เจตนารมณ์ในการตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาจริงๆ แล้ว เพราะต้องการเป็นอีกหนึ่ง Case Study สำหรับคนที่กำลังคิดจะศัลยกรรม และคนที่กำลัง งง กับตัวเองว่าต้องการจะเป็นไรกันแน่ ตัวเองได้ลองคนหาตัวเองมาหมดแล้วและสุดท้ายก็ต้องการเป็นอย่างที่ใจต้องการเป็นคือ...........ผู้หญิง I am not afraid...I was born to do this.
เราไม่สามารถเลือกที่จะเป็นได้แต่เราสามารถทำให้เป็นอย่างที่เราเป็นได้ เป็นคนที่ไม่ได้เกิดมามีทุนความสวยมาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยหมดหวังและกำลังใจที่จะทำให้ตัวเองสวย แม้จะต้องเพิ่งมีดหมอศัลยกรรมก็ไม่สน ใครจะว่าสวยเพราะมีดหมอก็ไม่แคร์ เพราะเงินที่ทำหาด้วยน้ำพักน้ำแรงเราเองและก็ภูมิใจที่เป็นอย่างนี้ #ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
บทที่ 1. (ภาค 1)
เราขอแนะนำตัวเองก่อนแล้วกันนะคะ เราชื่อ “หนึ่ง” ตอนแรกก็คิดอยู่นานว่าจะลง Review บอกเล่าเรื่องราวศัลยกรรมดีไหมเพราะอีกใจหนึ่งก็กลัว ไม่อยากให้ใครรู้เบื้องหลังของเรา แต่คิดไปคิดมา ดูรายการ Let Me In Thailandแล้ว เลยเกิด Inspiration ขึ้นมาทันทีทันใด
เริ่มต้นเลยเราเกิดมาก็มีความรู้สึกอยากเป็นผู้หญิงเหมือนสาวประเภทสองทั่วไปเนี่ยแหละค่ะ แต่เราเป็นคนอ้วนมากตั้งแต่เด็กก็เลยหันไปพึงยาลดความอ้วนตอนนั้นน้ำหนัก 80 กิโลกรัม
กินยาลดความอ้วนไปก็ลดลงมาเหลือ 58 กิโล ค่ะ เมื่อน้ำหนักลดลงแล้วก็เริ่มหันมาทานยาคุมกินพวกยาฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อให้รูปร่างหน้าตาเราดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น และให้มีหน้าอกอย่างฝัน เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ประมาณ 3 ปี ตอนนั้นแรดมากค่ะ แต่งหญิงท่องราตรีทุกอาทิตย์ค่ะ Route 66, Morgan, Baby-Blink ทุกอาทิตย์ค่ะ (เป็นช่วงที่สนุกมาก) พอ Pub เลิกก็มายืนที่ซุ่มเจ้านางน้อยเป็น Landmark ที่สาวๆ รู้กัน ยืนทำไมยืนเด้อรถกลับบ้านสิคะ (แต่ไม่เคยกลับถึงบ้านสักที) 55555 พวกผู้ชายที่อ่านกระทู้นี้ ที่อยู่ในยุคนั้น เราอาจเคยได้เสียกันก็เป็นได้ 555555
หาภาพมาได้เท่านี้จริงๆ ตอนนั้นจำได้ว่าถ่ายที่ตู้สติ๊กเกอร์
พอเริ่มอายุ 19 เอาสิเพื่อนในกลุ่มเป็นห่าไรไม่รู้ เริ่มเปลี่ยนจากสาวสวยเซเลอร์มูนกลายเป็นหนุ่มหล่อทักซิโด้(เกย์สาว) กันหมด เอ้าแล้วกูล่ะจะรออะไรคะ มันเหมือนกับว่าเพื่อนกูไม่มีใครเป็นแล้ว ไม่มีใครแต่งหญิงแล้ว ไปเที่ยวไหนก็ไม่มีใครจิกชุดชนะนีแต่งกันเลย ประมาณหนึ่งเหมือนกูเป็นแกะดำ เอาว่ะลองดูเป็นเกย์สาวก็ยังได้แหลกดูกผู้ชาย ยังเอาผู้ชายได้ 5555 ไม่ได้ไปเอาผู้หญิงสักหน่อยลองดูว่ะ
