หากคิดจะซื้อกล้องมิเรอร์เลสตอนนี้คงต้องอดใจรอกันอีกนิด เพราะ แคนนอน เตรียมปล่อย New Canon EOS M3 กล้องดิจิตอลมิลเลอร์เลสรุ่นที่ 3 ในตระกูล EOS M ที่ทุกคนรอคอย ภายในเดือน พฤษภาคมนี้ จุดเด่นหลักของ EOS M คือการนำเอานวัตกรรม และเทคโลโลยีของกล้องโปรเฟสชั่น Canon EOS DSLR ที่ครองใจนักถ่ายภาพทั่วโลกมาย่อให้อยู่ในกล้องมิเรอร์เลสตัวเล็กกระทัดรัดนี้อย่างเต็มที่ แคนนอนเผยไฮไลท์ของ EOS M3 ที่น่าสนใจมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้มีหลายจุด เซ็นเซอร์ CMOS ขนาดใหญ่แบบ APS-C ความละเอียดสูงถึง 24.2 ล้านพิกเซล
ชนิดเดียวกับที่ใช้ใน Canon EOS DSLRให้คุณภาพภาพที่ดีระดับกล้องโปร อีกทั้งยังเก็บรายละเอียด แสง สีสันของภาพได้เหนือกว่าเซ็นเซอร์ปกติ
ระบบออโต้โฟกัสของกล้อง EOS M3 ใช้ Hybrid CMOS AF III พัฒนาใหม่ล่าสุด ทำให้เซ็นเซอร์ CMOS จับออโต้โฟกัสระหว่างการถ่ายภาพแบบ Live View ได้เหนือกว่ากล้อง EOS M1 (ที่ใช้เทคโนโลยี Hybrid CMOS AF รุ่นแรก) ถึง 6.1 เท่า ช่วงความไวแสงที่กว้างมากถึง ISO 100 – 12800 ของกล้อง EOS M3 การถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยโดยไม่ใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้องเข้าช่วยจึงเป็นไปได้โดยง่ายและให้สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ และยังสามารถปรับ ISO ได้ถึง 25600 ในกรณีที่จำเป็น โดยไม่ทำให้เกิดสัญญาณรบกวนด้วยประสิทธิภาพการทำงานอันยอดเยี่ยมของชิปประมวลผล DIGIC 6 กล้อง EOS M3 ยังเป็นกล้องมิเรอร์เลสรุ่นแรกที่ใช้หน้าจอแอลซีดีระบบทัชสกรีน ปรับพับขึ้นได้ถึง 180 องศาสำหรับการถ่ายภาพมุมต่ำหรือภาพเซลฟี่ และยังปรับพับลงได้ 45 องศาช่วยในการถ่ายภาพมุมสูง หน้าจอระบบทัชสกรีนมียูสเซอร์อินเตอร์เฟซ (UI) ที่รวมเอาคุณสมบัติเด่นของกล้อง DSLR และกล้องคอมแพ็คมาไว้ด้วยกัน ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับกล้อง DSLR ดีอยู่แล้วจะต้องชอบกล้อง EOS M3 เพราะออกแบบให้หน้าจอแสดงข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับนักถ่ายภาพมืออาชีพเอาไว้อย่างครบครัน ขณะเดียวกัน ยังปรับปรุงรูปแบบสไตล์การใช้งานแบบสองมือซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกล้อง EOS M ให้สะดวกใช้งานและปรับตั้งค่ากล้องได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ กล้อง EOS M3 ยังเป็นกล้องมิเรอร์เลสรุ่นแรกของแคนนอนที่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมคือ ช่องมองภาพแบบอิเล็คทรอนิค (รุ่น EVF-DC1) เอาใจผู้ใช้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพมากกว่าการถ่ายภาพ Live View ผ่านหน้าจอแอลซีดีอีกด้วย
แม้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่บอดี้ของกล้อง EOS M3 ออกแบบในสไตล์กล้องตระกูล EOS ที่เน้นการจับถือที่กระชับ มั่นใจ โดยรุ่นใหม่มีกริปที่โค้งเว้าพอดีตามหลักสรีระศาสตร์ช่วยให้ผู้ใช้จับถนัด ใช้งานสะดวกแม้ถ่ายด้วยมือเดียว โดยให้ปุ่มชัตเตอร์จัดวางอยู่บนส่วนโค้งมนด้านบนพอดีกับตำแหน่งของนิ้วชี้ ส่วนปุ่มไดอัลเปลี่ยนโหมดและปรับชดเชยแสงก็วางอยู่รอบปุ่มชัตเตอร์เพื่อให้สะดวก
