คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 54
เราทันอ่านเนื้อหาในกระทู้แต่ไม่ได้ตอบ พอมาอ่านอีกที คุณลบเนื้อหาไปแล้ว จากที่อ่านคอมเม้นต์ ไม่มีใครเอนเอียงไปทางคุณเลย เราขอเป็นคนแรกแล้วกันค่ะ
เราเข้าใจความรู้สึกของคุณนะ อารมณ์แบบว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน สมมติเรามีคูปองกินบุฟเฟต์ฟรี 1 คน เวลาไปกินกับแฟน ค่าบุฟเฟต์ที่ต้องจ่ายอีก 1 คน เราก็จะช่วยแฟนจ่ายด้วย อยากให้เขาได้รับผลประโยชน์ตรงนี้ด้วยกัน
คุณจขกท.ก็คงคาดหวังแบบนี้ใช่ไหมคะ ในเมื่อเขามีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในทริปนี้ทุกอย่าง ก็คิดว่าเขาน่าจะช่วยแบ่งเบาส่วนที่คุณต้องจ่ายเองมากกว่านี้ เราคิดว่าคุณไม่ได้เห็นแก่เงินอะไรหรอก ไม่งั้นคงเลือกคนที่รายได้ดีกว่าหรือเป็นสายเปย์ไปแล้ว ที่ผ่านมาคุณก็หารหรือผลัดกันจ่ายกับเขามาตลอด
บางคนคิดว่าก็มันเรื่องของเขา ผลประโยชน์เขา คุณเกี่ยวอะไรด้วย ในความคิดเรา มันก็จริงค่ะ ถ้าเป็นแค่คนคุยยังไม่ได้คบกัน แต่สำหรับแฟนที่คบกันเป็นนานแล้ว มันควรจะมีความรู้สึกอยากแบ่งปันสิ่งที่ได้มาร่วมกัน ไม่อยากให้ตัวเองสบายอยู่คนเดียวขึ้นมาในความสัมพันธ์ด้วย ดังนั้น เราเลยค่อนข้างเอนเอียงไปทางคุณ
ก็นะ มองในมุมเขา เขามีนิสัยประหยัดและรายได้น้อยกว่า อาจมีภาระต้องใช้เงินในเรื่องอื่น หรือกำลังมุ่งมั่นเก็บเงินสร้างตัวอยู่ก็ได้ เลยไม่ทันได้เห็นความละเอียดอ่อนในเรื่องนี้ ลองพูดคุยว่าเขาคิดยังไง คุณคิดยังไง ปรับความเข้าใจกันก็น่าจะดีขึ้น
แต่ถ้าคุยกันแล้วพบว่าเขามีทัศนคติแบบนั้นอยู่แล้ว คือคนที่ขีดแบ่งชัดเจนว่าของใครของมัน ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนไม่ดีเพราะเขาไม่ได้เอาเปรียบ มันอยู่ที่ว่าคุณรับได้หรือเปล่า ชั่งข้อดีข้อเสียของเขา โอเคก็ไปต่อ ไม่โอเคก็แยกย้าย
คนเรามีหลากหลายความคิด คู่รักก็มีหลากหลายรูปแบบ หลายคู่ บางคู่ก็มองว่าที่แฟนคุณทำเป็นเรื่องปกติ คู่เขาก็ทำ อย่างที่บอกไป ขึ้นอยู่กับคุณว่ารับได้ไหม ไม่ต้องสนใจหรือเปรียบเทียบกับคู่อื่น โฟกัสที่ตัวคุณเอง ถ้าคบต่อ คุณต้องรักเขาในแบบที่เป็นเขา อย่าคบไปคาดหวังไปว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเอง คุณจะทุกข์ยิ่งกว่าเดิมเพราะคาดหวังมากกว่าเดิม คือมันก็เกิดขึ้นได้ แต่โอกาสมันน้อยมากค่ะ
ตบบ่าบีบมือ เป็นกำลังใจให้นะคะ
เราเข้าใจความรู้สึกของคุณนะ อารมณ์แบบว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน สมมติเรามีคูปองกินบุฟเฟต์ฟรี 1 คน เวลาไปกินกับแฟน ค่าบุฟเฟต์ที่ต้องจ่ายอีก 1 คน เราก็จะช่วยแฟนจ่ายด้วย อยากให้เขาได้รับผลประโยชน์ตรงนี้ด้วยกัน
คุณจขกท.ก็คงคาดหวังแบบนี้ใช่ไหมคะ ในเมื่อเขามีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในทริปนี้ทุกอย่าง ก็คิดว่าเขาน่าจะช่วยแบ่งเบาส่วนที่คุณต้องจ่ายเองมากกว่านี้ เราคิดว่าคุณไม่ได้เห็นแก่เงินอะไรหรอก ไม่งั้นคงเลือกคนที่รายได้ดีกว่าหรือเป็นสายเปย์ไปแล้ว ที่ผ่านมาคุณก็หารหรือผลัดกันจ่ายกับเขามาตลอด
บางคนคิดว่าก็มันเรื่องของเขา ผลประโยชน์เขา คุณเกี่ยวอะไรด้วย ในความคิดเรา มันก็จริงค่ะ ถ้าเป็นแค่คนคุยยังไม่ได้คบกัน แต่สำหรับแฟนที่คบกันเป็นนานแล้ว มันควรจะมีความรู้สึกอยากแบ่งปันสิ่งที่ได้มาร่วมกัน ไม่อยากให้ตัวเองสบายอยู่คนเดียวขึ้นมาในความสัมพันธ์ด้วย ดังนั้น เราเลยค่อนข้างเอนเอียงไปทางคุณ
