็จะมาตอนเช้าเพื่อที่จะไปเรียนด้วยกัน ก็จบไป พอเราเห็นเพื่อนทักมาเราก็บอกตามนี้ไปและแม่เราก็ได้พิมพ์ข้อความฝากขอโทษเมท เราก็แคปแชทให้เพื่อน ทางแม่เราได้โทรไปถามแม่เพื่อนอีกคนว่าไปพูดอะไรกับใครแบบนั้นรึป่าว เค้าก็ปฏิเสธมาเลยว่าไม่เคยพูดเค้าจะทำแบบนั้นทำไม จนเรื่องนี้จบก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ที่เรามารู้ที่หลังจากเพื่อนที่มหาลัยว่าเรื่องมันอีกแบบคือเพท่อนไปเล่าว่าเราบอกแม่ว่าเราบอกว่าเค้าไปเที่ยวกลางคืนแล้วก็กลับมาตอนเช้าอะไรอย่างนี้ และอีกเรื่องคือเรื่องการอยู่หอที่เราพาเเฟนมา เพื่อนไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าเราพาแฟนมาอยู่แล้วยังให้เค้าจ่ายค่าหอ แต่เราก็แก้ต่างว่าทุกครั้งที่เราเก็บเราหาร3 คือเราแฟนเราและเพื่อนที่พาแฟนมาด้วย โดยทุกทั้งที่จะจ่ายเราถามเค้าทุกครั้งเค้าก็โอเคมั้ยเค้าก็ยินดีจ่ายและไม่เคยพูดอะไร ถ้าเดือนไหนไม่มาเค้าก็ไม่ต้องจ่าย เราก็เลยไม่โอเค แบบนี้มันสมควรหรอที่จะเอาไปพูดให้คนอื่นเข้าใจผิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่