กล้อง EOS M3 ยังเป็นกล้องรุ่นแรกในตระกูล EOS M ที่มาพร้อมแฟลชในตัว และยังมีช่องเสียบ แฟลชมาให้สำหรับในกรณีที่ต้องการติดแฟลช Speedlite เพิ่มเติม หรือใช้ตัวส่งสัญญาณเชื่อมต่อไร้สายกับแฟลชที่ติดเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยในการถ่ายภาพ หรือติด macro ring light เพื่อช่วยฉายแสงแฟลชให้ครอบคลุมไปยังวัตถุที่ต้องการถ่ายระยะใกล้ทั้งหมด
กล้อง EOS M3 มาพร้อมชุดเลนส์ใหม่ครบชุด มีให้เลือก 4 รุ่น ซึ่งเป็นเลนส์ระบบ STM ทั้งหมด เพื่อให้ตอบสนองการทำงานโฟกัสของ Hybrid CMOS AF III ได้อย่างเต็มที่ และถ้าใช้ EF-EOS Mount Adapter ก็จะสามารถขยับไปใช้เลนส์ EF และ EF-S ของ EOS DSLR ได้อีกกว่า 70 รุ่น ยังไม่นับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ทั้งแฟลช วิวไฟเดอร์ ฯลฯ ที่มีให้เลือกใช้จุใจ
เชื่อมต่อกล้อง EOS M3 กับสมาร์ทโฟนแบบ WiFi เพื่อสั่งชัตเตอร์และตั้งค่ากล้องได้จากสมาร์ทโฟน หรือแชร์ภาพจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนได้รวดเร็ว เพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการแชร์ภาพไปยัง Social Network ต่างๆได้
นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ Canon Connect Station CS100 ที่มีความจุในการแบ็คอัพไฟล์ภาพ,วิดีโอ ได้มากถึง 1 TB โชว์ภาพ ดูไฟล์ภาพ และวีดีโอบนจอHDTVได้อย่างเต็มอรรถรส ดูพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว
EOS M 3 มีให้เลือก 2 สีคือขาว และดำ และเพื่อให้แมชกับสไตล์ของกล้อง EOS M3 รุ่นใหม่สีขาว แคนนอนยังได้เปิดตัวเลนส์แพนเค้ก EF-M22mm f/2 STM Silver รุ่นสีเงินออกมาพร้อมกันเพื่อให้เข้าคู่กันอีกด้วย ....
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Canon EOS M3
■ขนาด 110.9 x 68.0 x 44.4 มม.
■น้ำหนัก 319 กรัม (เฉพาะบอดี้) 366 กรัม (รวมแบตเตอรี่และเมมโมรี่การ์ด, ตามมาตรฐาน CIPA)
■เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล
■ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 6
■ช่วงความไวแสง ISO 100-12,800 (ขยายได้ถึง 25,600)
■ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4.2 เฟรมต่อวินาที
■คุณภาพวิดีโอสูงสุดระดับ Full HD (1920 x 1080) 30 เฟรมต่อวินาที
■ระบบออโต้โฟกัส Hybrid CMOS AF III
■รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ NFC
■หน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีน ปรับกางได้ 45 – 180 องศา ความละเอียด 1.04 ล้านจุด
..........
กำหนดวางจำหน่าย EOS M 3 ในประเทศไทยราวเดือน พฤษภาคม 2558 นี้
....นี่ก็อีกยี่ห้อที่ออกมาในเวลาใก้ลเคียงกัน กับ Nikon ที่จะออกกล้องใหม่ในเร็วนี้ ดูๆกันไปครับ ชอบยี่ห้อไหนก็ว่ากันไป ตัวเลือกเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ...
อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อ Mirrorless ตอนนี้จนกว่าคุณจะได้พบกับ Canon EOS M3 ใหม่! ..... เขาโฆษณา ว่าอย่างนั้น อีกแล้ว
หากคิดจะซื้อกล้องมิเรอร์เลสตอนนี้คงต้องอดใจรอกันอีกนิด เพราะ แคนนอน เตรียมปล่อย New Canon EOS M3 กล้องดิจิตอลมิลเลอร์เลสรุ่นที่ 3 ในตระกูล EOS M ที่ทุกคนรอคอย ภายในเดือน พฤษภาคมนี้ จุดเด่นหลักของ EOS M คือการนำเอานวัตกรรม และเทคโลโลยีของกล้องโปรเฟสชั่น Canon EOS DSLR ที่ครองใจนักถ่ายภาพทั่วโลกมาย่อให้อยู่ในกล้องมิเรอร์เลสตัวเล็กกระทัดรัดนี้อย่างเต็มที่ แคนนอนเผยไฮไลท์ของ EOS M3 ที่น่าสนใจมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้มีหลายจุด เซ็นเซอร์ CMOS ขนาดใหญ่แบบ APS-C ความละเอียดสูงถึง 24.2 ล้านพิกเซล
ชนิดเดียวกับที่ใช้ใน Canon EOS DSLRให้คุณภาพภาพที่ดีระดับกล้องโปร อีกทั้งยังเก็บรายละเอียด แสง สีสันของภาพได้เหนือกว่าเซ็นเซอร์ปกติ
ระบบออโต้โฟกัสของกล้อง EOS M3 ใช้ Hybrid CMOS AF III พัฒนาใหม่ล่าสุด ทำให้เซ็นเซอร์ CMOS จับออโต้โฟกัสระหว่างการถ่ายภาพแบบ Live View ได้เหนือกว่ากล้อง EOS M1 (ที่ใช้เทคโนโลยี Hybrid CMOS AF รุ่นแรก) ถึง 6.1 เท่า ช่วงความไวแสงที่กว้างมากถึง ISO 100 – 12800 ของกล้อง EOS M3 การถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยโดยไม่ใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้องเข้าช่วยจึงเป็นไปได้โดยง่ายและให้สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ และยังสามารถปรับ ISO ได้ถึง 25600 ในกรณีที่จำเป็น โดยไม่ทำให้เกิดสัญญาณรบกวนด้วยประสิทธิภาพการทำงานอันยอดเยี่ยมของชิปประมวลผล DIGIC 6 กล้อง EOS M3 ยังเป็นกล้องมิเรอร์เลสรุ่นแรกที่ใช้หน้าจอแอลซีดีระบบทัชสกรีน ปรับพับขึ้นได้ถึง 180 องศาสำหรับการถ่ายภาพมุมต่ำหรือภาพเซลฟี่ และยังปรับพับลงได้ 45 องศาช่วยในการถ่ายภาพมุมสูง หน้าจอระบบทัชสกรีนมียูสเซอร์อินเตอร์เฟซ (UI) ที่รวมเอาคุณสมบัติเด่นของกล้อง DSLR และกล้องคอมแพ็คมาไว้ด้วยกัน ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับกล้อง DSLR ดีอยู่แล้วจะต้องชอบกล้อง EOS M3 เพราะออกแบบให้หน้าจอแสดงข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับนักถ่ายภาพมืออาชีพเอาไว้อย่างครบครัน ขณะเดียวกัน ยังปรับปรุงรูปแบบสไตล์การใช้งานแบบสองมือซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกล้อง EOS M ให้สะดวกใช้งานและปรับตั้งค่ากล้องได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ กล้อง EOS M3 ยังเป็นกล้องมิเรอร์เลสรุ่นแรกของแคนนอนที่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมคือ ช่องมองภาพแบบอิเล็คทรอนิค (รุ่น EVF-DC1) เอาใจผู้ใช้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพมากกว่าการถ่ายภาพ Live View ผ่านหน้าจอแอลซีดีอีกด้วย
