สวัสดีค่ะทุกๆคน วันนี้เจ้าของกระทู้ขอมาอัพเดทภาคต่อเรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 10 นะคะ เราหายไปนานมาก ไม่ได้ล็อคอินมาใน Pantip เลย ต้องขออภัยในเรื่องความต่อเนื่องทางระยะเวลาด้วยค่ะ 🙏😰
ยังไงเราก็ขอขอบคุณผู้อ่านที่ยังเหนียวแน่นนะคะ เจ้าของกระทู้พยายามดำเนินเรื่องให้กระชับที่สุด เพื่อให้ทุกๆคนได้เห็นความเป็นมาทั้ง 7 ปีในระยะเวลาที่เหมาะสมค่ะ วันนี้ลองมาอ่านตอนที่ 10 นะคะ กับตอนที่ชื่อว่า
" ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน ✈️✨ " ต่อจากตอนที่แล้วค่ะ
" ดั่งคำโบราณว่าไว้ ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน ปนกันไป
ไม่มีอะไรที่มันจะดีงามทรามเชยไปตลอดโดยไม่พบกับอุปสรรคเลยหรอกชีวิตคน
เจอซะดอกนึงสินะเรา!
ตุลาคม 2009
ย่างก้าวเข้าสู่ฤดูหนาว ที่อาบูดาบีซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างเอเชียกับยุโรปก็เริ่มมีลมหนาวจับใจ พร้อมกับเหตุให้ได้หนาวทั้งใจ หนาวทั้งกายตามฤดู
บนไฟลท์ข้ามคืนจากกรุงอาบูดาบีไปยังนครปารีสที่รัก ในขณะที่เรากำลังโหลดอาหารเช้าเกือบ 200 กล่องใส่เตาอบด้วยสปีดรัวๆ ใจก็ฉุกคิดถึงชีวิตที่แสนจะดีแค่ไหนหากได้เดินสวยๆ เสิร์ฟเบาๆ อยู่ในชั้นบิสสิเนสคลาส
"อย่างในโฆษณาสินะ หึหึ ..
เดินมาปลุกคุณผู้โดยสารเบาๆที่หัวไหล่พร้อมผ้าอุ่นและน้ำส้มคั้นสักแก้ว"
ทุกวันนี้แค่เปิดไฟเตรียมจะเสิร์ฟ ยังไม่ทันออกไปปลุกเลย ไฟเรียกลูกเรือก็มาเป็นไฟสวนลุมปีใหม่พร้อมบางท่านหิวน้ำจัด เดินมาหยิบแก้วกับขวดที่วางเตรียมออกไปเสิร์ฟเทเองซะเลยประหนึ่งเป็นซุ้มน้ำแจกฟรีที่ร้านทำฟันเลยทีเดียว
" บินมาก็จะ 2 ปีละ.. ทนอีกแพรพ ก็จะได้เลื่อนขั้นไปเสิร์ฟชั้นธุรกิจซะที เอาวะ.. สู้! "
เราคิดปลุกกำลังใจตัวเองเบาๆในความระทึกยามตี 3 ที่ต้องจัดของออกไปเสิร์ฟให้ทันเวลาเปิดไฟตอนตี 4 ครึ่ง
ตาเหลือบไปมองถาดสีฟ้าที่ใช้ในชั้นประหยัดด้วยความดูแคลน อยากหนีไปใช้ถาดสีน้ำตาลในชั้นบิสสิเนสจุง
รู้ๆกันอยู่ ..แหม่!
นโยบายการเลื่อนตำแหน่งของบริษัท ที่เมื่อถึงเวลาราวๆ 2 ปีก็จะได้เลื่อนตำแหน่งอัตโนมัติไปอยู่ชั้นธุรกิจ หากผลการทำงานที่ผ่านมาไม่เลวร้าย แบบตื่นสาย ตกเครื่อง เรื่องเยอะ ใครๆก็ผ่านฉลุย
ท่ามกลางเสียงตะแกรงจากตู้อบดังคร้องแคร้งไปมาเมื่อเราโหลดอาหารใส่ถาดด้วยสปีดเร็วกว่าแสงและหัวเราที่ผลุบๆโผล่ๆขึ้นๆลงๆ
เสียงเพื่อนร่วมงานแอร์ฟิลิปปินส์ผู้ซึ่งมักได้รับข่าวไวและกรองที่สุดในบริษัทได้เอื้อนเอ่ยเปิดประเด็นกับแอร์มาเลย์อีกนางที่กำลังจัดชากาแฟอยู่
"เธอๆ รู้ไหมว่าเค้าหยุดเลื่อนตำแหน่งแล้วล่ะ หยุดนานหลายเดือนเลยนะ"
"เหรอๆๆๆๆ เธอ เราไม่รู้เลย" เจ้มาเลย์ตอบติดอ่างเล็กๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น มือพลางถูกระป๋องเสิร์ฟชากาแฟรัวๆ
"คือตอนนี้คนเกินนะ และเค้าต้องการคัดคนแล้วล่ะ ไม่ใช่ทุกคนจะได้เลื่อนนะ" นางเสียงสูงทิ้งท้าย ประหนึ่งส่งซิกแนลให้ถามต่อ
เจ้มาเลย์จึงไม่รอช้า รับมุกแต่โดยดี
"เหรอๆ คัดคน หมายถึงไงล่ะ"
.....
