5 ทริค ขับขี่ “รถไฟฟ้า” ให้ปลอดภัย ต้องรู้ไว้ก่อนเดินทางไกลส่งท้ายปี!

กระทู้ข่าว

 
เชื่อเหลือเกินว่าหยุดยาวส่งท้ายปี ถือเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งการเริ่มต้นใหม่ของใครหลาย ๆ คน และต้องมีอีกหลายคนที่ไม่พลาดรถเทคโนโลยีอัจฉริยะรุ่นใหม่อย่าง “รถไฟฟ้า” ที่มีเสิร์ฟชาวไทยหลากหลายรุ่นหลากหลายแบบ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ในฐานะส่วนหนึ่งของระบบนิเวศการขับขี่ด้วยพลังงานสะอาด จึงมีเคล็ดลับ 5 ข้อเกี่ยวกับการขับขี่รถไฟฟ้าให้ปลอดภัยทั้งในเมืองและเดินทางไปต่างจังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น และถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน

- วางแผนการเดินทางที่ดี มีชัยตลอดเส้นทาง เริ่มต้นจากการเช็คสภาพเส้นทางและการจราจร วางแผนการเดินทางแบบเผื่อเลือก ทั้งแพลน A หรือ แพลน B และเตรียมดาวน์โหลดแอปพลิเคชันค้นหาและจองจุดชาร์จ เช่น MEA EV, EA Anywhere, EVolt, PlugShare 

- เตรียมความพร้อมทั้งคนทั้งรถ ผู้ขับขี่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทางไกล ไม่ใช้ยาที่มีผลต่อการง่วงนอน ควบคู่กับการเตรียมรถให้พร้อมกับการขับขี่ ด้วยการตรวจเช็คระบบสัญญาณไฟ เบรก ลมยาง และใบปัดน้ำฝน ให้พร้อมใช้งานสำหรับการเดินทาง โดยรถไฟฟ้าของ OMODA & JAECOO จะมีระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (Driver Monitoring System: DMS) ที่ใช้เทคโนโลยีตรวจจับและวิเคราะห์ลักษณะม่านตาส่งสัญญาณเตือนแก่ผู้ขับขี่ แต่หากรู้สึกเหนื่อยล้าขณะขับขี่ควรหยุดพักในจุดพักรถชาร์จพลังก่อนออกเดินทางต่อ

- ชาร์ตไฟให้พร้อมสำหรับการเดินทาง และระหว่างการเดินทางควรเตรียมแผนการหยุดพัก ให้ร่างกายได้ชาร์จแบต

- ขับขี่ด้วยความเร็วปลอดภัย การขับขี่ทางไกลให้ปลอดภัยควรขับรถด้วยความเร็วพอดีและคงที่ ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ไม่เร่งความเร็วบ่อยครั้งหรือเบรกกะทันหัน จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของรถได้

- ปฏิบัติตามกฎจราจร มีน้ำใจบนท้องถนน การปฏิบัติตามกฎจราจรและถ้อยทีถ้อยอาศัยแก่เพื่อนร่วมทางจะช่วยลดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันตลอดระยะการเดินทางไกลได้อย่างมาก สังเกตป้ายจราจรและป้ายเตือนต่าง ๆ ระหว่างทาง ไม่แซงบนสะพานเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่