สวัสดีทุกท่านที่ผ่านเข้ามาในกะทู้นี้
เราชื่อแจง หญิงสาวผู้ไม่มีเงินและเวลามากพอที่จะเป็นนักท่องเที่ยว
แต่หาเวลาไปนั่งมองฟ้าดูน้ำในทุกคราวที่มีโอกาส
เราเคยเขียนกะทู้แนะนำที่เที่ยวจังหวัดอุบลราชธานีไปเมื่อปีที่แล้ว เผื่อมีใครเคยอ่าน
"ไม่ต้องไปฮิปที่ไหนไกลๆอุบลราชธานีบ้านเราก็ฮิปได้ เที่ยวให้ครบเถอะคะมุง"
http://ppantip.com/topic/34216177/comment28
หลังจากช่วงนั้นผ่านมาชีวิตการทำงานก็จริงจังขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งช่วงหลังๆมานี้โรงเรียนของเราเตรียมรับเสด็จสมเด็ดพระเทพฯ
เรียกได้ว่าเวลาจะพักก็ไม่มี ปิดเทอมก็ไม่ได้ปิด เสาร์อาทิตย์ลืมไปได้เลย
แต่ทำไปด้วยความสุขใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ถวายงานใกล้ชิดพระองค์
❤
ดังนั้นหญิงสาวผู้เหนื่อยล้าแต่สุขใจจึงต้องหาสถานที่พักกายพักใจให้กับตัวเอง
ไปนั่งมองฟ้าที่ไม่มีดาว ณ "หาดชมดาว อุบลราชธานี"
เริ่มต้นเดินทางจากตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เวลา 15.00 น.
จุดหมายของเราวันนี้มีแค่ที่เดียวคือ หาดชมดาว อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี
จาก Google map ได้บอกฉันว่า 113 กิโลเมตร เราขับตามพี่เกิลไปเรื่อยๆจนถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
เราไปถึงที่นั่นตอน 16.30 น. แดดร่มลมตกอากาศเหมาะสำหรับเดินเล่นเป็นที่สุด
ทันทีที่ลงรถก็เจอนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งกำลังขึ้นรถเหมารอบละ 300 บาท กี่คนก็ได้แต่ไปกลับรอบละสามร้อย
ด้วยความที่เขามากันเยอะเราเลยอดขึ้นไปพร้อมเขา กะว่าจะขอขึ้นไปด้วยจะไดแชร์ค่ารถกัน
แต่ไม่เป็นไรรอรถรอบต่อไปได้ แปปเดียว พี่ๆแถวนั้นเขาบอก
หรือใครที่คิดว่าขับรถเก่งไม่กลัวรถมีปัญหาก็สามารถขับลงไปเองได้เลยค่ะ
เราเลยเดินไปที่ศาลาเพื่อรอรถคันต่อไป
และเราก็ได้มาเจอกับน้องกล้อง มัคคุเทศก์น้อย แต่น้องบอกว่าตัวเองเป็น บักเขือเทศน้อย
พาเราเดินไปดูวิวโดยรวมของหาดชมดาว
หลังจากที่เห็นดังนั้นแล้ว อากาศก็ดีขนาดนี้ เราว่าถ้าเราาค่อยๆเดินไปมันน่าจะได้อรรถรสกว่านี้
เราจึงถามน้องกล้อง บักเขือเทศน้อยว่า จากนี้ไปถึงตรงนั้นไกลไหม เราไม่นั่งรถได้ไหม เดินไปได้ไหม
น้องบอกว่าประมาณกิโลกว่าๆ เดี๋ยวน้องพาไปเอง จากนั้นเราก็วิ่งลงเนินกันอย่างรวดเร็ว
แหละนี่คือโฉมหน้าน้องกล้อง บักเขือเทศน้อยที่จะพาเราเที่ยวในวันนี้
