【เรียนหมอที่จีน】 : ชีวิตนิสิตแพทย์ แดนมังกร ปี 1; มหาวิทยาลัย เจ้อเจียง Zhejiang University (Part 1 : การเตรียมตัว)

กระทู้ที่ 2 : อาหารการกิน http://ppantip.com/topic/35238883
กระทู้ที่ 3 : กาเรียนปี 1 ปี 2 https://ppantip.com/topic/37344166
___________________________________________________________________________________________________
เรียนหมอที่จีนดีไหม ? หมอที่จีนเรียนยังไง ? เรียนยากไหม ? ของแพงไหม ? ชีวิตความเป็นอยู่อย่างไง ? ห้องน้ำเป็นยังไง !?! ฯลฯ หลายๆคำถามสำหรับคนที่กำลังคิด หรือกำลังจะมาเรียนต่อคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตร MBBS ที่ประเทศจีน นั่นยากที่จะหาคำตอบให้กับคำถามนั่น วันนี้ เราจะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตการเรียนหมอที่ประเทศจีนเพื่อให้ทุกคนได้เตรียมตัวหรือศึกษาข้อมูลการมาเรียน ที่นี่
**ก่อนอื่นเลย พวกเรายังเป็นแค่ นิสิตปี 1 ดังนั่นข้อมูลชั้นปีอื่นๆยังมีไม่มากเท่าไหร่ กระทู้นี้ตั้งไว้เพื่อให้น้องได้เตรียมตัวก่อนมาเรียนเพื่อที่จะได้ทำใจได้ก่อนมาเรียน **
***คนที่สนใจจะศึกษา รีวิวจากรุ่นพี่ที่เคยเขียนไว้ติดตามได้ แต่กระทู้นี้ทำมาเพื่อ อัพเดตข้อมูลต่างๆ**
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทำไมถึงตัดสินใจมาเรียนที่นี่ !!คำถามยอดฮิตที่ทุกคนต้องเคยโดนถาม ก็ตอบไปแบบตรง //สำหรับ จขกท.// คือ “สอบไม่ติด” ครับ แล้วคำถามต่อมาคือ ทำไมไม่ซิ่ว ความจริงก็อยากจะซิ่วนะครับแต่ก็พอได้มาเรียนที่นี้แล้วก็เลยเปลี่ยนความคิดว่าไม่ซิ่วดีกว่า เหตุผลหลายๆอย่างประกอบกันแหละครับ
*** ประกาศโปรดทราบ *** มาเรียนหมอที่ประเทศจีน ไม่ได้เป็นแพทย์แผนจีนนะครับ แต่เป็น นายแพทย์/แพทย์หญิงเหมือนๆกันนะครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่านิสิตแพทย์ที่มาเรียนที่ประเทศจีนถูกเพ่งเล็งจากทางแพทย์สภาพอตัวเลยละครับ สำหรับผู้มาเรียนแพทย์ที่นี้ก็ต้องยอมรับความกดดันอันนี้ด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

คำถามที่จะถูกถามต่อมาอีก คือ เรียนจบแล้วกลับไปเป็นหมอที่ไทยได้ไหม? คำตอบนะครับ คือกลับไปเป็นหมอที่ประเทศ“ไทยได้” แต่ต้องผ่านกระบวนการสอบใบประกอบโรคศิลป์ 3 ขั้นตอน และก็สอบMEQ Longcase1-2//คราวๆนะครับ ก่อนที่จะสอบขั้นตอนที่สามได้จะต้องจบที่นี้ 6 ปี แล้วกลับไปเป็นแพทย์ฝึกหัดอีก 1 ปี (ปี7) ที่โรงพยาบาลที่แพทยสภารับรอง // รายละเอียดต้องค่อยอัพเดตเรื่อยๆ นะครับ วันนี้มาพูดเรื่องชีวิตการเป็นอยู่มากกว่า
ก่อนอื่นเลยเรามารู้จักมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง // เว็บไซต์มหาวิทยาลัย www.zju.edu.cn

