- เซ็ตเรื่องสั้น x-men origins เขียนขึ้นในปี2008-2010 เนี้อหาประมาณว่าสรุปประวัติx-menแต่ละคนให้นักอ่านรุ่นหลังที่เกิดไม่ทันคอมิครุ่นแรกๆได้อ่าน มีเล่มของโคลอสซัส,จีน เกรย์,ไซคลอปส์,บีสต์,เซเบอร์ทูต,วูฟเวอรีน,ไอซ์แมน,แกมบิท,ไนท์ครอว์เลอร์,เอ็มม่า ฟรอสต์,เดดพูล (ยกเว้นของเดดพูลที่ประวัติเรื่องอื่นนอกจากเรื่องเข้าweapon xแล้วได้พลังมาแม่มน่าจะโม้แล้ว เพราะได้เรื่องวัยเด็กเวอร์ชั่นใหม่ไม่ซ้ำกับที่เคยเล่า ที่พล่ามมาทั้งตอนอาจไม่บอกอะไรเลยนอกจากเรื่องที่ว่าตอนนั้น"พ่อ"มันยังอยู่ แต่มันอาจหลอนไปตู่เอาลุงที่ไหนก็ไม่รู้ว่าเป็นพ่อมันก็ได้)
- แปลรับหนังเข้า แต่เรื่องในคอมิคนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับจักรวาลหนังฟ็อกซ์จ่ะ
_________________________________________
ชาร์ล: สก็อต นี่เธอกำลังฟังฉันอยู่หรือเปล่า สก็อต
เครื่องมือที่เธอเห็นอยู่นี้เรียกว่าเซเรโบร
เป็นเครื่องมือสำคัญหนึ่งในหลายๆชิ้นที่ฉันกำลังพัฒนาอยู่ มันคือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อค้นหาและระบุตำแหน่งมิวแทนต์
และเครื่องมือนี้จะเป็นของเธอ
เธอคือคนที่จะมาแทนฉัน
ในฐานะผู้นำของเหล่าx-men
[สก็อต ซัมเมอร์ อายุ22ปี]
สก็อต: จะให้ผมมาแทนอาจารย์งั้นหรือครับ?
ชาร์ล: ฉันจะให้เธอมาคุมแทนแค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ
ฉันมีธุระด่วนที่จำเป็นต้องไปจัดการด้วยตัวเอง และจนกว่าฉันจะกลับมาทุกอย่างทีอยู่ที่นี่จะเป็นของเธอทั้งหมด
สก็อต: อาจารย์ครับ ผม... ผมเกรงว่าคงจะรับไว้ไม่ได้หรอก
ผมไม่แน่ใจว่าจะบอกอาจารย์ดีมั้ย แต่ว่า...หลังจากนี้ผมเองก็จะลาออกจากทีมx-menแล้วล่ะครับ
ผมลองปรึกษาหมอมาสองสามคนแล้ว พวกเขากำลังหาวิธีรักษาอาการยิงคลื่นพลังงานออกจากตาไม่หยุดของผมอยู่
ชาร์ล: อ้อ จริงสิ
ด็อกเตอร์สเตติสกับฉันคุยกันเกี่ยวกับเรื่องวิธีรักษาเธอแล้ว เราเห็นตรงกันว่าการรักษาอาการของเธอนั้นเป็นไปไม่ได้หรอก
สก็อต: นี่อาจารย์รู้จักกับด็อกเตอร์สเตติสด้วยหรือครับ?
ชาร์ล:แน่นอน เขาเองก็เป็นมิวแทนต์นี่ ฉันหาเขาเจอด้วยเซเรโบรอยู่แล้ว
สก็อต
คราวนี้ช่วยตั้งใจฟังเรื่องที่ฉันจะพูดให้ดีๆหน่อยเถอะนะ
ชาร์ล: ทั้งเธอและฉันต่างเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์พิเศษ เราไม่ได้มีแค่พลังมิวแทนต์ของเราเท่านั้น
แต่เรายังมีความสามารถในการชี้นำและชักจูงผู้คนอีกด้วย
และความสามารถนี้... ความสามารถของพวกเรานี้ ย่อมทำให้เราต้องรับผิดชอบต่อคนอื่นๆในเผ่าพันธุ์ของเราด้วย
เราต้องรับผิดชอบต่อชะตากรรมของทั้งมนุษย์และมิวแทนต์นะ
เธอเห็นจุดสีแดงที่รวมกันเป็นกลุ่มอยู่ตรงนี้ไหม?