น้องฟิลิปปินส์ตอบแบบถอนหายใจเบาๆ นางทั้งสองช่างตบเรื่องให้ตรงประเด็นได้ดี รับมุกเมาท์ฉับไว
"เค้าจะจัดสอบเลื่อนตำแหน่งแทนการเลื่อนแบบเดิมแล้วน่ะสิ ได้ยินมาว่าใครก็สมัครได้ ไม่เรียงตามรหัสพนักงานอีกต่อไป"
....................................
แม้เราจะไม่ได้พูดอะไร แต่ใจเรามีเสียงเบาๆส่งมา
ว่า.. "แล้วตูล่ะ??"
มือก็โหลดอาหารไป หูก็ผึ่งไป ทำเป็นเหมือนไม่ร่วมวงเมาท์ แต่ถ้ามีคนมองเราอยู่ จะเห็นได้ว่าปากเริ่มเบ้ และมีการมองบนรัวๆเป็นระยะๆ
"ให้มันได้อย่างนี้สิจ๊ะ อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงคิวเลื่อนตำแหน่งละ แล้วมาเปลี่ยนอะไรเอาตอนนี้!"
5555555555 ขอหัวเราะให้ชะตากรรมสินะ..
"แล้วถ้าเราจะประชด ไม่สมัครล่ะ?" เจ้มาเลย์ยิงคำถามต่อหลังจากอึ้งไป 10 วิ
เรานี่ดีดนิ้วพลัวะ พลัวะ .. เจ้ช่างตบเข้าเรื่องได้น่าสนใจเยี่ยงพี่สรยุทธ์ยังไงยังงั้น
"ถ้าใครไม่สมัคร ก็อาจจะไม่ได้เลื่อนตำแหน่งตลอดไปเลยนะ เขาว่ามางั้น"
........................
คำตอบของน้องฟิลิปปินส์ทำให้บรรยากาศการต้มกาแฟเข้มดำสนิท ดำมืดเหมือนอนาคตการเลื่อนตำแหน่งยังไงยังงั้นเลย
และแล้ว..
ข่าวคราวคนไม่ได้รับการต่อสัญญาเริ่มหนาหู ผลการทำงานคือตัวชี้ชัดว่าใครจะอยู่ หรือใครจะไป มีการเปลี่ยนแปลงในบริษัทมากมายตามความเจริญเติบโตของบริษัท จึงเป็นที่มาของการเรียกเทรนใหม่พนักงานทุกๆคนเพื่อเตรียมตัวเสิร์ฟตามระบบใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ใหม่ๆ
หนาวขึ้นเรื่อยๆตามอากาศเลยสินะชีวิต..
สัญญาไม่ได้ต่ออัตโนมัติแล้ว ไหนจะรอเทรนวิธีการเสิร์ฟแบบใหม่ที่ใครเค้าร่ำลือกันนักว่ายากและหนักเอาการ
เท่านั้นยังไม่พอ เรายังมีตำแหน่งใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาในบริษัท ซึ่งก็คือ "รองหัวหน้า" ผู้ซึ่งจะมาควบคุมการทำงานของแอร์ชั้นประหยัดและชั้นประหยัดหมดทั้งชั้น
หมดกัน ..อิสรภาพตู
แมวอยู่ใกล้ขนาดนี้ หนูเสิร์ฟกันมือสั่นระริกเลยสินะ
ท่ามกลางความสับสนอลหม่านมากมาย หนาวทั้งใจ หนาวทั้งกาย และเครียดสะสม
จึงถึงเวลาป่วยไปตามระเบียบ..
เริ่มจากหวัดธรรมดา แล้วมันก็เรื้อรังไม่หายสักที ทั้งหายใจไม่ออกและเจ็บคอลามมาถึงหู
แต่แทนที่เราจะลาป่วย ด้วยความวิตกจริตในความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เราจึงเลือกจะไปบิน ท่ามกลางความห่วงใยของครอบครัวและเพื่อนฝูงว่าแก้วหูจะอันตราย
บอกเลย ศรีทนได้ แม้นศรีจะรักหู แต่ศรีรักงานมากกว่าหูในยามนั้น
ตามเหยี่ยวข่าวเล่าไว้เป๊ะ สะพรึงดุจตาเห็น..
ประกาศสมัครสอบสัมภาษณ์ได้ส่งมาที่อีเมล์ทุกๆคนพร้อมลิงค์กรอกข้อมูลสมัคร โดยขั้นตอนระบุไว้ชัดเจน ทุกคนจะต้องผ่านการสอบข้อเขียนทางออนไลน์ก่อนเท่านั้นจึงจะได้ไปต่อ..
