เราเคยคบกับคนๆนึงเคยคบเป็นแฟนแล้วลดสถานะด้วยเหตุผลที่ว่า เขากลัวพ่อแม่เรารับเขาไม่ได้ กลัวว่าพ่อแม่เราคิดว่าเขาจะไม่เหมาะสมกับเรา ทั้งๆที่ตอนนั้นเราอธิบายต่างๆนาๆ ว่าอย่ากลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดนั่นนี่สารพัดที่จะหาคำมาพูดเพื่อไม่ให้เราเลิกกัน แล้วเรากับเขาตอนนั้นก็ลดสถานะลงจากแฟนกลายเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน...
เรายังมีการติดต่อถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่แต่ไม่บ่อย หลังจากวันนั้น 1 ปีเราได้มีการพูดคุยกันบ่อยขึ้น ด้วยความที่เราเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายเคยเป็นอย่างไรก็มักจะเป็นแบบนั้น จนเขาคิดว่าพวกเรายังกลับมาคบกันได้
จนวันนึงเขาถามเรามาว่าเรายังรู้สึกดีกับเขาอยู่ใช่หรือป่าว เราจะกลับมาคบกันได้ไหม แน่นอนเราปฏิเสธเขาไปอย่างไม่ต้องสงสัย นั่นไม่ใช่เพราะเราโกรธแค้นที่เขาบอกเลิกเราไป แต่เพราะตอนนั้นเราคบใครอยู่ก่อนที่เขาจะพูดแล้ว ความรู้สึกดีๆที่มีให้มันได้เปลี่ยนสถานะไปนานแล้ว...
หลังจากวันนั้นเขาค่อนข้างจะผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เรารู้สึกผิดที่ต้องบอกกับเขาแบบนั้นไปตรงๆ แต่ถ้าความรู้สึกคนเรา ณ ตอนนั้นไม่ใช่คือไม่ใช่อยู่ดี แต่ระหว่างเรากับเขานั้นยังคุยกันปกติเหมือนก่อนหน้านี้คือทักทายกันบ้างแต่ไม่บ่อย 3 เดือน 5 เดือนถึงจะทักถามกันบ้าง
ทุกครั้งที่เรามีปัญหาเรื่องความรักหรือเรื่องอื่นๆ เรามักปรึกษาเขาเรื่อยมา พอคุยเรื่องของเรากับเขาเสร็จเรามักถามเขาอยู่ประโยคนึงว่า แล้วเทอละ หาคนมาดูแลได้บ้างหรือยัง อยู่ตัวคนเดียวไม่เหงาหรอ ก่อนหน้านั้นเราเคยคุยกับพี่ที่เราและเขาก็รู้จักพี่คนนี้มักลุ้นให้เรากับเขาได้กลับไปคบกันเสมอ เขาบอกว่าเขานั้นเคยไปชอบผญ.คนนึงหลังจากเราปฏิเสธไป แต่กลับพบความจริงว่าผญ.คนนั้นเขามีแฟนอยู่ก่อนแล้ว
เหตุผลที่เราถามเขานั้น ก็เพราะต้องการอยากเห็นเขาได้เริ่มต้นเจอความรักดีๆก็เท่านั้น... หลังจากนั้นถ้าเราคุยปัญหาเรื่องความรักหรือเรื่องอื่นๆ เรามักถามเขาแบบนี้ คำตอบแต่ละครั้งที่ผ่านมาจะเป็นประมาณนี้
ครั้งนึงเขาบอกเราว่า ตัวเขาคงไม่คบใครยืดยาวหรอกที่ผ่านมาเขาคบใครแล้วเป็นเหมือนผ่านมาให้แค่จำ คงไม่มีทางยืดยาวได้หรอก เขารักอิสระมากกว่า
ทุกครั้งที่ถามก็มักได้รับคำตอบว่าก็พอมีบ้างแล้ว
อีกครั้งก็ว่ามีแล้วแบบไม่เต็มปาก
หลายๆครั้งที่เราถามเขา เรากลับสักเกตุว่าทุกครั้งนั้นเรามีคนคุยแล้วมีการโพสสถานะหน้าเฟสอยู่ตลอด ประโยคเดิมๆที่เรามักถามเขา เขาเลยมักจะพูดในเชิงที่ว่าไม่ต้องห่วงเราหรอก เรานั้นสบายดีมีความสุข ส่วนเรื่องความรักนั้นเขามีบ้างแล้ว พอได้อ่านกลับรู้สึกเศร้าแบบแปลกๆ
ครั้งก่อนล่าสุดเราถามแบบนี้อีกเช่นเคย ครั้งนี้กลับไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา คำพูดของเขานั้นเป็นคำพูดของคนมั่นใจที่จะตอบคำถามนี้จากเรา เราถามเขาไปว่าตัวคนเดียวมันมีความสุขมากนักหรอ มันมีความสุขจริงๆหรอ? เขาตอบกลับมาว่า มาก
เราตอบกลับไปว่า ถ้าคิดงั้นก็จนใจ เราแค่อยากเห็นเทอ ในแบบที่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแบบทุกวันนี้บ้างก็เท่านั้น ประโยคที่ตอบกับมากลับทำให้จุกจนพูดไม่ออก ด้วยประโยคที่ว่า เราก็มีแล้ว สะอึกเลยสิไม่คิดไม่ฝันจะเจอประโยคนี้จากเขาเลย พอทำท่าว่าจะทะเลาะกันยาวด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเขาก็เริ่มจะจบประโยคสนทนา
เราก็ตอบกลับไปว่าขอบคุณนะสำหรับคำเตือนขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนคุย เขาตอบกลับมาว่า เราต้องเข้าบ้านแล้ว เขารอเรากินข้าวอยู่ (น้ำตาตกใน555) จี๊สใจสุดๆ ตอบกลับไปว่าอ่อ แล้วเขาก็ตบท้ายด้วยประโยคที่ว่า เทอก็เหมือนน้องสาวเรา มีอะไรก็ทักได้ ฝันดีครับ
ก่อนจบประโยคสนทนาเราก็ถามเขาไปว่าแอดเฟรนจะมีปัญหาไรไหม ได้คำตอบมาว่า ไม่หรอก เขารู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร
หลังจากนั้นช่วงดึงครั้งนึงเห็นเขาออนเลยทักไป ประโยคที่ตอบกลับมาลงท้ายด้วยคำว่า "คะ" แล้วฝั่งผญ.ก็ชวนคุยยาว ตอนนี้ที่เราคุยคือเรานั้นก็มีคนคุยอยู่บ้างแล้ว ลักษณะการคุยเหมือนเป็นเขานั่นละที่เป็นคนพิมพ์ เรากับเขารู้จักกันมาตก7ปี เขาจะเล่าเรื่องให้แฟนเขาฟังเกี่ยวกับเรา5-6ปีที่แล้วเลยหรอ ผู้ชายจะเล่าย้อนให้ผญ.อีกคนฟังนานขนาดนั้นเลยหรอ
เราเลยคิดว่าน่าจะเป็นตัวเขานั่นละที่พิมพ์ เพราะเราถามว่ารู้จักเราด้วยหรอคะ เราถามว่าเล่าอะไรให้ฟังบ้าง ฝ่ายญ. ตอบมาว่าก็เรื่องทั่วไปสมัยเล่นเกมส์ (ซึ่งมัน5-6 ปีที่แล้วนู้น)แต่ก็ไม่มั่นใจ100%หรอกว่าเป็นเขาพิมพ์แค่คาดเดาจากลักษณะที่เขาพิมพ์