นี่คือมิวแทนต์กลุ่มเล็กๆที่เพิ่งค้นพบพลังของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาอยู่แถวๆอาฟริกาใต้ นอกเมืองเพรทอเรีย
พวกเขาอาจเป็นแฝดสามที่เกิดมาในครอบครัวเดียวกัน หรือไม่ก็เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งค้นพบพลังของตัวเองพร้อมๆกัน
ฉันจำเป็นต้องให้เธอช่วย สก็อต และพวกเขาก็ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน
แต่ถ้าเธอจะมาเป็นผู้นำของx-menแทนฉันในช่วงที่ฉันไม่อยู่ล่ะก็ เธอต้องจับตามองทุกอย่างให้ดี เธอต้องรู้ความเสี่ยงทุกอย่าง เธอต้องรับผิดชอบทุกคน และต้องยอมรับความสูญเสียทีอาจเกิดขึ้นด้วย
สก็อต ตอนนี้เธอพร้อมหรือยัง?
แม่: แย่แล้ว ตอนนี้มันบินอยู่เหนือหัวพวกเราแล้วล่ะ
พ่อ: ฉันรู้แล้ว และตอนนี้ฉันก็พยายามจะ
ไม่!!!!
เคท รีบเอาร่มชูชีพใส่ให้สก็อตเร็ว
[สก็อต ซัมเมอร์ อายุ10ปี]
สก็อต: ไม่นะครับ แม่
แล้วแม่กับพ่อจะทำยังไงล่ะครับ
แม่: เดี๋ยว... เดี๋ยวพวกเราจะตามออกไปทีหลังจ้ะ
สก็อต: ไม่ ผมจะไม่ออกไปถ้าแม่ไม่ไปด้วยนะ
(อเล็กซ์เริ่มร้องไห้แล้ว)
พ่อ: สก็อต
เราไม่มีเวลาแล้วนะ ลูกต้องไปแล้ว
ฝากดูแลและคุ้มครองน้องของลูกด้วย
แม่: พวกเรารักลูกทั้งสองคนนะจ๊ะ
อุ้มน้องแล้วกอดไว้ให้แน่นๆนะ สก็อต
และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็อย่าปล่อยมือจากน้องเด็ดขาดเลยนะ
อเล็กซ์: (แหกปากร้องลูกเดียว)
สก็อต: ไม่เป็นไรนะ อเล็กซ์ ไม่เป็นไร
ฉันจะปกป้องนายเอง
ไม่นะ อเล็กซ์
เกาะฉันไว้ จับไว้แน่นๆเลย
(ยานเอเลี่ยนยิงกระสุนมาเพิ่ม นัดนึงโดนร่มชูชีพและทำให้ร่มเริ่มไหม้)
สก็อต: ไม่จริงน่า
อเล็กซ์: อะไรน่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอพี่
สก็อต: ไม่... ไม่มีอะไรหรอก
พวกเราปลอดภัยแล้ว
เอ่อ... นายยังจำเพลงนั้นได้มั้ย
เพลงที่พ่อร้องประจำน่ะ
อเล็กซ์: เพลงที่เกี่ยวกับเครี่องบินน่ะเหรอ
สก็อต: ใช่ เพลงนั้นแหละ
(แล้วก็ชวนกันร้องเพลงThe Biplane Evermore ของวงThe Irish Rovers ไประหว่างที่ร่มชูชีพไหม้ไปเรื่อยๆ เปิดเพลงประกอบฟังได้ด้านล่างเพื่อความอิน T-T
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.youtube.com/watch?v=1iEf-Vn-vfE )
อเล็กซ์: มีอะไรเหรอ
สก็อต: เปล่าๆ ร้องเพลงต่อไปเถอะ
(และอเล็กซ์ก็หันไปมองและเห็นเครื่องตก พ่อกับแม่ไม่ได้ตามออกมา ไม่น่ามีใครรอด)
(เพลงประกอขจบตรงนี้ สก็อตกดปล่อยร่มชูชีพที่ไหม้ไฟให้ปลิวไป และเอาตัวรับแรงกระแทกแทนน้องตอนตกลงถึงพี้น)
(แล้วยานเอเลี่ยนก็บินหายไป)
ในคืนนั้นเอง
อเล็กซ์: สก็อต สก็อตตี้
พี่เป็นอะไรมากหรือเปล่าน่ะ
สก็อต: ฉันไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วงนะ อเล็กซ์ ฉันแค่ปวดหัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง
สงสัยจะเป็นเพราะหัวกระแทกตอนโดดลงมาก่อนหน้านี้ล่ะมั้ง
นายไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ เอ่อ... มาร้องเพลงกันอีกดีกว่า
อเล็กซ์: พี่ปวดหัวมาตั้งแต่เมื่อวานก่อนที่...เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นแล้วนะ
ที่จริงแล้ววันก่อนๆพี่ก็บ่นปวดหัว
นี่พี่มีเนี้องอกในสมองหรือเปล่า
แล้วพี่จะตายมั้ยเนี่ย?
