เมื่อคืนมีงานอำลาศาลา รุ่นที่34 วันนนี้เราแค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เราได้เรียนที่ศาลายาให้ใครได้อ่านกัน!!
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนแล้วกันนะ เราชื่อ"กุ" เราเป็นนักศึกษาวิทยาเขต ที่ได้เรียนที่ศาลายาแค่2ปี ไม่ต้องแปลกใจ ตอนนี้เราอยู่ปี2แล้ว อยู่ที่ศาลายาก็ถือว่าแก่นะ เพราะต้องดุแลน้องปี1แทนพี่ปีโต พี่ที่วิทยาเขตก้จะเรียกเราพี่ปีโตศาลายา แลดูแก่เนอะ 55555
แต่นั่นแหละความทรงจำของเราก้เยอะพอๆกับความแก่เลย555 เราอยากเล่าตั้งแต่เราเป็นเฟรชชี่ ตั้งแต่วันแรกที่เรามาเรียนที่ศาลายา เราเป็นเด้กต่างจังหวัด บ้านไกล ซึ่งเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่ค่อยปล่อยเท่าไหร่ เราก็กังวลนะ ว่าเราจะมีเพื่อนไหม จะมีใครคุยกับเราหรือป่าว เพราะเราไม่มีเพื่อนที่มาจากห้องเดียวกันเลย มันเป็นความรู้สึกเคว้งๆนิดหน่อย เข้ามาเปิดบ้านวันแรก ซึ่งเราพักอยู่หอใน เราก่อนวันเปิดบ้าน3วัน เรามีรูมเมดที่นอนด้วยกันอยู่3คน รวมกับเราเป็น4คน นอนในห้องเดียวกัน วันแรกที่เราขนของเข้าหอรูมเมดเรามาก่อนหน้าเรา2คน ทั้งสองคนนี้เป็นคนเงียบมากๆ ในใจเรานี่ งานเข้าแล้วกู กูจะอยู่ได้ไหมเนี้ยย!! พอเราจัดของเสร็จ คนที่3ก็เข้าห้องมาพร้อมกับแม่ของนาง และดูเหมือนนางจะเอาแต่ใจนิดนึง ตายแน่ๆงานนี้ แต่ก็ยังดีนะ ที่เรามีรูมเมดเป็นคณะเดียวกันหมดเลย
พอถึงวันเปิดบ้าน เราก็ได้ป้ายอะไรมาก้ไม่รู้ มีกลุ่มอีกด้วย งือๆๆ ต้องแยกกับรูมเมดด้วยหรอ ความรู้สึกของตอนนั้น วันแรกเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก และร้อนมาก นั่งอยู่โรงช้างทั้งวัน ด้วยความร้อนก้ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้นอะ เพื่อนที่นั่งข้างๆก้ถามแค่ชื่อกับคณะ แล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีก!! พอเปิดบ้านวันที่2 ครั้งนี้คือดีมากกกกกก คือเพื่อนเยอะมากกกกกกก คือดีกว่าวันแรกอะ ทำกิจกรรมในห้องแอร์ มีพี่ทีเอมาเล่านั่นเรานี่ มาเล่นตลก มุกขำๆให้ฟัง วันนั้นเรามีเพื่อนเยอะมากกกกก คือรู้สึกดีใจ ดั่งประมานว่า กูมีเพื่อนแล้วววว!! เพื่อนในกลุ่มน่ารักมาก เป็นช่วงเวลาที่ประทับใจจริงๆนะ ตอนทำกิจกรรม แต่ก่อนเราไม่เคยออกเสียงหรือแสดงความคิดเห็นอะไรเลย แต่พอวันนั้น เพื่อนในกลุ่มกลับถามเห็นเรา ให้เราแสดงความคิดเห็น พอตกลงได้ เราก็ช่วยกันทำ ความรู้สึกของตอนนั้นคือดีอะ พองานเสร็จ เราได้ที่3เว้ยยยยย เราก็รวมกลุ่มกัน ถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค เป็นรูปแรกที่เพื่อนแทกมาและมีเพื่อนมาแอดเราเยอะมาก และไลน์ก้เช่นกัน เป็นกลุ่มที่น่ารักมาก และเราก็มารู้ทีหลังว่า กลุ่มที่จัดให้ มันคือวิชามูเก้ ที่เราต้องเรียนด้วยกัน1ปีเต็ม คืองานดี เพราะมีทุกเพศ ทุกคณะ หลายๆคณะรวมตัวกัน และเราก้ได้มีโอกาสคุยกับคนคนนึง เร็วไปปะ5555 แต่ก่อนที่เราจะเปิดเทอม เราก็ยังมีกิจกรรมอีกนะจ๊ะ นั่นคือ "รักน้อง" แม่เจ้า คือไรวะ ทำไมนัดเช้าจัง ป่าวหรอกที่นัดเช้าเพราะวันนั้นเป็นวันทำบุญตักบาตร และก็ทำกิจกรรมทั้งวัน