ปลูกรักในรั้วใจ โดย อิสวารายา ตอนที่ (35,36 อวสาน)

ตอนที่ 35 ผ่านเลยไป


    สองวันผ่านไปที่ปลายเดือนยังไม่กลับบ้าน ที่ทวีกิจก็ไม่ได้เข้าไปอันผิดวิสัยของคนที่รักงานและมีความรับผิดชอบสูง จนล่วงเข้าวันที่สาม สองพี่น้องเลยพากันไปดูที่คอนโดแต่ก็ไม่พบใคร ความสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับปลายเดือนก่อกวนจิตใจจนอยู่ไม่เป็นสุข เรื่องเก่าเพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วันก็มีเรื่องใหม่เข้ามาให้แก้ปัญหาอีกแล้ว
    “เป็นไปได้ไหมคะ...ว่าพี่ผึ้งไปต่างประเทศโดยไม่บอกใคร?” แทนดาวเอ่ยถามกับคุณระรินเมื่อยังไม่มีทีท่าว่าพี่สาวจะกลับมาหรือติดต่อมาแต่อย่างใด
    “ไม่หรอกค่ะ อาไปดูในห้องยังเห็นพาสปอร์ตอยู่ที่เดิม เสื้อผ้าก็ไม่ได้พร่องตู้ไป”
    “อย่าเพิ่งวิตกเลยครับอา บางทีสีผึ้งอาจจะไปอยู่บ้านเพื่อนคนใดคนหนึ่งเพราะไม่อยากให้เราไปตามที่คอนโด” เทียมภพพูดให้อาสะใภ้สบายใจทั้งๆ ที่ในใจก็กลัดกลุ้มเอาการ ถึงมั่นใจในตัวน้องสาวคนรองว่าเป็นคนเก่งและเอาตัวรอดได้ แต่ความเป็นหญิงก็ทำให้อดห่วงไม่ได้อยู่ดี
    “ออฟฟิศก็ไม่เข้า คอนโดก็ไม่อยู่ แล้วนี่จะติดต่อพี่ผึ้งได้ยังไง” แทนดาวถามตัวเองในใจ ในหัวก็พยายามรำลึกว่ามีสถานที่ใดอีกที่พี่สาวมักจะชอบไปแต่ดูเหมือนจะจนปัญญาอยู่เท่านี้
    “เมื่อกี้บ้านใหญ่โทรมาค่ะ บอกว่าคุณชลธีมา” แม่คนหนึ่งเดินมาบอก แทนดาวมองหน้าพี่ชายอย่างเกรงๆ ว่าจะยอมให้ไปพบหรือเปล่า
    “ผมกลับก่อนก็แล้วกัน อาริน...ยังไงเสียสีผึ้งก็คือทวีกิจ รับรองว่าจะไม่มีการดำเนินคดีอะไรทั้งนั้น...วางใจนะครับ” สองพี่น้องให้กำลังใจอาสะใภ้อีกครั้งแล้วปลีกตัวออกมา

    ชลธีไม่ได้มาคนเดียว สตรีที่มาด้วยก็รู้จักมักคุ้นกันเลยไม่จำเป็นต้องทักทายเป็นทางการนัก ฝ่ายหลังเจาะจงอยากจะมาคุยกับแทนดาวตามลำพัง เจ้าของบ้านก็เลยพาไปที่ซุ้มกระดังงามุมสงบที่สุดรองจากบ่อปลาหลังบ้าน ปาลิดารอจนแม่บ้านยกน้ำกับขนมมารับรองเรียบร้อยก็เปิดประเด็นพูดคุย
    “เห็นว่าไม่สบาย...เป็นยังไงบ้างล่ะ?” คำถามนี้ออกจะแปร่งๆ อยู่สักเล็กน้อยเพราะโดยธรรมชาติแล้วคนอย่างปาลิดามักจะไม่ค่อยเอาใจใส่ต่อสุขภาพของคนอื่นนอกจากตนเองและไอดอลในดวงใจอย่างชลธีเพียงผู้เดียว แต่กระนั้นคนถูกถามก็ยังดีใจที่นึกถึงกันไม่ว่าจะรู้สึกจริงๆ หรือแค่ถามไปตามมารยาทเท่านั้น
