จากนี้เนื้อหาจะเข้าสู่ช่วง เล่ม 3 ซึ่งแปลไทยไม่วางขายต่อ นั้นหมายความว่าเหลืออีก 2 เล่มก็อวสานแล้ว (เรื่องนี้มังกะ 4 เล่มอวสาน)


ครึ่งแรกไม่ค่อยมีอะไรมากมายขอเล่าแบบรวดรัดครับ



เรื่องมีอยู่ว่า กลุ่มเด็กประถมเพื่อนรัก 3 คน ตอนเดินกลับบ้านได้หาตั้งกฎเกี่ยวกับ เกมฆ่าเวลาขณะเดินกลับบ้านกัน โดยวันนี้จะเล่นเกม เตะก้อนหิน กฎก็ง่ายๆแค่ว่า ระหว่างเดินกลับบ้านต้องเตะก้อนหินไปด้วยถ้าหากพลาดเตะไม่ต่อเนื่องถือว่าแพ้

แต่แล้ว หลังเล่นไปได้สักพัก นึกว่าจะพลาดจนจบเกมไปแล้วซะอีก จนเมื่อได้มาเจอกับ ชายคนนี้ ที่รู้ในเสี้ยววินาทีก่อนที่ก้อนหินจะพุ่งเข้ามาที่ตัวเอง

ว่าแล้วก็มาดู จังหวะสุดเทพ กันเลย


จังหวะที่ 1



ท่ามกลางฝูงชนที่เดินกันเต็มถนน เมพสาสสส ก็ไม่แม้แต่จะวิตกแต่อย่างใด วิ่งหลบเลี้ยวไปเลี้ยวมาพร้อมรักษาก้อนหินไปด้วย

โอ้ว!!!! นี้มันพอๆกับ กัปตัน สึบาสะ + 11 สายฟ้า เลย!!!!

(เด็กคนคิดเกมอิจฉาจึงวิ่งไล่เลี้ยงก้อนหินตามไปด้วย)


จังหวะที่ 2



หลังวิ่งผ่านฝูงชนมาได้ก็ต้องมาเจอบริเวณทางระบายน้ำ แล้วก็ซวยเหลือเกินที่ก้อนหินของเด็กดันตกลงไปข้างล่างเท่ากับเด็กแพ้ไปแล้ว



แต่ เมพสาสสส ก็วิ่งตามลงไปพร้อม รีดเร้นจักระไว้ที่ฝ่าเท้า แล้ววิ่งเลี้ยงก้อนหินต่อโดยใช้กำแพงรอบด้านแทนพื้น

โอ้วว!!!! ดูนั้นสิ นี้มันโม้กว่า กัปตัน สึบาสะ + 11 สายฟ้า ซะอีก!!!!



วันต่อมา




คราวนี้เปลี่ยนเกมมาเล่น เดินบนทางขีดเส้นสีขาวไว้เป็นทางเท้า  ถ้าคิดว่ากำลังเดินบนกำแพง ถ้าเดินหลุดจากเส้นสีขาวถือว่าแพ้ แล้วก็ต้องมาเจอกับชายคนนี้อีกรอบ เจ้าเด็กคนคิดเกมไม่อยากน้อยหน้าเลยยั่วยุให้เพื่อนตามหลังไปด้วย



เล่นคราวนี้ดูจะไม่มีปัญหาอะไร จนเมื่อปรากฎว่า เจอกับทางขาด แล้ว ช่วงเว้นห่างกันของทางที่ขาด และ เครื่องหมายบนถนน มันห่างกันมาก  แล้วที่หนักกว่าคือ ถึงแม้จะกระโดดไปถึงได้แต่ทางข้างหน้าก็ไม่มีให้ไปต่อ
คราวนี้เด็กคิดเกมดูจะจนปัญญาซะแล้ว



ทว่า เมพสาสส ก็ได้มอบ กระดาษชำระในห้องน้ำม้วนใหญ่มาให้เพื่อจุดประสงค์อะไรสักอย่าง
หนูน้อย กระผมขอมอบสิ่งนี้ให้




