คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
หลังจากเกิดเหตุก็ต้องสอบปากคำหาหลักฐานสืบหาผู้ต้องสังสัย แล้วจับกุมผู้ต้องสงสัยแบบในหนัง “You have the right to remain silent…”
แล้วต่อมาคือการฟ้องร้อง ผู้ต้องสังสัยจะไปเจอผู้พิพากษาก่อนเพื่อรับฟังคำฟ้อง
เสร็จแล้วก็เป็นช่วงศาลไต่สวน ถ้าหลักฐานเพียงพอก็จะส่งต่อให้คณะตุลาการให้พิจารณาอย่างน้อย 1 เดือน ถ้าคณะตุลาการทั้ง 23 คนคิดว่าหลักฐานเพียงพอก็จะออกคำฟ้องร้อง (Bill of Indictment) และคำฟ้องร้องก็จะถูกส่งกลับไปที่ศาล ตอนนี้ฝ่ายโจทก์ก็จะสามารถออกคำฟ้องร้องอย่างเป็นทางการได้
และจะมีการสอบสวนเล็กน้อยก่อนจะเอาผู้ต้องสงสัยขึ้นศาล (Pre-trial) เพื่อทำการพิจารณาคดีตรวจสอบข้อเท็จจริงและกฏหมาย พยานคนไหนไม่กล้ามาให้ปากคำต่อหน้าศาลในวันจริงก็มาให้เป็นการส่วนตัวได้ภายในช่วงนี้ และช่วงนี้ฝ่ายโจทก์ก็ต้องแจ้งให้ศาลรู้ด้วยว่ามีความประสงค์จะลงโทษจำเลยด้วยโทษประหารด้วยป่าว ถ้าไม่บอกแล้วไปบอกตอนขึ้นศาลเลยไม่ได้
Guilt Phase Trial จำเลยขึ้นศาล
ก่อนคือก็ต้องมีการตรวจสอบคณะลูกขุน (เมืองไทยไม่มี) ว่ามีความพร้อมที่จะพิจารณาคดีมั้ย เพราะคณะลูกขุนเป็นคนธรรมดาอาจมีบางคนที่ขาดคุณสมบัติในการพิจารณาบางคดี
ตอนเปิดศาลผู้พิพากษาก็จะกล่าวเปิดให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีต่างๆนาๆ เอาหลักฐานทั้งหมดออกมาให้ดู
ต่อมาฝ่ายโจทก์ก็จะมากล่าวหาจำเลย ตามข้อเท็จจริงกับหลักฐาน
เสร็จแล้วฝ่ายจำเลยก็จะออกมาโต้แย้ง สามารถให้หลักฐานที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ในตอนนี้
ต่อมาคือการกล่าวปิด ทนายของทั้งโจทก์และจำเลยก็จะออกมาเถียงกันแบบที่เราเห็นในหนังฝรั่ง
พอรับฟังทนายของทั้งโจทก์และจำเลยเสร็จ ผู้พิพากษาก็จะให้ข้อแนะนำในการพิจารณาคดีต่อคณะลูกขุน
คณะลูกขุนก็จะให้คำตัดสินว่าจำเลยผิดจริงหรือไม่ ถ้าผิดจริงก็จะเข้าสู่ช่วงการลงโทษ
จะให้โทษแค่ไหนก็ต้องดูจากปัจจัยหลายๆอย่าง จำเลยเคยกระทำผิดมาก่อนป่าวหรือมีปัญหาทางสติ และเจ้าทุกข์ฝ่ายโจทก์เสียหายมากแค่ไหน
พอคณะลูกขุนพิจารณาปัจจัยเสร็จก็จะพิจารณาการลงโทษ ถ้าฝ่ายโจทก์เรียกร้องโทษประหารก่อนขึ้นศาล คณะลูกขุนก็ต้องเลือกได้แค่ระหว่าง โทษประหาร ติดคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีทัณฑ์บน หรือตามกฏหมายของรัฐนั้นๆ เลือกที่จะปรับเป็นเงินไม่ได้
สุดท้ายผู้พิพากษาก็จะออกบทลงโทษแก่จำเลย บางรัฐผู้พิพากษาต้องให้ตามที่ลูกขุนบอก บางรัฐผู้พิพากษาลบล้างลูกขุนได้
แล้วต่อมาคือการฟ้องร้อง ผู้ต้องสังสัยจะไปเจอผู้พิพากษาก่อนเพื่อรับฟังคำฟ้อง