"Seeking the Truth and Pioneering New Trails".
ZJU’s motto
มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง หรือ 浙江大学 (zhe4 jiang1 da4 xue2)หรือ Zhejing university (เรียกสั้นๆว่า เจ้อต้า) ตั้งอยู่ที่เมือง หางโจว (Hangzhou:杭州) มณฑลเจ้อเจียง (Zhejiang:浙江) ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ 1 ใน 6 ของประเทศจีน มาโคโปโล นักเดินเรือชาวอิตาลี ได้กล่าวถึงเมืองหางโจวว่า "the most beautiful and magnificent city in the world"ปัจจุบันหางโจว ถือเป็นเมืองที่อยู่ในเขตภาคตะวันออกที่ได้รับการพัฒนาอย่างสูงสุดแล้ว ดังนั้นหางโจวจึงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ มีวัฒนธรรมที่ยาวนาน และเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพที่สวยสดงดงามเมืองหนึ่งของประเทศจีน รวมทั้งมั่งคั่งไปด้วยเภสัชอุตสาหกรรม และสถาบันศิลปะมากมาย ซึ่งในปี 2016 นี่เองก็ได้เป็นเมืองที่ถูกเลือกให้จัดการประชุม G20 อีกด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงมีทั้งหมด 5 วิทยาเขต ได้แก่
1. Zijingang Campus เป็นวิทยาเขตที่ใหม่และใหญ่ที่สุด เราจะต้องเรียนที่วิทยาเขตนี้กัน 4 ปีเลยที่เดียว แต่วิทยาเขตนี้ค่อนข้างอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร แต่ไม่ต้องกังวลไปในปี 2018 จะมีสถานีรถไฟใต้ดินมาโผล่ที่หน้ามหาวิทยาลัยห่างไปเพียง 800 เมตร
2. Huajiachi Campus วิทยาเขตนี่เราจะได้ไปเรียนในชั้นปีที่ 5-6
3. Yuquan Campus
4. Xixi Campus
5. Zhijiang Campus
และขอยืนยันด้วยหัวใจว่าทุกวิทยาเขตสวยมาก
สำหรับการเปิดภาคเรียนที่นี้จะเริ่มเปิดเทอมในเดือน กันยายน – จากนั่นจะสอบกลางภาคช่วงต้นๆเดือนพฤศจิกายน – ไฟนอลเทอม1ช่วงปลายๆ มกราคมแล้วปิดเทอมเล็ก 1 เทอม ส่วนเทอม2จะเปิดเทอมต้นเดือนมีนาคม—สอบกลางภาคปลายเดือนเมษายน—และสอบไฟนอลช่วงเดือน กรกฎาคม แล้วปิดเทอมใหญ่ 2 เดือน
หลังจากได้รู้จักมหาวิทยาลัยไปพอสมควรแล้วเราก็มีเริ่มเข้าแต่ละหัวข้อเลย


เริ่มแรกเลย : การสมัครมาเรียน

- ก่อนอื่นเลยถ้าเราตั้งใจ/อยากมาเรียนจีนแล้วก็ทำการศึกษาข้อมูลกันก่อนว่ามีมหาลัยอะไรบ้างที่เปิดรับสมัคร และที่สำคัญที่สุดคือต้องตรวจสอบด้วยว่าเป็นมหาลัยที่แพทยสภายอมรับหลักสูตร ของมหาลัยนั่นแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- สำหรับเจ้าของกระทู้ก็สมัครผ่านเอเจนซี่ // ไม่บอกชื่อแล้วกันเชื่อว่าหาในกูเกิลก็เจอกันเยอะแยะแล้วส่วนอันไหนดีไม่ดีก็จะไม่โฆษณานะครับ // สำหรับคนที่สมัครผ่านเอเจนซี่ก็จะต้องเสียค่าดำเนินการให้กับเอเจนซี่ ประมาณ 5,000 – 8,000 บาท สำหรับการดูแลตลอด 6 ปีจ่ายครั้งเดียว (อาจจะมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ เช่น ค่าแปลเอกสาร ค่าทำวีซ่า ฯลฯ แล้วแต่เอเจนซี่จะเรียกเก็บนะครับ)
- แต่สำหรับใครที่ไม่อยากติดต่อเอเจนซี่ก็สามารถติดต่อมหาลัยได้โดยตรง เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้
- ถ้าถามว่ามากับเอเจนซี่ดียังไง ก็ทำให้เรามีคนดูแลช่วงแรก เราไม่ต้องดำเนินการใดๆ เอาแต่เอกสารให้เอเจนซี่แล้วก็ข้อดีที่สุดเลยคือ ถ้าจองผ่านเอเจนซี่ มหาลัยจะจองหอพักใหม่ให้เรา
- เอกสารการสมัคร // สำหรับมหาลัยZJU
o ใบทรานสคริปภาษาอังกฤษ 5 เทอม สำหรับคนสมัครผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ หรือ ใบทรานสคริปภาษาอังกฤษและใบจบม.6 (ต้องเอาไปให้กงสุลแปลเป็นภาษาอังกฤษพร้อมรับรองสำเนา) สำหรับคนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรียบร้อยแล้ว
o GPA 3.50 ขึ้นไป (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนรึป่าว)
o สำเนาหนังสือเดินทาง(Passport)
o ค่าสมัคร แล้วแต่เอเจนซี่
o รูปถ่าย แนะนำให้เป็นแบบของวีซ่า
o เอกสารอื่นๆ แล้วแต่เอเจนซี่จะขอมาก คราวๆก็เท่านี้
- พอยื่นเอกสารแล้วก็รอ รอ รอ รอการตอบรับจากมหาลัย หลังจากได้ใบตอบรับแล้วก็จ่ายค่าเทอม
- ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง(2015)นะครับ อยู่ที่ 39,100หยวน หรือประมาณ 215,050 บาท ต่อปี (คิดเรต 5.5 บาท / หยวน)


