สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิด (13 พ.ค.) ที่ 334.68 จุด โดยตลอดทั้งสัปาดห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้นทั้งสิ้น 0.9%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,319.99 จุด เพิ่มขึ้น 26.72 จุด หรือ +0.62%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,952.90 จุด เพิ่มขึ้น 90.78 จุด หรือ +0.92% และดัชนี FTSE 00 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,138.50 จุด เพิ่มขึ้น 34.31 จุด หรือ +0.56%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.5% โดยสาเหตุที่ทำให้ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งนั้น มาจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
ขณะที่สำนักงานถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 0.7% ซึ่งขยายตัวรวดเร็วกว่าช่วงไตรมาส 4/2558 ที่มีการขยายตัวเพียง 0.3% นอกจากนนี้ GDP ไตรมาสแรกของเยอรมนีขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.6%
รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุน GDP ไตรมาสแรกให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วนั้น มาจากการลงทุนด้านการก่อสร้างและสินค้าทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถชดเชยการชะลอตัวของมูลค่าการค้าต่างประเทศ
หุ้น EON ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภครายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.91% หุ้นเมิร์ก ดีดตัวขึ้น 2.25% หุ้นคอนติเนนตัล ปรับขึ้น 1.9% และหุ้นดอยช์ เทเลคอม เพิ่มขึ้น 1.76% อย่างไรก็ตาม หุ้นอาดิดาส ร่วงลง 3% หุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ร่วงลง 2.58%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.kaohoon.com/online/content/view/38573/%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87
หุ้นยุโรปปิดบวกรับข้อมูลศก.สหรัฐฯ-เยอรมนีแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.5% โดยสาเหตุที่ทำให้ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งนั้น มาจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
ขณะที่สำนักงานถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 0.7% ซึ่งขยายตัวรวดเร็วกว่าช่วงไตรมาส 4/2558 ที่มีการขยายตัวเพียง 0.3% นอกจากนนี้ GDP ไตรมาสแรกของเยอรมนีขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.6%
รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุน GDP ไตรมาสแรกให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วนั้น มาจากการลงทุนด้านการก่อสร้างและสินค้าทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถชดเชยการชะลอตัวของมูลค่าการค้าต่างประเทศ
หุ้น EON ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภครายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.91% หุ้นเมิร์ก ดีดตัวขึ้น 2.25% หุ้นคอนติเนนตัล ปรับขึ้น 1.9% และหุ้นดอยช์ เทเลคอม เพิ่มขึ้น 1.76% อย่างไรก็ตาม หุ้นอาดิดาส ร่วงลง 3% หุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ร่วงลง 2.58%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้