เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2559 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงมติคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กรณีการพิจารณาค่าเสียหายเนื่องจากบริษัทแจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ไม่ชำระค่าประมูลคลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิร์ตซ์ ว่า มติ กทค.เห็นชอบเรียกค่าเสียหายจากบริษัทแจสฯ 199.42 ล้านบาท และหลักประกันจำนวน 644 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่บริษัทแจสต้องจ่ายให้รัฐ 843.42 ล้านบาท

นายฐากรกล่าวว่า กทค.ยังมีมติเห็นด้วยว่าไม่มีข้อกำหนดใดๆ ที่เอาผิดกับบริษัทในเครือจัสมินฯที่ได้ใบอนุญาตอื่นๆ จาก กสทช.ได้ ดังนั้นใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม และอินเตอร์เน็ตของบริษัทในเครือของจัสมินฯ ที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช.ยังมีผลใช้ต่อไป

นายฐากรกล่าวว่า กทค.พิจารณาประเด็นเรียกค่าเสียหายจากบริษัทแจสฯใน 5 ข้อด้วยกัน

1. ค่าใช้จ่ายในการจัดประมูลคลื่น 900 เม็กกะเฮิร์ตซ์ เมื่อวันที่ 15-19 ธันวาคม 2558 บริษัทแจส ชนะประมูลแต่ไม่มีเงินชำค่าใบอนุญาต คิดเป็นเงิน 20.248 ล้านบาท
2. ค่าใช้จ่ายในการจัดประมูลคลื่น 900 เม็กกะเฮิร์ตซ์ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 ซึ่งบริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ชนะประมูล 75,654 ล้านบาท บริษัทแจสฯต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในวงเงิน 10 ล้านบาท
3. ส่วนต่างของเงินที่ได้จากการประมูลคลื่น 900 เม็กกะเฮิร์ตซ์ ปรากฏว่า บริษัทแอดวานซ์ฯชนะประมูลไป จึงไม่มีค่าส่วนต่างเกิดขึ้น
4. ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ บริษัทแจสฯ ชนะประมูลในครั้งแรกต้องชำระเงินงวดที่ 1 จำนวน 8,040 ล้านบาท ภายในวันที่ 21 มีนาคม 2559 เมื่อบริษัทแจสฯไม่มีชำระหนี้ จึงต้องรับผิดชอบดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 7.5 หากบริษัทแอดวานซ์ฯมาชำระเงินกับ กสทช.ในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทแจสฯจะต้องจ่ายดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้รวม 169.175 ล้านบาท
5. ในประเด็นค่าเสียโอกาสของรัฐและประชาชนจากการใช้คลื่นความถี่ ขึ้นอยู่กับผู้ชนะการประมูลรายใหม่ ทั้งนี้ถ้าบริษัทแอดวานซ์ฯ เปิดบริการในระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2559 – 23 มีนาคม 2561 กสทช.ไม่สามารถเรียกค่าเสียโอกาส

นายฐากรยังกล่าวอีกว่า มติ กทค.พิจารณาพฤติกรรมการประมูลคลื่น 900 เม็กกะเฮิร์ตซ์ ไม่พบว่า มีหลักฐานส่อให้เห็นในทางที่ทำให้รัฐเสียประโยชน์หรือรัฐมีรายได้ลดลงหรือมีการสมยอมราคาใดๆ ทั้งนี้ มติ กทค.ก่อนหน้าเห็นว่าการประมูลดังกล่าวเป็นไปด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรมและแข่งขันราคาอย่างแท้จริง

นายฐากรกล่าวว่า เมื่อประมวลผลการประมูลคลื่น 900 เม็กกะเฮิร์ตซ์ แม้บริษัทแจสฯจะไม่ชำระหนี้ แต่เมื่อประมูลในครั้งใหม่ บริษัทแอดวานซ์ฯ ชนะประมูล ทำให้รัฐมีรายได้ และยังเรียกค่าเสียหายจากบริษัทแจสฯเพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้บริษัท แอดวานซ์ จะต้องจ่ายประมูลคลื่น 900MHz รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 80,949.79 ล้านบาท ค่าริบหลักประกันจากบริษัทแจสฯ 644 ล้านบาท ค่าเสียหายเนื่องจากบริษัทแจสฯไม่ชำระเงินค่าประมูล 199.42 ล้านบาท รวม กสทช.หารายได้เข้ารัฐรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 81,793.31 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าจะมีมติ กทค. คณะทำงานพิจารณาความรับผิดกรณีบริษัทแจสฯ ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตให้ใช้ความถี่ย่าน 900 เม็กกะเฮิร์ตซ์ ที่มีนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นประธานฯประเมินค่าเสียหาย 131 ล้านบาท แต่นายฐากร ขอให้ประเมินใหม่ สามารถเรียกค่าเสียหายจากบริษัทแจสฯเพิ่มอีก 68.42 ล้านบาท