สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
เรามองว่าคนแรกสำคัญกว่าบริษัทมากกว่าคนที่สอง
1. งานของคุณคือการออกแบบ ดังนั้นหัวใจสำคัญของงานคือเรื่องความคิดสร้างสรรค์
จะมีประโยชน์อะไรถ้าพนักงานที่เข้าออกตามเวลา ละเอียดรอบคอบ มนุษยสัมพันธ์ดี แต่ออกแบบแล้วไม่โดนใจลูกค้า
ซึ่งคุณเองก็รู้ดีว่าถ้าเสียน้องคนแรกไป บริษัทคุณแย่แน่ๆ
2. ข้อเสียของคนแรกที่คุณพูดมาทั้งหมด เรามองว่าข้อเสียจริงๆ มีแค่เรื่องความไม่รอบคอบ
ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการหาคนมาช่วยตรวจสอบตรงนี้แทน ปล่อยให้เค้าโฟกัสแค่งานหลักคือการออกแบบอย่างเดียวก็พอ
ส่วนเรื่องไม่เข้าออกงานตามเวลา ตราบใดที่ทำงานเสร็จเรียบร้อย ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญอะไร เพราะเท่าทีดูเค้าก็มีความรับผิดชอบงานดี
การที่เค้าทำงานเสร็จเร็ว และคุณไม่ได้มีงานใหม่ไปเติมให้เค้า ไม่ใช่ความผิดเค้านะคะ จะให้เค้ามาเสียเวลาว่างๆ ในออฟฟิศทำไม
3. คนที่สองจริงๆก็ไม่ได้แย่ แต่ไม่เหมาะที่จะมาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับคนแรก เพราะความสามารถคนละระดับ
ถ้าคุณเลือกโปรโมตคนที่สองก่อนคนแรก พนักงานคนอื่นในแผนกอาจจะยินดี แต่น้องคนแรกไม่ยินดีแน่ๆ
คุณก็ลองชั่งใจดูให้ดีๆ ก็แล้วกันว่าระหว่างพนักงานสนับสนุน กับพนักงานตัวหลักที่สร้างผลงานให้บริษัท คนไหนมีความสำคัญกว่ากัน
4. ในโลกการทำงานไม่มีความยุติธรรมให้กับทุกคนหรอกค่ะ คนที่สำคัญกว่าก็ควรได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเพราะมีอำนาจการต่อรองที่มากกว่า
ถ้าคุณจะไม่ขึ้นตำแหน่งให้ คุณก็ต้องหาทางอื่นในการรั้งพนักงานคนนี้ไว้ให้ได้ การขึ้นเงินเดือนอาจจะไม่ได้ผลเพราะขนาดจะลงโทษด้วยการหักเงินเดือนเค้ายังยอมเลย
5. ใดๆ ก็ตาม ดูจากการบริหารงานในบริษัทคุณแล้ว เราว่าน้องคนแรกคงอยู่กับคุณได้ไม่นานหรอก โดยเฉพาะเมื่อคุณไปจ้ำจี้จ้ำไชเค้าในเรื่องเวลาเข้าออกงาน
ถ้าคุณเลือกโปรโมตคนไม่เก่งขึ้นมาก่อน คนเก่งคงไม่ทนอยู่ต่อแน่
แล้วคุณคิดว่าลูกค้าเก่าๆของคุณจะยอมรับมาตรฐานของผลงานที่ต่ำลงของบริษัทคุณได้มั้ย
เผลอๆจะตามน้องคนแรกไปด้วยกันหมดรึเปล่าไม่รู้
6. คุณบอกว่าบริษัทคุณเป็นบริษัทเล็กๆ และไม่เคยมีพนักงานแบบน้องคนแรกเข้ามาทำงานมาก่อน
ก็เป็นโอกาสของคุณแล้ว ที่จะยกระดับบริษัทของคุณ จากบริษัทเล็กๆให้มีความโดดเด่นขึ้นมาได้ และอาจจะสามารถดึงพนักงานเก่งๆเข้ามาทำงานเพิ่มได้อีก
