ไปเที่ยว Malta กับผมไหมครับ (รูปแน่นเชียะ)

คือผมเพิ่งไปเที่ยวมาครับ แล้วก็มีไอเดียก่อนจะไปว่า เห้ย !! ฉันอยากรีวิวอะไรเกร๋ๆลงพันทิปอะแกร สภาพอากาศก็ช่างเป็นใจซะเหลือเกิน แล้วพอดีผมเพิ่งได้กล้องมาใหม่อีก ก็เลยถือโอกาสตรงนี้เอากล้อง Olympus OM-D E-M10 ไปลองครับ นี่คือกล้องตัวแรกของผมครับ ก่อนหน้านี้ก็ใช้ไอโฟนถ่ายรูปเล่นมาตลอด

     มาเข้าเรื่องว่าทำไมต้องไป มอลต้า กันดีกว่าเนอะ .​.. คือมันเป็นการพักร้อนที่ไม่ได้วางแผนเท่าไหร่ ช่วงนั้นผมเองกำลังหาที่เที่ยวพอดี แต่ดูไว้หลายที่ เช่น Mallorca(Spain), Porto(Portugal) และ Gran Canaria(Spain) แต่สุดท้ายก็ไป Malta เพราะตั๋วถูกและดูใหม่ดีสำหรับผมและแฟน

ปล.รูปที่ถ่าย 99% มาจากกล้องใหญ่นะครับ จะมีแค่รูปเดียวที่มาจากไฮโฟน เดี๋ยวผมจะเขียนบอกไว้(สีมันจะแปลกๆเพราะผมปรับ) ส่วนรูปที่มาจากกล้อง ผมขออนุญาตไม่ปรับสีนะครับ ดูกันไปสดๆแบบนั้นแหละ รูปที่เอามาลงผ่านก็ย่อขนาดมานะครับ ฉะนั้นคุณภาพก็ตามที่เห็นเลย

มาครับมา ไปเที่ยว Malta กับผมกันได้ละ . . . (ผมอยู่เยอรมนี ฉะนั้นถ้าใครอยู่ประเทศอื่นๆในโลก ก็ปรับวิธีการเดินทางเอานะครับ)


ผมออกเดินทางจากสนามบิน Karlsruhe - Baden Airpark ตั้งแต่เช้าครับ ไปกับสายการบิน low cost "Ryan Air"



ด้วยความทีเป็น low cost จะดื่มจะกินอะไรก็ต้องจ่ายเพิ่มครับ ถามว่าแพงไหม แพงมั้งครับ ผมโดนไป 7 euro


ระหว่างผมก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆครับ มันนอนไม่หลับเลยเพราะตื่นเต้นงะ ไม่ได้นั่งเครื่องมาเกือบๆ 3 ปีเลยอะครับ



พอประมาน 2 ชั่วโมง 15 นาที เราก็จะถึง มอลต้า กันละครับ เร็วดีเนอะ ^^




ตอนผมเห็น มอลต้า จากบนท้องฟ้า อุทานในใจเบาๆในใจว่า "ต้นไม้เค้าหายไปไหนหมด เพราะเค้าเป็นเกาะแน่ๆเลย"
พอเท้าแตะพื้น ก็เดินเข้าสนามบินมาครับ รอกระเป๋า แล้วก็เดินไปซื้อตั๋วรถ เคาเตอร์ซื้อตั๋วพอเดินออกมาจากด่านตรวจก็จะเจอครับ
ผมเลือกซื้อตั๋ว 7 วัน ขึ้นไม่จำกัดเที่ยว ราคาอยู่ที่ 21 euro  ครับ (ราคานี้ไม่รวมพวกเรือข้ามฝากนะครับ)


จากนั้นก็ไปรอรถบัสเพื่อที่จะไปที่พักอะครับ ซึ่งผมจะบอกว่าจริงๆแล้ว โรงแรมเค้าส่งเมลล์มาถามตั้งแต่ที่เราจองที่พักกับเค้าอะครับว่าต้องให้เค้าส่งรถมารับไหม ราคา 20 euro สำหรับไม่เกิน 4 ท่าน แต่ตอนนั้นเราไปกัน 2 คนไงครับ แล้วก็แอบดูในแผนที่ไปแล้วว่า เอ้ออออ มันก็ไม่ไกลนะ เรานั่งบัสเอาก็ได้ ที่ไหนได้คุณพระช่วย รถมันอ้อมมมมมมมมมมมม อ้อมมมากกก อะครับ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ผมทั้งยืนและนั่งบนรถบัส คนก็แน่นมาก อารมณ์เหมือนตอนที่ผมนั่งบัสในกรุงเทพฯเลยครับ แถมคนขับยังเล่นมือถือแล้วขับรถไปด้วย ถนนเค้าดีครับ แต่มันคดเคี้ยวซะเหลือเกิน นึกแล้วก็ขำหนะครับ พอเข้าชั่วโมงที่  2 ผมเลยถามคุณแฟนว่า โรงแรมห่างจากเราตอนนี้เยอะไหม เราลงแล้วเดินเอาได้ไหม ไม่ไหวแล้วเพราะเวียนหัวและร้อนครับ พอเค้าตอบกลับมาว่า ไม่เกิน 500 เมตรจากป้ายรถที่เรากำลังจะลง ผมกดกริ่งเลยแล้วลากกระเป๋าลง แล้วก็เป็นอย่างที่เค้าพูดครับโรงแรมเราไม่ไกลจากป้ายรถจริงๆ

