นำบทคัดลอกมาลงบางส่วน ส่วนที่ไม่ได้เอามาก็ถือว่าแซ่บมากก
ข่าว เจมี่ วาร์ดี้ เคยเมามาซ้อมในตอนแรกๆ ตามคำให้การของท่านรองประธานสโมสรจิ้งจอกสีน้ำเงินแห่งสยาม หนังสือพิมพ์เราแปลข่าวนี้จากเว็บไซด์ข่าวต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น เดลี่ เมล์, เดลี่ มีร์เรอร์ หรือ เดอะ ซัน รวมถึงสิ่งที่เรียกว่า "เทเล็กซ์" หรือพากย์ไทยว่า "โทรข่าว" จากสำนักข่าวต่างๆ ตัวอย่างเช่น รอยเตอร์, เอพี หรือ เอเอฟพี ซึ่งบางสำนักก็ไม่บอก "ที่มา" หรือ "ต้นทาง" ของข่าวนี้ว่ามาจากไหน
ตามมารยาท หากข่าวไหนเราไม่ได้หาเอง หรือแปลมาจากภาษาต่างประเทศ เราก็ต้องลง "เครดิต" ให้ต้นทางของข่าวว่ามาจากไหน ยกเว้นเสียแต่ว่าสำนักข่าวที่เราเอามาแปลเขาไม่ได้ลงเครดิตเอาไว้ให้ ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้เครดิตกับใคร
ต่อมาจึงทราบว่าข่าวนี้อยู่ในบทสัมภาษณ์พิเศษแบบ "เอ็กซ์คลูซีฟ" (หมายถึงมีเจ้าเดียวในโลก) ของคุณต๊อบ - อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกเจ้าของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ใน "อะ เดย์" (a day) นิตยสารวัยรุ่นนามอุโฆษบันลือ
ว่าแล้ว "ดราม่า" ก็มาเยือนทันที เมื่อผู้เป็นบรรณาธิการของนิตยสาร "อะ เดย์" เกิดเข้าใจผิดคิดว่าเราลงข่าวนี้โดยไม่ยอมให้เครดิตนิตยสารของเขาแล้วโพสต์เรื่องนี้ในเฟสบุ๊คของตัวเอง เนื่องจากบางข่าวเราแปลมาจากสำนักข่าวต่างประเทศที่เขาก็ไม่ได้ลงเครดิตเอาไว้อยู่แล้ว
เท่านั้นแหละที่เรื่องนี้ไปปรากฏอยู่ในเว็บบอร์ดยอดนิยมแห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนคนส่วนใหญ่แถวนั้นสำคัญตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
จุดมุ่งหมายคือประจานพลางกวักมือเรียกให้ชาวบ้านผู้รักความยุติธรรมเข้ามาสามาคีบาทาชุมนุม
ประหนึ่งลอยเรือไปกลางทะเลตอนกลางคืนแล้วเปิดไฟล่อปลาหมึก
ปลาหมึกหลากหลายสายพันธุ์ กระดึ๊บๆ เข้ามาตอมไฟเพียบเลย
บอกได้คำเดียวครับว่า "เละ"
ทั้งที่มันคือเรื่องที่เกิดจากการเข้าใจผิด เพราะมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าข่าวที่ลงในทุกสื่อของเราให้เครดิต "อะ เดย์" แน่นอน
บังเอิญไอ้กระผมก็ดันจะพอรู้จักและคุ้นเคยกับผู้เป็นบรรณาธิการนิตยสารเล่มนี้อยู่พอสมควร เพราะเขาเคยสอบปากคำผมลงนิตยสารของเขาหลายครั้งหลายหน
ก็เลยต้องสวมวิญญาณ "ล็อบบี้ยิสต์" เคลียร์ให้เข้าใจกัน ซึ่งคุณน้องเขาก็ "ขออภัย" ในความผิดพลาดพลางแก้ไขด้วยการโพสต์ชี้แจงใหม่ในเฟสบุ๊คตัวเองเรียบร้อย ก่อนที่ใครสักคนจะเอาไปลงในกระทู้เดียวกันกับที่ลากเราไปกระทืบซะสะบักสะบอมนั่นแหละ
แล้วพวกที่บรรจงกระทืบไปก่อนแล้วล่ะ
แถวบ้านเรียก "เงิบ-ส์นะคะ"
แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่าในโลกที่ถูกครอบงำด้วยระบบโซเชี่ยล มีเดีย ทุกคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือพร้อมที่จะแปลงร่างเป็น "นักล่าแม่มด" ระดับมืออาชีพจิตใจหยาบกระด้าง เพียงแค่มีใครสักคนกระซิบที่ข้างหูว่า "อีนี่มันเป็นแม่มด" (ใจร้ายด้วย) โดยไม่จำเป็นต้องสืบสาวราวเรื่อง