เราค่อยๆเดินกันไปเรื่อยๆพร้อมกับพูดคุยกับบักเขื่อเทศน้อยของเราไป
น้องเรียนอยู่ป.6 เมื่อก่อนเป็นบักเขือเทศน้อยอยู่ที่สามพันโบก แต่การแข่งขันสูงบักเขือเทศน้อยเยอะ
น้องและพ่อจึงเปลี่ยนมาที่นี้ ลูกเป็นบักเขือเทศน้อย พ่อขับรถเหมา
วกกลับมาคุยเรื่องหาดชมดาว บักเขือเทศน้อยเล่าให้ฟังว่า
" จุดในการท่องเที่ยวของที่นี้มีทั้งหมด 12 จุด จุดที่เป็นจุดไฮไลต์จะอยู่จุดที่ 7
คนส่วนมากมักนั่งรถไปจุดที่ 7 เพราะถ้ามาช่วงเที่ยงจะร้อนมาก ถ้าเดินคงไม่ไหว"
เราก็ได้แต่คิดในใจว่าเรามาถูกเวลาอากาศก็ดี เดินเอาแบบนี้สนุกและได้สัมผัสแต่ละจุดได้เต็มที่
จุดที่ 1 คือถ้ำตาอ้วน เป็นถ้ำที่คุณตาชื่ออ้วนมาหาปลาแล้วมาพักอาศัย
บังเอิญเจอชาวบ้านที่มาหาปลาเลยได้ทักทาย ถามไถ่ วันนี้ได้ปลาเยอะไหมครับป้า ผู้ชายเป็นคนถาม
คุณป้าโชว์ปลาที่หามาได้ พร้อมบอกว่าได้ปลาอะไร ยิ้มให้พวกเราและเดินผ่านไป
ระหว่างการเดินทางเราก็ถ่ายภาพกันไปเรื่อยๆ โดยเธอถ่ายรูปฉัน และฉันถ่ายรูปเธอ
และนี่คือเหตุผลที่เรามาหาดชมดาว เราเห็นป่าหญ้าในภาพจากเฟสบุ๊คของเพื่อน เราเลยอยากมาที่นี่เพื่อถ่ายรูปตรงนี้
เราถามน้องกล้องว่าเราสามารถเดินผ่านป่าหญ้าตรงนี้ไปได้ไหม
น้องตอบว่าได้แต่ไม่มีใครเขาผ่านกัน ส่วนมากก็เดินตามถนน แต่ถ้าจะไปน้องก็พาไปได้
แต่ได้รับเสียงคัดค้านจากผู้ชายตัวใหญ่ที่เป็นเพื่อนร่วมทางในวันี้ บอกให้เดินดีๆ เดินเหมือนที่คนอื่นเขาเดิน
เราเลยได้แต่ถ่ายรูปและเดินกลับมาในเส้นทางสายหลัก
เดินมาเรื่อยตามจุดที่บักเขือเทศน้อยพาเดินลัดเลาะมา แต่ต้องขออภัยที่เราจำชื่อจุดแต่ละจุดไม่ค่อยได้
ได้แต่ภาพถ่ายที่มีแต่เรา และเรา เราๆ ฮ่าๆ
จากนั้นเราก็เดินต่อเรื่อยๆ เหนื่อยก็นั่งคุยกัน หายเหนื่อยก็เดินกันต่อ
เรารู้สึกว่าหินบริเวณนี้จะสวยเป็นพิเศษ
เรานั่งกันอยู่จุดนี้กันค่อนข้างนาน น้องกล้องบักเขื่อเทศน้อยของเราก็เล่าให้ฟังว่า
ช่วงน้ำเยอะๆก็จะมาเล่นกระโดดน้ำกันที่นี้
โดดจากหินก้อนที่มีคนยืนอยู่ลงมา
หลังจากที่เรานั่งชมบรรยกาศของจุดไฮไลต์นี้แล้ว น้องกล้องเลยถามเราว่าจะเดินต่อไปถึงจุดที่12เลยไหม
ตอนนี้เรามาถึงจุดที่ 7 แล้ว ด้วยความเหนื่อยและกลัวว่าจะมืดค่ำ
อีกทั้งก่อนเดินมาถึงจุดนี้เราแอบเห็นแพตรงแอ่งน้ำเลยคิดว่าอยากไปใช้เวลากับตรงนั้นมากกว่า เราเลยเลือกเดินกลับ ไม่ไปต่อ
แต่ด้วยความสงสัย ว่าทำไมถึงเรียกว่าหาดชมดาว ซึ่งเรายังไม่เห็นคำตอบจากที่นี้
น้องกล้อง บักเขือเทศน้อยของเราจึงเล่าว่า....