เรานั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้พร้อมผ้านวมคู่ใจพาดจากด้านหลังเป็นซุปเปอร์แมน สูดน้ำมูกฟื้ดๆพร้อมต่อเน็ตลงสมัครในกลางดึกของวันหยุดหนึ่ง
"พอเปลี่ยนกฎทีนี่ พี่เล่นใหญ่เลยนะ แหม่.."
คำถามแต่ละคำถามนี่พี่คิดว่าผมเป็นบาร์เทนเดอร์มากี่ปีครับ ถามลึก ถามชื่ออาหาร เครื่องดื่ม และวิธีการเสิร์ฟและผสมเลยทีเดียว
ก่อนจะจบท้ายน่าชื่นใจหลังผ่านไปครึ่งชั่วโมงว่า..
คุณผ่าน!
เชิญเลือกเวลาไปสัมภาษณ์ต่อเลยค่ะ
อ่ะ.. คลิกสิคะ! รออะไร
มี 27 และ 28 ตุลานี้ที่ตรงกับวันหยุดเรา ส่วนวันอื่นๆที่ให้เลือกในเดือนหน้า ตารางบินยังไม่ออก แล้วเราจะไปกล้าเลือกได้อย่างไร
มือนี่กำลังจะกดคลิก 28 เพราะชอบเลข 8 เป็นการส่วนตัว แต่นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนรักร่วมชั้นเรียนเทรนแอร์ขอไว้ให้ไปสัมภาษณ์วันเดียวกันกับนาง เราจึงยั้งมือและกดโทรศัพท์หานางก่อน
"พ่อเราบอกว่า วันที่ 11 พฤศจิกาตามดวงเป็นวันชัยชนะของเรา เราต้องไปวันนั้น" นางตอบมาที่ปลายสาย
"แต่ตารางเดือนหน้ายังไม่ออกนะ ถ้าลงวันที่ 11 แล้วเกิดมีบินจะทำยังไง?" เราถามกลับด้วยความกังวล
"คิดม๊ากกก" นางตอบเสียงสูง.. "ถ้าเค้าให้เราเลือกของเดือนหน้าได้ แปลว่าเค้าก็จะใส่ให้เราหยุดวันนั้นแน่นอน"
"เอาจริงดิ่ แต่เราไม่มั่นใจนะ รอตารางออกก่อนไหมแล้วค่อยมาเลือก" เรายังกังวล ตอบกลับไปด้วยเสียงอู้อี้เหมือนเป็ดเพราะพิษหวัด
"เราไม่รอนะ เพราะเดี๋ยววันที่ 11 เต็ม เลือกๆไปเลยเถอะ" นางเริ่มนอยด์
เอาวะ.. "งั้นก็ตามใจนะ ตามนี้!"
วางสายปุ๊ป เราจึงกดคลิกทันทีปั๊บ
- รอบสัมภาษณ์ 11 พฤศจิกายน รอบ 11.00 น. -
25 ตุลาคม ตารางบินออกจ้าาาา..
เหยี่ยวข่าวโพสต์ลง Facebook เมื่อใด ทุกคนต่างพุ่งหลาวไปที่หน้าคอมทันทีเพื่อเช็คตารางบิน
ไฟลท์ดีเชียว...
10-11-12 บินไฟลท์กรุงเทพมหานคร
ส่วนเพื่อนผู้ซึ่งเช็คดวงมาอย่างดีก็มียถากรรมที่ไม่แตกต่าง นางถูกส่งไปอเมริกาเช่นกัน 10--11-12 พฤศจิกายน
สูดน้ำมูกนั่งกุมขมับอยู่หน้าคอมใต้ตึก โดยมีเพื่อนรักนั่งตีโพยตีพายเป็นแบคกราวน์อยู่ข้างกาย ก่อนนางจะเริ่มไล่ลิสต์ผู้ที่จะสามารถถอดตารางที่ชนกับวันสัมภาษณ์นี้ได้ พร้อมตบไหล่เราเบาๆ
"เราจะรับผิดชอบสิ่งนี้เอง"
เราได้แต่พยักหน้าหงึกๆจ้องคำว่า "กทม."ในตารางบิน
อาจเพราะไม่สบายมานานเหลือเกิน อยากจะกลับบ้านไปกอดแม่ กอดพ่อ กอดน้องหน่อยก็คงจะดีไม่น้อยเลย
เหล่ไปเห็นเพื่อนรักเริ่มต้นโทรไปที่ฝ่ายบุคคล ~ ก่อนทำหน้ามุ่ยที่ทางนั้นตอบกลับมา
"ทางเราเปลี่ยนวันสัมภาษณ์ไม่ได้ค่ะ"
นางส่ายหน้า เป็นอันรู้กันว่าคืออด
นางจึงโทรไปที่ที่สอง ทางแผนกออกตารางบิน ก่อนจะรีบวางสายอย่าวรวดเร็วเพราะได้รับคำตอบ "ทางเราเปลี่ยนตารางไม่ได้ โทรไปที่หัวหน้าแผนกเราสิ เค้าทำได้ค่ะ"
"อะไรวะเนี่ย" เราเริ่มพูดแทรก
นางรีบกดวาง และกดโทรไปที่หัวหน้าแผนกออกตารางบิน มองสีหน้าเพื่อนเริ่มถอดสี เราเองก็เริ่มจะถอดใจ ~
"เราเปลี่ยนตารางคุณไม่ได้ เมล์ไปบอกหัวหน้าคุณให้ช่วยสิ"
.................................