สก็อต: ไม่เอาน่า อเล็กซ์
ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า ที่ปวดหัวนี่คงเพราะแรงกระแทกนั่นแหละ
รีบนอนกันดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคิดกันอีกทีว่าเราจะทำยังไงกันต่อไป
อเล็กซ์: ไม่ได้นะ
ถ้าพี่หลับล่ะก็พี่ต้องตายแน่ๆ
สก็อต: อเล็กซ์ ฉันไม่ตายหรอกน่า
ก็จริงอย่างที่นายบอกนั่นแหละว่าฉันปวดหัวมานานแล้ว แต่มันก็หายไปเองทุกครั้ง คราวนี้เดี๋ยวมันก็หายไปเองเหมือนทุกทีนั่นแหละ
เอาล่ะ ฟังนะ คืนนี้เราต้องนอนให้เต็มอิ่มกันก่อน เพราะพรุ่งนี้เราคงต้องเดินกันอีกไกลเลยล่ะ
ทุกทีพ่อกับแม่จะมุ่งไปทางทิศใต้เพื่อไปเติมน้ำมันเครื่องบินที่เมืองกลาเซียลเบย์ที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่จากที่นี่ และตอนนี้ก็น่าจะมีคนเห็นตอนเครื่องบินตกแล้วแน่ๆ
และในป่าตอนนี้ก็น่าจะมีพวกลักลอบล่าสัตว์หรือคนที่พวกเราไม่ควรจะไปเจอเข้าอยู่ พอเช้าแล้วเราต้องรีบออกเดินทางกันทันทีเลยนะ
นี่นายเข้าใจหรือเปล่า
ฉัน...ฉันบอกพ่อกับแม่ไว้แล้วว่าต่อไปฉันจะดูแลนายเอง อเล็กซ์ และฉันจะรักษาสัญญาแน่
ไม่ต้องห่วง เรื่องดูแลคนอื่นเป็นของถนัดของฉันอยู่แล้ว
อเล็กซ์: สก็อต
มาถึงตอนนี้แล้วฉันก็ยังไม่คิดถึงพ่อกับแม่เลย นี่มันผิดปกติหรือเปล่า
สก็อต: คงเพราะนายยังช็อคอยู่น่ะสิ อเล็กซ์ เราทั้งคู่ก็ยังช็อคอยู่เหมือนกันนั่นแหละ
แต่ต่อไปนายต้องคิดถึงพ่อกับแม่มากแน่ๆ
ฮ.: หยุด อย่าขยับ
ถ้าขยับพวกเรายิงแน่
ยกมือขึ้นเหนือหัวเดี๋ยวนี้
อเล็กซ์: สก็อตตี้
เราจะทำยังไงกันดีล่ะ
สก็อต: นายวิ่งไปหลบก่อน
ทหาร: ปลอดภัย ไม่ใช่พวกลักลอบล่าสัตว์ ไม่ใช่พวกรัสเซีย ดูเหมือนแถวนี้จะมีแค่เด็กนี่เท่านั้นเอง
ทหาร: มาทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ เจ้าหนู
นี่เธอ...เป็นผู้โดยสารของเครื่องบินที่เพิ่งตกวันนี้หรือเปล่า?