"ที่เรียกว่าหาดชมดาว เพราะจุดที่เป็นหาดทรายทรายมันจะละเอียดมากเวลาแสงพระอาทิตย์สะท้อนกับทราย
ทำให้เกิดแสงระยิบระยับเหมือนดาว จึงเรียกว่าหาดชมดาว"
[CR] ไปนั่งมองฟ้าที่ไม่มีดาว ณ "หาดชมดาว อุบลราชธานี"
เราชื่อแจง หญิงสาวผู้ไม่มีเงินและเวลามากพอที่จะเป็นนักท่องเที่ยว
แต่หาเวลาไปนั่งมองฟ้าดูน้ำในทุกคราวที่มีโอกาส
เราเคยเขียนกะทู้แนะนำที่เที่ยวจังหวัดอุบลราชธานีไปเมื่อปีที่แล้ว เผื่อมีใครเคยอ่าน
"ไม่ต้องไปฮิปที่ไหนไกลๆอุบลราชธานีบ้านเราก็ฮิปได้ เที่ยวให้ครบเถอะคะมุง"
http://ppantip.com/topic/34216177/comment28
ยิ่งช่วงหลังๆมานี้โรงเรียนของเราเตรียมรับเสด็จสมเด็ดพระเทพฯ
เรียกได้ว่าเวลาจะพักก็ไม่มี ปิดเทอมก็ไม่ได้ปิด เสาร์อาทิตย์ลืมไปได้เลย
แต่ทำไปด้วยความสุขใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ถวายงานใกล้ชิดพระองค์
❤
ดังนั้นหญิงสาวผู้เหนื่อยล้าแต่สุขใจจึงต้องหาสถานที่พักกายพักใจให้กับตัวเอง
ไปนั่งมองฟ้าที่ไม่มีดาว ณ "หาดชมดาว อุบลราชธานี"
จุดหมายของเราวันนี้มีแค่ที่เดียวคือ หาดชมดาว อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี
จาก Google map ได้บอกฉันว่า 113 กิโลเมตร เราขับตามพี่เกิลไปเรื่อยๆจนถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
เราไปถึงที่นั่นตอน 16.30 น. แดดร่มลมตกอากาศเหมาะสำหรับเดินเล่นเป็นที่สุด
ทันทีที่ลงรถก็เจอนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งกำลังขึ้นรถเหมารอบละ 300 บาท กี่คนก็ได้แต่ไปกลับรอบละสามร้อย
ด้วยความที่เขามากันเยอะเราเลยอดขึ้นไปพร้อมเขา กะว่าจะขอขึ้นไปด้วยจะไดแชร์ค่ารถกัน
แต่ไม่เป็นไรรอรถรอบต่อไปได้ แปปเดียว พี่ๆแถวนั้นเขาบอก
หรือใครที่คิดว่าขับรถเก่งไม่กลัวรถมีปัญหาก็สามารถขับลงไปเองได้เลยค่ะ
เราเลยเดินไปที่ศาลาเพื่อรอรถคันต่อไป
และเราก็ได้มาเจอกับน้องกล้อง มัคคุเทศก์น้อย แต่น้องบอกว่าตัวเองเป็น บักเขือเทศน้อย
พาเราเดินไปดูวิวโดยรวมของหาดชมดาว
หลังจากที่เห็นดังนั้นแล้ว อากาศก็ดีขนาดนี้ เราว่าถ้าเราาค่อยๆเดินไปมันน่าจะได้อรรถรสกว่านี้
เราจึงถามน้องกล้อง บักเขือเทศน้อยว่า จากนี้ไปถึงตรงนั้นไกลไหม เราไม่นั่งรถได้ไหม เดินไปได้ไหม
น้องบอกว่าประมาณกิโลกว่าๆ เดี๋ยวน้องพาไปเอง จากนั้นเราก็วิ่งลงเนินกันอย่างรวดเร็ว
แหละนี่คือโฉมหน้าน้องกล้อง บักเขือเทศน้อยที่จะพาเราเที่ยวในวันนี้
น้องเรียนอยู่ป.6 เมื่อก่อนเป็นบักเขือเทศน้อยอยู่ที่สามพันโบก แต่การแข่งขันสูงบักเขือเทศน้อยเยอะ
น้องและพ่อจึงเปลี่ยนมาที่นี้ ลูกเป็นบักเขือเทศน้อย พ่อขับรถเหมา
วกกลับมาคุยเรื่องหาดชมดาว บักเขือเทศน้อยเล่าให้ฟังว่า
" จุดในการท่องเที่ยวของที่นี้มีทั้งหมด 12 จุด จุดที่เป็นจุดไฮไลต์จะอยู่จุดที่ 7
คนส่วนมากมักนั่งรถไปจุดที่ 7 เพราะถ้ามาช่วงเที่ยงจะร้อนมาก ถ้าเดินคงไม่ไหว"