แถมบางคนเชี่ยวชาญการไล่ล่าเสียยิ่งกว่า เลียม นีสัน ในหนังเรื่อง "Takken" ทั้ง 3 ภาค ซะอีก
หลังจากความจริงเป็นที่กระจ่างชัด บรรดานักล่าแม่มดส่วนใหญ่ก็สลายติ๋มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่แยแสว่าไอ้คนที่ตัวเองเพิ่งรุมสังหารอย่างโหดเหี้ยมโคตรเหียดไปนั่น มันไม่ใช่แม่มดจริงๆ สักหน่อย
มิซ้ำยังมีนักล่าแม่มดบางคนเข้ามาแถว่า...ไม่จำเป็นต้องสำนึก ไม่จำเป็นต้องขอโทษ และสมควรแล้วอีกต่างหาก เพราะถึงจะไม่ใช่แม่มด แต่ก็มีความผิดเรื่องอื่นมาก่อน (ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร)
อืมมมมมมม....นะ
ในเมื่อพวกคุณเข้ามาเรียกร้องความยุติธรรม เข้ามาเรียกร้องความถูกต้อง และเข้ามาเรียกร้องจรรยาบรรณของสื่อด้วยความเถื่อนถ่อยและ
หมาแบบกะเอาให้เขาตายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ต่อเมื่อความจริงปรากฏว่า "เขา" ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกปรักปรำสักหน่อย พวกคุณจำนวนหนึ่งกลับทำเป็นไม่รู้-ไม่เห็น-ไม่ทราบ อีกทั้งยังมีบางคนที่เข้ามาแถแบบดื้อๆ ว่าที่พวกตัวเองทำน่ะมันถูกต้องแล้ว
นี่แหละครับสังคมอุดมปัญญาที่ผมเจอในโต๊ะศุภชลาศัย - พันทิปดอตคอม
CR.
http://www.siamsport.co.th/Column/160510_288.html
เอาแล้วว บอ.บู๋ มีสาส์น มาถึงห้อง ศุภชลาศัย
ข่าว เจมี่ วาร์ดี้ เคยเมามาซ้อมในตอนแรกๆ ตามคำให้การของท่านรองประธานสโมสรจิ้งจอกสีน้ำเงินแห่งสยาม หนังสือพิมพ์เราแปลข่าวนี้จากเว็บไซด์ข่าวต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น เดลี่ เมล์, เดลี่ มีร์เรอร์ หรือ เดอะ ซัน รวมถึงสิ่งที่เรียกว่า "เทเล็กซ์" หรือพากย์ไทยว่า "โทรข่าว" จากสำนักข่าวต่างๆ ตัวอย่างเช่น รอยเตอร์, เอพี หรือ เอเอฟพี ซึ่งบางสำนักก็ไม่บอก "ที่มา" หรือ "ต้นทาง" ของข่าวนี้ว่ามาจากไหน
ตามมารยาท หากข่าวไหนเราไม่ได้หาเอง หรือแปลมาจากภาษาต่างประเทศ เราก็ต้องลง "เครดิต" ให้ต้นทางของข่าวว่ามาจากไหน ยกเว้นเสียแต่ว่าสำนักข่าวที่เราเอามาแปลเขาไม่ได้ลงเครดิตเอาไว้ให้ ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้เครดิตกับใคร
ต่อมาจึงทราบว่าข่าวนี้อยู่ในบทสัมภาษณ์พิเศษแบบ "เอ็กซ์คลูซีฟ" (หมายถึงมีเจ้าเดียวในโลก) ของคุณต๊อบ - อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกเจ้าของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ใน "อะ เดย์" (a day) นิตยสารวัยรุ่นนามอุโฆษบันลือ
ว่าแล้ว "ดราม่า" ก็มาเยือนทันที เมื่อผู้เป็นบรรณาธิการของนิตยสาร "อะ เดย์" เกิดเข้าใจผิดคิดว่าเราลงข่าวนี้โดยไม่ยอมให้เครดิตนิตยสารของเขาแล้วโพสต์เรื่องนี้ในเฟสบุ๊คของตัวเอง เนื่องจากบางข่าวเราแปลมาจากสำนักข่าวต่างประเทศที่เขาก็ไม่ได้ลงเครดิตเอาไว้อยู่แล้ว
