หลังจากได้กล้องมาผมก็ลองไปถ่ายเล่นๆดูที่งาน BangSaen Thailand Speed Festival การโฟกัสต่างๆน่าพอใจเลยทีเดียว การถ่ายคนก็ถือว่าอยู่ในระดับน่าพอใจเลยทีเดียว และได้เอากล้องตัวนี้ไปลองถ่านงานต่างๆนอกจากนี้อีกด้วยและก็ได้ลองใช้โหมดต่างๆของกล้องดูแล้ว ทั้ง M Av Tv P หรือ C ที่เราสามารถเลือกการปรับตั้งค่าได้เองเหมือนกับกล้อง DSLR ที่เคยใช้อยู่
ลองเอากล้อง ไปถ่ายภาพในที่แสงน้อยดู ก็พบว่ากล้องรุ่นนี้สามารถให้ไฟล์ภาพที่ดี Noise ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดไว้ ส่วนเรื่องการโฟกัสในที่แสงน้อยนั้นก็สามารถทำได้ดีในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ไฟล์ RAW จากกล้องรุ่นนี้ก็สามารถนำมาปรับแต่งได้ค่อนข้างเยอะทีเดียว
แต่สิ่งที่ชอบมากๆสำหรับกล้อง EOS M3 ตัวนี้และ คิดว่าดีก็คือ การใช้โหมด Auto ต่างๆที่มีในกล้องรุ่นนี้ เรียกได้ว่าถ่ายภาพสวยดุจโปรฯ ได้อย่างง่ายดาย เลยทีเดียว เช่น โหมดถ่ายภาพเด็กและสัตว์เลี้ยง โหมดถ่ายภาพอาหาร โหมดถ่ายภาพตอนกลางคืน
และนอกจากโหมด Auto แล้ว ยังมีโหมด Creative Filter ที่ให้เราได้เลือกปรับแสงสีต่างๆ ในแบบด้วยฟิลเตอร์ต่างๆ สร้างสรรค์ภาพถ่ายตามสไตล์ของตัวเอง ให้เราได้ใช้กันด้วย ทำให้ภาพของเราดูมีสีสันทำให้แปลกตาและได้ลูกเล่นใหม่ๆด้วย
[SR] Canon EOS M3 จิ๋วแต่แจ๋ว Mireless ที่เด็ดเทียบเท่าDSLR
สวัสดีทุกๆคนครับ นี่เป็นครั้งแรกกับการได้มาเขียนกระทู้ ผมมีงานอดิเรกเป็นการถ่ายภาพครับและผมมีโอกาสได้ใช้กล้อง Canon EOS M3 ของใหม่ที่ออกมาให้ใช้กัน มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเกี่ยวกับกล้องตัวนี้ก็เลยอยากจะเอาออกมาแชร์กัน
M3 นับเป็นกล้องสายพันธุ์ Mirrorless ของค่าย Canon ที่ออกมาเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่ Canon EOS-M ตัวแรก ที่ออกมาเมื่อปี 2012 ถัดมาก็เป็นรุ่นปรับปรุง รุ่น Canon EOS-M2 ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะยังมี รูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับ Canon EOS-M ตัวแรก ที่ดูเหมือนจะทำออกมา รองรับผู้ใช้งานระดับมือใหม่ ที่มีระบบที่ใช้งานได้ง่ายมากๆ ในโหมดอัตโนมัติต่างๆ
แต่เมื่อครั้งแรกที่เห็นภาพ กล้อง Canon EOS-M3 แม้ยังไม่ได้สัมผัสกล้องตัวเป็นๆก็ตาม ผมก็พอจะบอกได้แล้วว่า กล้อง Canon EOS-M3 นั้นต่างออกไปจากกล้องรุ่นพี่ทั้งสอง การปรากฏตัวของ ปุ่มควบคุมต่างๆ การขยายกริ๊ปจับ ที่ใหญ่โตขึ้นกว่ารุ่นพี่ทั้งสองมาก จากการออกแบบ แม้ดูจากภาพนอกก็ทราบได้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่กล้องสำหรับ มือใหม่ที่เน้น Auto เป็นหลักอีกต่อไป แต่เป็นกล้องที่ออกแบบมาสำหรับทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นได้ใช้กัน