เราก็ได้แต่คิดในใจว่าเรามาถูกเวลาอากาศก็ดี เดินเอาแบบนี้สนุกและได้สัมผัสแต่ละจุดได้เต็มที่
จุดที่ 1 คือถ้ำตาอ้วน เป็นถ้ำที่คุณตาชื่ออ้วนมาหาปลาแล้วมาพักอาศัย
บังเอิญเจอชาวบ้านที่มาหาปลาเลยได้ทักทาย ถามไถ่ วันนี้ได้ปลาเยอะไหมครับป้า ผู้ชายเป็นคนถาม
คุณป้าโชว์ปลาที่หามาได้ พร้อมบอกว่าได้ปลาอะไร ยิ้มให้พวกเราและเดินผ่านไป
น้องตอบว่าได้แต่ไม่มีใครเขาผ่านกัน ส่วนมากก็เดินตามถนน แต่ถ้าจะไปน้องก็พาไปได้
แต่ได้รับเสียงคัดค้านจากผู้ชายตัวใหญ่ที่เป็นเพื่อนร่วมทางในวันี้ บอกให้เดินดีๆ เดินเหมือนที่คนอื่นเขาเดิน
เราเลยได้แต่ถ่ายรูปและเดินกลับมาในเส้นทางสายหลัก
ได้แต่ภาพถ่ายที่มีแต่เรา และเรา เราๆ ฮ่าๆ
จากนั้นเราก็เดินต่อเรื่อยๆ เหนื่อยก็นั่งคุยกัน หายเหนื่อยก็เดินกันต่อ
เรารู้สึกว่าหินบริเวณนี้จะสวยเป็นพิเศษ
และเราก็เดินมาเรื่อยๆจนถึงจุดไฮไลค์ของหาดชมดาว
กว่าจะมาถึงได้ก็เหงือไหลตามๆกัน กล้องให้เรานั่งพักเหนื่อยก่อนที่จะพาเราลงไปนั่งดูมุมที่เห็นจุดไฮไลค์ได้สวยงาม
น้องกล้องบักเขือเทศน้อยให้เรานั่งพักดูบรรยกาศโดยรอบของที่นี้ และทำหน้าที่เป็นมือกล้องให้กับเรา
เรานั่งกันอยู่จุดนี้กันค่อนข้างนาน น้องกล้องบักเขื่อเทศน้อยของเราก็เล่าให้ฟังว่า
ช่วงน้ำเยอะๆก็จะมาเล่นกระโดดน้ำกันที่นี้
โดดจากหินก้อนที่มีคนยืนอยู่ลงมา
ตอนนี้เรามาถึงจุดที่ 7 แล้ว ด้วยความเหนื่อยและกลัวว่าจะมืดค่ำ
อีกทั้งก่อนเดินมาถึงจุดนี้เราแอบเห็นแพตรงแอ่งน้ำเลยคิดว่าอยากไปใช้เวลากับตรงนั้นมากกว่า เราเลยเลือกเดินกลับ ไม่ไปต่อ
แต่ด้วยความสงสัย ว่าทำไมถึงเรียกว่าหาดชมดาว ซึ่งเรายังไม่เห็นคำตอบจากที่นี้
น้องกล้อง บักเขือเทศน้อยของเราจึงเล่าว่า....
"ที่เรียกว่าหาดชมดาว เพราะจุดที่เป็นหาดทรายทรายมันจะละเอียดมากเวลาแสงพระอาทิตย์สะท้อนกับทราย
ทำให้เกิดแสงระยิบระยับเหมือนดาว จึงเรียกว่าหาดชมดาว"
ระหว่างเส้นทางกลับเราก็นั่งคุยกันและถ่ายรูปเก็บกลับบ้านกันตลอดเส้นทาง
พร้อมกับถ่ายภาพกับบักเขือเทศน้อยของเราด้วย
เราช่วยกันลากแพมาฝั่งเพื่อที่จะขึ้นไปบนนั้นได้ และฉันก็ได้ขึ้นมาอยู่บนแพสมใจ
เท่านั้นยังไม่พอฉันยังขอร้องให้เพื่อนร่วมทางของฉันขึ้นมาบนแพนี้ด้วย ซึ่งเขาไม่อยากขึ้นมา
เพราะกลัวว่าจะเอาแพกลับฝั่งไม่ได้ แต่ฉันไม่ยอม จ้าาาาาาาา
ในส่วนของบักเขือเทศน้อยนั้นก็เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน
คือเราไม่สามารถดึงแพกลับเข้าฝั่งได้เพราะแพหนักเกินไป ทำทุกวิถีทางก็ดึงแพกลับเข้าไม่ได้
สุดท้ายผู้ชายต้องกระโดดลงน้ำเพื่อดึงแพเข้าฝั่งให้ฉันขึ้น
พร้อมกลับโดนบ่นว่าให้เชื่อฟังและอย่าชอบเล่นพิเรน เราขอโทษและน้อมรับผิดก่อนจะเดินกลับขึ้นไป
ให้ค่าเหนื่อยบักเขือเทศน้อยไป 200 บาท และเดินทางกลับอุบลฯ เวลา 18.30 น. ❤
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น