คุณเพื่อนนางวางสาย กัดฟัน ส่วนเราเอาหน้าฟุบแนบไปกับโต๊ะคอม
นางสะกิดบอกเราให้เมล์ไปที่หัวหน้าเราเดี๋ยวนี้ และนางก็จะเขียนอีเมล์ไปที่หัวหน้านางเช่นกัน
เราและเพื่อนช่วยกันดราฟอีเมล์ที่มีเนื้อหาเดียวกันทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบ ก่อนที่นางจะกดส่งไปที่หัวหน้าของนางซึ่งเป็นคนชาติเดียวกันกับนาง และเราก็กดส่งไปที่หัวหน้าของเราซึ่งเป็นชาวศรีลังกา
คลิก.. SEND
เมล์อัตโนมัติส่งกลับมาหาเราในทันที แจ้งว่าหัวหน้าไปพักร้อน อีก 5 วันจึงจะกลับ
เครียดบรม อ่านเมล์อัตโนมัติให้นางฟัง
ก่อนหันไปเห็นเพื่อนเรายังคงนั่งกุมขมับ เราจึงพยายามจะตัดบท เปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้เครียด
"ลืมๆไปสักพักเถอะเนอะ เครียดมามากแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ"
นางพยักหน้า ก่อนจะ sign out เตรียมจะไปกินข้าวกัน
ในขณะที่เรากำลังกด sign out จากเมล์บริษัทอยู่นั้น มือถือของเพื่อนที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมา
หัวหน้านางโทรเข้า!!!
บัดนี้ หน้าเพื่อนรักเปลี่ยนสีในทันใด จากซึมเศร้ากลายเป็นยิ้มร่าา ประหนึ่งมีข่าวดีจากปลายสาย บุคคลผู้ซึ่งจะมาปลดบ่วงทุกข์ทั้งหมดได้โทรมาหา
"ใจดีจัง 2 ทุ่มแล้ว หัวหน้ายังอุตส่าห์โทรมา!"
เราชื่นชมในใจ นั่งลุ้นข้างๆนางจนวางสาย พร้อมสูดน้ำมูกรัวๆ รอนางวางสายแล้วค่อยเล่า
"เย้!! หัวหน้าเราช่วยแล้ว!!" นางกรี๊ดขึ้นมา แฮปปี้สุดๆ
"เหรอๆๆๆ ช่วยไงๆๆ เล่าๆๆ" เราดีใจ เสียงอู้อี้ๆและติดอ่างไปพร้อมๆกัน
นางยิ้มหน้าบานตอบ "หัวหน้าเราจะโทรไปเคลียร์กับฝ่ายบุคคล เลื่อนวันสัมภาษณ์เราให้เป็นวันที่ 1 ที่เราหยุดน่ะสิ"
"อ้าว ไหนฝ่ายบุคคลบอกว่าเลื่อนไม่ได้ไง" เราเริ่มงง
"ได้สิ ก็หัวหน้าเราจะเป็นคนจัดการอีเมล์รหัสพนักงานเราไปแจ้งเลื่อนให้ไง เลยเลื่อนได้"
"เฮ้ย.. จริงดิ่ ดีใจว่ะ!!"
"เออ โล่งเลยอ่ะ" นางทำท่าปลื้มปริ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"เค้าบอกเลื่อนได้ทั้ง 2 คนเลยเหรอ? สุดๆ โคตรๆ เย้!" เรายิ้มปากฉีก ภูมิใจที่เพื่อนช่วยเราตามที่รับปาก
.....................................................
นางสะอึกเล็กๆ เป็นสัญญาณให้เรารับรู้คำตอบ
"เราลืมอ่ะ เราไม่ได้บอกให้หัวหน้าช่วยเธอ เค้าช่วยแต่เราคนเดียว"
.............. "
สะเทือนใจกันเล็กๆนะ เดี๋ยวเจ้าของกระทู้จะมาต่อให้เร็วที่สุดในตอนที่ 11 ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไปจากนี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ 🙏😊
ส่วนใครที่อยากอ่านงานเขียนเรื่องเล่าของเจ้าของกระทู้ย้อนหลัง เราลงลิงค์ไว้ให้ด้านล่างนี่เลยนะคะ :
" แกคือคนสุดท้ายในรุ่นที่ชั้นจะคิดว่าได้เป็นแอร์ " ..จากคำสบประมาท สู่ฝันแอร์โฮสเตสสายการบินตะวันออกกลาง
http://www.ppantip.com/topic/34273378
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 1 : ฝันที่เป็นจริงหรือภาพลวงตา ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34504171?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 2 : หรือฉันจะไม่ใช่นางฟ้า ?.. ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34536596?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 3 : นี่หรือ.. ที่เขาเรียกกันว่า ชีวิตนางฟ้า ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34568986
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 10 : ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน ✈️✨"
ยังไงเราก็ขอขอบคุณผู้อ่านที่ยังเหนียวแน่นนะคะ เจ้าของกระทู้พยายามดำเนินเรื่องให้กระชับที่สุด เพื่อให้ทุกๆคนได้เห็นความเป็นมาทั้ง 7 ปีในระยะเวลาที่เหมาะสมค่ะ วันนี้ลองมาอ่านตอนที่ 10 นะคะ กับตอนที่ชื่อว่า
" ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน ✈️✨ " ต่อจากตอนที่แล้วค่ะ
" ดั่งคำโบราณว่าไว้ ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน ปนกันไป
ไม่มีอะไรที่มันจะดีงามทรามเชยไปตลอดโดยไม่พบกับอุปสรรคเลยหรอกชีวิตคน
เจอซะดอกนึงสินะเรา!