กล้อง Canon EOS-M3 ทำออกมาเพื่อ นักถ่ายภาพที่จริงจังมากยิ่งขึ้น การที่มีกริ๊ปจับที่แน่นกระชับพอดีมือจับได้ถนัดมากกว่าเดิม เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับนักถ่ายภาพที่ต้องปรับตั้งค่าต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เรียกหาเสมอ กับกล้องทุกๆรุ่น ในหลายๆกรณีที่ เราต้องจับกล้องด้วยมือเพียงข้างเดียว การมีกริ๊ปที่ใหญ่ จะทำให้การจับถือกล้อง โดยเฉพาะด้วยมือเดียวนั้น ทำได้ดีกว่ามากๆ กล้องไม่ลื่นหลุดไปได้ง่ายๆ หรือ ในการปรับหมุนค่าด้วยมือเพียงข้างเดียว ยิ่งต้องการกริ๊ปที่เหมาะมือ มากที่สุด การที่มีปุ่มโหมดสำหรับการถ่ายภาพให้เลือก อยู่ด้านบนของกล้อง ลักษณะเดียวกันกับกล้อง DSLR ก็สะท้อนอีกเช่นกันว่า นี่ทำมาให้ปรับค่าอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งจะผิดกับกล้อง รุ่นพี่อย่าง Canon-EOS-M รุ่นแรก และ Canon-EOS-M2 ซึ่งทั้งสองรุ่น ปรุ่มปรับโหมด มีเพียงแค่โหมดพื้นฐาน 2-3 โหมดให้เลือกได้เท่านั้น แต่พอมาถึง Canon-EOS-M3 ปุ่มโหมดนี้ เป็นแบบเต็มรูปแบบเหมือนกับบนกล้อง DSLR แสดงให้เป็นว่ามีการปรับปรุงให้กล้องตัวนี้เป็นได้เทียบเท่ากับ DSLR เลยก็ว่าได้ นอกจากปุ่มกดปรับเปลี่ยนต่างๆที่พัฒนาขึ้นมาแล้ว ใน EOS M3 นี้ก็ยังเพิ่มแฟลชในตัวเข้าไปอีกด้วย จากที่ในรุ่นก่อนๆไม่มีต้องใช้แฟลชมาต่อเพิ่ม ซึ่งทำให้เราสะดวกยิ่งขึ้นกับการใช้
นอกจากนี้ Canon ยังให้ EOS M3 ยังทำให้หน้าจอเป็นระบบสัมผัสให้เราสามารถใช้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการโฟกัส หรือปรับค่าต่างๆโดยไม่ต้องใช้ปุ่มกด และสามารถปรับหน้าจอได้ถึง180องศา และที่ขาดไม่ได้สำหรับกล้องรุ่นใหม่ๆคือการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์สมาทโฟน สำหรับยุค Social media แบบนี้ คงหนีไม่พ้นว่า WiFi เป็นคุณสมบัติมาตรฐานในกล้องยุคนี้ไปแล้ว จึงไม่แปลกที่ Canon EOS-M3 จะมาพร้อมกับ WiFi ในตัวกล้อง และยังเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อกับมือถือ กล้อง EOS M3 สามารถควบคุมการทำงานและดาวน์โหลดรูปภาพผ่าน application “Canon Camera Connect” หรือ “Canon EOS Remote” บนสมาทโฟนได้อีกด้วย
และกล้องตัวนี้ก็ยังพัฒนาใช้งาน เซ็นเซอร์ตัวใหม่ที่มีความละเอียดอยู่ที่ 24 MP นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ที่จะช่วยให้แม้ว่าจะเป็นกล้องตัวเล็กๆ แต่ก็ได้ภาพที่มีรายละเอียดได้ดีขึ้นกว่าเดิม หมายถึง การทำงานของกล้องโดยรวมดีขึ้น และภาพที่ได้จากกล้องก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากไปด้วยนั่นเอง ทำให้คุณภาพของรูปที่เราถ่ายมานั้นเทียบได้กับกล้อง DSLR เลยทีเดียว และถือว่าดีกว่ากล้อง Mirrorless ตัวอื่นอีกด้วย และการโฟกัสนั้นกล้องนี้ก็ยังมีระบบโฟกัสที่ดีอีกด้วยนะ มีระบบจับโฟกัสหน้าคน และก็ยังโฟกัสในที่แสงน้อยได้ผมถือว่าดีเลยทีเดียวจากที่ได้ลองใช้มา