สก็อต: ใช่ครับ
มีแค่ผมกับน้องรอดมาได้
อเล็กซ์ ออกมาเถอะ
อเล็กซ์
ไม่เป็นไรนะ อเล็กซ์ ตอนนี้เราปลอดภัยแล้วล่ะ
ฉันสัญญากับพ่อแม่ไว้แล้วว่าจะดูแลนายเอง...
สก็อต: ต่อไปฉันจะจัดการทุกอย่างเอง...
(แต่พอเป็นกำพร้าก็ถูกส่งไปอยู่สถานสังเคราะห์ อเล็กซ์มีคนรับไปเลี้ยงแล้ว แต่สก็อตไม่มี...)
อุ๊บ โอย
เพื่อน: นอนเงียบๆไปเถอะน่า
สก็อต: ไม่ไหวแล้ว ปวดหัวเหลือเกิน
ไม่!!!!
[สก็อต ซัมเมอร์ อายุ17ปี]
สก็อต: ไม่จริง ฉัน...
ฉันไม่ได้ตั้งใจทำนะ
ตายแล้ว ตายแน่
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่เนี่ย?
ชาร์ล: ไม่ต้องกลัว ฉันขอรับรองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ
เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้เธอฟังเอง แต่ก่อนอื่น
ช่วยสวมแว่นนี่ไว้ก่อนได้ไหม?
สก็อต: เลนส์ของแว่นนี่กักพลังไว้ได้งั้นเหรอ...
ชาร์ล: เลนส์แว่นนั่นทำจากผลึกทับทิมที่ออกแบบมาเพื่อกักคลื่นพลังงานและแสงชนิดต่างๆน่ะ
สก็อต: คุณเป็นใครกัน? ทำไมถึงให้แว่นนี่กับผม?
ผมต้องทำอะไรตอบแทนให้คุณหรือเปล่า?
ชาร์ล: ไม่หรอก เธอไม่ต้องทำอะไรเลย
แต่ช่วยฟังเรื่องที่ฉันจะพูดหน่อยเถอะนะ
[สก็อต ซัมเมอร์ อายุ21ปี] (และนี่คือตอนเปิดตัวลงสนามจริงครั้งแรกในx-men ตอนที่1 ในยุค60sโน่น---)
สก็อต: อาจารย์ครับ ขอคำสั่งต่อไปด้วย
นั่นอาจารย์ยังอยู่หรือเปล่าครับ?
ชาร์ล: ฉันยังอยู่ สก็อต
ตอนนี้คนอื่นๆกำลังไปปิดระบบยิงขีปนาวุธและช่วยอพยพชาวบ้านแถบนี้ไปยังที่ปลอดภัยอยู่ เธอเลยต้องมาทำหน้าที่โจมตีเป็นคนแรกไงล่ะ
สก็อต: อาจารย์ครับ นี่เรากำลังต่อสู้กับอะไรอยู่กันแน่? แล้วทำไมเขาต้องกางสนามพลังป้องกันห้องควบคุมขีปนาวุธไว้ด้วย?
ผมเห็นอาจารย์เรียกเขาว่ามิวแทนต์ที่ชั่วร้าย เรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่? นี่เขาต้องการอะไรกันแน่?
ชาร์ล: สก็อต... นี่ไม่ใช่เวลาจะมาทำจิตวิเคราะห์คนร้ายนะ
ช่วยตั้งใจฟังกลยุทธ์ที่ฉันจะบอกต่อไปด้วย
สนามพลังนั่นที่จริงแล้วคือสนามแม่เหล็ก
ขอเชื่อมจิตของเธอเข้ากับฉันหน่อยนะ เดี๋ยวฉันจะส่งภาพที่ฉันเห็นบนจอคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนไปให้
เธอเห็นกระแสการไหลของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือยัง?
สก็อต: เห็นแล้วครับ
ชาร์ล: ดีมาก เดี๋ยวเธอยิงแสงเข้าไปให้ขนานกับกระแสการไหลของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านะ
สก็อต: ได้ครับ
ชาร์ล: บีบแสงให้เล็กลงจนแทรกเข้าไประหว่างกระแสแต่ละเส้น แล้วขยายลำแสงขึ้นในแนวตั้งฉาก...