แม้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่บอดี้ของกล้อง EOS M3 ออกแบบในสไตล์กล้องตระกูล EOS ที่เน้นการจับถือที่กระชับ มั่นใจ โดยรุ่นใหม่มีกริปที่โค้งเว้าพอดีตามหลักสรีระศาสตร์ช่วยให้ผู้ใช้จับถนัด ใช้งานสะดวกแม้ถ่ายด้วยมือเดียว โดยให้ปุ่มชัตเตอร์จัดวางอยู่บนส่วนโค้งมนด้านบนพอดีกับตำแหน่งของนิ้วชี้ ส่วนปุ่มไดอัลเปลี่ยนโหมดและปรับชดเชยแสงก็วางอยู่รอบปุ่มชัตเตอร์เพื่อให้สะดวก
กล้อง EOS M3 ยังเป็นกล้องรุ่นแรกในตระกูล EOS M ที่มาพร้อมแฟลชในตัว และยังมีช่องเสียบ แฟลชมาให้สำหรับในกรณีที่ต้องการติดแฟลช Speedlite เพิ่มเติม หรือใช้ตัวส่งสัญญาณเชื่อมต่อไร้สายกับแฟลชที่ติดเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยในการถ่ายภาพ หรือติด macro ring light เพื่อช่วยฉายแสงแฟลชให้ครอบคลุมไปยังวัตถุที่ต้องการถ่ายระยะใกล้ทั้งหมด
กล้อง EOS M3 มาพร้อมชุดเลนส์ใหม่ครบชุด มีให้เลือก 4 รุ่น ซึ่งเป็นเลนส์ระบบ STM ทั้งหมด เพื่อให้ตอบสนองการทำงานโฟกัสของ Hybrid CMOS AF III ได้อย่างเต็มที่ และถ้าใช้ EF-EOS Mount Adapter ก็จะสามารถขยับไปใช้เลนส์ EF และ EF-S ของ EOS DSLR ได้อีกกว่า 70 รุ่น ยังไม่นับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ทั้งแฟลช วิวไฟเดอร์ ฯลฯ ที่มีให้เลือกใช้จุใจ
เชื่อมต่อกล้อง EOS M3 กับสมาร์ทโฟนแบบ WiFi เพื่อสั่งชัตเตอร์และตั้งค่ากล้องได้จากสมาร์ทโฟน หรือแชร์ภาพจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนได้รวดเร็ว เพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการแชร์ภาพไปยัง Social Network ต่างๆได้
นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ Canon Connect Station CS100 ที่มีความจุในการแบ็คอัพไฟล์ภาพ,วิดีโอ ได้มากถึง 1 TB โชว์ภาพ ดูไฟล์ภาพ และวีดีโอบนจอHDTVได้อย่างเต็มอรรถรส ดูพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว
EOS M 3 มีให้เลือก 2 สีคือขาว และดำ และเพื่อให้แมชกับสไตล์ของกล้อง EOS M3 รุ่นใหม่สีขาว แคนนอนยังได้เปิดตัวเลนส์แพนเค้ก EF-M22mm f/2 STM Silver รุ่นสีเงินออกมาพร้อมกันเพื่อให้เข้าคู่กันอีกด้วย ....
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Canon EOS M3
■ขนาด 110.9 x 68.0 x 44.4 มม.
■น้ำหนัก 319 กรัม (เฉพาะบอดี้) 366 กรัม (รวมแบตเตอรี่และเมมโมรี่การ์ด, ตามมาตรฐาน CIPA)
■เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล
■ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 6
■ช่วงความไวแสง ISO 100-12,800 (ขยายได้ถึง 25,600)
■ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4.2 เฟรมต่อวินาที
■คุณภาพวิดีโอสูงสุดระดับ Full HD (1920 x 1080) 30 เฟรมต่อวินาที
■ระบบออโต้โฟกัส Hybrid CMOS AF III
■รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ NFC
■หน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีน ปรับกางได้ 45 – 180 องศา ความละเอียด 1.04 ล้านจุด
..........
กำหนดวางจำหน่าย EOS M 3 ในประเทศไทยราวเดือน พฤษภาคม 2558 นี้
....นี่ก็อีกยี่ห้อที่ออกมาในเวลาใก้ลเคียงกัน กับ Nikon ที่จะออกกล้องใหม่ในเร็วนี้ ดูๆกันไปครับ ชอบยี่ห้อไหนก็ว่ากันไป ตัวเลือกเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ...