หลายๆท่านคงเคยเห็นหรือได้ยินโฆษณาสรรพคุณของอุปกรณ์ Performance Chip Tuning Box ตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ที่แค่เสียบเข้าไปในช่อง OBD2 ของรถ แล้วจะสามารถทำให้รถแรงขึ้นหรือประหยัดน้ำมันขึ้นได้ บางคนอาจจะสงสัยและอยากลองว่ามันจะได้ผลจริงไหม และก็มีอีกหลายๆเสียงที่แอนตี้ และดูถูกดูแคลนอุปกรณ์ชิ้นนี้ซะเหลือเกิน วันนี้ ผมขอเป็นตัวแทนเหล่ามนุษยชาติพันทิป ในการทดสอบประสิทธิภาพของตัว NitroOBD2 (เท่าที่จะทำได้) ว่าหลังใช้งานเจ้าตัว NitroOBD2 นี้ ผลออกมาเป็นอย่างไรครับ
รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของผมที่เป็น Sponsor Review นะครับ เนื่องจากผมโชคดีได้ไอ้เจ้าตัวนี้มาจากพี่ในคลับรถ คือพี่เขาซื้อมาแล้วเขาเห็นผมอยากลองใช้เค้าเลยให้ผมยืมนานเท่าที่อยากใช้ เบื่อเมื่อไรค่อยเอาไปคืน ขอยืนยันว่าผมไม่ได้รับอุปกรณ์ชิ้นนี้มาจากร้านค้าร้านไหน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆทองๆแต่อย่างใดนะครับ
NitroOBD2 คืออะไร
มันถูกให้คำนิยามว่า Performance Chip Tuning Box ครับ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เล็กๆที่ใช้เเสียบไปที่ช่อง OBD2 เลยเรียกกันสั้นๆว่า NitroOBD2 ตอนนี้มีขายกันอยู่เกลื่อนเน็ตครับ แค่กด Search ก็เจอขายกันอยู่ตรึม โดยส่วนตัว ผมเองยังไม่รู้ว่าใครหรือบริษัทอะไรเป็นตัวแทนขายในไทย ซึ่งเจ้าตัวนี้มีออกมาขาย 2 รุ่น หรือจะเรียกว่าออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการ 2 แบบครับ คือ รุ่นนึงเพื่อเพิ่มมรรถนะความแรง และอีกรุ่นเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง รุ่นที่ผมเอามาทดสอบนี้ เป็นรุ่นที่ใช้เพื่อเพิ่มสมรรถนะความแรงครับ หน้าตาจะเป็นแบบนี้
สรรพคุณ
แค่เห็น Packaging ก็สะดุดตากับสรรพคุณแล้วครับ ว่าใช้แล้วจะได้แรงม้าเพิ่มขึ้น 35% ได้แรงบิดเพิ่มขึ้น 25% เอาง่ายๆถ้าเป็นรถบ้านขนาดย่อมๆคันนึง สเปคแรงม้าตามโรงงาน 100 ม้า ใช้ไอ้เจ้าตัวนี้แล้วจะกลายเป็นรถขับสนุกขึ้นมาทันทีเพราะจะกลายเป็นรถที่มี 135 แรงม้าไปเลยครับ ซึ่งหลายๆท่านที่อยุ่ในวงการรถแต่งน่าจะพอทราบดีว่า โดยปกติแล้วการใช้กล่องจูนสักใบกับรถเดิมๆ ได้ม้ามาสัก 5% 10% นี่ถือว่าเยอะแล้วครับ และโดยปกติแล้ว การที่จะได้แรงม้าเพิ่มขึ้น 1% ตัว จะต้องเสียเงินหลายพัน แต่ NitroOBD2 นี่ทำได้ 35 ตัว ในราคาไม่ถึงพัน มันจะยอดมากเลยถ้ามันทำได้แบบนั้นจริงๆครับ
วิธีการใช้
วิธีการใช้งานอุปกรณ์ตัวนี้มีมากมายในเน็ตครับ หาอ่านโดยละเอียดได้เลย ผมขอสรุปสั้นๆว่า แค่เสียเข้าไปที่ช่อง OBD2 บิดกุญแจ 1 step เอาลวดเสียบที่รูของตัว NitroOBD2 ไม่กี่สิบวินาทีเพื่อทำการรีเซ็ตหรืออาจจะเรียกว่า Sync ให้รถกับอุปกรณ์ทำความรู้จักกัน แล้วก็สตาร์ทเครื่องยนต์ใช้งานไปตามปกติ ซึ่งตามคำฟุ้ง เค้าบอกว่าให้ใช้ไปอย่างต่ำ 200 กม.ถึงจะสามารถวัดผลได้ครับ
ความรู้สึกหลังการใช้งาน
โดยปกติรถผมใช้แก๊สครับ แต่เมื่ออยากทำการทดลองนี้ ผมจึงใช้สลับกันทั้งแก๊สและน้ำมันให้ได้ระยะทางและระยะเวลาไกล้เคียงกัน ผมใช้งานไปทั้งหมดเกิน 500 กม. ในระยะเวลา 1 สัปดาห์ถึงเริ่มทำการทดสอบวัดค่าครับ ผมพยายามจับความรู้สึก พยายามจับผิด ว่ามีอะไรผิดปกติไประหว่างการใช้งานบ้างไหม มีบางครั้ง (ซึ่งน้อยครั้ง) ที่รู้สึกว่ามันก็มีจังหวะที่ดีขึ้นบ้างเหมือนกันนะ แต่มันก็บางเบาไม่ชัดเจนครับ จะเรียกว่าออกแนวมโนไปเองก็ได้อยู่ แต่ในใจลึกๆก็อยากให้ผลมันออกมาดีเกินคาดเหมือนกันนะ คือไม่ได้เทสด้วยความมีอคติใดๆ ผลออกมายังไงก็ตามนั้น แต่เท่าที่ใช้มาประมาณ 500 กม. ความรู้สึกผมเท่าที่จับได้คือ ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนครับ ถ้าเปลี่ยนก็คงเปลี่ยนน้อยมากๆจนผมรู้สึกไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ผมว่าน่าจะไม่เท่าคำฟุ้งที่ว่า 25% More Power 35% More Torque แน่นอน
ผลการทดลองบน Dyno
ผมได้จับขึ้นไดโนทดสอบแรงม้าและแรงบิด ว่ากันตั้งแต่รอบต่ำๆที่ 2000 รอบ ไปจนถึงรอบสูง 8200 รอบให้ดูกันชัดๆไปเลยครับ สีน้ำเงินเป็น Before และสีแดงเป็ย After นะครับ ซึ่งผลออกมาแบบว่า ไม่น่าเชื่อ! แรงม้าเพิ่มขึ้นจริงๆ เกือบๆ 1 ตัวครับ (คิดเป็น % ก็ ไม่ถึง 0.5%) และแรงบิดก็เพิ่มขึ้นมา 2 Nm (ไม่ถึง 1%) มันอาจจะแค่นิดหน่อย แต่มันเพิ่มขึ้นจริงๆ!! (การวัดผลมีความคลาดเคลื่อนจากตัวแปรหลายอย่าง โปรดใช้วิจารณญาณครับ) ถ้าย้อนกลับไปดูคำโปรยเรื่องสรรพคุณที่ว่า 25% More Power 35% More Torque แล้ว ถือว่าไม่ไกล้เคียงเลยครับ แต่ถ้าสมมติว่าไม่มี error เลย การได้ม้ามา 1 ตัว ในราคาที่ไม่ถึง 1000 บาท จะเรียกว่าคุ้มค่าดีไหม ต้องลองพิจารณาดูเอาครับ
ผลทดสอบความเร็ว 0-180
ไม่เพียงแต่ได้ผลในเรื่องแรงม้าและแรงบิดด้านบนที่แตกต่างเล็กน้อย จากคลิปการทดสอบด้านล่างก็ได้ผลไกล้เคียงกัน ว่า 0-100 และ 0-180 ก็ทำความเร็วได้ดีขึ้นเล็กน้อย ราวๆ 2% ครับ (การวัดผลมีความคลาดเคลื่อนได้จากตัวแปรหลายอย่าง โปรดใช้วิจารณญาณครับ)
สรุปผล