แน่นอน เด็กในตอนแรกคิดว่า คงเอามาใช้ซับน้ำตาตัวเอง จนไม่พ้นตบทิ้งพร้อมแก้ตัวคำโต เปล่าร้องไห้สักหน่อย ไอ้ทางขาดแบบนี้ คอยดูชั้นจะกระโดดผ่านให้ได้ เพราะชั้นวิ่งเร็วที่สุด

นั้นแหละที่ เมพสาสสส ตั้งเป้าหมายไว้ เพราะเมื่อนั้นที่ได้เค้าเอ๋ยบางอย่างขึ้นมา
ใจเย็นๆก่อนสิขอรับ ความกล้าของเธอทำให้ ปลายทางข้างหน้ามันเปิดออกแล้วนะ


ใช่แล้ว!!!! เพราะ กระดาษชำระที่ตบหลุดมือไปเมื่อตะกี้ไปตรงบริเวณใกล้ๆเครื่องหมายพอดิบพอดี ทั้งได้คลี่ออกจนสร้างเป็นทางยาวต่อไปได้อีก



หนูน้อย ถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือ TOILET RED CARPET (กระดาษชำระพรมแดง) ละมั้ง



เรื่องราวตรงนี้ก็จบลงอย่างงดงามที่ว่า ทั้งคณะ คิดไปไกลว่า กำลังเดินบนพรมแดง แบบที่ดาราฮอลลิวู๊ดเค้าทำกันตอนมาดูหนังรอบ ปฐมทัศน์


รีบไปครึ่งหลังต่อเลยครับ


เรื่องราวครึ่งหลัง เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวละครสาวอีกคน




วันนี้ผมขอนำเสนอ

สาวประธานนักเรียน Fujita Megumi CV:Nakahara Mai (ไม/Mai Hime/เรนะ/Higurashi)



เรื่องราวมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเท่าไรเพียงแค่ว่า สาวคนนี้ก็คืออีกคนที่แอบชอบซากาโมโต้ แต่ไม่กล้าที่จะไปบอกชอบโดยตรง กลับกันที่ชอบเก็บช่วงเวลาดังกล่าวไว้ใน ฟิลม์กล้องถ่ายรูป หรือเรียกสั้นๆว่า สตอร์ลเกอร์  โดยเวลา เมพสาสสส ทำอะไรก็มักจะแอบถ่ายเก็บไว้เสมอ


แน่นอน วันนี้เธอเองก็ยังทำแบบเดิมๆ จนเมื่อได้พบกับ สิ่งบางอย่างที่ผิดปกติในรูปถ่ายว่า............








เฮ้ย!!!!! ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ!!!  คุณริว คุณเจน คราวนี้มาของจริงแล้ว!!!!  แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่รูปเดียวที่ถ่ายติด แต่มันติดทุกรูป ทั้งวิญญาณดวงนี้ดูต้องการอะไรสักอย่างจาก เมพสาสสส คุง



ยิ่งตอนคุยกับเพื่อนเรื่อง ผี ตอนชั่วโมงพักเที่ยวทำให้ต้องคิดได้ในทันทีว่า ถ้าไม่มีบอกกับ เมพสาสส คุง เรื่องนี้คาดว่า ไม่ช้าคงเกิดเรื่องร้ายๆแน่นอน เพียงแต่ถ้าเธอไปบอกเรื่องนี้กับ เมพสาสสส คุง เมื่อไร นั้นย่อมมีผลเท่ากับเป็นการเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองเป็น สตอร์ลเกอร์ ไล่แอบถ่ายรูปเค้าไปด้วย



ช่วงนี้มาชมวิธีการแก้ปัญหาจากวิญญาณโดย เมพสาสส กันเถอะ


ช่วงที่ 1




หลังเมกุมิไม่กล้าบอกเรื่องนี้โดยตรง ถังน้ำทำความสะอาดข้างหลังก็ได้เลื่อนตามหลัง เมพสาสสส เข้ามาอย่างรวดเร็ว!!!!
แต่ก็แก้ปัญหาได้ด้วย กระโดดขึ้นถังแล้วขี่เล่นเป็น รถสองล้อไฟฟ้า หรือ  Segway



โอ้ว!!!! ดูนั้นสิ เมพสาสสส กระโดดขึ้นถังน้ำทำความสะอาดแล้วซิ่งเล่นบนนั้นเป็น  Segway เว็ย!!!!!