ล่าสุดก็ได้คุยมาอีกว่าแม่ถามเราทุกวันทำไมไม่หาคนดูแลสักคนอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้แม่เป็นห่วง ก็เล่าให้เขาฟังทำนองนี้ เราก็บอกต่อไปอีกว่าคงต้องหาแล้วละ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้บ่อยๆ เรื่องของเรื่องถ้าเราไม่หาแม่อาจจะหาให้แทน
พอเขาได้อ่านก็ตอบกลับมาว่าจะรีบหาไปทำไม ถ้ามันจะมีเดี๊ยวก็มีเอง มีก็ไม่ได้หมายความว่าจะดี เดี๊ยวสิ้นเดือนนี้เขาจะไปอยู่.....2ปี เราถามเขาว่าไปไหน เขาบอกรับใช้ชาติ เป็นทหารนั่นละท่านผู้อ่าน หลังจากนั้นก็พูดในเชิงลักษณะที่ว่าอย่าพึ่งรีบหาให้รอดูไปก่อน แอบหวังว่าสิ่งที่เขาพูดนั่นคือให้รอเขา แต่คิดว่าคงไม่ใช่ก็เขาบอกมานี่เน๊อะว่าเรานั้นก็เหมือนน้องสาวเขาคนนึง
ทุกครั้งที่เราถามเขา เรามักจะพิมพ์ประโยคนึงและลบมันทุกครั้ง นั่นคือ ถ้าวันนึงเราต่างก็ไม่มีใคร เรากลับมาคบกันไหม เหตุการณ์ที่ผ่านมาเรามองนึกย้อยเหตุการณ์ไปทุกครั้งที่เขาตอบเรามาเชิงว่าเขาเองก็มีใครอยู่เหมือนกัน มันเป็นจังหวะที่เรานั้น ก่อนหน้าที่จะทักทายเขาเรามีคนคุยด้วยอยู่
เลยทำให้เราคิดว่าสิ่งที่เขาตอบเรามานั้นประชดเราหรือป่าว-*-หรือเราคิดไปเอง เราถึงได้อยากถามเขาทุกครั้งที่ได้คุย ว่าถ้าวันนึงเราต่างก็ไม่มีใคร เรากลับมาคบกันได้ไหม ด้วยความที่เคยปฏิเสธไป ก็กลัวจะเจอประโยคปฏิเสธเช่นนั้นกลับมาเหมือนกัน ไม่อยากให้ความรู้สึกดีๆตอนนี้มันลดลงถ้าพูดไปเลยเลือกที่จะไม่พูดจนทุกวันนี้
เคยรู้สึกอยากพูดประโยคนึงกับใครสักคนแต่ไม่กล้าพูดออกไปไหมคะ
เรายังมีการติดต่อถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่แต่ไม่บ่อย หลังจากวันนั้น 1 ปีเราได้มีการพูดคุยกันบ่อยขึ้น ด้วยความที่เราเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายเคยเป็นอย่างไรก็มักจะเป็นแบบนั้น จนเขาคิดว่าพวกเรายังกลับมาคบกันได้
จนวันนึงเขาถามเรามาว่าเรายังรู้สึกดีกับเขาอยู่ใช่หรือป่าว เราจะกลับมาคบกันได้ไหม แน่นอนเราปฏิเสธเขาไปอย่างไม่ต้องสงสัย นั่นไม่ใช่เพราะเราโกรธแค้นที่เขาบอกเลิกเราไป แต่เพราะตอนนั้นเราคบใครอยู่ก่อนที่เขาจะพูดแล้ว ความรู้สึกดีๆที่มีให้มันได้เปลี่ยนสถานะไปนานแล้ว...