สก็อต: อาจารย์ครับ
ผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมาก
ที่เหลือขอให้ผมจัดการเองได้ไหมครับ?
ชาร์ล: ได้เลย สก็อต
บทเรียนของวันนี้จบแค่นี้แหละ
(สก็อตบุกเข้าไปถึงห้องควบคุมขีปนาวุธ และโดนแม็กนีโต้ปาอะไรบ้างก็ไม่รู้ที่ทำด้วยโลหะอัดหน้าเต็มๆ)
[Marvel Comic] X-Men Origins : Cyclops
- แปลรับหนังเข้า แต่เรื่องในคอมิคนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับจักรวาลหนังฟ็อกซ์จ่ะ
_________________________________________
ชาร์ล: สก็อต นี่เธอกำลังฟังฉันอยู่หรือเปล่า สก็อต
เครื่องมือที่เธอเห็นอยู่นี้เรียกว่าเซเรโบร
เป็นเครื่องมือสำคัญหนึ่งในหลายๆชิ้นที่ฉันกำลังพัฒนาอยู่ มันคือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อค้นหาและระบุตำแหน่งมิวแทนต์
และเครื่องมือนี้จะเป็นของเธอ
เธอคือคนที่จะมาแทนฉัน
ในฐานะผู้นำของเหล่าx-men
[สก็อต ซัมเมอร์ อายุ22ปี]
สก็อต: จะให้ผมมาแทนอาจารย์งั้นหรือครับ?
ชาร์ล: ฉันจะให้เธอมาคุมแทนแค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ
ฉันมีธุระด่วนที่จำเป็นต้องไปจัดการด้วยตัวเอง และจนกว่าฉันจะกลับมาทุกอย่างทีอยู่ที่นี่จะเป็นของเธอทั้งหมด
สก็อต: อาจารย์ครับ ผม... ผมเกรงว่าคงจะรับไว้ไม่ได้หรอก
ผมไม่แน่ใจว่าจะบอกอาจารย์ดีมั้ย แต่ว่า...หลังจากนี้ผมเองก็จะลาออกจากทีมx-menแล้วล่ะครับ
ผมลองปรึกษาหมอมาสองสามคนแล้ว พวกเขากำลังหาวิธีรักษาอาการยิงคลื่นพลังงานออกจากตาไม่หยุดของผมอยู่
ชาร์ล: อ้อ จริงสิ
ด็อกเตอร์สเตติสกับฉันคุยกันเกี่ยวกับเรื่องวิธีรักษาเธอแล้ว เราเห็นตรงกันว่าการรักษาอาการของเธอนั้นเป็นไปไม่ได้หรอก
สก็อต: นี่อาจารย์รู้จักกับด็อกเตอร์สเตติสด้วยหรือครับ?
ชาร์ล:แน่นอน เขาเองก็เป็นมิวแทนต์นี่ ฉันหาเขาเจอด้วยเซเรโบรอยู่แล้ว
สก็อต
คราวนี้ช่วยตั้งใจฟังเรื่องที่ฉันจะพูดให้ดีๆหน่อยเถอะนะ
ชาร์ล: ทั้งเธอและฉันต่างเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์พิเศษ เราไม่ได้มีแค่พลังมิวแทนต์ของเราเท่านั้น
แต่เรายังมีความสามารถในการชี้นำและชักจูงผู้คนอีกด้วย
และความสามารถนี้... ความสามารถของพวกเรานี้ ย่อมทำให้เราต้องรับผิดชอบต่อคนอื่นๆในเผ่าพันธุ์ของเราด้วย
เราต้องรับผิดชอบต่อชะตากรรมของทั้งมนุษย์และมิวแทนต์นะ
เธอเห็นจุดสีแดงที่รวมกันเป็นกลุ่มอยู่ตรงนี้ไหม?