ก่อนใช้ผมก็คิดเหมือนๆกับใครหลายๆคนครับ ไม่เชื่อว่าอุปกรณ์ตัวเล็กๆจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ผลการทดลองก็ออกมาแบบนี้ ผมเองก็ยังแปลกใจกับผลลัพธ์อยู่เหมือนกันครับ (ใจหนึ่งผมก็ยังแอบคิดว่า อาจจะเป็นแค่ error ของการทดลองก็ได้นะ) แต่ถ้าเราย้อนกลับไปดูคำโฆษณาที่ว่า 25% More Power 35% More Torque ก็คงต้องบอกว่าไม่ไกล้เคียงแรงโม้เท่าไรครับ ถ้าสรรพคุณบอกแบบนั้น แต่ใช้งานจริงแล้วได้แค่ 0.5% จริงๆตามที่ผลการทดลองออกมา ผมถือว่าหลอกลวงครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบันทักนี้นะครับ (ถึงแม้จะอ่านข้ามๆก็ตาม) การทดลองนี้แค่เพื่ออยากยืนยันให้เห้นกันชัดๆเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้มีบางคนที่ออกมาทดลองแต่ก็ค่อนข้างที่จะอยู่ฝั่งผู้ขายเสียมากกว่า ผมกล้ายืนยันว่าผมทดลองโดยทีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคนขายเลย ผลที่ออกมาก็เป็นไปตามที่ได้อ่านครับ ขอย้ำอีกครั้ง การวัดผลมีความคลาดเคลื่อนได้จากตัวแปรหลายอย่าง โปรดใช้วิจารณญาณครับ
สุดท้ายอีกครั้ง ผมเป็นคนใช้รถใช้ถนนธรรมดาสามัญชน ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถมากมายนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดหรือใช้คำไม่สุภาพ ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอย้ำอีกที ผมไม่ใช่คนขาย และไม่รู้จักคนขาย รู้จักแต่พี่คนที่ซื้อมาซึ่งเอามาให้ผมลอง แค่นั้นนะครับ
ปล. ผมไม่ได้แกะดูข้างในนะครับ เพราะผมต้องคืนพี่เค้า ผมพยายามมองหาเหลี่ยมอยู่ว่าแกะตรงไหนดี แต่หาเหลี่ยมไม่เจอเลยกลัวมันจะพัง สรุปเลยไม่ได้แกะครับ เลยไม่ได้เห็นภายในกันเลยว่าข้างในมีอะไร ใครเคยแกะช่วยเอามาแปะในคอมเม้นต์ด้วยครับ และขอขอบพระคุณน้า Sponsor ใจดีที่ให้ยืมของมาลองเล่นด้วยครับ
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[SR] รีวิว ทดสอบประสิทธิภาพ ก่อนและหลังใช้งาน NitroOBD2
รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของผมที่เป็น Sponsor Review นะครับ เนื่องจากผมโชคดีได้ไอ้เจ้าตัวนี้มาจากพี่ในคลับรถ คือพี่เขาซื้อมาแล้วเขาเห็นผมอยากลองใช้เค้าเลยให้ผมยืมนานเท่าที่อยากใช้ เบื่อเมื่อไรค่อยเอาไปคืน ขอยืนยันว่าผมไม่ได้รับอุปกรณ์ชิ้นนี้มาจากร้านค้าร้านไหน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆทองๆแต่อย่างใดนะครับ
NitroOBD2 คืออะไร
มันถูกให้คำนิยามว่า Performance Chip Tuning Box ครับ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เล็กๆที่ใช้เเสียบไปที่ช่อง OBD2 เลยเรียกกันสั้นๆว่า NitroOBD2 ตอนนี้มีขายกันอยู่เกลื่อนเน็ตครับ แค่กด Search ก็เจอขายกันอยู่ตรึม โดยส่วนตัว ผมเองยังไม่รู้ว่าใครหรือบริษัทอะไรเป็นตัวแทนขายในไทย ซึ่งเจ้าตัวนี้มีออกมาขาย 2 รุ่น หรือจะเรียกว่าออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการ 2 แบบครับ คือ รุ่นนึงเพื่อเพิ่มมรรถนะความแรง และอีกรุ่นเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง รุ่นที่ผมเอามาทดสอบนี้ เป็นรุ่นที่ใช้เพื่อเพิ่มสมรรถนะความแรงครับ หน้าตาจะเป็นแบบนี้