ตุลาคม 2009
ย่างก้าวเข้าสู่ฤดูหนาว ที่อาบูดาบีซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างเอเชียกับยุโรปก็เริ่มมีลมหนาวจับใจ พร้อมกับเหตุให้ได้หนาวทั้งใจ หนาวทั้งกายตามฤดู
บนไฟลท์ข้ามคืนจากกรุงอาบูดาบีไปยังนครปารีสที่รัก ในขณะที่เรากำลังโหลดอาหารเช้าเกือบ 200 กล่องใส่เตาอบด้วยสปีดรัวๆ ใจก็ฉุกคิดถึงชีวิตที่แสนจะดีแค่ไหนหากได้เดินสวยๆ เสิร์ฟเบาๆ อยู่ในชั้นบิสสิเนสคลาส
"อย่างในโฆษณาสินะ หึหึ ..
เดินมาปลุกคุณผู้โดยสารเบาๆที่หัวไหล่พร้อมผ้าอุ่นและน้ำส้มคั้นสักแก้ว"
ทุกวันนี้แค่เปิดไฟเตรียมจะเสิร์ฟ ยังไม่ทันออกไปปลุกเลย ไฟเรียกลูกเรือก็มาเป็นไฟสวนลุมปีใหม่พร้อมบางท่านหิวน้ำจัด เดินมาหยิบแก้วกับขวดที่วางเตรียมออกไปเสิร์ฟเทเองซะเลยประหนึ่งเป็นซุ้มน้ำแจกฟรีที่ร้านทำฟันเลยทีเดียว
" บินมาก็จะ 2 ปีละ.. ทนอีกแพรพ ก็จะได้เลื่อนขั้นไปเสิร์ฟชั้นธุรกิจซะที เอาวะ.. สู้! "
เราคิดปลุกกำลังใจตัวเองเบาๆในความระทึกยามตี 3 ที่ต้องจัดของออกไปเสิร์ฟให้ทันเวลาเปิดไฟตอนตี 4 ครึ่ง
ตาเหลือบไปมองถาดสีฟ้าที่ใช้ในชั้นประหยัดด้วยความดูแคลน อยากหนีไปใช้ถาดสีน้ำตาลในชั้นบิสสิเนสจุง
รู้ๆกันอยู่ ..แหม่!
นโยบายการเลื่อนตำแหน่งของบริษัท ที่เมื่อถึงเวลาราวๆ 2 ปีก็จะได้เลื่อนตำแหน่งอัตโนมัติไปอยู่ชั้นธุรกิจ หากผลการทำงานที่ผ่านมาไม่เลวร้าย แบบตื่นสาย ตกเครื่อง เรื่องเยอะ ใครๆก็ผ่านฉลุย
ท่ามกลางเสียงตะแกรงจากตู้อบดังคร้องแคร้งไปมาเมื่อเราโหลดอาหารใส่ถาดด้วยสปีดเร็วกว่าแสงและหัวเราที่ผลุบๆโผล่ๆขึ้นๆลงๆ
เสียงเพื่อนร่วมงานแอร์ฟิลิปปินส์ผู้ซึ่งมักได้รับข่าวไวและกรองที่สุดในบริษัทได้เอื้อนเอ่ยเปิดประเด็นกับแอร์มาเลย์อีกนางที่กำลังจัดชากาแฟอยู่
"เธอๆ รู้ไหมว่าเค้าหยุดเลื่อนตำแหน่งแล้วล่ะ หยุดนานหลายเดือนเลยนะ"
"เหรอๆๆๆๆ เธอ เราไม่รู้เลย" เจ้มาเลย์ตอบติดอ่างเล็กๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น มือพลางถูกระป๋องเสิร์ฟชากาแฟรัวๆ
"คือตอนนี้คนเกินนะ และเค้าต้องการคัดคนแล้วล่ะ ไม่ใช่ทุกคนจะได้เลื่อนนะ" นางเสียงสูงทิ้งท้าย ประหนึ่งส่งซิกแนลให้ถามต่อ
เจ้มาเลย์จึงไม่รอช้า รับมุกแต่โดยดี
"เหรอๆ คัดคน หมายถึงไงล่ะ"
.....