เสร็จแล้วก็เป็นช่วงศาลไต่สวน ถ้าหลักฐานเพียงพอก็จะส่งต่อให้คณะตุลาการให้พิจารณาอย่างน้อย 1 เดือน ถ้าคณะตุลาการทั้ง 23 คนคิดว่าหลักฐานเพียงพอก็จะออกคำฟ้องร้อง (Bill of Indictment) และคำฟ้องร้องก็จะถูกส่งกลับไปที่ศาล ตอนนี้ฝ่ายโจทก์ก็จะสามารถออกคำฟ้องร้องอย่างเป็นทางการได้
และจะมีการสอบสวนเล็กน้อยก่อนจะเอาผู้ต้องสงสัยขึ้นศาล (Pre-trial) เพื่อทำการพิจารณาคดีตรวจสอบข้อเท็จจริงและกฏหมาย พยานคนไหนไม่กล้ามาให้ปากคำต่อหน้าศาลในวันจริงก็มาให้เป็นการส่วนตัวได้ภายในช่วงนี้ และช่วงนี้ฝ่ายโจทก์ก็ต้องแจ้งให้ศาลรู้ด้วยว่ามีความประสงค์จะลงโทษจำเลยด้วยโทษประหารด้วยป่าว ถ้าไม่บอกแล้วไปบอกตอนขึ้นศาลเลยไม่ได้
Guilt Phase Trial จำเลยขึ้นศาล
ก่อนคือก็ต้องมีการตรวจสอบคณะลูกขุน (เมืองไทยไม่มี) ว่ามีความพร้อมที่จะพิจารณาคดีมั้ย เพราะคณะลูกขุนเป็นคนธรรมดาอาจมีบางคนที่ขาดคุณสมบัติในการพิจารณาบางคดี
ตอนเปิดศาลผู้พิพากษาก็จะกล่าวเปิดให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีต่างๆนาๆ เอาหลักฐานทั้งหมดออกมาให้ดู
ต่อมาฝ่ายโจทก์ก็จะมากล่าวหาจำเลย ตามข้อเท็จจริงกับหลักฐาน
เสร็จแล้วฝ่ายจำเลยก็จะออกมาโต้แย้ง สามารถให้หลักฐานที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ในตอนนี้
ต่อมาคือการกล่าวปิด ทนายของทั้งโจทก์และจำเลยก็จะออกมาเถียงกันแบบที่เราเห็นในหนังฝรั่ง
พอรับฟังทนายของทั้งโจทก์และจำเลยเสร็จ ผู้พิพากษาก็จะให้ข้อแนะนำในการพิจารณาคดีต่อคณะลูกขุน
คณะลูกขุนก็จะให้คำตัดสินว่าจำเลยผิดจริงหรือไม่ ถ้าผิดจริงก็จะเข้าสู่ช่วงการลงโทษ
จะให้โทษแค่ไหนก็ต้องดูจากปัจจัยหลายๆอย่าง จำเลยเคยกระทำผิดมาก่อนป่าวหรือมีปัญหาทางสติ และเจ้าทุกข์ฝ่ายโจทก์เสียหายมากแค่ไหน
พอคณะลูกขุนพิจารณาปัจจัยเสร็จก็จะพิจารณาการลงโทษ ถ้าฝ่ายโจทก์เรียกร้องโทษประหารก่อนขึ้นศาล คณะลูกขุนก็ต้องเลือกได้แค่ระหว่าง โทษประหาร ติดคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีทัณฑ์บน หรือตามกฏหมายของรัฐนั้นๆ เลือกที่จะปรับเป็นเงินไม่ได้
สุดท้ายผู้พิพากษาก็จะออกบทลงโทษแก่จำเลย บางรัฐผู้พิพากษาต้องให้ตามที่ลูกขุนบอก บางรัฐผู้พิพากษาลบล้างลูกขุนได้
แสดงความคิดเห็น
กระบวนการยุติธรรมของ usa มีขั้นตอนยังไงครับ เอารัฐไหนก็ได้ ตั้งแต่จับคนทำผิดไปจนถึงติดคุก
โดยไม่แจ้งข้อหาสูงสุดที่สามารถทำได้ เพื่อจะได้ลดหย่อนโทษ เจตนาฆ่าเผลอก็คงได้ในระยะเวลาต่ำสุดเพราะศาลก็จะไม่ตัดมากกว่า 20
จึงเห็นว่าการที่ให้อำนาจ....แจ้งข้อหา กับ ต. ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
พอมีใครทราบไหมว่าการทำงานเรื่องพวกนี้ที่เมืองนอก หรือชาติที่เจริญแล้วทางตะวันตก เขามีขั้นตอนกันยังไงบ้าง
หรือว่าเขาก็ทำเหมือนเรา ลงโทษเหมือนเรา อภัยโทษเหมือนเรา