สรรพคุณ
แค่เห็น Packaging ก็สะดุดตากับสรรพคุณแล้วครับ ว่าใช้แล้วจะได้แรงม้าเพิ่มขึ้น 35% ได้แรงบิดเพิ่มขึ้น 25% เอาง่ายๆถ้าเป็นรถบ้านขนาดย่อมๆคันนึง สเปคแรงม้าตามโรงงาน 100 ม้า ใช้ไอ้เจ้าตัวนี้แล้วจะกลายเป็นรถขับสนุกขึ้นมาทันทีเพราะจะกลายเป็นรถที่มี 135 แรงม้าไปเลยครับ ซึ่งหลายๆท่านที่อยุ่ในวงการรถแต่งน่าจะพอทราบดีว่า โดยปกติแล้วการใช้กล่องจูนสักใบกับรถเดิมๆ ได้ม้ามาสัก 5% 10% นี่ถือว่าเยอะแล้วครับ และโดยปกติแล้ว การที่จะได้แรงม้าเพิ่มขึ้น 1% ตัว จะต้องเสียเงินหลายพัน แต่ NitroOBD2 นี่ทำได้ 35 ตัว ในราคาไม่ถึงพัน มันจะยอดมากเลยถ้ามันทำได้แบบนั้นจริงๆครับ
วิธีการใช้
วิธีการใช้งานอุปกรณ์ตัวนี้มีมากมายในเน็ตครับ หาอ่านโดยละเอียดได้เลย ผมขอสรุปสั้นๆว่า แค่เสียเข้าไปที่ช่อง OBD2 บิดกุญแจ 1 step เอาลวดเสียบที่รูของตัว NitroOBD2 ไม่กี่สิบวินาทีเพื่อทำการรีเซ็ตหรืออาจจะเรียกว่า Sync ให้รถกับอุปกรณ์ทำความรู้จักกัน แล้วก็สตาร์ทเครื่องยนต์ใช้งานไปตามปกติ ซึ่งตามคำฟุ้ง เค้าบอกว่าให้ใช้ไปอย่างต่ำ 200 กม.ถึงจะสามารถวัดผลได้ครับ
ความรู้สึกหลังการใช้งาน
โดยปกติรถผมใช้แก๊สครับ แต่เมื่ออยากทำการทดลองนี้ ผมจึงใช้สลับกันทั้งแก๊สและน้ำมันให้ได้ระยะทางและระยะเวลาไกล้เคียงกัน ผมใช้งานไปทั้งหมดเกิน 500 กม. ในระยะเวลา 1 สัปดาห์ถึงเริ่มทำการทดสอบวัดค่าครับ ผมพยายามจับความรู้สึก พยายามจับผิด ว่ามีอะไรผิดปกติไประหว่างการใช้งานบ้างไหม มีบางครั้ง (ซึ่งน้อยครั้ง) ที่รู้สึกว่ามันก็มีจังหวะที่ดีขึ้นบ้างเหมือนกันนะ แต่มันก็บางเบาไม่ชัดเจนครับ จะเรียกว่าออกแนวมโนไปเองก็ได้อยู่ แต่ในใจลึกๆก็อยากให้ผลมันออกมาดีเกินคาดเหมือนกันนะ คือไม่ได้เทสด้วยความมีอคติใดๆ ผลออกมายังไงก็ตามนั้น แต่เท่าที่ใช้มาประมาณ 500 กม. ความรู้สึกผมเท่าที่จับได้คือ ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนครับ ถ้าเปลี่ยนก็คงเปลี่ยนน้อยมากๆจนผมรู้สึกไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ผมว่าน่าจะไม่เท่าคำฟุ้งที่ว่า 25% More Power 35% More Torque แน่นอน
ผลการทดลองบน Dyno