น้องฟิลิปปินส์ตอบแบบถอนหายใจเบาๆ นางทั้งสองช่างตบเรื่องให้ตรงประเด็นได้ดี รับมุกเมาท์ฉับไว
"เค้าจะจัดสอบเลื่อนตำแหน่งแทนการเลื่อนแบบเดิมแล้วน่ะสิ ได้ยินมาว่าใครก็สมัครได้ ไม่เรียงตามรหัสพนักงานอีกต่อไป"
....................................
แม้เราจะไม่ได้พูดอะไร แต่ใจเรามีเสียงเบาๆส่งมา
ว่า.. "แล้วตูล่ะ??"
มือก็โหลดอาหารไป หูก็ผึ่งไป ทำเป็นเหมือนไม่ร่วมวงเมาท์ แต่ถ้ามีคนมองเราอยู่ จะเห็นได้ว่าปากเริ่มเบ้ และมีการมองบนรัวๆเป็นระยะๆ
"ให้มันได้อย่างนี้สิจ๊ะ อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงคิวเลื่อนตำแหน่งละ แล้วมาเปลี่ยนอะไรเอาตอนนี้!"
5555555555 ขอหัวเราะให้ชะตากรรมสินะ..
"แล้วถ้าเราจะประชด ไม่สมัครล่ะ?" เจ้มาเลย์ยิงคำถามต่อหลังจากอึ้งไป 10 วิ
เรานี่ดีดนิ้วพลัวะ พลัวะ .. เจ้ช่างตบเข้าเรื่องได้น่าสนใจเยี่ยงพี่สรยุทธ์ยังไงยังงั้น
"ถ้าใครไม่สมัคร ก็อาจจะไม่ได้เลื่อนตำแหน่งตลอดไปเลยนะ เขาว่ามางั้น"
........................
คำตอบของน้องฟิลิปปินส์ทำให้บรรยากาศการต้มกาแฟเข้มดำสนิท ดำมืดเหมือนอนาคตการเลื่อนตำแหน่งยังไงยังงั้นเลย
และแล้ว..
ข่าวคราวคนไม่ได้รับการต่อสัญญาเริ่มหนาหู ผลการทำงานคือตัวชี้ชัดว่าใครจะอยู่ หรือใครจะไป มีการเปลี่ยนแปลงในบริษัทมากมายตามความเจริญเติบโตของบริษัท จึงเป็นที่มาของการเรียกเทรนใหม่พนักงานทุกๆคนเพื่อเตรียมตัวเสิร์ฟตามระบบใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ใหม่ๆ
หนาวขึ้นเรื่อยๆตามอากาศเลยสินะชีวิต..
สัญญาไม่ได้ต่ออัตโนมัติแล้ว ไหนจะรอเทรนวิธีการเสิร์ฟแบบใหม่ที่ใครเค้าร่ำลือกันนักว่ายากและหนักเอาการ
เท่านั้นยังไม่พอ เรายังมีตำแหน่งใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาในบริษัท ซึ่งก็คือ "รองหัวหน้า" ผู้ซึ่งจะมาควบคุมการทำงานของแอร์ชั้นประหยัดและชั้นประหยัดหมดทั้งชั้น
หมดกัน ..อิสรภาพตู
แมวอยู่ใกล้ขนาดนี้ หนูเสิร์ฟกันมือสั่นระริกเลยสินะ
ท่ามกลางความสับสนอลหม่านมากมาย หนาวทั้งใจ หนาวทั้งกาย และเครียดสะสม
จึงถึงเวลาป่วยไปตามระเบียบ..
เริ่มจากหวัดธรรมดา แล้วมันก็เรื้อรังไม่หายสักที ทั้งหายใจไม่ออกและเจ็บคอลามมาถึงหู
แต่แทนที่เราจะลาป่วย ด้วยความวิตกจริตในความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เราจึงเลือกจะไปบิน ท่ามกลางความห่วงใยของครอบครัวและเพื่อนฝูงว่าแก้วหูจะอันตราย
บอกเลย ศรีทนได้ แม้นศรีจะรักหู แต่ศรีรักงานมากกว่าหูในยามนั้น
ตามเหยี่ยวข่าวเล่าไว้เป๊ะ สะพรึงดุจตาเห็น..
ประกาศสมัครสอบสัมภาษณ์ได้ส่งมาที่อีเมล์ทุกๆคนพร้อมลิงค์กรอกข้อมูลสมัคร โดยขั้นตอนระบุไว้ชัดเจน ทุกคนจะต้องผ่านการสอบข้อเขียนทางออนไลน์ก่อนเท่านั้นจึงจะได้ไปต่อ..
เรานั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้พร้อมผ้านวมคู่ใจพาดจากด้านหลังเป็นซุปเปอร์แมน สูดน้ำมูกฟื้ดๆพร้อมต่อเน็ตลงสมัครในกลางดึกของวันหยุดหนึ่ง
"พอเปลี่ยนกฎทีนี่ พี่เล่นใหญ่เลยนะ แหม่.."