หลังจากวันนั้นเขาค่อนข้างจะผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เรารู้สึกผิดที่ต้องบอกกับเขาแบบนั้นไปตรงๆ แต่ถ้าความรู้สึกคนเรา ณ ตอนนั้นไม่ใช่คือไม่ใช่อยู่ดี แต่ระหว่างเรากับเขานั้นยังคุยกันปกติเหมือนก่อนหน้านี้คือทักทายกันบ้างแต่ไม่บ่อย 3 เดือน 5 เดือนถึงจะทักถามกันบ้าง
ทุกครั้งที่เรามีปัญหาเรื่องความรักหรือเรื่องอื่นๆ เรามักปรึกษาเขาเรื่อยมา พอคุยเรื่องของเรากับเขาเสร็จเรามักถามเขาอยู่ประโยคนึงว่า แล้วเทอละ หาคนมาดูแลได้บ้างหรือยัง อยู่ตัวคนเดียวไม่เหงาหรอ ก่อนหน้านั้นเราเคยคุยกับพี่ที่เราและเขาก็รู้จักพี่คนนี้มักลุ้นให้เรากับเขาได้กลับไปคบกันเสมอ เขาบอกว่าเขานั้นเคยไปชอบผญ.คนนึงหลังจากเราปฏิเสธไป แต่กลับพบความจริงว่าผญ.คนนั้นเขามีแฟนอยู่ก่อนแล้ว
เหตุผลที่เราถามเขานั้น ก็เพราะต้องการอยากเห็นเขาได้เริ่มต้นเจอความรักดีๆก็เท่านั้น... หลังจากนั้นถ้าเราคุยปัญหาเรื่องความรักหรือเรื่องอื่นๆ เรามักถามเขาแบบนี้ คำตอบแต่ละครั้งที่ผ่านมาจะเป็นประมาณนี้
ครั้งนึงเขาบอกเราว่า ตัวเขาคงไม่คบใครยืดยาวหรอกที่ผ่านมาเขาคบใครแล้วเป็นเหมือนผ่านมาให้แค่จำ คงไม่มีทางยืดยาวได้หรอก เขารักอิสระมากกว่า
ทุกครั้งที่ถามก็มักได้รับคำตอบว่าก็พอมีบ้างแล้ว
อีกครั้งก็ว่ามีแล้วแบบไม่เต็มปาก
หลายๆครั้งที่เราถามเขา เรากลับสักเกตุว่าทุกครั้งนั้นเรามีคนคุยแล้วมีการโพสสถานะหน้าเฟสอยู่ตลอด ประโยคเดิมๆที่เรามักถามเขา เขาเลยมักจะพูดในเชิงที่ว่าไม่ต้องห่วงเราหรอก เรานั้นสบายดีมีความสุข ส่วนเรื่องความรักนั้นเขามีบ้างแล้ว พอได้อ่านกลับรู้สึกเศร้าแบบแปลกๆ
ครั้งก่อนล่าสุดเราถามแบบนี้อีกเช่นเคย ครั้งนี้กลับไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา คำพูดของเขานั้นเป็นคำพูดของคนมั่นใจที่จะตอบคำถามนี้จากเรา เราถามเขาไปว่าตัวคนเดียวมันมีความสุขมากนักหรอ มันมีความสุขจริงๆหรอ? เขาตอบกลับมาว่า มาก
เราตอบกลับไปว่า ถ้าคิดงั้นก็จนใจ เราแค่อยากเห็นเทอ ในแบบที่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแบบทุกวันนี้บ้างก็เท่านั้น ประโยคที่ตอบกับมากลับทำให้จุกจนพูดไม่ออก ด้วยประโยคที่ว่า เราก็มีแล้ว สะอึกเลยสิไม่คิดไม่ฝันจะเจอประโยคนี้จากเขาเลย พอทำท่าว่าจะทะเลาะกันยาวด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเขาก็เริ่มจะจบประโยคสนทนา