นี่คือมิวแทนต์กลุ่มเล็กๆที่เพิ่งค้นพบพลังของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาอยู่แถวๆอาฟริกาใต้ นอกเมืองเพรทอเรีย
พวกเขาอาจเป็นแฝดสามที่เกิดมาในครอบครัวเดียวกัน หรือไม่ก็เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งค้นพบพลังของตัวเองพร้อมๆกัน
ฉันจำเป็นต้องให้เธอช่วย สก็อต และพวกเขาก็ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน
แต่ถ้าเธอจะมาเป็นผู้นำของx-menแทนฉันในช่วงที่ฉันไม่อยู่ล่ะก็ เธอต้องจับตามองทุกอย่างให้ดี เธอต้องรู้ความเสี่ยงทุกอย่าง เธอต้องรับผิดชอบทุกคน และต้องยอมรับความสูญเสียทีอาจเกิดขึ้นด้วย
สก็อต ตอนนี้เธอพร้อมหรือยัง?
แม่: แย่แล้ว ตอนนี้มันบินอยู่เหนือหัวพวกเราแล้วล่ะ
พ่อ: ฉันรู้แล้ว และตอนนี้ฉันก็พยายามจะ
ไม่!!!!
เคท รีบเอาร่มชูชีพใส่ให้สก็อตเร็ว
[สก็อต ซัมเมอร์ อายุ10ปี]
สก็อต: ไม่นะครับ แม่
แล้วแม่กับพ่อจะทำยังไงล่ะครับ
แม่: เดี๋ยว... เดี๋ยวพวกเราจะตามออกไปทีหลังจ้ะ
สก็อต: ไม่ ผมจะไม่ออกไปถ้าแม่ไม่ไปด้วยนะ
(อเล็กซ์เริ่มร้องไห้แล้ว)
พ่อ: สก็อต
เราไม่มีเวลาแล้วนะ ลูกต้องไปแล้ว
ฝากดูแลและคุ้มครองน้องของลูกด้วย
แม่: พวกเรารักลูกทั้งสองคนนะจ๊ะ
อุ้มน้องแล้วกอดไว้ให้แน่นๆนะ สก็อต
และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็อย่าปล่อยมือจากน้องเด็ดขาดเลยนะ
อเล็กซ์: (แหกปากร้องลูกเดียว)
สก็อต: ไม่เป็นไรนะ อเล็กซ์ ไม่เป็นไร
ฉันจะปกป้องนายเอง
ไม่นะ อเล็กซ์
เกาะฉันไว้ จับไว้แน่นๆเลย
(ยานเอเลี่ยนยิงกระสุนมาเพิ่ม นัดนึงโดนร่มชูชีพและทำให้ร่มเริ่มไหม้)
สก็อต: ไม่จริงน่า
อเล็กซ์: อะไรน่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอพี่
สก็อต: ไม่... ไม่มีอะไรหรอก
พวกเราปลอดภัยแล้ว
เอ่อ... นายยังจำเพลงนั้นได้มั้ย
เพลงที่พ่อร้องประจำน่ะ
อเล็กซ์: เพลงที่เกี่ยวกับเครี่องบินน่ะเหรอ
สก็อต: ใช่ เพลงนั้นแหละ
(แล้วก็ชวนกันร้องเพลงThe Biplane Evermore ของวงThe Irish Rovers ไประหว่างที่ร่มชูชีพไหม้ไปเรื่อยๆ เปิดเพลงประกอบฟังได้ด้านล่างเพื่อความอิน T-T [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
อเล็กซ์: มีอะไรเหรอ
สก็อต: เปล่าๆ ร้องเพลงต่อไปเถอะ
(และอเล็กซ์ก็หันไปมองและเห็นเครื่องตก พ่อกับแม่ไม่ได้ตามออกมา ไม่น่ามีใครรอด)
(เพลงประกอขจบตรงนี้ สก็อตกดปล่อยร่มชูชีพที่ไหม้ไฟให้ปลิวไป และเอาตัวรับแรงกระแทกแทนน้องตอนตกลงถึงพี้น)
(แล้วยานเอเลี่ยนก็บินหายไป)
ในคืนนั้นเอง
อเล็กซ์: สก็อต สก็อตตี้
พี่เป็นอะไรมากหรือเปล่าน่ะ
สก็อต: ฉันไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วงนะ อเล็กซ์ ฉันแค่ปวดหัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง
สงสัยจะเป็นเพราะหัวกระแทกตอนโดดลงมาก่อนหน้านี้ล่ะมั้ง
นายไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ เอ่อ... มาร้องเพลงกันอีกดีกว่า
อเล็กซ์: พี่ปวดหัวมาตั้งแต่เมื่อวานก่อนที่...เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นแล้วนะ
ที่จริงแล้ววันก่อนๆพี่ก็บ่นปวดหัว
นี่พี่มีเนี้องอกในสมองหรือเปล่า
แล้วพี่จะตายมั้ยเนี่ย?