ว่างๆก่อนมาจีนเตรียมตัวอะไรดี


- หลังจากเราได้ใบตอบรับ และจ่ายค่าเทอมเรียบร้อยกันแล้ว น้องๆ ก็จะมีเวลาว่างประมาณ 3 – 4 เดือน ช่วงนี้ทำอะไรดีละ หัวข้อนี้ก็เป็น คหสต. ของเจ้าของกระทู้แล้วกันนะว่าเราจะทำอะไรดี
- ก่อนอื่นเลย ** สมัคร WE Chat ** เรารู้ๆกันอยู่ว่าที่จีนไม่สามารถเล่นไลน์ได้ (โดยทั่วไป**เดี๋ยวจะมาบอกทริคการเล่นไลน์) ดังนั่น we chat เลยจำเป็น แต่ !!! we chat ที่จีนไม่ใช่เพียงโปรแกรมแชทนะครับน้องๆ เพราะมันสามารถเปลี่ยนเป็นกระเป๋าตังค์ของน้องๆได้ เพราะที่ประเทศจีน เงินสดเกือบจะไม่ได้ใช้กันแล้ว !!! เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น
- อ่านหนังสือทบทวนความรู้ ม.ปลาย 5555 แค่ขึ้นต้นก็คงบอกได้เลยว่าไม่ทำกันแน่ๆ แต่อันนี้ไม่ได้สำคัญมากถ้าน้องไม่อยากมาทบทวนใหม่ที่นี้ เพราะมาถึง ปี 1 เทอม 1 เรียนค่อนข้างเหมือน ม.ปลายที่ไทย // สำหรับบางคนอาจจะเตรียมตัวหาซื้อตำราไทยมาไว้ก็ได้นะครับ (มีประโยชน์และสามารถช่วยชีวิตน้องๆได้)
- เปิดบัญชีธนาคารที่ไทยเอาไว้โอนเงินมา *** สำคัญมาก *** ธนาคารที่ใช้กันมีสองธนาคารคือ BOC (Bank of China) และ ICBC น้องๆต้องเปิดบัญชีที่ไทยเอาไว้ก่อนแล้วถือบัตรเดบิตมากดตังได้ที่ประเทศจีน โดย**ฝากเงินบาทแล้วมาถอนเงินหยวน** ที่นี่ได้ สำหรับรายละเอียดไม่กล้าให้ข้อมูลเยอะกลัวผิดพลาด โปรดสอบถามจากทางธนาคารเลย
- อีกอย่างที่อยากให้เตรียมตัวก่อนมาเลยก็คือเรียนพื้นฐานภาษาอังกฤษ และจีนมาด้วยจะช่วยให้ชีวิตดี แต่สำหรับภาษาจีนน้องๆไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะการเรียนที่นี้เริ่มเรียนภาษาจีนตั้งแต่ 0 เลย มาเริ่มกันที่ได้
- กินอาหารไทย/อาหารทะเลให้เต็มอิ่ม ให้เบื่อไปถึงชาติหน้าเลยเพราะมานี้น้องจะคิดถึงอย่างสุดซึ้ง
- รักษามิตรภาพที่ไทยไว้ดีสำหรับคนมีแฟน คนไม่มีก็รีบหานะ หรืออยากฝึกภาษาก็มาหาเอาที่นี่