เอาหล่ะ ภาคทฤษฎีมาเยอะละ มาเป็นภาคปฏิบัติกันดีกว่า คราวนี้ลองมาดูในส่วนของการใช้งานจริงกันบ้าง หลังจากทดสอบการใช้งานต่างๆพบว่า อย่างแรกเลยคือภาพที่สีสวยตามสไตล์ Canon เลย ใครที่ชอบไฟล์ใสๆสีสวยๆของ Canon แนะนำเลยว่า Canon EOS M3 เป็นตัวเลือกที่น่าจะชอบกัน
หลังจากได้กล้องมาผมก็ลองไปถ่ายเล่นๆดูที่งาน BangSaen Thailand Speed Festival การโฟกัสต่างๆน่าพอใจเลยทีเดียว การถ่ายคนก็ถือว่าอยู่ในระดับน่าพอใจเลยทีเดียว และได้เอากล้องตัวนี้ไปลองถ่านงานต่างๆนอกจากนี้อีกด้วยและก็ได้ลองใช้โหมดต่างๆของกล้องดูแล้ว ทั้ง M Av Tv P หรือ C ที่เราสามารถเลือกการปรับตั้งค่าได้เองเหมือนกับกล้อง DSLR ที่เคยใช้อยู่
ลองเอากล้อง ไปถ่ายภาพในที่แสงน้อยดู ก็พบว่ากล้องรุ่นนี้สามารถให้ไฟล์ภาพที่ดี Noise ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดไว้ ส่วนเรื่องการโฟกัสในที่แสงน้อยนั้นก็สามารถทำได้ดีในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ไฟล์ RAW จากกล้องรุ่นนี้ก็สามารถนำมาปรับแต่งได้ค่อนข้างเยอะทีเดียว
แต่สิ่งที่ชอบมากๆสำหรับกล้อง EOS M3 ตัวนี้และ คิดว่าดีก็คือ การใช้โหมด Auto ต่างๆที่มีในกล้องรุ่นนี้ เรียกได้ว่าถ่ายภาพสวยดุจโปรฯ ได้อย่างง่ายดาย เลยทีเดียว เช่น โหมดถ่ายภาพเด็กและสัตว์เลี้ยง โหมดถ่ายภาพอาหาร โหมดถ่ายภาพตอนกลางคืน
และนอกจากโหมด Auto แล้ว ยังมีโหมด Creative Filter ที่ให้เราได้เลือกปรับแสงสีต่างๆ ในแบบด้วยฟิลเตอร์ต่างๆ สร้างสรรค์ภาพถ่ายตามสไตล์ของตัวเอง ให้เราได้ใช้กันด้วย ทำให้ภาพของเราดูมีสีสันทำให้แปลกตาและได้ลูกเล่นใหม่ๆด้วย
จุดอื่นๆที่ถือเป็นจุดเด่นของกล้อง Canon EOS M3 นั้น ก็มีเรื่องของระบบการทำงานของกล้องที่รวดเร็ว โดยเฉพาะตอนเปิด-ปิดกล้องนั้น ถือว่าตอบสนองได้ค่อนข้างดี แค่แตะชัตเตอร์กล้องก็พร้อมทำงานจากโหมด Standby แล้ว ทำงานรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องต้องรอนาน และถึงแม้กล้องรุ่นนี้ไม่มีวิวไฟน์เดอร์อิเล็คทรอนิกส์มาให้ในตัว ซึ่งบางครั้งเจอแดดแรงๆทำให้มองเห็นหน้าจอไม่ชัดเจน แต่เราก็สามารถหาซื้ออุปกรณ์ต่อเสริมต่างๆมาใส่ทั้งช่องมองวิวไฟน์เดอร์ ทั้งพวกเลนส์ EFM , mount adapter สำหรับใช้กับเลนส์ EF, EFS แฟลชภายนอก ทำให้การใช้งานของเราทำได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ผมว่ากล้อง Canon EOS M3 ตัวนี้ ซึ่งกล้องตัวนี้น่าจะเหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการกล้อง เล็กๆพกพาสะดวก พร้อมๆกับราคาที่ไม่แพงมากนักสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ และอยากได้อุปกรณ์ที่ใช้ง่ายพกพาสะดวก ผทว่ากล้องตัวนี้สามารถตอบโจทย์ให้กับหลายๆคนได้ดีทีเดียว ผมว่าลองดูแล้วคุณจะไม่ผิดหวัง