คำถามแต่ละคำถามนี่พี่คิดว่าผมเป็นบาร์เทนเดอร์มากี่ปีครับ ถามลึก ถามชื่ออาหาร เครื่องดื่ม และวิธีการเสิร์ฟและผสมเลยทีเดียว
ก่อนจะจบท้ายน่าชื่นใจหลังผ่านไปครึ่งชั่วโมงว่า..
คุณผ่าน!
เชิญเลือกเวลาไปสัมภาษณ์ต่อเลยค่ะ
อ่ะ.. คลิกสิคะ! รออะไร
มี 27 และ 28 ตุลานี้ที่ตรงกับวันหยุดเรา ส่วนวันอื่นๆที่ให้เลือกในเดือนหน้า ตารางบินยังไม่ออก แล้วเราจะไปกล้าเลือกได้อย่างไร
มือนี่กำลังจะกดคลิก 28 เพราะชอบเลข 8 เป็นการส่วนตัว แต่นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนรักร่วมชั้นเรียนเทรนแอร์ขอไว้ให้ไปสัมภาษณ์วันเดียวกันกับนาง เราจึงยั้งมือและกดโทรศัพท์หานางก่อน
"พ่อเราบอกว่า วันที่ 11 พฤศจิกาตามดวงเป็นวันชัยชนะของเรา เราต้องไปวันนั้น" นางตอบมาที่ปลายสาย
"แต่ตารางเดือนหน้ายังไม่ออกนะ ถ้าลงวันที่ 11 แล้วเกิดมีบินจะทำยังไง?" เราถามกลับด้วยความกังวล
"คิดม๊ากกก" นางตอบเสียงสูง.. "ถ้าเค้าให้เราเลือกของเดือนหน้าได้ แปลว่าเค้าก็จะใส่ให้เราหยุดวันนั้นแน่นอน"
"เอาจริงดิ่ แต่เราไม่มั่นใจนะ รอตารางออกก่อนไหมแล้วค่อยมาเลือก" เรายังกังวล ตอบกลับไปด้วยเสียงอู้อี้เหมือนเป็ดเพราะพิษหวัด
"เราไม่รอนะ เพราะเดี๋ยววันที่ 11 เต็ม เลือกๆไปเลยเถอะ" นางเริ่มนอยด์
เอาวะ.. "งั้นก็ตามใจนะ ตามนี้!"
วางสายปุ๊ป เราจึงกดคลิกทันทีปั๊บ
- รอบสัมภาษณ์ 11 พฤศจิกายน รอบ 11.00 น. -
25 ตุลาคม ตารางบินออกจ้าาาา..
เหยี่ยวข่าวโพสต์ลง Facebook เมื่อใด ทุกคนต่างพุ่งหลาวไปที่หน้าคอมทันทีเพื่อเช็คตารางบิน
ไฟลท์ดีเชียว...
10-11-12 บินไฟลท์กรุงเทพมหานคร
ส่วนเพื่อนผู้ซึ่งเช็คดวงมาอย่างดีก็มียถากรรมที่ไม่แตกต่าง นางถูกส่งไปอเมริกาเช่นกัน 10--11-12 พฤศจิกายน
สูดน้ำมูกนั่งกุมขมับอยู่หน้าคอมใต้ตึก โดยมีเพื่อนรักนั่งตีโพยตีพายเป็นแบคกราวน์อยู่ข้างกาย ก่อนนางจะเริ่มไล่ลิสต์ผู้ที่จะสามารถถอดตารางที่ชนกับวันสัมภาษณ์นี้ได้ พร้อมตบไหล่เราเบาๆ
"เราจะรับผิดชอบสิ่งนี้เอง"
เราได้แต่พยักหน้าหงึกๆจ้องคำว่า "กทม."ในตารางบิน
อาจเพราะไม่สบายมานานเหลือเกิน อยากจะกลับบ้านไปกอดแม่ กอดพ่อ กอดน้องหน่อยก็คงจะดีไม่น้อยเลย
เหล่ไปเห็นเพื่อนรักเริ่มต้นโทรไปที่ฝ่ายบุคคล ~ ก่อนทำหน้ามุ่ยที่ทางนั้นตอบกลับมา
"ทางเราเปลี่ยนวันสัมภาษณ์ไม่ได้ค่ะ"
นางส่ายหน้า เป็นอันรู้กันว่าคืออด
นางจึงโทรไปที่ที่สอง ทางแผนกออกตารางบิน ก่อนจะรีบวางสายอย่าวรวดเร็วเพราะได้รับคำตอบ "ทางเราเปลี่ยนตารางไม่ได้ โทรไปที่หัวหน้าแผนกเราสิ เค้าทำได้ค่ะ"
"อะไรวะเนี่ย" เราเริ่มพูดแทรก
นางรีบกดวาง และกดโทรไปที่หัวหน้าแผนกออกตารางบิน มองสีหน้าเพื่อนเริ่มถอดสี เราเองก็เริ่มจะถอดใจ ~
"เราเปลี่ยนตารางคุณไม่ได้ เมล์ไปบอกหัวหน้าคุณให้ช่วยสิ"
.................................
คุณเพื่อนนางวางสาย กัดฟัน ส่วนเราเอาหน้าฟุบแนบไปกับโต๊ะคอม
นางสะกิดบอกเราให้เมล์ไปที่หัวหน้าเราเดี๋ยวนี้ และนางก็จะเขียนอีเมล์ไปที่หัวหน้านางเช่นกัน
เราและเพื่อนช่วยกันดราฟอีเมล์ที่มีเนื้อหาเดียวกันทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบ ก่อนที่นางจะกดส่งไปที่หัวหน้าของนางซึ่งเป็นคนชาติเดียวกันกับนาง และเราก็กดส่งไปที่หัวหน้าของเราซึ่งเป็นชาวศรีลังกา
คลิก.. SEND
เมล์อัตโนมัติส่งกลับมาหาเราในทันที แจ้งว่าหัวหน้าไปพักร้อน อีก 5 วันจึงจะกลับ
เครียดบรม อ่านเมล์อัตโนมัติให้นางฟัง
ก่อนหันไปเห็นเพื่อนเรายังคงนั่งกุมขมับ เราจึงพยายามจะตัดบท เปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้เครียด
"ลืมๆไปสักพักเถอะเนอะ เครียดมามากแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ"
นางพยักหน้า ก่อนจะ sign out เตรียมจะไปกินข้าวกัน
ในขณะที่เรากำลังกด sign out จากเมล์บริษัทอยู่นั้น มือถือของเพื่อนที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมา
หัวหน้านางโทรเข้า!!!
บัดนี้ หน้าเพื่อนรักเปลี่ยนสีในทันใด จากซึมเศร้ากลายเป็นยิ้มร่าา ประหนึ่งมีข่าวดีจากปลายสาย บุคคลผู้ซึ่งจะมาปลดบ่วงทุกข์ทั้งหมดได้โทรมาหา
"ใจดีจัง 2 ทุ่มแล้ว หัวหน้ายังอุตส่าห์โทรมา!"
เราชื่นชมในใจ นั่งลุ้นข้างๆนางจนวางสาย พร้อมสูดน้ำมูกรัวๆ รอนางวางสายแล้วค่อยเล่า
"เย้!! หัวหน้าเราช่วยแล้ว!!" นางกรี๊ดขึ้นมา แฮปปี้สุดๆ
"เหรอๆๆๆ ช่วยไงๆๆ เล่าๆๆ" เราดีใจ เสียงอู้อี้ๆและติดอ่างไปพร้อมๆกัน
นางยิ้มหน้าบานตอบ "หัวหน้าเราจะโทรไปเคลียร์กับฝ่ายบุคคล เลื่อนวันสัมภาษณ์เราให้เป็นวันที่ 1 ที่เราหยุดน่ะสิ"
"อ้าว ไหนฝ่ายบุคคลบอกว่าเลื่อนไม่ได้ไง" เราเริ่มงง
"ได้สิ ก็หัวหน้าเราจะเป็นคนจัดการอีเมล์รหัสพนักงานเราไปแจ้งเลื่อนให้ไง เลยเลื่อนได้"
"เฮ้ย.. จริงดิ่ ดีใจว่ะ!!"
"เออ โล่งเลยอ่ะ" นางทำท่าปลื้มปริ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"เค้าบอกเลื่อนได้ทั้ง 2 คนเลยเหรอ? สุดๆ โคตรๆ เย้!" เรายิ้มปากฉีก ภูมิใจที่เพื่อนช่วยเราตามที่รับปาก
.....................................................
นางสะอึกเล็กๆ เป็นสัญญาณให้เรารับรู้คำตอบ
"เราลืมอ่ะ เราไม่ได้บอกให้หัวหน้าช่วยเธอ เค้าช่วยแต่เราคนเดียว"
.............. "
สะเทือนใจกันเล็กๆนะ เดี๋ยวเจ้าของกระทู้จะมาต่อให้เร็วที่สุดในตอนที่ 11 ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไปจากนี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ 🙏😊
ส่วนใครที่อยากอ่านงานเขียนเรื่องเล่าของเจ้าของกระทู้ย้อนหลัง เราลงลิงค์ไว้ให้ด้านล่างนี่เลยนะคะ :
" แกคือคนสุดท้ายในรุ่นที่ชั้นจะคิดว่าได้เป็นแอร์ " ..จากคำสบประมาท สู่ฝันแอร์โฮสเตสสายการบินตะวันออกกลาง
http://www.ppantip.com/topic/34273378
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 1 : ฝันที่เป็นจริงหรือภาพลวงตา ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34504171?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 2 : หรือฉันจะไม่ใช่นางฟ้า ?.. ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34536596?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 3 : นี่หรือ.. ที่เขาเรียกกันว่า ชีวิตนางฟ้า ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34568986