    “หายดีแล้วล่ะ ว่าแต่ลูกปลาเถอะ...เรื่องนั้นเคลียร์หรือยัง?” เป็นที่เข้าใจกันระหว่างสองสาวว่า ‘เรื่องนั้น’ หมายถึงเรื่องอะไร
    “เคลียร์แล้ว...วันนี้เองล่ะ” รอยยิ้มกระจ่างใสผุดขึ้นบนใบหน้าออกไทยผสมจีน ปาลิดายกแก้วน้ำส้มคั้นดูดอึก ใหญ่แล้วเริ่มเล่ารายละเอียด
    “เมื่อวานพี่ชลโทรบอกลูกปลาให้ไปที่ทวีกิจ พอไปถึงน่ะ...เจออะไรรู้ไหม? ทั้งท่านประธานใหญ่รวมทั้งพี่ชล ผู้จัดการบัญชี บุคคล ฝ่ายกฎหมาย อ้อ..แล้วก็ยัยสินินุชตัวร้าย อยู่กันครบเซ็ตเลย” เสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกความสะใจเต็มที่
     “งั้นเหรอ? แล้วตัดสินว่ายังไง?”
    “หลักฐานมัดตัวขนาดนั้นต้องก็ถูกไล่ออกตามระเบียบ อีกอย่าง...นางก็มีชนักปักหลังด้วยเรื่องที่ชอบไปหยิบยืมเงินพนักงานคนอื่นแล้วเบี้ยวเขา พอเรื่องแดงขึ้นพวกเจ้าทุกข์ก็มาชี้ตัวอยู่หน้าห้องเต็มไปหมด นางบีบน้ำตาเรียกความเวทนาต่อใครๆ โอดว่าติดหนี้นอกระบบบ้าง แม่ป่วย ไม่มีเงินส่งแชร์บ้าง โอ๊ย...หลอกใครหลอกได้แต่หลอกคนอย่างลูกปลาไม่ได้หรอก”
    “แล้วชื่อ...ปราง...ที่ยัยนั่นพูดถึงล่ะ? ใช่ปรางเดียวกับที่เราสงสัยกันหรือเปล่า?”
    “แม่นเป๊ะ...ยัยนุชซัดทอดเปรมยุตาว่าเป็นคนจัดการวางแผนให้ขโมยเงินสองแสน ไม่เท่านั้นนะ...มันแอบปั๊มกุญแจลิ้นชักของลูกปลาไป แล้วที่กล้องเสียวันนั้นน่ะ...ก็ยัยนี่แหละที่เอาเงินไปปิดปากยาม” ปาลิดาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างแค้นเคือง
     “ อุ๊ย...เธอต้องเห็นหน้ามันตอนบีบน้ำตาเรียกคะแนนจิตพิสัย ครวญว่า...ถูกบีบให้ทำเพราะไปยืมเงินยัยปรางแล้วไม่มีใช้ แม่นั่นก็เลยให้สร้างเรื่องใส่ร้ายลูกปลาเป็นการใช้หนี้ แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นนะ...ยัยปรางนี่ร้ายสุดๆ เลย ให้ยัยนุชปั๊มกุญแจห้อง คีย์การ์ดและอื่นๆ อีกสัพเพเหราก็เลยเข้านอกออกในห้องพี่ชลได้ปรุ แถมยังจ้างเป็นต้นห้องคอยรายงานความเคลื่อนไหวว่าวันๆ นึงพี่ชลไปไหน ทำอะไร กับใครบ้าง”
    “เอ่อ...ในเมื่อพี่ชลรู้อย่างนี้แล้ว เขาจัดการคุณปรางยังไงบ้างล่ะ?”