ที่สำคัญ ข้าวฟรีด้วยจร้าาาา!! หอบกลับห้องไว้กินได้ด้วย เพราะมีหลายคนที่หลบกิจกรรม เพราะว่ามันร้อน555 และที่เด็ดกว่านั้นคือการ overnight จร้าาาา สันทั้งคืน อยู่กับเพื่อนทั้งคืน เหมือนพวกเก็บกดอะ เต้นทั้งคืน555 พักก็กินขนม พอใกล้จะเช้า พี่เค้าก็มีพิธีเทียน คือวันนั้นร้องไห้หนักมากก คือซึ่ง ทุกคำพูดทุกการกระทำของพี่เค้า อยากบอกพี่ๆนะคะว่า ไม่ว่าจะอะไรก็ตามที่ทำให้เราได้มาเจอกัน ได้เป้นครอบครัวเดียวกัน มันดีจริงๆค่ะ และขอบคุณจริงๆ เพราะกิจกรรมรักน้อง ทำให้เรามีเพื่อนอีกเยอะมาก ไปกินข้าวทีเหมือนยังกะจะยกพวกไปตีกัน 55555 ทำให้เรามีเพื่อนสนิทเพิ่มมากขึ้นไง ขอบใจมากนะ
และก็มาถึงวันเปิดเทอมของเราสักที เย้ๆ จะได้เจอเพื่อนแล้ววววว แต่ปกติก้เจอกันทุกวันนะ รวมถึงคนที่เราคุยกันด้วย เราไปกินข้าวเช้าด้วยกันเกือบทุกวันก่อนไปเรียน ช่วงนั้นคือแลดูอินเลิฟมาก ไปเรียนวันแรกก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ก็ทำให้เรารู้จักเพื่อนในคณะเพิ่มมากขึ้น พอเลิกเรียนตอนเย็นเราก็รอเจอคนนั้น ชีวิตวนเป็นแบบนี้เกือบ2อาทิตย์ ก็เริ่มไม่มีเวลาให้กันแล้ว เพราะเราต้องซ้อมแสตน เพราะเด็กปี1ทุกคณะ ต้องแข่งแสตนเฟรชชี่ ด้วยความที่หนักและเหนื่อยมากบวกด้วยกับการเรียนที่เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราไม่ค่อยได้เจอกัน สุดท้ายเราก็ต้องจากกัน เป็นความรู้สึกที่เฮิร์ตมากนะตอนนั้น เด็กน้อยจริงๆ555 พอแสตนเสร็จ เราก้เริ่มมีเวลามากขึ้น เราก้ไปโหลดแอปผึ้งน้อยมาเล่น เราคุยกับใครก็ไม่รู้เยอะเลย ตอนมาเรามีพี่แค่2คน ตอนนี้เรามีพี่เพิ่มเยอะมาก5555 ถือว่าประสบความสำเร็จมั้งนะ และเราก็ได้มาคุยกับพี่คนนึง ชื่อบี ตอนที่พี่เค้าคุยกับเราในแอป คือพี่เค้าอ้วนมาก แก้มเยอะๆ พี่เค้าทักมาชวนเราไปงานลอยกระทงที่มีจัดขึ้นในมหาลัย ตอนนั้นคือไม่ได้คิดไรมาก อุส่ามีคนชวนทั้งทีก้ไปสิ ณ ตอนนั้นคือทิ้งรูมเมดจร้า พี่เค้าก้มารับเราที่หอ คือตอนที่เห็น คือใช่คนนี้ปะวะ คือมันผอมไง ขาวๆแก้มเยอะๆ แต่น่ารัก ตัดผมทรงหัวเห็ด เป็นครั้งแรกที่ได้ไปลอยกระทงกับผู้ชายจร้าาาาา
พี่เค้าก็ถามเรานุ่นนี่นั้น และเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนคิดในใจว่าคนนี้สินะ แต่เปล่าเลย วันนั้นนางมารับไปกินปังเย็นจร้า เราก็เดินกินมาด้วยกัน จนพากันมานั่งที่ลานเป็ด พี่เค้าก้เล่าทุกอย่าง สารภาพทุกอย่าง สรุปคือเกือบทำบาปไปแย่งแฟนชาวบ้านจร้า ขอโทษเน้อออ หนูไม่รู้ หนูไม่ได้ตั้งใจ แล้วพี่เค้าก็กลับไปดีกันกับแฟน แล้วเราก็เลิกติดต่อ และด้วยความที่มีชีวิตเป็นอิสระมาก เข้าเรียนบ้างไม่เข้าบ้าง อกหักช้ำรักบ้าง ทำให้ผลการเรียนของเราตกต่ำมากกกก ถึงมากที่สุดดดด ไม่ต้องแปลกใจจร้า ติดเอฟแถมยังติดโปรอีก เป็นอะไรที่แย่มาก โทรหาแม่กับพ่อแล้วรู้สึกผิดมาก แม่ก็พูดว่า ไม่เป็นไรนะติดก็แก้เทอมหน้าเอาใหม่ สู้ๆ น้ำตาไหลสิคะ ที่ไม่โดนด่า เป็นประสบการณ์ติดเอฟครั้งแรกจร้าาาา หน้านำเสนอมากมั้ง!! แล้วเทอม1ที่ผ่านมาก็จบไป แล้วเราก็ไปค่าย1อาทิตย์มั้งถ้าจำไม่ผิด เราได้ไปใช้ชีวิตบนดอยของจังหวัดเชียงราย