ผมได้จับขึ้นไดโนทดสอบแรงม้าและแรงบิด ว่ากันตั้งแต่รอบต่ำๆที่ 2000 รอบ ไปจนถึงรอบสูง 8200 รอบให้ดูกันชัดๆไปเลยครับ สีน้ำเงินเป็น Before และสีแดงเป็ย After นะครับ ซึ่งผลออกมาแบบว่า ไม่น่าเชื่อ! แรงม้าเพิ่มขึ้นจริงๆ เกือบๆ 1 ตัวครับ (คิดเป็น % ก็ ไม่ถึง 0.5%) และแรงบิดก็เพิ่มขึ้นมา 2 Nm (ไม่ถึง 1%) มันอาจจะแค่นิดหน่อย แต่มันเพิ่มขึ้นจริงๆ!! (การวัดผลมีความคลาดเคลื่อนจากตัวแปรหลายอย่าง โปรดใช้วิจารณญาณครับ) ถ้าย้อนกลับไปดูคำโปรยเรื่องสรรพคุณที่ว่า 25% More Power 35% More Torque แล้ว ถือว่าไม่ไกล้เคียงเลยครับ แต่ถ้าสมมติว่าไม่มี error เลย การได้ม้ามา 1 ตัว ในราคาที่ไม่ถึง 1000 บาท จะเรียกว่าคุ้มค่าดีไหม ต้องลองพิจารณาดูเอาครับ
ผลทดสอบความเร็ว 0-180
ไม่เพียงแต่ได้ผลในเรื่องแรงม้าและแรงบิดด้านบนที่แตกต่างเล็กน้อย จากคลิปการทดสอบด้านล่างก็ได้ผลไกล้เคียงกัน ว่า 0-100 และ 0-180 ก็ทำความเร็วได้ดีขึ้นเล็กน้อย ราวๆ 2% ครับ (การวัดผลมีความคลาดเคลื่อนได้จากตัวแปรหลายอย่าง โปรดใช้วิจารณญาณครับ)
สรุปผล
ก่อนใช้ผมก็คิดเหมือนๆกับใครหลายๆคนครับ ไม่เชื่อว่าอุปกรณ์ตัวเล็กๆจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ผลการทดลองก็ออกมาแบบนี้ ผมเองก็ยังแปลกใจกับผลลัพธ์อยู่เหมือนกันครับ (ใจหนึ่งผมก็ยังแอบคิดว่า อาจจะเป็นแค่ error ของการทดลองก็ได้นะ) แต่ถ้าเราย้อนกลับไปดูคำโฆษณาที่ว่า 25% More Power 35% More Torque ก็คงต้องบอกว่าไม่ไกล้เคียงแรงโม้เท่าไรครับ ถ้าสรรพคุณบอกแบบนั้น แต่ใช้งานจริงแล้วได้แค่ 0.5% จริงๆตามที่ผลการทดลองออกมา ผมถือว่าหลอกลวงครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบันทักนี้นะครับ (ถึงแม้จะอ่านข้ามๆก็ตาม) การทดลองนี้แค่เพื่ออยากยืนยันให้เห้นกันชัดๆเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้มีบางคนที่ออกมาทดลองแต่ก็ค่อนข้างที่จะอยู่ฝั่งผู้ขายเสียมากกว่า ผมกล้ายืนยันว่าผมทดลองโดยทีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคนขายเลย ผลที่ออกมาก็เป็นไปตามที่ได้อ่านครับ ขอย้ำอีกครั้ง การวัดผลมีความคลาดเคลื่อนได้จากตัวแปรหลายอย่าง โปรดใช้วิจารณญาณครับ
สุดท้ายอีกครั้ง ผมเป็นคนใช้รถใช้ถนนธรรมดาสามัญชน ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถมากมายนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดหรือใช้คำไม่สุภาพ ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอย้ำอีกที ผมไม่ใช่คนขาย และไม่รู้จักคนขาย รู้จักแต่พี่คนที่ซื้อมาซึ่งเอามาให้ผมลอง แค่นั้นนะครับ
ปล. ผมไม่ได้แกะดูข้างในนะครับ เพราะผมต้องคืนพี่เค้า ผมพยายามมองหาเหลี่ยมอยู่ว่าแกะตรงไหนดี แต่หาเหลี่ยมไม่เจอเลยกลัวมันจะพัง สรุปเลยไม่ได้แกะครับ เลยไม่ได้เห็นภายในกันเลยว่าข้างในมีอะไร ใครเคยแกะช่วยเอามาแปะในคอมเม้นต์ด้วยครับ และขอขอบพระคุณน้า Sponsor ใจดีที่ให้ยืมของมาลองเล่นด้วยครับ
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/