เราก็ตอบกลับไปว่าขอบคุณนะสำหรับคำเตือนขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนคุย เขาตอบกลับมาว่า เราต้องเข้าบ้านแล้ว เขารอเรากินข้าวอยู่ (น้ำตาตกใน555) จี๊สใจสุดๆ ตอบกลับไปว่าอ่อ แล้วเขาก็ตบท้ายด้วยประโยคที่ว่า เทอก็เหมือนน้องสาวเรา มีอะไรก็ทักได้ ฝันดีครับ
ก่อนจบประโยคสนทนาเราก็ถามเขาไปว่าแอดเฟรนจะมีปัญหาไรไหม ได้คำตอบมาว่า ไม่หรอก เขารู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร
หลังจากนั้นช่วงดึงครั้งนึงเห็นเขาออนเลยทักไป ประโยคที่ตอบกลับมาลงท้ายด้วยคำว่า "คะ" แล้วฝั่งผญ.ก็ชวนคุยยาว ตอนนี้ที่เราคุยคือเรานั้นก็มีคนคุยอยู่บ้างแล้ว ลักษณะการคุยเหมือนเป็นเขานั่นละที่เป็นคนพิมพ์ เรากับเขารู้จักกันมาตก7ปี เขาจะเล่าเรื่องให้แฟนเขาฟังเกี่ยวกับเรา5-6ปีที่แล้วเลยหรอ ผู้ชายจะเล่าย้อนให้ผญ.อีกคนฟังนานขนาดนั้นเลยหรอ
เราเลยคิดว่าน่าจะเป็นตัวเขานั่นละที่พิมพ์ เพราะเราถามว่ารู้จักเราด้วยหรอคะ เราถามว่าเล่าอะไรให้ฟังบ้าง ฝ่ายญ. ตอบมาว่าก็เรื่องทั่วไปสมัยเล่นเกมส์ (ซึ่งมัน5-6 ปีที่แล้วนู้น)แต่ก็ไม่มั่นใจ100%หรอกว่าเป็นเขาพิมพ์แค่คาดเดาจากลักษณะที่เขาพิมพ์
ล่าสุดก็ได้คุยมาอีกว่าแม่ถามเราทุกวันทำไมไม่หาคนดูแลสักคนอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้แม่เป็นห่วง ก็เล่าให้เขาฟังทำนองนี้ เราก็บอกต่อไปอีกว่าคงต้องหาแล้วละ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้บ่อยๆ เรื่องของเรื่องถ้าเราไม่หาแม่อาจจะหาให้แทน
พอเขาได้อ่านก็ตอบกลับมาว่าจะรีบหาไปทำไม ถ้ามันจะมีเดี๊ยวก็มีเอง มีก็ไม่ได้หมายความว่าจะดี เดี๊ยวสิ้นเดือนนี้เขาจะไปอยู่.....2ปี เราถามเขาว่าไปไหน เขาบอกรับใช้ชาติ เป็นทหารนั่นละท่านผู้อ่าน หลังจากนั้นก็พูดในเชิงลักษณะที่ว่าอย่าพึ่งรีบหาให้รอดูไปก่อน แอบหวังว่าสิ่งที่เขาพูดนั่นคือให้รอเขา แต่คิดว่าคงไม่ใช่ก็เขาบอกมานี่เน๊อะว่าเรานั้นก็เหมือนน้องสาวเขาคนนึง
ทุกครั้งที่เราถามเขา เรามักจะพิมพ์ประโยคนึงและลบมันทุกครั้ง นั่นคือ ถ้าวันนึงเราต่างก็ไม่มีใคร เรากลับมาคบกันไหม เหตุการณ์ที่ผ่านมาเรามองนึกย้อยเหตุการณ์ไปทุกครั้งที่เขาตอบเรามาเชิงว่าเขาเองก็มีใครอยู่เหมือนกัน มันเป็นจังหวะที่เรานั้น ก่อนหน้าที่จะทักทายเขาเรามีคนคุยด้วยอยู่
เลยทำให้เราคิดว่าสิ่งที่เขาตอบเรามานั้นประชดเราหรือป่าว-*-หรือเราคิดไปเอง เราถึงได้อยากถามเขาทุกครั้งที่ได้คุย ว่าถ้าวันนึงเราต่างก็ไม่มีใคร เรากลับมาคบกันได้ไหม ด้วยความที่เคยปฏิเสธไป ก็กลัวจะเจอประโยคปฏิเสธเช่นนั้นกลับมาเหมือนกัน ไม่อยากให้ความรู้สึกดีๆตอนนี้มันลดลงถ้าพูดไปเลยเลือกที่จะไม่พูดจนทุกวันนี้