จำชื่อหมู่บ้านไม่ได้ แต่จำได้ว่าอยู่ม่อนล้าน อำเภอเวียงป่าเป้า คืออากาศมาก เพราะเราไปช่วงหน้าหนาว ได้เอายาไปบริจาคให้คนบนดอย คือทุกคนที่นั่นน่ารักมากก ได้กินอะไรแปลกๆเยอะมาก โดยเฉพาะพักที่เหมือนหญ้าแต่มีกลิ่นหอมๆกับน้ำพริกรสชาติแปลกๆแต่โคตรอร่อย และได้เดินลงเขาไปดูน้ำตก ป่าไม้เยอะๆ ดื่มดั่มกับธรรมชาติมาก แต่เราก็ได้อยู่บนดอยแค่วันเดียวเอง เป็นการเดินทางที่แสนลำบากมาก เพราะภูเขาสูง ไหล่ทางแคบมาก ถ้าไม่ชำนานทางอาจตกเขาได้ และโค้งเยอะมาก คือตอนนั้นเมารถมากจร้า แทบอ้วก เป็นการเดินทางที่ทรหดจริงๆนะ ครั้งแรกในชีวิตที่ทรหดขนาดนี้ และเราก็ได้ลงเขามาเพื่อไปพักและทำกิจกรรมที่มูลนิธิบ้านเด็กกำพร้า ที่จังหวัดเชียงราย คือตอนนั้นเราเป็นหนึ่งคนที่ไม่ชอบเด็กสักเท่าไหร่ จนเรามาค่ายนี้ เราได้น้องคนนึงเป็นเด็กผู้ชายเป็นน้องบัดดี้เรา น้องเค้ามีปัญหาเกี่ยวกับสมองนิดหน่อย ซึ่งเพื่อนเราได้น้องที่ปกติหมดเลย ในใจนี่ซวยแล้วววววววววว!! แต่ไม่เป็นไรน้องเค้าโตแล้วคงจะไม่งอแง ในความคิดของเรา วันแรกเราแทบไม่สนใจน้องเลย รู้สึกผิดมาก น้องต่างหากที่เป็นฝ่ายสนใจเรามากกว่า วันแรกกิจกรรมเลยไม่มีอะไรมาก แต่พรุ่งนี้คือวันจันทร์ น้องต้องไปเรียนเหมือนเด้กคนอื่นๆ และน้องก็เดินมาหาเราแล้วพูดกับเราว่า "พี่ครับพรุ่งนี้พี่ตื่นไปส่งผมไปโรงเรียนได้ไหม" คือตอนนั้นคงน่าจะ7โมงที่เด็กต้องไปโรงเรียน แต่เปล่าเลย น้องไปเรียนตั้งแต่6โมงเช้า คือน้องมาหาเราตั้งแต่ตี5แต่เราไม่ตื่น นอนเกือกกลิ้งยุนาน พอตื่นอีกทีคือน้องขึ้นรถไปเรียนแล้ว!!! รู้สึกผิดไปอีกจร้าาาาา จนถึงเวลาที่น้องกลับมาจากโรงเรียน น้องวิ่งมาหาเราเป็นคนแรก เราก็บอกให้น้องไปเล่นกับเพื่อนจนน้องไม่กล้ากวนเรา พอช่วงเย็นๆก็มีกิจกรรมให้สอนน้องทำการบ้าน ทุกคนมีการหมด ยกเว้นน้องเราเพราะน้องเราเป็นเด็กพิเศษ อ่านได้แค่บางคำ เขียนไม่ค่อยถูก พูดเร็ว เราเลยพาน้องหัดพูดหัดเขียน วันนั้นเรามีความรู้สึกว่าเราใจเย็นมาก เรารู้สึกว่าเหมือนเราเริ่มชอบเด็กขึ้นมาแล้ว และพอถึงเวลาดึกๆ เราก็เดินไปส่งน้องเข้านอน และน้องก็พูดกับเราว่า "พี่ครับพรุ่งนี้พี่ไปส่งผมขึ้นรถไปเรียนได้ไหม" น้องพยายามพูดช้าที่สุดตามที่เราสอน ครั้งนี้เราเลยตอบน้องด้วยความเต็มใจว่า "ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ตื่นมาส่งนะ นอนได้แล้ว!! " และน้องยังแอบเดินมาส่งเราอีก ดื้อจริงๆเด็คนนี้!! พอถึงตี5ก็มีเด็กผู้หญิงที่เป็นเพื่อนน้องเดินมาปลุก และน้องก็รอเราอยู่หน้าประตู ถือเป็นวันที่ตื่นเช้ามาก และได้ทำตามสัญญาส่งน้องขึ้นรถไปเรียนด้วย และในวันนั้นด้วยอากาศที่หนาวมากกกกก แล้วโดนน้ำค้างตอนเช้า ทำให้วันนั้น ไม่สะบายอย่างหนักมาก ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น งอแง น้องเลิกโรงเรียนมาหาก็เหวี่ยงน้อง ถึงกับร้องไห้อยากจะกลับบ้าน เพื่อนๆตกใจรีบพากับปลอบ แล้วเพื่อนที่ไปค่ายด้วยกันก็เจอน้องนั่งคนเดียว เลยเข้าไปถามว่าทำไมไม่ไปหาพี่ น้องเลยตอบว่า"พี่กุไม่สบายคับผมเลยไม่อยากกวน" และเพื่อนก็มาบอกเรา พอได้ยินคำนี้คือน้ำตาไหลอะ คือรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำวันนี้ เลยเดินไปหาน้องและเป็นครั้งแรกที่กอดน้อง และบอกน้องว่า "พี่ขอโทษนะ ไปกินขนมกัน!!" (ในค่ายมีกฎว่าห้ามเอาอะไรให้น้อง เพราะถ้าให้ต้องให้หมดทุกคน) คือเราแอบให้จร้าาาาา ขนมช็อกโกแลตที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้กิน มีความรู้สึกว่าน้องเค้าชอบมันมากๆอะ พอกินเสร็จก็พาน้องเข้าไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ไปจัดงาคริสต์มาส ให้น้อง มีอาหารดีๆให้น้องกิน วันนั้นน้องดูมีความสุขมาก แต่ก็ทำให้น้องเกือบร้องไห้เหมือนกัน เพราะวันพรุ่งนี้เราต้องกลับกรุงเทพแล้ว เราก็ไปส่งน้องเข้านอนเหมือนเดิม และวันพรุ่งนี้เราจะพาไปเที่ยวสวนสัตว์กัน เย้ๆๆๆ
พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็พากันกินข้าวและไปสวนสัตว์กัน เราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบเที่ยวสวนสัตว์เพราะเราไม่ชอบกลิ่น แต่พอครั้งนี้ที่ไปกลับรู้สึกชอบซะงั้น และเราก้แอบซื้อของเล่นให้น้องเหมือนเดิม 555555 พี่ที่มาด้วยกันจนเอื่อมระอา กฎมีไว้แหกจริงๆ ก็ไม่ไงนานๆจะได้เจอร้านค้า เพราะแถวๆนั้นแทบไม่มีร้านค้าเลย อยากให้ของน้องเป็นที่ระลึกเฉยๆ ตอนเย็นก็จากกันแล้วไง หลังกลับมาจากสวนสัตว์ เราก็เก็บของ น้องก็มาแอบส่องดู แล้วเราก็ไปนั่งกินข้าวด้วยกัน ทำนุ่นทำนี่ จนถึงเวลาต้องจากกัน ตอนนั้นคือ อยู่อีกวันได้ไหม ตามกลับไปวันหลังได้ไหม เราเดินไปส่งน้องเข้านอนก่อนที่เราจะเดินมาขึ้นรถ แต่น้องร้องไห้แล้วเดินมาหาเราที่รถ แล้วบอกเราว่า"พี่ผมรักพี่นะ อย่าลืมผมนะ กลับมาหาผมด้วยนะ" คือตอนนั้นเลยบอกน้องว่า "พี่จะมาหาอีกนะ ไว้เจอกัน ไม่ต้องร้องนะโตแล้ว" แล้วเราก็เดินไปกอดน้องอีกครั้ง พอรถสตาร์จแล้วขับผ่านไป เห็นเด็กๆกำลังยืนเกาะกำแพงร้องไห้ หนึ่งในนั้นก็คือน้องเรา เป็นภาพที่น่าสงสารมาก และทุกคนในรถก็ต่างพากันร้องไห้ รวมถึงเราด้วย เป็นความรู้สึกรัก เศร้า คิดถึง ในเวลาเดียว ในใจอยู่ต่ออีกวันก็คงจะดี ร้องไห้จนหลับ ตื่นมาอีกทีถึงเซเว่นในตัวเมือง เจอขนมเยอะแยะมากมาย เจอขนมที่เราชอบกิน เจอของที่น้องไม่เคยกินแล้วน้องอยากกิน เห็นแล้วก็พูดกับเพื่อน น้ำตาก้ไหลคิดถึงน้องอีกครั้ง ไม่มีใครรู้หรอกว่าการกินแต่ผักและโปรตีนเกษตรทุกวัน มันเป็นยังไง จนได้มาเจอด้วยตัวเอง เบื่อแค่ไหนก็ต้องทน เพราะถ้าไม่กินก้ไม่มีอะไรให้กินแล้ว และเราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบกินผักอยู่แล้ว จำได้ว่าช่วงนั้นกินข้าวกับสะอิ้วขาว เพราะเหม็นผัก ทรมานสุดๆ พอมาเจอของที่ดีๆที่เราซื้อได้ คิดถึงน้องสุดๆ สงสารน้องสุดๆ มันทำให้เรารู้ว่า ดีแค่ไหนแล้วที่มีพ่อแม่เลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ดีแค่ไหนที่เกิดมาครบทุอย่าง ประสบการณ์ของการไปค่ายครั้งนี้ได้ความรู้สึกล้วนๆ ทำให้เราโตเป็นผู้ใหม่มากขึ้น แต่เราก็ยังงี้เง่า เอาแต่ใจบ้างบางครั้ง5555 #ศิลาพี่คิดถึงศิลานะถ้าพี่มีโอกาสพี่จะไปหานะ #นาฬิกาสีชมพูพี่ซื้อไว้แล้วนะแต่กลัวดูไม่ออกเดี๋ยวพี่จะซื้อให้ใหม่นะ #คิดถึงนะไว้เราจะได้เจอกันอีก