จากผมที่เริ่มยาวก็เริ่มตัดสั้น ฮอร์มงฮอร์โมนเลิกแหลกดูกค่ะ นมก็เริ่มหยุบ และจากนั้นเสื้อผ้าชะนงชะนีก็เก็บลงสู้ลัง (เสียดายไม่กล้าทิ้ง) ทั้งตู้เสื้อผ้ากลับกลายเป็นเสื้อผู้ชายหมดค่ะ จากนั้นก็เริ่มแต่งชาย แอ๊บแมนสุดฤทธิ์พิชิตใจนายสุดหล่อ ถามว่าได้ไหมได้ค่ะจากนั้นเราก็มีแฟนหนึ่งคน ช่วงที่เป็นเกย์ก็โอเคน่ะ แต่มันมีความรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เวลาเดินไปเจอชุดชะนี เราอยากจะใส่ คิดถึงวันเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็น สายเดียว เกาะอก เดินไปไหนต่อไหนเห็นชุดชะนีจะมีภาพจิตนาการถึงตัวเราเวลาใส่เสมอประดุจดังฉันคือ Britney Spears เฮ้อ……ชีวิต แต่ตอนนั้นก็เริ่มทำใจแล้วละ เพราะความเป็นชายเริ่มมาบังเกิดกับเราอย่างบ้าคลั่งและมากขึ้น หนวดเริ่มขึ้น เคราเริ่มมี ไหล่เริ่มกว้าง หุ่นจากความละมุนนี หายไปหมด
เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้ไปสักพักหนึ่งกับแฟนเรา จากนั้นก็เริ่มถึงวันหมดอายุของความรักเรากับแฟนก็ต่างคนต่างไปตามนิยายรักของเพศที่สามพระเจ้าคะ ตามนั้น
จากนั้นเราขึ้นมหาลัยใช่ชีวิตแบบโสดๆ ไม่มีชายให้กอดให้อุ่นกาย อุ่นใจ ก็เลยเอาว่ะมันคงยังไม่สายเกินไป แฟนก็ไม่มี ใช้ชีวิตแบบเกย์สาวสุดหล่อมาแล้วมันก็ไม่ใช้เรา ก็เริ่มกับมาเทคฮอร์โมนใหม่คราวนี้หนักกว่าเดิมค่ะ เพิ่มพลังทวีคูณเป็น 10 เท่า ประหนึ่งว่ากูอยากนอนแล้วตื้นขึ้นมาแล้วเป็น อั้ม พัชราภา เลยประมาณนั้น ทั้งกินทั้งฉีด ยาไรดีแหลกดูกหมด แบบแหลกดูกยาวันหนึ่งเยอะกว่าแหลกดูกข้าวอีก ข้าวกูยอมอดเก็บเงินเพื่อซื้อยาแหลกดูกประมาณนั้น 555555 พอกินยาไปได้สักสองสามปี ร่างกายเริ่มดูดซับยา ความละมุนนีเริ่มบังเกิดกลับอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สวยมากจนเราเรียนจบมหาลัย เริ่มทำงานเก็บเงินบางส่วนได้ ก็เริ่มคิดจะทำศัลยกรรมเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยสะพัง
ศัลยกรรมแรกที่เราเลือกทำคือโครงหน้า เพราะโครงหน้าเรามันไม่เท่ากันไม่รู้เป็นเพราะตอนดัดฟันหรือเป็นเพราะร่างกายมัน งง ว่าตกลงจะเอายังไงกันแน่จะเป็นหญิงหรือชาย เดียวแหลกดูกฮอร์โมน เดียวหยุด เดียวกับมาแหลกดูกอีก (ช่วงที่เราคบกับแฟนตอนเป็นเกย์) ก็แอบกินนะเพราะคิดว่าสักวันหนึ่งฉันจะต้องกับมาเป็นสาวสวยอีกครั้ง แต่กินไม่เยอะมากเพราะกลัวนมขึ้น
เอาหละมาเข้าเรื่องจากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต คุณพ่อ Google นี้แหละค่ะ โทรไปสอบถามหลายที่อยู่เหมือนกันส่งรูปไปให้คุณหมอประเมินก็หลายที่ ค่าเสียหายบ้างที่ก็ OMG + โอ้แม่เจ้า แต่ก็เข้าใจเพราะมันคือการผ่าตัดศัลยกรรมใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงหน้าเลย มีอยู่วันหนึ่งกำลังนั่งเล่น Camfrog อยู่ อื้ม…งานดี งานช้างเผือก งานเกรดเอ + กลับหาที่โมหน้าใหม่ด้วย ต้องตั้งสติอย่างมาก ก็นะอย่างที่ทราบกันดีว่า Camfrog มันมีอะไรดีๆ ในนั้นเยอะแยะหาไปหามาตอนนั้นประมาณสามทุ่มใจร้อนเงินพร้อมแล้วนี้ โทรหาคืนนั้นเลยค่ะ รับค่ะคุณหมอรับเองเลยค่ะ เลิสมากก็คุยกับคุณหมอเลยค่ะว่าจะทำไรบ้างราคาเท่าไร ทำพร้อมกันเลยได้ไหม ก็สรุปตามนี้ค่ะ
- ตัดกราม
- ตัดคาง
- กรอโหนกแก้ม
- กรอโหนกคิ้ว
ค่าเสียหาย 90,000 บาทค่ะ สมัยนั้นนะคะ แบบฟังราคาแล้ว OMG อีกที ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้หนูเจอคุณหมอ จากนั้นก็นัดคุณหมอเพื่อเข้ารับการปรึกษาและดูหน้าจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร ตัดไปตอนเจอคุณหมอเลยนะคะ
โครงหน้า ณ. ตอนที่เจอคุณหมอ
เราก็บอกว่าเมื่อก่อนหน้าเราไม่เบี้ยวขนาดนี้แต่พอดัดฟันแล้อยู่ดีๆ หน้าก็ไม่เท่ากัน คุณหมอก็จำคล่ำนู่นนี่นั่น ดูนู่นดูนี้ ให้เราเงยหน้า เอียงซ้ายเอียงขวา แล้วหมอก็บอกว่า หน้าเรากระดูกไม่เท่ากันกรามด้านขาวจะใหญ่กว่าด้านซ้าย และหน้าด้านซ้ายจะสูงกว่าด้านขวา แล้วก็พูดนั้นพูดนี้ เราก็นั่งฟังแต่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรหลอก ใจคิดแต่ว่า ฉันต้องทำ หมอต้องทำให้หนูสวย ฉันต้องสวย มาเรียกสิติกลับมาได้อีกที ก็ได้ยินว่าใช่เวลาผ่าประมาณ 4-7 ชั่วโมงไม่เกินกว่านี้ พอหมอพูดจบ นัดวันเลยนะคะหมอ วันนี้โอเคนะคะ โอเคค่ะตามนั้น สุดท้ายก่อนออกจากห้องบอกหมอว่าเอาให้สวยเหมือน ปอย ตรีชฎา เลยนะคะหมอ 5555555 จากนั้นเราก็ออกมาหน้าเค้าเตอร์ มานัดวันกับเลขาหมอและจ่ายเงินค่าหมัดจำ เราจ่ายแบบโอน 50,000 บาท กลับบ้าน
เราเตรียมตัวก่อนผ่าตัดตามนี้นะคะ
- งดยาในกลุ่มที่จะมีผลต่อการหยุดไหลของหลอดเลือด เช่น กลุ่มยาแอสไพริน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ แนะนำ 1 เดือนเลยค่ะ
- งดวิตามิน อาหารเสริมต่างๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี , น้ำมันตับปลา , เมล็ดองุ่น , ใบแปะก๊วย , โสม ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือน
- ถ้ากินยาลดความอ้วนเป็นประจำทางที่ดีแล้วควรหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน ก่อนผ่าตัด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 เดือน ก่อนผ่าตัด
- วันผ่าตัดงดอาหารและน้ำทุกชนิด 8 ชม. ก่อนผ่าตัด
ช่วงระหว่างรอวันผ่าตัด เราออกกำลังกายวิ่งบ้างเต้นบ้างให้ร่างกายได้แข็งแรงให้หัวใจได้ทำงานมีเลือดสูบฉีดที่ดี กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยง อาหารเครื่องดื่มหรือผลไม้ที่มี วิตามิน อี ซี สูงๆ
พอถึงวันทำเรามากับแม่มาเจอหมอที่ Clinic ก่อนเพื่อมาเอาใบส่งตัวและจ่ายเงินส่วนที่เหลือ พอได้ใบส่งตัวเสร็จ ก็เดินทางไปโรงพยาบาล ก็ไปติดต่อตรงเวชระเบียงก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไป
- เจาะเลือดเพื่อเช็ค HIV ตอนนั้นก็คิดถ้าเจาะแล้วเป็นบวกทำไงดีว่ะ ขำๆนะคะแบบคิดเวิ่นเว้อนะ
- ไป X-ray กระดูกโครงหน้า หน้าตรง ซ้าย ขาว เงยหน้า
- Admit ขึ้นห้อง เจาะสายน้ำเกลือ รอเวลา เวลาผ่าตัดประมาณ 2 ทุ่ม
ตอนนั้นความตื้นเต้นมีบ้างแต่ไม่มากเพราะความ Need มันกลบหมด แต่พอใกล้ถึงเวลานั้นสิความตื้นเต้นทวีคูณ เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ในใจก็แอบกลัวจะออกมาสวยเปล่าวะ คิดแบบหลายเรื่องมากมันเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมครั้งแรกของเราด้วย สักพักก็มีคนมาเคาะประตูเป็นพี่ผู้ช่วยพยาบาลบอกให้เตรียมตัวนะคะคุณหมอมาแล้ว ใจนี้เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เลยค่ะเราก็เตรียมตัวเข้าห้องนงห้องน้ำให้เรียบร้อยจากนั้นไม่นานก็มีพี่ผู้ช่วยพยาบาลมาเคาะประตูขอเชิญคนไข้ค่ะ ได้เวลาผ่าตัดแล้ว มีเตียงเข็นมารออยู่หน้าประตูเลยคร้า เราก็เดินไปก่อนไปแม่ก็อวยพรให้โชคดีปลอดภัยขอให้ออกมาเป็นไปตามที่ลูกหวังนะ เราก็ยกมือไหว้ สาธุ เดียวเจอกันแม่หนูต้องสวย