เท่านั้นแหละที่เรื่องนี้ไปปรากฏอยู่ในเว็บบอร์ดยอดนิยมแห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนคนส่วนใหญ่แถวนั้นสำคัญตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
จุดมุ่งหมายคือประจานพลางกวักมือเรียกให้ชาวบ้านผู้รักความยุติธรรมเข้ามาสามาคีบาทาชุมนุม
ประหนึ่งลอยเรือไปกลางทะเลตอนกลางคืนแล้วเปิดไฟล่อปลาหมึก
ปลาหมึกหลากหลายสายพันธุ์ กระดึ๊บๆ เข้ามาตอมไฟเพียบเลย
บอกได้คำเดียวครับว่า "เละ"
ทั้งที่มันคือเรื่องที่เกิดจากการเข้าใจผิด เพราะมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าข่าวที่ลงในทุกสื่อของเราให้เครดิต "อะ เดย์" แน่นอน
บังเอิญไอ้กระผมก็ดันจะพอรู้จักและคุ้นเคยกับผู้เป็นบรรณาธิการนิตยสารเล่มนี้อยู่พอสมควร เพราะเขาเคยสอบปากคำผมลงนิตยสารของเขาหลายครั้งหลายหน
ก็เลยต้องสวมวิญญาณ "ล็อบบี้ยิสต์" เคลียร์ให้เข้าใจกัน ซึ่งคุณน้องเขาก็ "ขออภัย" ในความผิดพลาดพลางแก้ไขด้วยการโพสต์ชี้แจงใหม่ในเฟสบุ๊คตัวเองเรียบร้อย ก่อนที่ใครสักคนจะเอาไปลงในกระทู้เดียวกันกับที่ลากเราไปกระทืบซะสะบักสะบอมนั่นแหละ
แล้วพวกที่บรรจงกระทืบไปก่อนแล้วล่ะ
แถวบ้านเรียก "เงิบ-ส์นะคะ"
แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่าในโลกที่ถูกครอบงำด้วยระบบโซเชี่ยล มีเดีย ทุกคนที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือพร้อมที่จะแปลงร่างเป็น "นักล่าแม่มด" ระดับมืออาชีพจิตใจหยาบกระด้าง เพียงแค่มีใครสักคนกระซิบที่ข้างหูว่า "อีนี่มันเป็นแม่มด" (ใจร้ายด้วย) โดยไม่จำเป็นต้องสืบสาวราวเรื่อง
แถมบางคนเชี่ยวชาญการไล่ล่าเสียยิ่งกว่า เลียม นีสัน ในหนังเรื่อง "Takken" ทั้ง 3 ภาค ซะอีก
หลังจากความจริงเป็นที่กระจ่างชัด บรรดานักล่าแม่มดส่วนใหญ่ก็สลายติ๋มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่แยแสว่าไอ้คนที่ตัวเองเพิ่งรุมสังหารอย่างโหดเหี้ยมโคตรเหียดไปนั่น มันไม่ใช่แม่มดจริงๆ สักหน่อย
มิซ้ำยังมีนักล่าแม่มดบางคนเข้ามาแถว่า...ไม่จำเป็นต้องสำนึก ไม่จำเป็นต้องขอโทษ และสมควรแล้วอีกต่างหาก เพราะถึงจะไม่ใช่แม่มด แต่ก็มีความผิดเรื่องอื่นมาก่อน (ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร)
อืมมมมมมม....นะ
ในเมื่อพวกคุณเข้ามาเรียกร้องความยุติธรรม เข้ามาเรียกร้องความถูกต้อง และเข้ามาเรียกร้องจรรยาบรรณของสื่อด้วยความเถื่อนถ่อยและหมาแบบกะเอาให้เขาตายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ต่อเมื่อความจริงปรากฏว่า "เขา" ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกปรักปรำสักหน่อย พวกคุณจำนวนหนึ่งกลับทำเป็นไม่รู้-ไม่เห็น-ไม่ทราบ อีกทั้งยังมีบางคนที่เข้ามาแถแบบดื้อๆ ว่าที่พวกตัวเองทำน่ะมันถูกต้องแล้ว
นี่แหละครับสังคมอุดมปัญญาที่ผมเจอในโต๊ะศุภชลาศัย - พันทิปดอตคอม
CR.http://www.siamsport.co.th/Column/160510_288.html