ช่วงที่ 2



ในเมื่อพูดตรงๆไม่ได้เห็นทีคงต้องบอกทางอ้อมว่า เมื่อเร็วๆนี้ เมพสาสสส คุง รู้สึกถึงอะไรแปลกๆบ้างรึเปล่า  

แน่นอนระหว่างทาง เมพสาสส กำลังเก็บกวาดกับที่โกยผง (???) ที่ชักไม่เข้าใจว่า กำลังโกยผงขยะ หรือ ผัดข้าว กันแน่ ??



และแล้วก็มีบางอย่างโผล่มาอีกรอบ
เอ่อ.....นี้มัน  กับ JU-ON ใช่รึเปล่าเนี่ย ?



แน่นอน วิธีแก้ปัญหาก็ง่ายแสนง่าย โดยการเอาไปปลูกบนหัวเพื่อนตัวเอง คุโบตะ ซะเลย


ช่วงที่ 3



เห็นท่าจะไม่ได้เรื่องเลยต้องไปถามเรื่องนี้กับ คุโบตะ เอาเพราะ คุโบตะ ที่อยู่กับเมพสาสสส ตลอดน่าจะรู้เรื่องแปลกๆนี้บ้าง

อ๋อ!!! เรื่องพิลึกกึกกือรอบตัว เมพสาสสส คุง เหรอ ก็มีอยู่บ้างช่วงนี้นะ เช่น ผมก็อยู่ตามปกตินั้นแหละ ส่วนเมพสาสสส อ่านหนังสือ แต่มือไม้เค้าอะไรไม่ต้องขยับเลย เพราะ หนังสือมันเปิดให้เอง ราวกับ เมพสาสสส คุง ใช้สแตนด์ได้อย่างนั้นแหละ

(ไม่เรียกว่า พิลึกแล้ว ไอ้นี้มันโครตพิลึก)



มาเล่าถึงช่วงสุดท้ายกันดีกว่า



หลังคว้าน้ำเหลวไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง ในที่สุดก็ต้องคิดว่า ท้ายที่สุดแล้วตัวเองคงมีค่าเป็นแค่วิญญาณคอยแอบดูอยู่ห่างๆไร้ตัวตนทำได้แค่แอบถ่ายรูปไว้ก็เท่านั้น จนบังเอิญเห็น เมพสาสสส คุง กับ กลุ่มเพื่อน หลังเลิกเรียนเล่นเกม ซูโม่ชนก้น กันอยู่เลยได้โอกาสขอเก็บภาพไว้เช่นเคย



และแล้ว คำตอบของเรื่องราวทุกอย่างก็ปรากฎออกมา หลังได้แอบถ่ายไปด้วย ระบบ กดชัดเตอร์ถ่ายต่อเนื่อง 60 รูปติดต่อกัน

เอ๋ ?



ถ้าในเมื่อจุดเริ่มต้นทุกอย่างมาจาก รูปถ่าย คำตอบก็ต้องอยู่ในรูปถ่าย หลังเมกุมิได้รีบไปอัดภาพออกมาเป็นรูปๆแล้วรีบเอาไปบอกให้ เมพสาสสส คุง รู้ คำตอบก็ได้ว่า



เมพสาสสส คุง วิญญาณที่ตามเธอ ต้องการจะบอกกับเธอว่า  "ชั้นชอบคุณ"  ไงละ!!!!!

อ้าว ?!