    “อืม...ดูลางแล้วพี่ชลไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงตำรวจเท่าไหร่ คงสงสารยัยปรางมั้ง อย่างน้อยก็เคยคบกันมานาน ติดที่ว่าอยู่ต่อหน้าผู้บริหารหลายคนก็เลยต้องทำอะไรให้เด็ดขาดไม่งั้นก็จะดูไม่ดี”
    “แต่พลูเข้าใจพี่ชลนะ เรื่องบางเรื่องมันเคลียร์กันเองได้ อีกอย่าง...แค่ลูกปลาหลุดจากข้อครหาก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วหลังจากนี้ล่ะ…จะกลับไปทำงานที่ธาราอีกหรือเปล่า?
    “คงไม่แล้วล่ะ...ว่าจะกลับไปทำงานที่ห้องเย็นอย่างเดิม ไม่ไหวอ่ะ...คนที่นี่ใจร้ายเลือดเย็นจัง ถึงลูกปลาจะไม่ใช่คนดีเด่อะไรแต่อย่างน้อยก็ไม่เคยแทงข้างหลังใคร”
    สองสาวสบตากันอย่างต้องการอ่านความคิดของอีกฝ่าย รายละเอียดที่เพิ่งได้รับฟังทำให้แทนดาวเข้าใจผู้คนรอบข้างมากขึ้น  เช่น ปาลิดาที่ว่าโผงผาง ปากไว ยังยอมรามือให้กับคนที่ดูนุ่มนวลสุขุมอย่างเปรมยุตาง่ายๆ ทำให้เกิดคำถามสั้นๆ ในใจว่า แล้วตัวเองล่ะ...จะยอมถอยให้ผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า
    “ลูกปลาบอกคุณเทียมภพแล้วว่าสิ้นเดือนนี้จะลาออก แต่ก่อนไป...ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะสารภาพ” แทนดาวเลิกคิ้วอย่างเป็นคำถาม สังเกตเห็นอาการลังเลและความสำนึกผิดบนใบหน้าฉาบเมคอัพจัดจ้าน
    “คือจริงๆ วันนี้ลูกปลาไม่ได้ตั้งใจมาเยี่ยมหรือมาบอกข่าวเรื่องสินีนุชหรอก...”
    “ดูจะสำคัญมากเลยนะ...ถึงทำหน้ายังงี้”
    “สำคัญสิ...ถ้าไม่ได้พูดก็เหมือนมันติดค้างในใจน่ะ ยังจำข่าวนั่นได้ไหม? จริงๆ ลูกปลาตั้งใจขโมยข่าวมาให้ดู คิดเอาเองว่าเธอกับพี่ชลจะได้ทะเลาะกัน คิดว่านะ...ยัยปรางเป็นคนจัดฉากแล้วก็คงจะปล่อยข่าวเองนั่นแหละ แล้วก็ขอยืนยันเลยว่าพี่ชลบริสุทธิ์ในทุกๆ เรื่อง ที่ยืนยันได้ก็เพราะลูกปลาแอบเข้าไปหาหลักฐานในห้องทำงานพี่ชลแล้วเจอผลตรวจร่างกาย ในนั้นเขียนว่าเขากับนังปรางไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่เธอคิด ผลเลือดบอกว่าโดนวางยานอนหลับด้วย..เลวจริงๆ” สิ้นคำบอกเล่า แทนดาวก็โกรธที่ปาลิดาขึ้นมาที่ช่างกล้าทำแบบนั้น หล่อนจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าหลังจากนั้นแล้วเกิดอะไรขึ้นระหว่างตนกับชลธีบ้าง
    “เอ๊ะ...งั้นวันนั้นที่พลูไปหาพี่ชลที่ออฟฟิศ เห็นว่าหาหลักฐานอะไรสักอย่าง คงหมายถึงผลตรวจนี่หรือเปล่า?”