เราก็เดินไปนอนที่รถเข็น รถก็เข็นไปผ่านทางเดินที่มีไฟไม่สว่างมากนัก จนถึงหน้าลิฟและก็เข็นเข้าลิฟไปตอนนั้นเรามองทางอยู่ตลอดพูดได้คำเดียวกลัวมากตื้นเต้นมากแบบคิดนู้นคิดนี้คิดนั้นแบบกลัวไปหมดกลัวมากๆ (คนที่เคยผ่านการผ่าตัดมาจะรู้ดี) แบบกลัวสุดๆ จากนั้นก็ถึง Operating Room (ห้องผ่าตัด) เจ้าหน้าที่ที่เข็นรถเข็นผู้ป่วย ก็ยกเราจากเตียงเข็นมานอนเตียงผ่าตัด สักพักก็มีคนเดินเข้ามา น่าจะเป็นผู้ช่วยหมอเดินเข้ามามาคุยกับเรา ว่าตื้นเต้นมั๊ย เคยทำไรมาบ้าง หมอทำสวยไม่ต้องกลัวมีคนมาทำกับหมอเยอะ Case ที่แล้วไม่กี่วันก็มีชาวต่างชาติมาเสริมหน้าอกสวยมาเราทำยังเนี้ย นะช่วงเวลานั้นเสียงที่ออกมาคือ เสียงแผ่วๆ ที่บอกว่า ตื้นเต้นมากค่ะ ไม่เคยทำไรมาก่อนเลยครั้งนี้ครั้งแรก ก็คุยนู่นนี่นั่น
สักพัก หมอวิสัญญีแพทย์ ก็เดินเข้ามา เรามองหน้าหมอบอกเลย หมอหล่อมาก ขาว ตี๋ หน้ารัก โอ๊ย……เมื่อเห็นเธอแล้วก็ใจละลาย ใจละลาย ใจละลายละลายละลาย สายตาเมื่อสัมผัส หมดเรี่ยวแรงต้านทานใดๆ ใจละลาย ใจละลาย ใจละลายละลายละลาย หลอมละลายในพริบตา หมอก็แนะนำตัวนู่นนี่นั่น ถ้าจำไม่ผิดชื่อหมอบอย เคยผ่าตัดแบบดมยามาก่อนเปล่าครับ ไม่เคยค่ะ หมอน่ารักมากค่ะ หมอยิ้มหัวเราะนิดๆบวกยิ้มมุมปากหน่อยๆ โอ๊ย............ฟิน สักพักหมอก็เดินเข้ามาก็ทักทายกันหวัดดีค่ะคุณหมอ หมอก็คุยกันบอกว่าจะทำการผ่าตัดบนลงล่างพร้อมวิเคาระห์โครงกระดูกจากภาพ X-ray จากนั้นหมอสุดหล่อของฉันก็มาฉีดยาอะไรไม่รู้ตรงสายน้ำเกลือและเอาอะไรไม่รู้มาคอบตรงจมูก และทิ้งท้ายด้วยคำว่า ไม่ต้องกลัวนะครับเดียวตื้นมาก็สวยแล้วหลับฝันดีครับ..............................
รู้สึกตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อดังมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นเสียงของคุณหมอสุดหล่อของฉัน ตอนนั้นเราได้ยินนะแต่ไม่มีแรงจะตอบโต้ ที่รักของฉันก็เรียกๆๆๆๆๆๆ จนเราต้องเปล่งเสียงออกมาเบา อื้มมมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พร้อมลืมตา เราจำได้ว่าอยู่ในห้องใดสักห้องหนึ่งและก็มีพี่พยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาลนี้แหละมาถามว่าเป็นไงบ้างคะ จะอ้วกค่ะพี่ด้วยเสียงแผ่วเบามันคลื้นไส้จะอ้วก พี่เขาก็เอาถ้วยๆมาลองให้อ้วกค่ะอ้วกออกมาเป็นเลือดเต็มไปหมดเลย เลือดทั้งนั้นเพราะว่าเราเปิดแผลด้านใน ทั้งตัดกรามและกรอโหนกแก้ม ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรนอกจากคลื่นไส้ พออ้วกเสร็จก็หลับไป มารู้สึกตัวอีกที่ตอนเข็นเรามาถึงห้องพักฟื้นแล้วตอนนั้นไม่มีแรงเลยค่ะเหมือร่างกายอยากจะนอนอย่างเดียวและก็คลื่นไส้มาก เราอ้วกเกือบทั้งคืนเลยวันนั้นอ้วกออกมาเป็นเลือดเต็มไปหมด วันรุ้งขึ้นก็อ้วกอีกจำได้ว่ากินอะไรไม่ค่อยได้เลย มึนๆ เวียนๆ ร่างกายไม่มีแรง อยากจะนอนอย่างเดียว
ศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงโครงหน้า จากตุ๊ดเด็กกลายเป็นเกย์ จากเกย์กลายเป็นสาวสวย
เราไม่สามารถเลือกที่จะเป็นได้แต่เราสามารถทำให้เป็นอย่างที่เราเป็นได้ เป็นคนที่ไม่ได้เกิดมามีทุนความสวยมาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยหมดหวังและกำลังใจที่จะทำให้ตัวเองสวย แม้จะต้องเพิ่งมีดหมอศัลยกรรมก็ไม่สน ใครจะว่าสวยเพราะมีดหมอก็ไม่แคร์ เพราะเงินที่ทำหาด้วยน้ำพักน้ำแรงเราเองและก็ภูมิใจที่เป็นอย่างนี้ #ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
บทที่ 1. (ภาค 1)
เราขอแนะนำตัวเองก่อนแล้วกันนะคะ เราชื่อ “หนึ่ง” ตอนแรกก็คิดอยู่นานว่าจะลง Review บอกเล่าเรื่องราวศัลยกรรมดีไหมเพราะอีกใจหนึ่งก็กลัว ไม่อยากให้ใครรู้เบื้องหลังของเรา แต่คิดไปคิดมา ดูรายการ Let Me In Thailandแล้ว เลยเกิด Inspiration ขึ้นมาทันทีทันใด
เริ่มต้นเลยเราเกิดมาก็มีความรู้สึกอยากเป็นผู้หญิงเหมือนสาวประเภทสองทั่วไปเนี่ยแหละค่ะ แต่เราเป็นคนอ้วนมากตั้งแต่เด็กก็เลยหันไปพึงยาลดความอ้วนตอนนั้นน้ำหนัก 80 กิโลกรัม
กินยาลดความอ้วนไปก็ลดลงมาเหลือ 58 กิโล ค่ะ เมื่อน้ำหนักลดลงแล้วก็เริ่มหันมาทานยาคุมกินพวกยาฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อให้รูปร่างหน้าตาเราดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น และให้มีหน้าอกอย่างฝัน เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ประมาณ 3 ปี ตอนนั้นแรดมากค่ะ แต่งหญิงท่องราตรีทุกอาทิตย์ค่ะ Route 66, Morgan, Baby-Blink ทุกอาทิตย์ค่ะ (เป็นช่วงที่สนุกมาก) พอ Pub เลิกก็มายืนที่ซุ่มเจ้านางน้อยเป็น Landmark ที่สาวๆ รู้กัน ยืนทำไมยืนเด้อรถกลับบ้านสิคะ (แต่ไม่เคยกลับถึงบ้านสักที) 55555 พวกผู้ชายที่อ่านกระทู้นี้ ที่อยู่ในยุคนั้น เราอาจเคยได้เสียกันก็เป็นได้ 555555
หาภาพมาได้เท่านี้จริงๆ ตอนนั้นจำได้ว่าถ่ายที่ตู้สติ๊กเกอร์
พอเริ่มอายุ 19 เอาสิเพื่อนในกลุ่มเป็นห่าไรไม่รู้ เริ่มเปลี่ยนจากสาวสวยเซเลอร์มูนกลายเป็นหนุ่มหล่อทักซิโด้(เกย์สาว) กันหมด เอ้าแล้วกูล่ะจะรออะไรคะ มันเหมือนกับว่าเพื่อนกูไม่มีใครเป็นแล้ว ไม่มีใครแต่งหญิงแล้ว ไปเที่ยวไหนก็ไม่มีใครจิกชุดชนะนีแต่งกันเลย ประมาณหนึ่งเหมือนกูเป็นแกะดำ เอาว่ะลองดูเป็นเกย์สาวก็ยังได้แหลกดูกผู้ชาย ยังเอาผู้ชายได้ 5555 ไม่ได้ไปเอาผู้หญิงสักหน่อยลองดูว่ะ
จากผมที่เริ่มยาวก็เริ่มตัดสั้น ฮอร์มงฮอร์โมนเลิกแหลกดูกค่ะ นมก็เริ่มหยุบ และจากนั้นเสื้อผ้าชะนงชะนีก็เก็บลงสู้ลัง (เสียดายไม่กล้าทิ้ง) ทั้งตู้เสื้อผ้ากลับกลายเป็นเสื้อผู้ชายหมดค่ะ จากนั้นก็เริ่มแต่งชาย แอ๊บแมนสุดฤทธิ์พิชิตใจนายสุดหล่อ ถามว่าได้ไหมได้ค่ะจากนั้นเราก็มีแฟนหนึ่งคน ช่วงที่เป็นเกย์ก็โอเคน่ะ แต่มันมีความรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เวลาเดินไปเจอชุดชะนี เราอยากจะใส่ คิดถึงวันเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็น สายเดียว เกาะอก เดินไปไหนต่อไหนเห็นชุดชะนีจะมีภาพจิตนาการถึงตัวเราเวลาใส่เสมอประดุจดังฉันคือ Britney Spears เฮ้อ……ชีวิต แต่ตอนนั้นก็เริ่มทำใจแล้วละ เพราะความเป็นชายเริ่มมาบังเกิดกับเราอย่างบ้าคลั่งและมากขึ้น หนวดเริ่มขึ้น เคราเริ่มมี ไหล่เริ่มกว้าง หุ่นจากความละมุนนี หายไปหมด
เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้ไปสักพักหนึ่งกับแฟนเรา จากนั้นก็เริ่มถึงวันหมดอายุของความรักเรากับแฟนก็ต่างคนต่างไปตามนิยายรักของเพศที่สามพระเจ้าคะ ตามนั้น
จากนั้นเราขึ้นมหาลัยใช่ชีวิตแบบโสดๆ ไม่มีชายให้กอดให้อุ่นกาย อุ่นใจ ก็เลยเอาว่ะมันคงยังไม่สายเกินไป แฟนก็ไม่มี ใช้ชีวิตแบบเกย์สาวสุดหล่อมาแล้วมันก็ไม่ใช้เรา ก็เริ่มกับมาเทคฮอร์โมนใหม่คราวนี้หนักกว่าเดิมค่ะ เพิ่มพลังทวีคูณเป็น 10 เท่า ประหนึ่งว่ากูอยากนอนแล้วตื้นขึ้นมาแล้วเป็น อั้ม พัชราภา เลยประมาณนั้น ทั้งกินทั้งฉีด ยาไรดีแหลกดูกหมด แบบแหลกดูกยาวันหนึ่งเยอะกว่าแหลกดูกข้าวอีก ข้าวกูยอมอดเก็บเงินเพื่อซื้อยาแหลกดูกประมาณนั้น 555555 พอกินยาไปได้สักสองสามปี ร่างกายเริ่มดูดซับยา ความละมุนนีเริ่มบังเกิดกลับอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สวยมากจนเราเรียนจบมหาลัย เริ่มทำงานเก็บเงินบางส่วนได้ ก็เริ่มคิดจะทำศัลยกรรมเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยสะพัง
ศัลยกรรมแรกที่เราเลือกทำคือโครงหน้า เพราะโครงหน้าเรามันไม่เท่ากันไม่รู้เป็นเพราะตอนดัดฟันหรือเป็นเพราะร่างกายมัน งง ว่าตกลงจะเอายังไงกันแน่จะเป็นหญิงหรือชาย เดียวแหลกดูกฮอร์โมน เดียวหยุด เดียวกับมาแหลกดูกอีก (ช่วงที่เราคบกับแฟนตอนเป็นเกย์) ก็แอบกินนะเพราะคิดว่าสักวันหนึ่งฉันจะต้องกับมาเป็นสาวสวยอีกครั้ง แต่กินไม่เยอะมากเพราะกลัวนมขึ้น
เอาหละมาเข้าเรื่องจากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต คุณพ่อ Google นี้แหละค่ะ โทรไปสอบถามหลายที่อยู่เหมือนกันส่งรูปไปให้คุณหมอประเมินก็หลายที่ ค่าเสียหายบ้างที่ก็ OMG + โอ้แม่เจ้า แต่ก็เข้าใจเพราะมันคือการผ่าตัดศัลยกรรมใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงหน้าเลย มีอยู่วันหนึ่งกำลังนั่งเล่น Camfrog อยู่ อื้ม…งานดี งานช้างเผือก งานเกรดเอ + กลับหาที่โมหน้าใหม่ด้วย ต้องตั้งสติอย่างมาก ก็นะอย่างที่ทราบกันดีว่า Camfrog มันมีอะไรดีๆ ในนั้นเยอะแยะหาไปหามาตอนนั้นประมาณสามทุ่มใจร้อนเงินพร้อมแล้วนี้ โทรหาคืนนั้นเลยค่ะ รับค่ะคุณหมอรับเองเลยค่ะ เลิสมากก็คุยกับคุณหมอเลยค่ะว่าจะทำไรบ้างราคาเท่าไร ทำพร้อมกันเลยได้ไหม ก็สรุปตามนี้ค่ะ
- ตัดกราม
- ตัดคาง
- กรอโหนกแก้ม
- กรอโหนกคิ้ว
ค่าเสียหาย 90,000 บาทค่ะ สมัยนั้นนะคะ แบบฟังราคาแล้ว OMG อีกที ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้หนูเจอคุณหมอ จากนั้นก็นัดคุณหมอเพื่อเข้ารับการปรึกษาและดูหน้าจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร ตัดไปตอนเจอคุณหมอเลยนะคะ
