สวัสดีค่ะ แอบย่องมาทักทายกันกลางดึก ก่อนอื่นจะขอเล่าว่าเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งค่ะ ก่อนหน้านี้เราทำงานประจำค่ะ เป็นเซลส์ขายประกัน พอมีลูกสามีเลยให้ออกจากงาน ปกติเราจะนอนพร้อมลูกค่ะ ข้อดีคือได้นอนเร็ว แต่ถ้าวันไหนลูกชายตื่น ก็ต้องอุ้มและพาเดินทั่วบ้านเลย 5555

เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ
เผอิญช่วงนี้สามีงานชุกค่ะ เค้าให้ช่วยหาประกันรถยนต์เพราะต้องการจะเปลี่ยน พูดง่ายๆเลยคืออยากประหยัดเงินค่าเบี้ยประกัน
นี่เลยเป็นครั้งแรกเลยที่เรามีประสบการณ์การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์มาเล่าให้ เพื่อนๆที่เป็นภรรยา หากจะต้องช่วยสามีหาข้อมูล
รถที่บ้านใช้จะเป็น Toyota Yaris ค่ะ ปี 2013 ทำประกันมา 3 ปีแล้ว ปีแรกทางศูนย์แถมให้
จากนั้นก็ใช้ของกรุงเทพประกันภัยมาตลอด มาปีนี้อยากจะเปลี่ยนค่ะ แต่ยังงงๆไม่รู้จะเอายี่ห้อไหนดี

ก่อนหน้านี้เราทำประกันภัยชั้น 1 มาตลอด เน้นแผนประหยัด ราคาถูก เคลมไว ทีแรกเราก็ยังงงๆแต่อาศัยหาข้อมูลใน pantip บ้าง google บ้าง เราเลยลองเลือกดูอีกทางคือ เช็คผ่านหน้าเว็บ silkspan.com ค่ะ โดยเราเลือกเปรียบเทียบประกันภัยชั้น 1 ใส่ข้อมูลรุ่นรถ ของเราลงไป ราคาเบี้ยประกันภัยรถของแต่ละเจ้าออกมาดังนี้อ่ะค่ะ



จากแต่ละยี่ห้อ เราเลือกมา 5 บริษัทชื่อดังค่ะ โดยเลือกจากราคาประกันไม่แพง อู่เยอะ เคลมง่ายค่ะ (อันนี้เกิดจากการค้นหาใน pantip และ google ช่วยอีกแรง)
1. กรุงเทพประกันภัย
2. แอกซ่าประกันภัย
3. วิริยะประกันภัย
4. เมืองไทยประกันภัย
5. ทิพยประกันภัย
สรุปราคาทุกยี่ห้อจะประมาณ 9,800 – 16,000 ก็คล้ายๆกับปีที่แล้ว

ระหว่างที่ search หาข้อมูล เจอเว็บเช็คราคาประกันภัยรถออนไลน์  เราก็เอ๊ะ เด๋วนี้มันมีประกันภัยรถออนไลน์ด้วยเหรอ
เราก็เลยลองเช็คข้อมูลด้วตัวเอง เริ่มต้นจากใส่ข้อมูลรถของเราและแบบประกันภัยที่เราอยากได้
สำหรับประกันภัยออนไลน์ เราเลือกมา 2 ยี่ห้อค่ะ อันนี้คือข้อมูลจากการที่ได้เช็คเบี้ยประกันจากทั้ง 2 ยี่ห้อค่ะ

Roojai.com  เป็นประกันภัยออนไลน์เจ้าใหม่ที่เราเจอมา Roojai.com เว็บไซต์ดูสบายตา ใช้งานง่ายเพียง 3 สเต็ป
1. ใส่ข้อมูล เลือกว่าเป็นผู้ขับเอง หรือว่าเป็นใคร
2. ประสบการณ์ในการขับขี่มีมากแค่ไหน ใช้รถคันนี้เป็นประจำหรือเปล่า เพื่อประเมินความเสี่ยงในการขับขี่อ่ะ
3. แล้วก็ยี่ห้อ, รุ่น และปี ของรถ และก็ส่วนที่เป็นประสบการณ์ในการขับรถของผู้ขับเอง