สาวเจ้ากำลังดีอกดีใจที่รู้คำตอบ แต่ก็เผลอหลุดปากไปบอกเรื่องนี้โดยตรง เท่ากับ ประกาศให้เค้ารู้ไปในตัวด้วยว่า เธอไปแอบถ่ายรูปเค้ามาตลอด


ฝั่ง เมพสาสสสส ไม่ขอพูดพร่ำทำเพลงใดๆ หลังได้รับรู้เรื่องนี้ ก็ได้รีบไปทำอะไรสักอย่างที่ห้องถ่ายเอกสาร
ถ้าไม่เป็นการรบกวนใดๆ ผมขอตัวนำเอกสารพวกนี้ไปถ่ายสำเนา ก่อนนะขอรับ

แม้สาวเจ้าจะเสียใจกับสิ่งที่พูดลงไป แต่คิดรึว่า คนอย่าง เมพสาสสส จะไม่แคร์ความรู้สึกนี้กับเค้า  หลังเดินเข้าไปในห้องถ่ายเอกสาร ได้เริ่มบรรจงทำอะไรสักอย่างกับเครื่องถ่ายเอกสารและหน้าตัวเอง





หา!!!!!!




ถ้าในเมื่อ จุดเริ่มต้นและคำตอบมันมาจาก รูปถ่าย ดังนั้น  จุดสิ้นสุดก็ต้องมาจาก รูปถ่าย เช่นกัน  สิ่งที่เมพสาสส ทำคือ เอาหน้าเข้าไปในเครื่องถ่ายเอกสาร หลับตา]' แล้วกดถ่ายสำเนาหน้าตัวเองรัวๆ พร้อมขยับปากเป็นคำพูดว่า

"ขอบพระคุณมากขอรับ"

ในที่สุด ทุกอย่างก็จบลงอย่างเรียบง่ายและสงบสุข หลัง วิญญาณได้ทราบถึงข้อความนี้ ก็ไม่ปรากฎออกมาอีกเลย




เช่นกัน หลังเหตุการณ์นั้น สาวประธานนักเรียน ก็เลิกที่จะหลบในมุมมืดแต่กล้าที่จะออกไปตรงหน้าโดยตรง พร้อมขอถ่ายรูป เมพสาสสสส ที่กำลังเต้นท่า Russian Dance โดยตรง




เมพสาสสส คุง ขอถ่ายรูปนึงนะ!!!!


ช่วงท้ายเป็นตอนสั้นๆ



เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ที่โรงเรียน เมพสาสส คุงก็ไปสั่งอาหารทานตามปกติ โดยสิ่งที่สั่งมาทานคือ สปาเก็ตตี้นาโปลิตัน (พาสต้าสัญชาติญี่ปุ่นแท้ๆ จากถิ่นกำเนิดในโยโกฮาม่า) แต่เมื่อสังเกตจากนักเรียนคนอื่นกลับไม่ชอบเมนูอันนี้เท่าไรนัก ทั้งที่ป้าแม่ครัวหวังอยากให้เด็กๆชอบกัน


นั้นแหละที่เมพสาสสส คงต้องใช้กระบวนวิชาลับ



อย่างเช่น ในตอนชั่วโมงเรียน สิ่งที่เมพสาสส ทำก็คือ การขีดเขียนเป็นเส้นวนไปวนมาแล้วรีบลบอย่างรวดเร็ว



ต่อมา ชั่วโมงพละ คราวนี้ปูเส้นถนนชอล์คขาวเป็นเส้นขดไปมา



และ สุดท้าย ตอนกำลังรดน้ำต้นไม้ ก็วาดสายวงน้ำเป็น เส้นขดไปมา นั้นจึงส่งผลเป็นการสะกดจิตอย่างหนึ่งที่เด็กนักเรียนรีบไปสั่งสปาเก็ตตี้นาโปลิตัน


กระบวนท่าลับ สอดแทรกจิตใต้สำนึก



ซึ่ง ถ้าใครเคยอ่าน JOJO Part 6 สิ่งเหล่านี้เรียกในทาง จิตวิทยาว่า ผลทางซับลิมินอล (จิตใต้สำนึก) โดยรายละเอียดคร่าวๆว่า ทุกสรรพสิ่งที่รับรู้ได้ในระดับสัญชาติญาณ หากทำการสอดแทรกเข้าไปในส่วนลึกของจิตในสภาพที่จิตใต้สำนึกไร้ทางป้องกัน จะส่งผลให้ควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ได้ชะงัดกว่าการป้องให้รับรู้โดยตรง

จบตอน