ก็นะ มองในมุมเขา เขามีนิสัยประหยัดและรายได้น้อยกว่า อาจมีภาระต้องใช้เงินในเรื่องอื่น หรือกำลังมุ่งมั่นเก็บเงินสร้างตัวอยู่ก็ได้ เลยไม่ทันได้เห็นความละเอียดอ่อนในเรื่องนี้ ลองพูดคุยว่าเขาคิดยังไง คุณคิดยังไง ปรับความเข้าใจกันก็น่าจะดีขึ้น
แต่ถ้าคุยกันแล้วพบว่าเขามีทัศนคติแบบนั้นอยู่แล้ว คือคนที่ขีดแบ่งชัดเจนว่าของใครของมัน ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนไม่ดีเพราะเขาไม่ได้เอาเปรียบ มันอยู่ที่ว่าคุณรับได้หรือเปล่า ชั่งข้อดีข้อเสียของเขา โอเคก็ไปต่อ ไม่โอเคก็แยกย้าย
คนเรามีหลากหลายความคิด คู่รักก็มีหลากหลายรูปแบบ หลายคู่ บางคู่ก็มองว่าที่แฟนคุณทำเป็นเรื่องปกติ คู่เขาก็ทำ อย่างที่บอกไป ขึ้นอยู่กับคุณว่ารับได้ไหม ไม่ต้องสนใจหรือเปรียบเทียบกับคู่อื่น โฟกัสที่ตัวคุณเอง ถ้าคบต่อ คุณต้องรักเขาในแบบที่เป็นเขา อย่าคบไปคาดหวังไปว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเอง คุณจะทุกข์ยิ่งกว่าเดิมเพราะคาดหวังมากกว่าเดิม คือมันก็เกิดขึ้นได้ แต่โอกาสมันน้อยมากค่ะ
ตบบ่าบีบมือ เป็นกำลังใจให้นะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คิดเยอะไปค่ะ
"เราเลยคาดหวังว่าเค้าจะเอาเงินที่ได้มาเลี้ยงอาหารเราดด้วย"
เพราะคาดหวัง เลยผิดหวังค่ะ
จริงๆแล้ว คุณเองก็รู้สถานการณ์การเงินของแฟนอยู่แล้ว
ไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็นนะคะ
ไปเที่ยว อย่าคิดอะไรยุบยิบค่ะ
ถ้าเมื่อไหร่ที่แฟนได้ที่พักฟรี แล้วมาเก็บเงินกับคุณ
อันนั้นค่อยมาว่ากันค่ะ
"ด้วยสถานะการเงินเราอาจจะมีรายได้เยอะกว่า แต่มันมีความรู้สึกแปลกๆยังไงบอกไม่ถูก เหมือนเค้าไม่ได้มองเราเป็นคนที่เค้าต้องดูแล แต่เป็นแค่เพื่อนร่วมทริปคนนึง อารมณ์แฟร์ๆไงบอกไม่ถูก"
เราเป็นคนนึงที่ไปเที่ยวกับแฟนแล้วหารนะคะ
ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าจำเป็นต้องมาออกค่าใช้จ่ายให้เราค่ะ
ต่างคนต่างมีรายได้ ต่างคนต่างมีภาระ
เราไปเที่ยว เพราะอยากไปเที่ยวด้วยกันทั้งคู่
ดังนั้นการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งแบบช่วยๆกัน
มันโอเคอยู่แล้วค่ะ
"เราเลยคาดหวังว่าเค้าจะเอาเงินที่ได้มาเลี้ยงอาหารเราดด้วย"
เพราะคาดหวัง เลยผิดหวังค่ะ
จริงๆแล้ว คุณเองก็รู้สถานการณ์การเงินของแฟนอยู่แล้ว
ไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็นนะคะ
ไปเที่ยว อย่าคิดอะไรยุบยิบค่ะ
ถ้าเมื่อไหร่ที่แฟนได้ที่พักฟรี แล้วมาเก็บเงินกับคุณ
อันนั้นค่อยมาว่ากันค่ะ
"ด้วยสถานะการเงินเราอาจจะมีรายได้เยอะกว่า แต่มันมีความรู้สึกแปลกๆยังไงบอกไม่ถูก เหมือนเค้าไม่ได้มองเราเป็นคนที่เค้าต้องดูแล แต่เป็นแค่เพื่อนร่วมทริปคนนึง อารมณ์แฟร์ๆไงบอกไม่ถูก"
เราเป็นคนนึงที่ไปเที่ยวกับแฟนแล้วหารนะคะ
ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าจำเป็นต้องมาออกค่าใช้จ่ายให้เราค่ะ
ต่างคนต่างมีรายได้ ต่างคนต่างมีภาระ
เราไปเที่ยว เพราะอยากไปเที่ยวด้วยกันทั้งคู่
ดังนั้นการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งแบบช่วยๆกัน
มันโอเคอยู่แล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ไปเที่ยวกับแฟนแต่ไม่ประทับใจเพราะเรื่องค่าใช้จ่าย จะแก้ยังไงดี
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น อ่านแล้วคิดตามแล้วค่ะ
ปัญหาน่าจะเกิดจากความคาดหวังและขาดการสื่อสารร่วมกันล่วงหน้า
ถ้าจะรักษาความสัมพันธ์ก็ต้องปรับที่ตัวเราก่อน