โครงหน้า ณ. ตอนที่เจอคุณหมอ
เราก็บอกว่าเมื่อก่อนหน้าเราไม่เบี้ยวขนาดนี้แต่พอดัดฟันแล้อยู่ดีๆ หน้าก็ไม่เท่ากัน คุณหมอก็จำคล่ำนู่นนี่นั่น ดูนู่นดูนี้ ให้เราเงยหน้า เอียงซ้ายเอียงขวา แล้วหมอก็บอกว่า หน้าเรากระดูกไม่เท่ากันกรามด้านขาวจะใหญ่กว่าด้านซ้าย และหน้าด้านซ้ายจะสูงกว่าด้านขวา แล้วก็พูดนั้นพูดนี้ เราก็นั่งฟังแต่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรหลอก ใจคิดแต่ว่า ฉันต้องทำ หมอต้องทำให้หนูสวย ฉันต้องสวย มาเรียกสิติกลับมาได้อีกที ก็ได้ยินว่าใช่เวลาผ่าประมาณ 4-7 ชั่วโมงไม่เกินกว่านี้ พอหมอพูดจบ นัดวันเลยนะคะหมอ วันนี้โอเคนะคะ โอเคค่ะตามนั้น สุดท้ายก่อนออกจากห้องบอกหมอว่าเอาให้สวยเหมือน ปอย ตรีชฎา เลยนะคะหมอ 5555555 จากนั้นเราก็ออกมาหน้าเค้าเตอร์ มานัดวันกับเลขาหมอและจ่ายเงินค่าหมัดจำ เราจ่ายแบบโอน 50,000 บาท กลับบ้าน
เราเตรียมตัวก่อนผ่าตัดตามนี้นะคะ
- งดยาในกลุ่มที่จะมีผลต่อการหยุดไหลของหลอดเลือด เช่น กลุ่มยาแอสไพริน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ แนะนำ 1 เดือนเลยค่ะ
- งดวิตามิน อาหารเสริมต่างๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี , น้ำมันตับปลา , เมล็ดองุ่น , ใบแปะก๊วย , โสม ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือน
- ถ้ากินยาลดความอ้วนเป็นประจำทางที่ดีแล้วควรหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน ก่อนผ่าตัด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 เดือน ก่อนผ่าตัด
- วันผ่าตัดงดอาหารและน้ำทุกชนิด 8 ชม. ก่อนผ่าตัด
ช่วงระหว่างรอวันผ่าตัด เราออกกำลังกายวิ่งบ้างเต้นบ้างให้ร่างกายได้แข็งแรงให้หัวใจได้ทำงานมีเลือดสูบฉีดที่ดี กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยง อาหารเครื่องดื่มหรือผลไม้ที่มี วิตามิน อี ซี สูงๆ
พอถึงวันทำเรามากับแม่มาเจอหมอที่ Clinic ก่อนเพื่อมาเอาใบส่งตัวและจ่ายเงินส่วนที่เหลือ พอได้ใบส่งตัวเสร็จ ก็เดินทางไปโรงพยาบาล ก็ไปติดต่อตรงเวชระเบียงก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไป
- เจาะเลือดเพื่อเช็ค HIV ตอนนั้นก็คิดถ้าเจาะแล้วเป็นบวกทำไงดีว่ะ ขำๆนะคะแบบคิดเวิ่นเว้อนะ
- ไป X-ray กระดูกโครงหน้า หน้าตรง ซ้าย ขาว เงยหน้า
- Admit ขึ้นห้อง เจาะสายน้ำเกลือ รอเวลา เวลาผ่าตัดประมาณ 2 ทุ่ม
ตอนนั้นความตื้นเต้นมีบ้างแต่ไม่มากเพราะความ Need มันกลบหมด แต่พอใกล้ถึงเวลานั้นสิความตื้นเต้นทวีคูณ เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ในใจก็แอบกลัวจะออกมาสวยเปล่าวะ คิดแบบหลายเรื่องมากมันเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมครั้งแรกของเราด้วย สักพักก็มีคนมาเคาะประตูเป็นพี่ผู้ช่วยพยาบาลบอกให้เตรียมตัวนะคะคุณหมอมาแล้ว ใจนี้เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เลยค่ะเราก็เตรียมตัวเข้าห้องนงห้องน้ำให้เรียบร้อยจากนั้นไม่นานก็มีพี่ผู้ช่วยพยาบาลมาเคาะประตูขอเชิญคนไข้ค่ะ ได้เวลาผ่าตัดแล้ว มีเตียงเข็นมารออยู่หน้าประตูเลยคร้า เราก็เดินไปก่อนไปแม่ก็อวยพรให้โชคดีปลอดภัยขอให้ออกมาเป็นไปตามที่ลูกหวังนะ เราก็ยกมือไหว้ สาธุ เดียวเจอกันแม่หนูต้องสวย