    “คงใช่มั้ง ที่ลูกปลาขโมยมาเพราะเดาเอาว่าพี่ชลต้องเอาผลตรวจมาให้เธอดูแน่ๆ แต่พอเธอบอกว่าไม่เชื่อข่าวนั่น...ก็เลยทิ้งไปเพราะคิดว่าไม่น่ามีผลอะไร” ปาลิดาหยุดแค่นั้นเมื่อสังเกตสีหน้าไม่ค่อยดีของอีกฝ่าย
    “ทีแรกพลูก็ไม่เชื่อข่าวซุบซิบดารานั่นหรอก...แต่พอเอาหลายเหตุการณ์มาร้อยกันก็อดเขวไม่ได้” แทนดาวลูบกำไลที่เขาเพิ่งสวมคืนให้อย่างรู้สึกผิด ความไม่เชื่อใจเกือบจะนำมาซึ่งการพลัดพรากอันน่าสะเทือนใจ
    “ลูกปลาขอโทษจริงๆ นะ ตอนที่สารภาพเรื่องนี้กับพี่ชลก็กลัวว่าแกจะโกรธจนไม่อยากมองหน้า แต่ผิดคาด...พี่ชลไม่ดุเลยสักคำ ลูกปลาเลยอยากจะมาบอกใบพลูด้วยตัวเอง ใบพลูดีกับลูกปลาทุกอย่างแต่ดูเรื่องที่ตัวเองทำไว้สิ” ปาลิดาบอกเสียงอ่อยอย่างสำนึกผิดจริงๆ
    “ให้มันผ่านไปเถอะลูกปลา ต้องขอบใจที่บอกกัน ไม่งั้นพลูก็คงติดใจเรื่องนี้ไปอีกนาน”
    “เรื่องที่จะพูดก็พูดหมดแล้ว...สบายใจแล้วล่ะ” สองสาวยิ้มให้กันอย่างเข้าอกใจ เมื่อทุกอย่างเปิดเผย...ก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่รู้จักโต ไม่รู้จักคิดไตร่ตรองเรื่องราวให้ถ้วนถี่จนเกือบจะเกิดโศกนาฏกรรมความรัก แค่เพียงแต่คิด...ก็เหมือนมีคลื่นความหวาดกลัวลูกเล็กซัดกระทบจิตใจเมื่อลองคิดว่า ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น...เขายังจะมีแก่ใจอยู่รออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น หรือยังจะทนกับความเอาแต่ใจของตัวเองอยู่หรือไม่

    เวลาล่วงถึงยามโพล้เพล้เต็มทีแต่แทนดาวยังคงเดินทอดอารมณ์เรื่อยเปื่อยจนมาหยุดนั่งพักตรงหัวสะพานริมบ่อปลา หญิงสาวหย่อนตัวลงนั่งบนบันไดขั้นแรกแล้วหยิบอาหารเม็ดสีน้ำตาลในกระปุกซัดกระจายลงไปในสระน้ำ ไม่ถึงหนึ่งนาทีฝูงปลาตัวอ้วนที่เลี้ยงไว้ก็ผุดขึ้นมาแย่งตอดกินอาหารจนน้ำกระเพื่อมเป็นวงคลื่น เสียงจ๋อมแจ๋มแย่งฮุบอาหารทำให้หญิงสาวยิ้มในความตะกละของพวกมัน ทุกครั้งเวลามีเรื่องรบกวนใจ แทนดาวมักจะหลบมาอยู่เงียบๆ ตรงนี้ประจำ ให้อาหารปลาแล้วคอยดูพวกมันแย่งกันกินอย่างเอร็ดอร่อยก็ช่วยบรรเทาความเครียดได้ทางหนึ่ง
    เสียงกรอบแกรบข้างหลังทำให้หญิงสาวละสายตาที่กำลังมองดูปลาอย่างเพลิดเพลินเหลียวไปมองต้นเสียงก่อนจะระบายยิ้มให้ผู้มาใหม่ หญิงสาวรีบวางกระปุกอาหารลงพร้อมกับขยับตัวไปชิดขอบบันไดอีกฝั่งโดยอัตโนมัติเมื่อเขาทำท่าจะลงมานั่งด้วยกัน  ชลธีหยุดยืนค้ำหัวร่างเล็กจนดูคล้ายยักษ์ตัวโตกำลังจ้องมองมนุษย์ตัวเล็กๆ เขายังอยู่ในชุดทำงานเกือบจะเต็มยศเพียงแต่ไม่มีเสื้อนอกสวมทับ มือหนึ่งหิ้วถุงพลาสติกสีขาวขุ่นมาด้วย