เมื่อ กรอกข้อมูลเสร็จแล้วทาง Roojai.com จะนำเสนอข้อมูลกรรมธรรม์มาให้เราเลือก ซึ่งมี 2 แผนคือ
แผนประหยัด กับแผนพรีเมียม เราก็เลือกแผนประหยัด โดยให้ส่งแผนเประกันภัย เข้า Email  เรียบร้อยค่า


DirectAsia
เป็นที่มีมาได้สักพัก เว็บดูใช้งานง่าย สบายตา เข้ามา แล้วก็คลิกปุ่มเช็คราคาเบี้ยประกัน ใส่รายละเอียดรถยนต์ และรายละเอียดของผู้ใช้งานรถเข้าไป


แต่นแตนแต๊น...ได้ราคาออกมาแล้ว หากเราต้องการให้เจ้าหน้าที่โทรกลับ ก็กรอกเบอร์มือถือ, email ให้ติดต่อ


ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครองของ DirectAsia



จากประสบการณ์ที่ได้หาซื้อประกันภัยรถยนต์ ระหว่างซื้อผ่านตัวแทน กับซื้อผ่านออนไลน์ เราเลือกซื้อประกันภัยรถแบบออนไลน์ค่ะ เพราะ
ข้อดีของการซื้อประกันภัยแบบออนไลน์
- ราคาถูกกว่า
- เมื่อประกันภัยใกล้หมด จะมีระบบแจ้งเตือน
- มีโปรแกรมคำนวณค่าเบี้ยประกันที่ละเอียด แต่ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย
- บริการเสริม เคลมไว มีโปรโมชั่นเติมน้ำมันฟรี รับประกันงานซ่อม
- มีหลายช่องทางชำระเงินให้เลือก
- ไม่ต้องกรอกเบอร์โทร หากสนใจ ก็กรอก email ให้เว็บส่งแผนประกันที่ต้องการ

สรุปราคาประกันภัยรถออนไลน์ทั้ง 2 เจ้า Roojai.com กับ DirectAsia
Roojai.com 6,731.30 บาท
ข้อดี
- แจงรายละเอียดว่าราคานี้ เราจะได้รับความคุ้มครองยังไงบ้าง มีระบุให้เคลียร์ๆไปเลย
- ราคาต่ำกว่า DirectAsia
- ให้การประกันตัวผู้ขับขี่สูงกว่า 6 เท่าคือ 300,000 บาท
ข้อเสีย
ไม่มีระบบแบ่งจ่ายเหมือน DirectAsia  

DirectAsia ราคา 7,084.38 บาท
ข้อดี
- มีเคลมราคาดีที่สุดสำหรับผู้ขับ
- ผ่อน 0% 10 งวด
- จ่ายที่ 7Eleven ได้ << ข้อนี้หลายยี่ห้อปัจจุบันทำได้เหมือนกันหมด
ข้อเสียคือ
- ราคาสูงกว่า Roojai.com 353.08

เราประเมินด้วยราคา และความงกส่วนตัวจากโปรโมชั่นในข้อนี้  เราเลือก Roojai ค่ะ
เพราะแจงรายละเอียดชัดเจนดี มีบริการเติมน้ำมันฟรี 1 ครั้งต่อปี และเวลาที่ตัวแทนโทรมาอธิบาย
มันก็เป็นไปตามหน้าเว็บที่โชว์ คือมันมีข้อมูลช่วยตัดสินใจ อย่างเราเป็นแม่บ้านไม่ค่อยได้ใช้รถไปไหนไกลมากก็ได้ราคาถูกลงไปอีก
ปีนี้ช่วยสามีประหยัดค่าประกันรถได้กว่าครึ่ง

#เบ้ปาก #มองบน ปีที่แล้วซื้อประกันชั้น 1 ยังซัดไป 16,000 …. นี่ราคาหายไปครึ่งนึงเลยเรอะ!! ดีใจน้ำตาจะไหล
ขอจบการแชร์ประสบการณ์ซื้อประกันรถออนไลน์ด้วยตัวเอง แต่เพียงเท่านี้นะคะ
เขียนบรรยายสไตล์แม่บ้าน ตกหล่นอะไร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