รักครั้งหนึ่งคิดถึงตลอดไป!! ประสบการณ์เรื่องเรียน และการไปค่าย ^^
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนแล้วกันนะ เราชื่อ"กุ" เราเป็นนักศึกษาวิทยาเขต ที่ได้เรียนที่ศาลายาแค่2ปี ไม่ต้องแปลกใจ ตอนนี้เราอยู่ปี2แล้ว อยู่ที่ศาลายาก็ถือว่าแก่นะ เพราะต้องดุแลน้องปี1แทนพี่ปีโต พี่ที่วิทยาเขตก้จะเรียกเราพี่ปีโตศาลายา แลดูแก่เนอะ 55555
แต่นั่นแหละความทรงจำของเราก้เยอะพอๆกับความแก่เลย555 เราอยากเล่าตั้งแต่เราเป็นเฟรชชี่ ตั้งแต่วันแรกที่เรามาเรียนที่ศาลายา เราเป็นเด้กต่างจังหวัด บ้านไกล ซึ่งเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่ค่อยปล่อยเท่าไหร่ เราก็กังวลนะ ว่าเราจะมีเพื่อนไหม จะมีใครคุยกับเราหรือป่าว เพราะเราไม่มีเพื่อนที่มาจากห้องเดียวกันเลย มันเป็นความรู้สึกเคว้งๆนิดหน่อย เข้ามาเปิดบ้านวันแรก ซึ่งเราพักอยู่หอใน เราก่อนวันเปิดบ้าน3วัน เรามีรูมเมดที่นอนด้วยกันอยู่3คน รวมกับเราเป็น4คน นอนในห้องเดียวกัน วันแรกที่เราขนของเข้าหอรูมเมดเรามาก่อนหน้าเรา2คน ทั้งสองคนนี้เป็นคนเงียบมากๆ ในใจเรานี่ งานเข้าแล้วกู กูจะอยู่ได้ไหมเนี้ยย!! พอเราจัดของเสร็จ คนที่3ก็เข้าห้องมาพร้อมกับแม่ของนาง และดูเหมือนนางจะเอาแต่ใจนิดนึง ตายแน่ๆงานนี้ แต่ก็ยังดีนะ ที่เรามีรูมเมดเป็นคณะเดียวกันหมดเลย
พอถึงวันเปิดบ้าน เราก็ได้ป้ายอะไรมาก้ไม่รู้ มีกลุ่มอีกด้วย งือๆๆ ต้องแยกกับรูมเมดด้วยหรอ ความรู้สึกของตอนนั้น วันแรกเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก และร้อนมาก นั่งอยู่โรงช้างทั้งวัน ด้วยความร้อนก้ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้นอะ เพื่อนที่นั่งข้างๆก้ถามแค่ชื่อกับคณะ แล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีก!! พอเปิดบ้านวันที่2 ครั้งนี้คือดีมากกกกกก คือเพื่อนเยอะมากกกกกกก คือดีกว่าวันแรกอะ ทำกิจกรรมในห้องแอร์ มีพี่ทีเอมาเล่านั่นเรานี่ มาเล่นตลก มุกขำๆให้ฟัง วันนั้นเรามีเพื่อนเยอะมากกกกก คือรู้สึกดีใจ ดั่งประมานว่า กูมีเพื่อนแล้วววว!! เพื่อนในกลุ่มน่ารักมาก เป็นช่วงเวลาที่ประทับใจจริงๆนะ ตอนทำกิจกรรม แต่ก่อนเราไม่เคยออกเสียงหรือแสดงความคิดเห็นอะไรเลย แต่พอวันนั้น เพื่อนในกลุ่มกลับถามเห็นเรา ให้เราแสดงความคิดเห็น พอตกลงได้ เราก็ช่วยกันทำ ความรู้สึกของตอนนั้นคือดีอะ พองานเสร็จ เราได้ที่3เว้ยยยยย เราก็รวมกลุ่มกัน ถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค เป็นรูปแรกที่เพื่อนแทกมาและมีเพื่อนมาแอดเราเยอะมาก และไลน์ก้เช่นกัน เป็นกลุ่มที่น่ารักมาก และเราก็มารู้ทีหลังว่า กลุ่มที่จัดให้ มันคือวิชามูเก้ ที่เราต้องเรียนด้วยกัน1ปีเต็ม คืองานดี เพราะมีทุกเพศ ทุกคณะ หลายๆคณะรวมตัวกัน และเราก้ได้มีโอกาสคุยกับคนคนนึง เร็วไปปะ5555 แต่ก่อนที่เราจะเปิดเทอม เราก็ยังมีกิจกรรมอีกนะจ๊ะ นั่นคือ "รักน้อง" แม่เจ้า คือไรวะ ทำไมนัดเช้าจัง ป่าวหรอกที่นัดเช้าเพราะวันนั้นเป็นวันทำบุญตักบาตร และก็ทำกิจกรรมทั้งวัน ที่สำคัญ ข้าวฟรีด้วยจร้าาาา!! หอบกลับห้องไว้กินได้ด้วย เพราะมีหลายคนที่หลบกิจกรรม เพราะว่ามันร้อน555 และที่เด็ดกว่านั้นคือการ overnight จร้าาาา สันทั้งคืน อยู่กับเพื่อนทั้งคืน เหมือนพวกเก็บกดอะ เต้นทั้งคืน555 พักก็กินขนม พอใกล้จะเช้า พี่เค้าก็มีพิธีเทียน คือวันนั้นร้องไห้หนักมากก คือซึ่ง ทุกคำพูดทุกการกระทำของพี่เค้า อยากบอกพี่ๆนะคะว่า ไม่ว่าจะอะไรก็ตามที่ทำให้เราได้มาเจอกัน ได้เป้นครอบครัวเดียวกัน มันดีจริงๆค่ะ และขอบคุณจริงๆ เพราะกิจกรรมรักน้อง ทำให้เรามีเพื่อนอีกเยอะมาก ไปกินข้าวทีเหมือนยังกะจะยกพวกไปตีกัน 55555 ทำให้เรามีเพื่อนสนิทเพิ่มมากขึ้นไง ขอบใจมากนะ
และก็มาถึงวันเปิดเทอมของเราสักที เย้ๆ จะได้เจอเพื่อนแล้ววววว แต่ปกติก้เจอกันทุกวันนะ รวมถึงคนที่เราคุยกันด้วย เราไปกินข้าวเช้าด้วยกันเกือบทุกวันก่อนไปเรียน ช่วงนั้นคือแลดูอินเลิฟมาก ไปเรียนวันแรกก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ก็ทำให้เรารู้จักเพื่อนในคณะเพิ่มมากขึ้น พอเลิกเรียนตอนเย็นเราก็รอเจอคนนั้น ชีวิตวนเป็นแบบนี้เกือบ2อาทิตย์ ก็เริ่มไม่มีเวลาให้กันแล้ว เพราะเราต้องซ้อมแสตน เพราะเด็กปี1ทุกคณะ ต้องแข่งแสตนเฟรชชี่ ด้วยความที่หนักและเหนื่อยมากบวกด้วยกับการเรียนที่เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราไม่ค่อยได้เจอกัน สุดท้ายเราก็ต้องจากกัน เป็นความรู้สึกที่เฮิร์ตมากนะตอนนั้น เด็กน้อยจริงๆ555 พอแสตนเสร็จ เราก้เริ่มมีเวลามากขึ้น เราก้ไปโหลดแอปผึ้งน้อยมาเล่น เราคุยกับใครก็ไม่รู้เยอะเลย ตอนมาเรามีพี่แค่2คน ตอนนี้เรามีพี่เพิ่มเยอะมาก5555 ถือว่าประสบความสำเร็จมั้งนะ และเราก็ได้มาคุยกับพี่คนนึง ชื่อบี ตอนที่พี่เค้าคุยกับเราในแอป คือพี่เค้าอ้วนมาก แก้มเยอะๆ พี่เค้าทักมาชวนเราไปงานลอยกระทงที่มีจัดขึ้นในมหาลัย ตอนนั้นคือไม่ได้คิดไรมาก อุส่ามีคนชวนทั้งทีก้ไปสิ ณ ตอนนั้นคือทิ้งรูมเมดจร้า พี่เค้าก้มารับเราที่หอ คือตอนที่เห็น คือใช่คนนี้ปะวะ คือมันผอมไง ขาวๆแก้มเยอะๆ แต่น่ารัก ตัดผมทรงหัวเห็ด เป็นครั้งแรกที่ได้ไปลอยกระทงกับผู้ชายจร้าาาาา พี่เค้าก็ถามเรานุ่นนี่นั้น และเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนคิดในใจว่าคนนี้สินะ แต่เปล่าเลย วันนั้นนางมารับไปกินปังเย็นจร้า เราก็เดินกินมาด้วยกัน จนพากันมานั่งที่ลานเป็ด พี่เค้าก้เล่าทุกอย่าง สารภาพทุกอย่าง สรุปคือเกือบทำบาปไปแย่งแฟนชาวบ้านจร้า ขอโทษเน้อออ หนูไม่รู้ หนูไม่ได้ตั้งใจ แล้วพี่เค้าก็กลับไปดีกันกับแฟน แล้วเราก็เลิกติดต่อ และด้วยความที่มีชีวิตเป็นอิสระมาก เข้าเรียนบ้างไม่เข้าบ้าง อกหักช้ำรักบ้าง ทำให้ผลการเรียนของเราตกต่ำมากกกก ถึงมากที่สุดดดด ไม่ต้องแปลกใจจร้า ติดเอฟแถมยังติดโปรอีก เป็นอะไรที่แย่มาก โทรหาแม่กับพ่อแล้วรู้สึกผิดมาก แม่ก็พูดว่า ไม่เป็นไรนะติดก็แก้เทอมหน้าเอาใหม่ สู้ๆ น้ำตาไหลสิคะ ที่ไม่โดนด่า เป็นประสบการณ์ติดเอฟครั้งแรกจร้าาาา หน้านำเสนอมากมั้ง!! แล้วเทอม1ที่ผ่านมาก็จบไป แล้วเราก็ไปค่าย1อาทิตย์มั้งถ้าจำไม่ผิด เราได้ไปใช้ชีวิตบนดอยของจังหวัดเชียงราย จำชื่อหมู่บ้านไม่ได้ แต่จำได้ว่าอยู่ม่อนล้าน อำเภอเวียงป่าเป้า คืออากาศมาก เพราะเราไปช่วงหน้าหนาว ได้เอายาไปบริจาคให้คนบนดอย คือทุกคนที่นั่นน่ารักมากก ได้กินอะไรแปลกๆเยอะมาก โดยเฉพาะพักที่เหมือนหญ้าแต่มีกลิ่นหอมๆกับน้ำพริกรสชาติแปลกๆแต่โคตรอร่อย และได้เดินลงเขาไปดูน้ำตก ป่าไม้เยอะๆ ดื่มดั่มกับธรรมชาติมาก แต่เราก็ได้อยู่บนดอยแค่วันเดียวเอง เป็นการเดินทางที่แสนลำบากมาก เพราะภูเขาสูง ไหล่ทางแคบมาก ถ้าไม่ชำนานทางอาจตกเขาได้ และโค้งเยอะมาก คือตอนนั้นเมารถมากจร้า แทบอ้วก เป็นการเดินทางที่ทรหดจริงๆนะ ครั้งแรกในชีวิตที่ทรหดขนาดนี้ และเราก็ได้ลงเขามาเพื่อไปพักและทำกิจกรรมที่มูลนิธิบ้านเด็กกำพร้า ที่จังหวัดเชียงราย คือตอนนั้นเราเป็นหนึ่งคนที่ไม่ชอบเด็กสักเท่าไหร่ จนเรามาค่ายนี้ เราได้น้องคนนึงเป็นเด็กผู้ชายเป็นน้องบัดดี้เรา น้องเค้ามีปัญหาเกี่ยวกับสมองนิดหน่อย ซึ่งเพื่อนเราได้น้องที่ปกติหมดเลย ในใจนี่ซวยแล้วววววววววว!! แต่ไม่เป็นไรน้องเค้าโตแล้วคงจะไม่งอแง ในความคิดของเรา วันแรกเราแทบไม่สนใจน้องเลย รู้สึกผิดมาก น้องต่างหากที่เป็นฝ่ายสนใจเรามากกว่า วันแรกกิจกรรมเลยไม่มีอะไรมาก แต่พรุ่งนี้คือวันจันทร์ น้องต้องไปเรียนเหมือนเด้กคนอื่นๆ และน้องก็เดินมาหาเราแล้วพูดกับเราว่า "พี่ครับพรุ่งนี้พี่ตื่นไปส่งผมไปโรงเรียนได้ไหม" คือตอนนั้นคงน่าจะ7โมงที่เด็กต้องไปโรงเรียน แต่เปล่าเลย น้องไปเรียนตั้งแต่6โมงเช้า คือน้องมาหาเราตั้งแต่ตี5แต่เราไม่ตื่น นอนเกือกกลิ้งยุนาน พอตื่นอีกทีคือน้องขึ้นรถไปเรียนแล้ว!!! รู้สึกผิดไปอีกจร้าาาาา จนถึงเวลาที่น้องกลับมาจากโรงเรียน น้องวิ่งมาหาเราเป็นคนแรก เราก็บอกให้น้องไปเล่นกับเพื่อนจนน้องไม่กล้ากวนเรา พอช่วงเย็นๆก็มีกิจกรรมให้สอนน้องทำการบ้าน ทุกคนมีการหมด ยกเว้นน้องเราเพราะน้องเราเป็นเด็กพิเศษ อ่านได้แค่บางคำ เขียนไม่ค่อยถูก พูดเร็ว เราเลยพาน้องหัดพูดหัดเขียน วันนั้นเรามีความรู้สึกว่าเราใจเย็นมาก เรารู้สึกว่าเหมือนเราเริ่มชอบเด็กขึ้นมาแล้ว และพอถึงเวลาดึกๆ เราก็เดินไปส่งน้องเข้านอน และน้องก็พูดกับเราว่า "พี่ครับพรุ่งนี้พี่ไปส่งผมขึ้นรถไปเรียนได้ไหม" น้องพยายามพูดช้าที่สุดตามที่เราสอน ครั้งนี้เราเลยตอบน้องด้วยความเต็มใจว่า "ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ตื่นมาส่งนะ นอนได้แล้ว!! " และน้องยังแอบเดินมาส่งเราอีก ดื้อจริงๆเด็คนนี้!! พอถึงตี5ก็มีเด็กผู้หญิงที่เป็นเพื่อนน้องเดินมาปลุก และน้องก็รอเราอยู่หน้าประตู ถือเป็นวันที่ตื่นเช้ามาก และได้ทำตามสัญญาส่งน้องขึ้นรถไปเรียนด้วย และในวันนั้นด้วยอากาศที่หนาวมากกกกก แล้วโดนน้ำค้างตอนเช้า ทำให้วันนั้น ไม่สะบายอย่างหนักมาก ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น งอแง น้องเลิกโรงเรียนมาหาก็เหวี่ยงน้อง ถึงกับร้องไห้อยากจะกลับบ้าน เพื่อนๆตกใจรีบพากับปลอบ แล้วเพื่อนที่ไปค่ายด้วยกันก็เจอน้องนั่งคนเดียว เลยเข้าไปถามว่าทำไมไม่ไปหาพี่ น้องเลยตอบว่า"พี่กุไม่สบายคับผมเลยไม่อยากกวน" และเพื่อนก็มาบอกเรา พอได้ยินคำนี้คือน้ำตาไหลอะ คือรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำวันนี้ เลยเดินไปหาน้องและเป็นครั้งแรกที่กอดน้อง และบอกน้องว่า "พี่ขอโทษนะ ไปกินขนมกัน!!" (ในค่ายมีกฎว่าห้ามเอาอะไรให้น้อง เพราะถ้าให้ต้องให้หมดทุกคน) คือเราแอบให้จร้าาาาา ขนมช็อกโกแลตที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้กิน มีความรู้สึกว่าน้องเค้าชอบมันมากๆอะ พอกินเสร็จก็พาน้องเข้าไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ไปจัดงาคริสต์มาส ให้น้อง มีอาหารดีๆให้น้องกิน วันนั้นน้องดูมีความสุขมาก แต่ก็ทำให้น้องเกือบร้องไห้เหมือนกัน เพราะวันพรุ่งนี้เราต้องกลับกรุงเทพแล้ว เราก็ไปส่งน้องเข้านอนเหมือนเดิม และวันพรุ่งนี้เราจะพาไปเที่ยวสวนสัตว์กัน เย้ๆๆๆ พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็พากันกินข้าวและไปสวนสัตว์กัน เราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบเที่ยวสวนสัตว์เพราะเราไม่ชอบกลิ่น แต่พอครั้งนี้ที่ไปกลับรู้สึกชอบซะงั้น และเราก้แอบซื้อของเล่นให้น้องเหมือนเดิม 555555 พี่ที่มาด้วยกันจนเอื่อมระอา กฎมีไว้แหกจริงๆ ก็ไม่ไงนานๆจะได้เจอร้านค้า เพราะแถวๆนั้นแทบไม่มีร้านค้าเลย อยากให้ของน้องเป็นที่ระลึกเฉยๆ ตอนเย็นก็จากกันแล้วไง หลังกลับมาจากสวนสัตว์ เราก็เก็บของ น้องก็มาแอบส่องดู แล้วเราก็ไปนั่งกินข้าวด้วยกัน ทำนุ่นทำนี่ จนถึงเวลาต้องจากกัน ตอนนั้นคือ อยู่อีกวันได้ไหม ตามกลับไปวันหลังได้ไหม เราเดินไปส่งน้องเข้านอนก่อนที่เราจะเดินมาขึ้นรถ แต่น้องร้องไห้แล้วเดินมาหาเราที่รถ แล้วบอกเราว่า"พี่ผมรักพี่นะ อย่าลืมผมนะ กลับมาหาผมด้วยนะ" คือตอนนั้นเลยบอกน้องว่า "พี่จะมาหาอีกนะ ไว้เจอกัน ไม่ต้องร้องนะโตแล้ว" แล้วเราก็เดินไปกอดน้องอีกครั้ง พอรถสตาร์จแล้วขับผ่านไป เห็นเด็กๆกำลังยืนเกาะกำแพงร้องไห้ หนึ่งในนั้นก็คือน้องเรา เป็นภาพที่น่าสงสารมาก และทุกคนในรถก็ต่างพากันร้องไห้ รวมถึงเราด้วย เป็นความรู้สึกรัก เศร้า คิดถึง ในเวลาเดียว ในใจอยู่ต่ออีกวันก็คงจะดี ร้องไห้จนหลับ ตื่นมาอีกทีถึงเซเว่นในตัวเมือง เจอขนมเยอะแยะมากมาย เจอขนมที่เราชอบกิน เจอของที่น้องไม่เคยกินแล้วน้องอยากกิน เห็นแล้วก็พูดกับเพื่อน น้ำตาก้ไหลคิดถึงน้องอีกครั้ง ไม่มีใครรู้หรอกว่าการกินแต่ผักและโปรตีนเกษตรทุกวัน มันเป็นยังไง จนได้มาเจอด้วยตัวเอง เบื่อแค่ไหนก็ต้องทน เพราะถ้าไม่กินก้ไม่มีอะไรให้กินแล้ว และเราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบกินผักอยู่แล้ว จำได้ว่าช่วงนั้นกินข้าวกับสะอิ้วขาว เพราะเหม็นผัก ทรมานสุดๆ พอมาเจอของที่ดีๆที่เราซื้อได้ คิดถึงน้องสุดๆ สงสารน้องสุดๆ มันทำให้เรารู้ว่า ดีแค่ไหนแล้วที่มีพ่อแม่เลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ดีแค่ไหนที่เกิดมาครบทุอย่าง ประสบการณ์ของการไปค่ายครั้งนี้ได้ความรู้สึกล้วนๆ ทำให้เราโตเป็นผู้ใหม่มากขึ้น แต่เราก็ยังงี้เง่า เอาแต่ใจบ้างบางครั้ง5555 #ศิลาพี่คิดถึงศิลานะถ้าพี่มีโอกาสพี่จะไปหานะ #นาฬิกาสีชมพูพี่ซื้อไว้แล้วนะแต่กลัวดูไม่ออกเดี๋ยวพี่จะซื้อให้ใหม่นะ #คิดถึงนะไว้เราจะได้เจอกันอีก