    “เห็นลูกปลาเข้าบ้านไปนานแล้วแต่ไม่เห็นน้องพลูตามเข้าไป พี่หาอยู่ตั้งนาน...หาจนทั่วเลยนึกได้ว่ายังมีตรงนี้อีกที่ที่น้องพลูชอบมา” ร่างสูงเอ่ยทักทายเสียงสดชื่นขัดกับสีหน้าเคร่งขรึมแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ด้วยความสูงทำให้เขาต้องวางเท้าบนบันไดขั้นล่างถัดไปอีกสองขั้น ในขณะที่แทนดาวดีใจที่เขาจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตนได้เสมอ
    “น้องพลูก็นึกว่าพี่ชลกับลูกปลากลับไปแล้วก็เลยยังไม่เข้าบ้านค่ะ แล้ววันนี้จะอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันไหมคะ?”
    “พี่ต้องไปงานเลี้ยงต่อ อีกสักเดี๋ยวก็คงออกไป เป็นไงบ้างครับ...แผลหายดีหรือยัง
    “หายอักเสบแล้วค่ะ ต้องระวังอย่าให้โดนน้ำ อดนุ่งกระโปรงสั้นยาวเลย” หญิงสาวพลิกน่องขาทั้งสองข้างให้ดู รอยแผลตกสะเก็ดกับอาการบวมแดงทุเลาลงไปมาก
    “พี่ซื้อมาให้” ชายหนุ่มล้วงถุงหยิบสิ่งของบางอย่างยื่นให้ มันเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นเดียวกับที่เขาใช้แต่เป็นสีชมพูใหม่แกะกล่อง
    “พี่ซื้อไว้หลายวันแล้วเพราะเห็นว่าจำเป็น เบอร์ใหม่ เครื่องใหม่ เมมเบอร์พี่ใส่ให้แล้วด้วย”
    “ขอบคุณนะคะ แต่... เดี๋ยวพี่หมากก็ซื้อให้เองแหละ” แทนดาวมองมันอยู่ครู่หนึ่งก็ส่ายหน้าแม้ด้วยความเกรงใจ แล้วซ่อนรอย ‘อยากได้’ ด้วยการหันไปมองฝูงปลาที่เริ่มทยอยมุดน้ำหายไปเพราะไม่เหลืออาหารให้ฮุบแล้ว
    “รู้อีกนั่นแหละ...เครื่องนี้เอาไว้ติดต่อกับพี่คนเดียวก็ได้ ห้ามปิดเครื่อง ห้ามแบตหมด ห้ามลืม ห้ามไม่รับสายและห้ามรับสายช้า” เขาสั่งเป็นชุด แทนดาวหน้ามุ่ยหนักเข้าไปอีก นึกขวางๆ ในใจว่าโทรศัพท์เครื่องนี้มีฟังก์ชั่นสารพัดจนเกินความต้องการแล้ว ไม่ต้องไปยัดฟังก์ชั่นเสริม ห้า ห. เพิ่มอีกหรอก แต่ท้ายสุดก็รับเอามา
    “เรื่องที่น้องพลูเข้าใจพี่ชลผิดไป...ต้องขอโทษด้วยนะคะ ลูกปลาบอกความจริงทุกอย่างแล้ว” มือเล็กกระพุ่มไหว้เป็นการขอบคุณและขอโทษไปพร้อมกัน เรื่องที่ ‘ติดหนี้’ ยิ่งทำให้รู้สึกผิดไปกันใหญ่ ถ้าวันนั้นเขาตามไปไม่ทันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้มานั่งอยู่ตรงนี้อีกไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่