สก็อต: ไม่เอาน่า อเล็กซ์
ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า ที่ปวดหัวนี่คงเพราะแรงกระแทกนั่นแหละ
รีบนอนกันดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคิดกันอีกทีว่าเราจะทำยังไงกันต่อไป
อเล็กซ์: ไม่ได้นะ
ถ้าพี่หลับล่ะก็พี่ต้องตายแน่ๆ
สก็อต: อเล็กซ์ ฉันไม่ตายหรอกน่า
ก็จริงอย่างที่นายบอกนั่นแหละว่าฉันปวดหัวมานานแล้ว แต่มันก็หายไปเองทุกครั้ง คราวนี้เดี๋ยวมันก็หายไปเองเหมือนทุกทีนั่นแหละ
เอาล่ะ ฟังนะ คืนนี้เราต้องนอนให้เต็มอิ่มกันก่อน เพราะพรุ่งนี้เราคงต้องเดินกันอีกไกลเลยล่ะ
ทุกทีพ่อกับแม่จะมุ่งไปทางทิศใต้เพื่อไปเติมน้ำมันเครื่องบินที่เมืองกลาเซียลเบย์ที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่จากที่นี่ และตอนนี้ก็น่าจะมีคนเห็นตอนเครื่องบินตกแล้วแน่ๆ
และในป่าตอนนี้ก็น่าจะมีพวกลักลอบล่าสัตว์หรือคนที่พวกเราไม่ควรจะไปเจอเข้าอยู่ พอเช้าแล้วเราต้องรีบออกเดินทางกันทันทีเลยนะ
นี่นายเข้าใจหรือเปล่า
ฉัน...ฉันบอกพ่อกับแม่ไว้แล้วว่าต่อไปฉันจะดูแลนายเอง อเล็กซ์ และฉันจะรักษาสัญญาแน่
ไม่ต้องห่วง เรื่องดูแลคนอื่นเป็นของถนัดของฉันอยู่แล้ว
อเล็กซ์: สก็อต
มาถึงตอนนี้แล้วฉันก็ยังไม่คิดถึงพ่อกับแม่เลย นี่มันผิดปกติหรือเปล่า
สก็อต: คงเพราะนายยังช็อคอยู่น่ะสิ อเล็กซ์ เราทั้งคู่ก็ยังช็อคอยู่เหมือนกันนั่นแหละ
แต่ต่อไปนายต้องคิดถึงพ่อกับแม่มากแน่ๆ
ฮ.: หยุด อย่าขยับ
ถ้าขยับพวกเรายิงแน่
ยกมือขึ้นเหนือหัวเดี๋ยวนี้
อเล็กซ์: สก็อตตี้
เราจะทำยังไงกันดีล่ะ
สก็อต: นายวิ่งไปหลบก่อน
ทหาร: ปลอดภัย ไม่ใช่พวกลักลอบล่าสัตว์ ไม่ใช่พวกรัสเซีย ดูเหมือนแถวนี้จะมีแค่เด็กนี่เท่านั้นเอง
ทหาร: มาทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ เจ้าหนู
นี่เธอ...เป็นผู้โดยสารของเครื่องบินที่เพิ่งตกวันนี้หรือเปล่า?
สก็อต: ใช่ครับ
มีแค่ผมกับน้องรอดมาได้
อเล็กซ์ ออกมาเถอะ
อเล็กซ์
ไม่เป็นไรนะ อเล็กซ์ ตอนนี้เราปลอดภัยแล้วล่ะ
ฉันสัญญากับพ่อแม่ไว้แล้วว่าจะดูแลนายเอง...
สก็อต: ต่อไปฉันจะจัดการทุกอย่างเอง...