หรือจะแคร์พนักงานส่วนมากที่ไม่ถูกใจคนเก่งคนนี้ แล้วกลับไปเป็นบริษัทเล็กๆที่ไม่มีความโดดเด่นต่อไปก็แล้วแต่
1. งานของคุณคือการออกแบบ ดังนั้นหัวใจสำคัญของงานคือเรื่องความคิดสร้างสรรค์
จะมีประโยชน์อะไรถ้าพนักงานที่เข้าออกตามเวลา ละเอียดรอบคอบ มนุษยสัมพันธ์ดี แต่ออกแบบแล้วไม่โดนใจลูกค้า
ซึ่งคุณเองก็รู้ดีว่าถ้าเสียน้องคนแรกไป บริษัทคุณแย่แน่ๆ
2. ข้อเสียของคนแรกที่คุณพูดมาทั้งหมด เรามองว่าข้อเสียจริงๆ มีแค่เรื่องความไม่รอบคอบ
ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการหาคนมาช่วยตรวจสอบตรงนี้แทน ปล่อยให้เค้าโฟกัสแค่งานหลักคือการออกแบบอย่างเดียวก็พอ
ส่วนเรื่องไม่เข้าออกงานตามเวลา ตราบใดที่ทำงานเสร็จเรียบร้อย ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญอะไร เพราะเท่าทีดูเค้าก็มีความรับผิดชอบงานดี
การที่เค้าทำงานเสร็จเร็ว และคุณไม่ได้มีงานใหม่ไปเติมให้เค้า ไม่ใช่ความผิดเค้านะคะ จะให้เค้ามาเสียเวลาว่างๆ ในออฟฟิศทำไม
3. คนที่สองจริงๆก็ไม่ได้แย่ แต่ไม่เหมาะที่จะมาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับคนแรก เพราะความสามารถคนละระดับ
ถ้าคุณเลือกโปรโมตคนที่สองก่อนคนแรก พนักงานคนอื่นในแผนกอาจจะยินดี แต่น้องคนแรกไม่ยินดีแน่ๆ
คุณก็ลองชั่งใจดูให้ดีๆ ก็แล้วกันว่าระหว่างพนักงานสนับสนุน กับพนักงานตัวหลักที่สร้างผลงานให้บริษัท คนไหนมีความสำคัญกว่ากัน
4. ในโลกการทำงานไม่มีความยุติธรรมให้กับทุกคนหรอกค่ะ คนที่สำคัญกว่าก็ควรได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเพราะมีอำนาจการต่อรองที่มากกว่า
ถ้าคุณจะไม่ขึ้นตำแหน่งให้ คุณก็ต้องหาทางอื่นในการรั้งพนักงานคนนี้ไว้ให้ได้ การขึ้นเงินเดือนอาจจะไม่ได้ผลเพราะขนาดจะลงโทษด้วยการหักเงินเดือนเค้ายังยอมเลย
5. ใดๆ ก็ตาม ดูจากการบริหารงานในบริษัทคุณแล้ว เราว่าน้องคนแรกคงอยู่กับคุณได้ไม่นานหรอก โดยเฉพาะเมื่อคุณไปจ้ำจี้จ้ำไชเค้าในเรื่องเวลาเข้าออกงาน
ถ้าคุณเลือกโปรโมตคนไม่เก่งขึ้นมาก่อน คนเก่งคงไม่ทนอยู่ต่อแน่
แล้วคุณคิดว่าลูกค้าเก่าๆของคุณจะยอมรับมาตรฐานของผลงานที่ต่ำลงของบริษัทคุณได้มั้ย
เผลอๆจะตามน้องคนแรกไปด้วยกันหมดรึเปล่าไม่รู้
6. คุณบอกว่าบริษัทคุณเป็นบริษัทเล็กๆ และไม่เคยมีพนักงานแบบน้องคนแรกเข้ามาทำงานมาก่อน
ก็เป็นโอกาสของคุณแล้ว ที่จะยกระดับบริษัทของคุณ จากบริษัทเล็กๆให้มีความโดดเด่นขึ้นมาได้ และอาจจะสามารถดึงพนักงานเก่งๆเข้ามาทำงานเพิ่มได้อีก