โรงแรมที่ผมพักอยู่เมือง  Sliema นะครับ เดินทางสะดวก อาหารการกินมากมาย นั่งเรือออกไปเที่ยวก็สะดวกดีด้วยครับ


นี่คือภาพถ่ายจากที่พักครับ





พอเอาของเก็บเรียบร้อยก็ออกมาหาขนมกินกันครับ รูปบนนี้ถ่ายจากไอโฟนนะครับ อันล่างก็จากกล้องใหญ่ปกติ



เห็นเค้านั่งกันริมน้ำผมก็อยากจะนั่งบ้างงะ



จากนั้นก็เข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าครับ เพราะว่าตอนนั่งรถผ่านแอบเหลือบเห็นว่ามันมีที่เห็นเราได้เล่นน้ำกัน แล้วระหว่างก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย คือเห็นอะไรก็ถ่ายอะครับ มันแปลกตาไปหมด มันสวย น้ำมันใสมาก ถนนหนทางเค้าก็สะอาดดีนะครับ



เดินมาซักพักก็ถึงที่เล่นน้ำได้อะครับ



เล่นน้ำเสร็จก็เดินกลับที่พักครับเพื่อที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมหาข้าวเย็นกินกัน พอเราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จก็นั่งบัสครับเพื่อที่จะไปหาข้าวกิน เราเลือกใช้บัสเส้นทางที่จะไป St.Julian ครับเพราะแถวนั้นร้านอาหารเยอะดี ระหว่างพอผมเห็นว่ามันสวยดีก็จะกดกริ่งลงรถแล้วก็ถ่ายรูปเล่นหนะครับ





เย็นนี้ผม  2 คน ขอฝากท้องกันที่ร้านนี้ครับ อาหารดีครับ ราคาน่าคบหาด้วย วิวดี อากาศดี (ขอปิดท้ายวันแรกด้วนรูปนี้นะครับ)


เช้าวันที่ 2 เราไม่มีแผนการเลยครับว่าจะไปไหนดี คิดแค่ว่าลองเดินเล่นหาร้านโปสการ์ด, ร้านขายของที่ระลึก, ไปรษณีย์แล้วก็หาของกินกันละกัน ซึ่งแน่นอนครับว่า เราเลือกนั่งบัสมุ่งหน้าไปทาง St.Julian เพราะมันเป็นดงกิน ดงเที่ยว ดงขายของ และแถวนี้ก็มีร้านนวดไทยด้วยนะครับ



เดินมาแปปนึงผมก็มาสั่ง Cola Beer ดื่มครับ สีมันเหมือน Hot Chocolate ดีนะอะ ขนาดผสม Cola  แล้วนะ ผมก็ยังเมา คือบับ . .  


จากนั้นก็มีไอเดียว่า เห้ยยยย ลองนั่งเรือข้ามไปเมืองหลวงของ มองต้า กันดีไหม เราก็เลยนั่งบัสกลับมาที่พักครับ เพื่อมาต่อแถวซื้อตั๋วข้ามไป Valetta กัน ตั๋วรถบัสที่เราซื้อจากสนามบิน ไม่สามารถใช้กับเรือข้ามฝากได้นะครับ ตามที่กล่าวไปแล้วเมื่อตอนต้น ราคา 1,50 euro/คน  ครับ



เมืองด้านหน้าที่เห็นคือ Valetta นั้นเองครับ


ถึงฝั่งเมืองหลวงละครับ ที่นี่เราจะเห็นคนนั่งตกกันทั่วไปริ่มทะเลอะครับ แต่รูปนี้ผมได้เจ้าแมวเข้ามาร่วมเฟรมด้วย นางคงรอกินปลาครับ


ผมก็เดินเล่นอยู่ใน Valetta ประมาน 2-3 ชั่วโมงครับวันนี้ เพราะตั้งใจว่าตอนเย็นจะกลับฝั่งที่พักแล้วจะหาซื้อตั๋วเรือเพื่อไปเที่ยวที่ Blue Lagoon กันในวันถัดไป ก็ชิวๆเรื่อยๆเห็นอะไรก็ถ่ายมา คือเมืองเค้ามันเก่าแล้วมันก็ผสมความทันสมัยลงไปด้วยการมีร้านค้าแบรนเนมอยู่ในตึกรามบ้านช่องที่มันเก่าๆหนะครับ











เดินเสร็จก็นั่งเรือกลับฝั่งที่พักครับ


โชคดีมากครับมาทันซื้อตั๋วเรือเพื่อที่จะไปเที่ยวกันในวันถัดไป ผม 2 คนโดนค่าตั๋วไปคนละ 10 euro เราตัดสินใจไปแค่ Blue Lagoon ครับ เพราะอยากเล่นน้ำกันนานๆ คนขายตั๋วบอกว่าถ้าแค่ Blue Lagoon เค้าจะปล่อยให้เราเล่นน้ำประมาน 4 ชั่วโมงครับ พอได้ตั๋วแล้วเราก็กลับเข้าที่พักเพื่อเตรียมตัวออกไปกินข้าวเย็นกันครับ


หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ เราก็นั่งบัสโดยใช้เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไป St.Julian ครับ เพื่อมาหาข้าวเย็นกินกัน ร้านอาหารในระแวงนี้เยอะแยะมากมายนะครับ เลือกเอาเลยว่าเราชอบร้านไหนก็พุ่งเข้าไปร้านนั้นๆได้เลย ส่วนราคาก็แพงนั้นแหละครับ ผมว่าแพง เพราะผมอยู่เยอรมนีก็ไม่กินข้าวกันราคาแบบนี้ แต่นี่เรามาเที่ยวก็จัดซะหน่อยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่