(แต่พอเป็นกำพร้าก็ถูกส่งไปอยู่สถานสังเคราะห์ อเล็กซ์มีคนรับไปเลี้ยงแล้ว แต่สก็อตไม่มี...)
อุ๊บ โอย
เพื่อน: นอนเงียบๆไปเถอะน่า
สก็อต: ไม่ไหวแล้ว ปวดหัวเหลือเกิน
ไม่!!!!
[สก็อต ซัมเมอร์ อายุ17ปี]
สก็อต: ไม่จริง ฉัน...
ฉันไม่ได้ตั้งใจทำนะ
ตายแล้ว ตายแน่
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่เนี่ย?
ชาร์ล: ไม่ต้องกลัว ฉันขอรับรองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ
เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้เธอฟังเอง แต่ก่อนอื่น
ช่วยสวมแว่นนี่ไว้ก่อนได้ไหม?
สก็อต: เลนส์ของแว่นนี่กักพลังไว้ได้งั้นเหรอ...
ชาร์ล: เลนส์แว่นนั่นทำจากผลึกทับทิมที่ออกแบบมาเพื่อกักคลื่นพลังงานและแสงชนิดต่างๆน่ะ
สก็อต: คุณเป็นใครกัน? ทำไมถึงให้แว่นนี่กับผม?
ผมต้องทำอะไรตอบแทนให้คุณหรือเปล่า?
ชาร์ล: ไม่หรอก เธอไม่ต้องทำอะไรเลย
แต่ช่วยฟังเรื่องที่ฉันจะพูดหน่อยเถอะนะ
[สก็อต ซัมเมอร์ อายุ21ปี] (และนี่คือตอนเปิดตัวลงสนามจริงครั้งแรกในx-men ตอนที่1 ในยุค60sโน่น---)
สก็อต: อาจารย์ครับ ขอคำสั่งต่อไปด้วย
นั่นอาจารย์ยังอยู่หรือเปล่าครับ?
ชาร์ล: ฉันยังอยู่ สก็อต
ตอนนี้คนอื่นๆกำลังไปปิดระบบยิงขีปนาวุธและช่วยอพยพชาวบ้านแถบนี้ไปยังที่ปลอดภัยอยู่ เธอเลยต้องมาทำหน้าที่โจมตีเป็นคนแรกไงล่ะ
สก็อต: อาจารย์ครับ นี่เรากำลังต่อสู้กับอะไรอยู่กันแน่? แล้วทำไมเขาต้องกางสนามพลังป้องกันห้องควบคุมขีปนาวุธไว้ด้วย?
ผมเห็นอาจารย์เรียกเขาว่ามิวแทนต์ที่ชั่วร้าย เรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่? นี่เขาต้องการอะไรกันแน่?
ชาร์ล: สก็อต... นี่ไม่ใช่เวลาจะมาทำจิตวิเคราะห์คนร้ายนะ
ช่วยตั้งใจฟังกลยุทธ์ที่ฉันจะบอกต่อไปด้วย
สนามพลังนั่นที่จริงแล้วคือสนามแม่เหล็ก
ขอเชื่อมจิตของเธอเข้ากับฉันหน่อยนะ เดี๋ยวฉันจะส่งภาพที่ฉันเห็นบนจอคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนไปให้
เธอเห็นกระแสการไหลของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือยัง?
สก็อต: เห็นแล้วครับ
ชาร์ล: ดีมาก เดี๋ยวเธอยิงแสงเข้าไปให้ขนานกับกระแสการไหลของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านะ
สก็อต: ได้ครับ
ชาร์ล: บีบแสงให้เล็กลงจนแทรกเข้าไประหว่างกระแสแต่ละเส้น แล้วขยายลำแสงขึ้นในแนวตั้งฉาก...
สก็อต: อาจารย์ครับ
ผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมาก
ที่เหลือขอให้ผมจัดการเองได้ไหมครับ?
ชาร์ล: ได้เลย สก็อต
บทเรียนของวันนี้จบแค่นี้แหละ
(สก็อตบุกเข้าไปถึงห้องควบคุมขีปนาวุธ และโดนแม็กนีโต้ปาอะไรบ้างก็ไม่รู้ที่ทำด้วยโลหะอัดหน้าเต็มๆ)