หรือจะแคร์พนักงานส่วนมากที่ไม่ถูกใจคนเก่งคนนี้ แล้วกลับไปเป็นบริษัทเล็กๆที่ไม่มีความโดดเด่นต่อไปก็แล้วแต่
ความคิดเห็นที่ 13
- คนที่ 2 เหมาะกับการทำงานบริษัท นางเป็นหัวหน้าได้นะ นางเป็น team player
- ส่วนคนแรกนางเหมาะเป็น freelance นางไม่ชอบทำงานเป็นทีม คือเก่งแต่ชั้นเก่งคนเดียว คนอื่นโนสนโนแคร์ ไม่สนว่าใครมองยังไง งานชั้นก็เสร็จและทำได้ดี อย่าเอากรอบเวลามาครอบนาง ไม่ชอบนั่งหายใจทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ อยากหักเงินหักไปเลย
หัวหน้าต้องการคนทั้ง 2 แบบ แต่ต้อง manage คน และกรอบการทำงานให้ flexible ก็จะดีค่ะ ถ้าคุณอยากรักษาคนแรกเอาไว้นะ เพราะนางจะไม่อยู่กับคุณนานหรอก
- ส่วนคนแรกนางเหมาะเป็น freelance นางไม่ชอบทำงานเป็นทีม คือเก่งแต่ชั้นเก่งคนเดียว คนอื่นโนสนโนแคร์ ไม่สนว่าใครมองยังไง งานชั้นก็เสร็จและทำได้ดี อย่าเอากรอบเวลามาครอบนาง ไม่ชอบนั่งหายใจทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ อยากหักเงินหักไปเลย
หัวหน้าต้องการคนทั้ง 2 แบบ แต่ต้อง manage คน และกรอบการทำงานให้ flexible ก็จะดีค่ะ ถ้าคุณอยากรักษาคนแรกเอาไว้นะ เพราะนางจะไม่อยู่กับคุณนานหรอก
แสดงความคิดเห็น
ทำงานเก่งมาก แต่เป็นคนไม่ละเอียด และมาสายเกือบทุกวัน VS ทำงานกลางๆ แต่เป็นคนละเอียด มาทำงานตรงเวลา คนไหนน่าสนใจกว่าคะ
คนแรก วุฒิสูงสุดป.ตรี สถาปัตย์ จบจากมหาลัยระดับท็อป 2-3 ประเทศด้านสถาปัตย์ ประสบการณ์ทำงาน 4-5 ปี
ข้อดี
1. คิดงานออกแบบเก่ง งานออกแบบที่คิดออกมาส่วนใหญ่ดีและเจ๋งทั้งในแง่แนวความคิดไอเดียในการออกแบบและความสวยงาม รวมถึงวางฟังก์ชั่นการใช้งานอาคารได้เหมาะสม พูดง่ายๆคือมีเทสในการออกแบบที่ดี มีวัตถุดิบมีไอเดียอยู่ในหัวเยอะที่จะเอามาใช้ออกแบบ
2. ฉลาด และมีพื้นฐานความรู้เฉพาะในวิชาชีพค่อนข้างแน่น สอนอะไรแปปๆก็เข้าใจ บางอย่างไม่ต้องสอนก็สามารถไปอ่านและเข้าใจเองได้ ต่อยอดสิ่งที่เราสอนเก่ง เวลาบริษัทส่งไปอบรมความรู้อะไร แล้วต้องมีการเทสผล ส่วนใหญ่จะได้คะแนนดีมาก ดีที่สุดในบริษัทสำหรับอายุรุ่นๆเดียวกัน หรือเทสแค่รอบเดียวก็ผ่านแล้ว
ข้อเสีย
1. วินัยค่อนข้างหย่อนยาน มาทำงานสายเกือบทุกวันส่วนใหญ่ 15-20 นาที บางวันมีถึงครึ่งชั่วโมง และชอบออกจากงานก่อนเวลาบ่อย เช่น เวลาเลิกงาน 18.30 น. แต่บางทีชอบขอออกไปธุระตั้งแต่บ่ายสาม บ่ายสี่ บ่อยมาก แต่ทำงานเสร็จทันเวลาตลอดนะไม่เคยงานไม่เสร็จ บริษัทตัดเงินเดือนเพราะมาสายก็ยอมให้หักนะ บอกหักไปเลยหนูไม่ซีเรียส ไม่คิดมาก ก็มาสายเหมือนเดิมแล้วยอมให้หักเงินเดือน (แต่ถ้ามีนัดกับลูกค้าจะไม่มาสายนะจะมาตรงเวลา จะสายในวันที่ต้องนั่งทำงานปกติที่ออฟฟิศ)
2. เป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนในออฟฟิศ ไม่ค่อยคุยกับใครถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ไม่เคยอาสาช่วยงานใคร ไม่เคยไปไหนมาไหนกับเพื่อนร่วมงานทั้งนั้น เลิกงานกลับบ้านเลย ไปกินข้าวกลางวันคนเดียว แต่ก็ไม่เคยทะเลาะกับใครนะ แค่ไม่ยุ่งกันถ้าไม่ใช่เรื่องงาน
3. เป็นคนทำงานไม่ค่อยละเอียด ทำให้ชอบผิดหรือตกหล่นในจุดเล็กๆน้อยๆในงานเขียนแบบ เช่น สะกดตัวอักษรผิด เขียนข้อความขาดหรือเกิน เขียนเลขหน้าเอกสารผิด เขียนข้อความในเอกสารตกหล่นไปบางข้อความ เขียนเลขหัวข้อในแบบหรือเอกสารข้าม(เช่น 1 แล้วไป 3 เลย 2 หาย) พอเราเติอนก็ขอโทษว่าจะปรับปรุง แค่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม และชอบบ่นว่าทำไมหนูต้องมานั่งเขียนแบบเองด้วยค่ะ ทำไมบริษัทไม่จ้างดราฟท์แมนมาเขียนคะ 555 นางเฟี้ยวจริง
คนที่สอง วุฒิสูงสุด ป.โท ป.ตรีจบสถาปัตย์จากม.ระดับกลางๆไม่โด่งดังในด้านนี้ ส่วนโทจบสถาปัตย์เหมือนเดิม จากมหาลัยระดับท็อป (ที่เดียวกับที่คนแรกจบป.ตรี) ประสบการณ์ทำงาน 4-5 ปั
ข้อดี
1. เป็นคนทำงานละเอียดรอบคอบ ตรวจทานงานหลายรอบ ทำให้ในงานเขียนแบบในจุดเล็กๆน้อยๆ เช่น สะกดตัวอักษรผิด เขียนข้อความขาดหรือเกิน เขียนเลขหน้าเอกสารผิด เขียนข้อความในเอกสารตกหล่นไปบางข้อความ เขียนเลขหัวข้อในแบบหรือเอกสารข้าม(เช่น 1 แล้วไป 3 เลย 2 หาย) ไม่มีจุดผิดพลาดเหมือนคนแรก
2. เป็นคนนิสัยน่ารัก อัธยาศัยดี มีน้ำใจ เพื่อนๆในบริษัททั้งทีมเดียวกันและคนละทีมรัก บางทีงานตัวเองเสร็จแล้วมีแก็ปว่าง ก็อาสาไปช่วยงานคนอื่นตลอดแบบเราไม่ต้องสั่ง ช่วยขนาดยอมทำงานด้วยกันไปทั้งคืนเลยไม่ได้กลับบ้านไป 2 วัน แต่ก็ยอม ทั้งๆที่ไม่ใช่งานตัวเองด้วยซ้ำ ผิดกับคนแรกที่จะไม่ไปช่วยใครทั้งนั้นถ้าเราไม่สั่งถึงจะมีแก็ปว่างก็จะนั่งอยู่เฉยๆ ถึงเราสั่งก็จะช่วยแบบขอไปที
3. ระเบียบวินัยดีมาก มาทำงานเช้าก่อนเวลาตลอด วันไหนมีธุระทำให้ต้องมาสายเป็นชั่วโมง ก็จะไม่ยอมไปพักกลางวัน เราบอกเราไม่ซีเรียสไปพักเถอะ ก็ไม่ยอมไปอีก บอกไม่อยากเอาเปรียบบริษัท
ข้อเสีย