ได้เวลาเตรียมตัว : การแพ๊คกระเป๋าเดินทาง

- ตอน จขกท. มาจีนครั้งแรกได้กระเป๋า 23 กก 2 ใบเพราะเอเจนซี่จองให้ แต่สำหรับใครที่จองเองสามารถขอน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มจาก สายการบิน ChinaAirline ได้ โดยต้องยื่นเอกสาร ว่าเรามาเรียนที่ประเทศจีนจริงๆ
- 23 กก. ขนอะไรมาบ้าง ? จขกท.เป็นผู้ชายนะครับ 555 ดังนั่นการเตรียมของเลยไม่ค่อยมีอะไรมากมาย
o ชุดใส่เล่นคอ กลม คอปก กางเกงขาสั้นขายาว กางเกงใน เสื้อซ้อนด้านใน เสื้อซ้อน รด. หรือใครอยากมาซื้อที่ประเทศจีนก็สามารถมาหาซื้อกันได้ คุณภาพตามราคา
o เสื้อกันหนาว เอาแบบที่สามารถกันหิมะได้เลยก็จะยิ่งอุ่น ** ปกติแล้วหางโจวไม่มีหิมะตกนะครับ ** แต่อยากให้อุ่นๆ เลย อยากให้เอามา แต่สำหรับใครที่ไม่อยากขนมาจากไทยก็สามารถมาซื้อที่นี้ได้ เพราะตอนมาช่วงแรกๆ ร้อนมากกกกก จะเริ่มหนาวช่วง พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ หนาวมากๆ
o ร่ม เสื้อกันฝน หมวก // ต้องบอกเวลาว่าเมืองหางโจวสภาพอากาศแปรปวนมากๆ เช้าฝนตก เที่ยงร้อน เย็นหนาว ในวันเดี่ยวกันดังนั่นอุปกรณ์กันฝนต้องเตรียมไว้พร้อมรบเสมอ 555 // ฝนตกที่นี้ส่วนใหญ่จะไม่ตกแบบพายุเข้า เหมือนบ้านเรา จะตกแบบ ปรอยๆ บางที่มองนอกหน้าต่างไม่รู้ว่าฝนตก //ขอนิยามฝนชนิดนี้ว่า ฝนตกพอรำคาญ 55555
o หนังสือตำราเรียนภาษาไทย *** อันนี้แนะนำสำหรับคนที่ชอบอ่านตำราไทยมากกว่าส่วนคนที่ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษก็ไม่เป็นไร *** ตำราบางวิชาสามารถหาซื้อได้ที่ร้านถ่ายเอกสารใน ม. เป็นหนังสือที่รุ่นพี่ๆ เอาไปฝากให้รุ่นน้องใครอยากได้ก็ไม่สั่งได้เลย
o หนังสืออ่านเล่น **ไม่เน้นมาก สำหรับคนไม่ขี้เหงานะ เพราะส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อ่าน5555**
o อาหารสำเร็จรูป **อันนี้แล้วแต่คนนะครับ เพราะ จขกท.พก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมา 2 แพ๊คใหญ่ ได้กินอยู่ 2 ห่อ เพราะอาหารที่นี้กินได้ แต่เพื่อนบางคน พกมา 3-4 แพ๊คก็ไม่พอ อาหารกระป๋องใครกินอาหารยากหน่อยก็พกมาด้วยก็ดีครับ 55555
o เครื่องปรุง ผงปรุงรส ผงทำอาการสำเร็จรูป **สำหรับคนชอบทำอาหารกิน บอกเลยว่าที่นี้ก็มีเครื่องปรุงอะไรคล้ายๆกับที่ไทยนะครับ แต่จะลำบากตอนไปซื้อเพราะไม่รู้ว่ารสชาติ หรือว่าเราซื้ออะไรมาถูกรึป่าว 555 ยังไงก็พอติดมาบ้างก็ดี อย่างน้อยก็ซอสฝาเขียว หรือแม็คกี้
o น้ำจิ้มสุกี้ รสชาติไทยที่สามารถพกพาได้ง่ายที่สุดน้องๆชอบยี่ห้อไหนพกมากันด้วยมาทำสุกี้กิน ช่วงหน้าหนาวจะอร่อยมากๆ และรำบากตอนล้างจาน
o ยาประจำตัว ** ถ้าใครเป็นโรคประจำตัวควรพกยามาด้วยนะครับ แต่เอามาพอสมควรเพราะสามารถหาได้ที่โรงพยาบาลจีน ยาคล้ายๆกันครับแค่ชื่อจะแปลกๆไม่เป็นชื่ออังกฤษจะเท่าไหร่ถ้าใครมียาประจำก็ศึกษาชื่อภาษาจีนของยาตัวนั่นมาก่อนจะเป็นประโยชน์นะครับ

ปล.เว็บพันทิป Available ในประเทศจีน
กระทู้ที่ 2 : อาหารการกิน http://ppantip.com/topic/35238883
กระทู้ที่ 3 : กาเรียนปี 1 ปี 2 https://ppantip.com/topic/37344166

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่