เราก็เดินไปนอนที่รถเข็น รถก็เข็นไปผ่านทางเดินที่มีไฟไม่สว่างมากนัก จนถึงหน้าลิฟและก็เข็นเข้าลิฟไปตอนนั้นเรามองทางอยู่ตลอดพูดได้คำเดียวกลัวมากตื้นเต้นมากแบบคิดนู้นคิดนี้คิดนั้นแบบกลัวไปหมดกลัวมากๆ (คนที่เคยผ่านการผ่าตัดมาจะรู้ดี) แบบกลัวสุดๆ จากนั้นก็ถึง Operating Room (ห้องผ่าตัด) เจ้าหน้าที่ที่เข็นรถเข็นผู้ป่วย ก็ยกเราจากเตียงเข็นมานอนเตียงผ่าตัด สักพักก็มีคนเดินเข้ามา น่าจะเป็นผู้ช่วยหมอเดินเข้ามามาคุยกับเรา ว่าตื้นเต้นมั๊ย เคยทำไรมาบ้าง หมอทำสวยไม่ต้องกลัวมีคนมาทำกับหมอเยอะ Case ที่แล้วไม่กี่วันก็มีชาวต่างชาติมาเสริมหน้าอกสวยมาเราทำยังเนี้ย นะช่วงเวลานั้นเสียงที่ออกมาคือ เสียงแผ่วๆ ที่บอกว่า ตื้นเต้นมากค่ะ ไม่เคยทำไรมาก่อนเลยครั้งนี้ครั้งแรก ก็คุยนู่นนี่นั่น
สักพัก หมอวิสัญญีแพทย์ ก็เดินเข้ามา เรามองหน้าหมอบอกเลย หมอหล่อมาก ขาว ตี๋ หน้ารัก โอ๊ย……เมื่อเห็นเธอแล้วก็ใจละลาย ใจละลาย ใจละลายละลายละลาย สายตาเมื่อสัมผัส หมดเรี่ยวแรงต้านทานใดๆ ใจละลาย ใจละลาย ใจละลายละลายละลาย หลอมละลายในพริบตา หมอก็แนะนำตัวนู่นนี่นั่น ถ้าจำไม่ผิดชื่อหมอบอย เคยผ่าตัดแบบดมยามาก่อนเปล่าครับ ไม่เคยค่ะ หมอน่ารักมากค่ะ หมอยิ้มหัวเราะนิดๆบวกยิ้มมุมปากหน่อยๆ โอ๊ย............ฟิน สักพักหมอก็เดินเข้ามาก็ทักทายกันหวัดดีค่ะคุณหมอ หมอก็คุยกันบอกว่าจะทำการผ่าตัดบนลงล่างพร้อมวิเคาระห์โครงกระดูกจากภาพ X-ray จากนั้นหมอสุดหล่อของฉันก็มาฉีดยาอะไรไม่รู้ตรงสายน้ำเกลือและเอาอะไรไม่รู้มาคอบตรงจมูก และทิ้งท้ายด้วยคำว่า ไม่ต้องกลัวนะครับเดียวตื้นมาก็สวยแล้วหลับฝันดีครับ..............................
รู้สึกตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อดังมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นเสียงของคุณหมอสุดหล่อของฉัน ตอนนั้นเราได้ยินนะแต่ไม่มีแรงจะตอบโต้ ที่รักของฉันก็เรียกๆๆๆๆๆๆ จนเราต้องเปล่งเสียงออกมาเบา อื้มมมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พร้อมลืมตา เราจำได้ว่าอยู่ในห้องใดสักห้องหนึ่งและก็มีพี่พยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาลนี้แหละมาถามว่าเป็นไงบ้างคะ จะอ้วกค่ะพี่ด้วยเสียงแผ่วเบามันคลื้นไส้จะอ้วก พี่เขาก็เอาถ้วยๆมาลองให้อ้วกค่ะอ้วกออกมาเป็นเลือดเต็มไปหมดเลย เลือดทั้งนั้นเพราะว่าเราเปิดแผลด้านใน ทั้งตัดกรามและกรอโหนกแก้ม ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรนอกจากคลื่นไส้ พออ้วกเสร็จก็หลับไป มารู้สึกตัวอีกที่ตอนเข็นเรามาถึงห้องพักฟื้นแล้วตอนนั้นไม่มีแรงเลยค่ะเหมือร่างกายอยากจะนอนอย่างเดียวและก็คลื่นไส้มาก เราอ้วกเกือบทั้งคืนเลยวันนั้นอ้วกออกมาเป็นเลือดเต็มไปหมด วันรุ้งขึ้นก็อ้วกอีกจำได้ว่ากินอะไรไม่ค่อยได้เลย มึนๆ เวียนๆ ร่างกายไม่มีแรง อยากจะนอนอย่างเดียว