1. คิดงานออกแบบไม่เก่งเท่าคนแรก แนวความคิดไอเดียในการออกแบบและความสวยงาม รวมถึงการวางฟังก์ชั่นในการใช้งานอาคารสู้คนแรกไม่ได้ แต่ไม่ได้แย่ ก็อยู่ในระดับกลางๆ แค่ไม่ได้เจ๋งโดดเด่นแบบคนแรก รวมถึงเวลาคิดงานจะใช้เวลาคิดงานนานกว่าคนแรก ในการคิดงานชิ้นนึงคนแรกจะใช้เวลาคิดน้อยกว่า และได้ไอเดียดีกว่า
2. ความฉลาด ไหวพริบ รวมถึงตวามรู้พื้นฐานในวิชาชีพสู้คนแรกไม่ได้ ทำให้เวลาสอนงานอะไรจะเข้าใจงานช้ากว่าคนแรก หลายครั้งเวลาสอนต้องคอยไกด์ให้ค่อนข้างเยอะและถี่ ถึงจะเข้าใจสิ่งที่สอนได้ดี บางทีต้องปูพื้นให้ด้วย ไม่เหมือนคนแรกที่สอนแค่แปปๆ หรือบางทีไม่ต้องสอนปล่อยไปอ่านเองก็เข้าใจงานได้ เวลาบริษัทส่งไปอบรมความรู้อะไร แล้วต้องมีการเทสผล ผลคะแนนมักจะมาออกมาสู้คนแรกไม่ได้ บางครั้งเทสไม่ผ่านครั้งแรกต้องสอบซ่อมในบางครั้ง
ตอนแรกววางแผนจะให้เลื่อนไปทั้ง 2 คนและคุยกับบริษัทไปแล้วเมื่อกลางปี บริษัทโอเค แต่มาเมื่อปลายปีผู้บริหารบอกว่านโยบายให้เลื่อนไปได้แค่คนเดียว แล้วให้อำนาจตัดสินใจคือเราซึ่งเป็นหัวหน้าทีมจะให้ใครเลื่อน ซึ่งเราคิดหนัก จะให้คนแรกเลื่อน ก็กลัวคนอื่นมองว่าทำไมคนที่ผิดทำกฏเรื่องวินัยบริษัทตลอดเวลาได้เลื่อน แต่คนที่ทำงานได้ผ่านมาตรฐานเหมือนกันอาจจะไม่เก่งเท่าคนที่ทำผิดกฏ แต่เรื่องอื่นดีกว่าทำไมไม่ได้เลื่อน และเรากลัวคลื่นใต้น้ำในทีมเพราะน้องคนที่สองเป็นที่รักของแทบจะทุกคนเพราะนิสัยน่ารัก มีน้ำใจ กลัวคนอื่นจะไม่พอใจอยู่เล็กๆเหมือนกันที่ถ้าน้องคนแรกได้เลื่อน แต่คนที่สองไม่ได้ แต่ถ้าจะให้น้องคนที่สองได้เลื่อน เอาตรงๆก็กลัวคนแรกจะลาออกไปเหมือนกันถ้าตัวเองไม่ได้เลื่อน ทั้งที่ประสบการณ์ทำงานมาเท่ากัน และเราว่าเค้าก็รู้ตัวเองอยู่แล้วด้วยว่าเค้าเก่งกว่าน้องคนที่สอง เรากลัวเหตุการณ์นี้เหมือนกันเพราะบริษัทเราไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก และเป็นบริษัทขนาดเล็ก การที่จะมีพนักงานที่ออกแบบเก่งระดับนี้สำหรับช่วงอายุเท่านี้มาสมัครเป็นเรื่องที่เจอได้ยากมาก ตั้งแต่เราทำงานมาเพิ่งจะมีน้องคนนี้นี่แหละ ส่วนใหญ่ที่เจอจะอยู่ในระดับกลางๆมาตรฐานทั่วไปไม่ได้แย่ แต่ไม่ได้เก่งมาก และการมาของน้องคนแรกนี้ยกระดับวิธีคิดงานออกแบบของออฟฟิศได้ค่อนข้างเยอะ ลูกค้าเก่าๆที่เป็นลูกค้าบริษัทมานาน ยังชมเลยว่างานบริษัทดีขึ้นเยอะเลยจากเมื่อก่อน
ทำยังไงดีคะ ช่วยหัวหน้าทีมมือใหม่คนนี้ด้วยค่ะ เราก็ไม่เคยต้องตัดสินใจเลือกอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย เพราะก็เพิ่งมาเป็นหัวหน้าทีมได้ไม่นาน