เปิดตอนมาทางกลุ่มครูฝึกโรงเรียนโทวไมซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนของเรือดำน้ำ I-201 ที่โผล่มาในตอนที่ 3
กำลังทำภารกิจค้นหามุซาชิอยู่เพราะได้รับวิทยุขอความช่วยเหลือมา
เรือธงของโรงเรียนโทวไมชื่อว่าอาโอสึกิ หน้าตาคงมีต้นแบบมาจากเรือพิฆาตชั้นอากิสึกิ
เรือครูฝึกโรงเรียนโทวไม
เรือพิฆาตชั้นอากิสึกิ
http://www.seaforces.org/marint/Japan-Maritime-Self-Defense-Force/Destroyer/Akizuki-class.htm
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ระวางขับน้ำมาตรฐาน: 5,000 ตัน
ความยาว;: 150.5 m
ความกว้าง:18.3 m
กินน้ำลึก: 10.9 m
ความเร็วสูงสุด: 30 นอต
Sensors and processing systems:
ATECS (advanced technology command system)
OYQ-11 ACDS
FCS-3A AAW system
OQQ-22 ASW system
NOLQ-3D EW system
OPS-20C surface search radar
อาวุธ:
Guns
ปืน 127 mm (5 นิ้ว)/62 คาลิเบอร์ แท่นเดี่ยว 1 แท่น
อาวุธนำวิถี
จรวดต่อสู้เรือรบ Type 90 SSM จำนวน 8 ลูก
แท่นยิงอาวุธนำวิถีแนวดิ่ง Mk 41 VLS (32 ท่อยิง)
จรวดพื้นสู่อากาศต่อสู้อากาศยาน RIM-162 Sea Sparrow ESSM SAM
อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่ใต้น้ำ RUM-139 VL-ASROC (สำหรับ DD 115)
*อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่ใต้น้ำ Type07 VL-ASROC (สำหรับ DD 116 ถึง DD 118)
CIWS (close-in weapon system )
20 mm Phalanx Block1B CIWS 2 แท่นยิง
ตอร์ปิโด
แท่นยิงตอร์ปิโด Type 68/HOS-303 324 mm (12.8 นิ้ว) แท่น แท่นละ 3 ท่อยิง
อากาศยาน: SH-60K Seahawk helicopters 1 ลำ
ทางเรือตรวจการณ์ได้ส่งข้อความมาว่าพบมุซาชิแล้วที่พิกัด 19.41 องศาเหนือ, 145.0 องศาตะวันออก
หรือถ้าเขียนหนวยย่อยด้วยก็ 19 องศา 24 ลิปดา 36.0 ฟิลิปดา เหนือ, 145 องศา ตะวันออก
ซึ่งค่อนข้างห่างจากจุดที่ฮาเระคาเสะแวะโอเชี่ยนมอลมากเลยนะครับ...
==ตัดเข้า OP==
มาทางฮาเระคาเสะ ทุกคนอยู่ระหว่างพักผ่อน
มัจจิก็เล่นพาราเซลอยู่คงใช้เจ็ทสกีลากไป
คนอื่นๆก็เปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำ ไปโดดน้ำเล่นบ้าง เล่นกันบนดาดฟ้าบ้าง
บางคนก็ใช้ชุดที่โรงเรียนแจก แต่บางคนก็ใช้ของส่วนตัว
ผมว่าถ้าเป็นเรือลำอื่นคงไม่ให้แต่เพราะกัปตันของเราไม่ได้เจ้าระเบียบอะไรมากนักล่ะมั้ง
ทางชิโระจังก็เตือนให้ทุกคนวอร์อมร่างกายก่อนลงน้ำ
แต่มิเกะนี่ยิ่งกว่า กะจะถอดเสื้อโดดน้ำทั้งชุดชั้นในเลย ชิโระจังต้องรีบห้ามไว้
เนื่องจากว่าทางกรมฯ จำเป็นต้องสอบปากคำทามะจังที่ขึ้นไปยิงปืนใส่เรือในตอนที่แล้ว ทำให้ต้องรอจนกว่าการสอบปากคำจะเสร็จสิ้น
และอีกเหตุผลสำคัญที่ยังไม่กลับโรงเรียนคือ น้ำยังไม่เดือดครับ
มารอนจังก็ง่วนอยู่กับการทำให้น้ำเดือดเลยไม่ไปเล่นกับคนอื่นๆ
(แต่ความจริงเจ้าตัวชอบอยู่ในห้องเครื่องมากกว่าอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ต้องทำหน้าที่ก็คงนอนเล่นในห้องเครื่องนั่นแหละ)
เพราะว่าเรือยุค WWII เนี่ยใช้เครื่องยนต์กังหันไอน้ำ ต้องรอให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงทำน้ำในถังเดือดก่อน เพื่อส่งไอความร้อนและไอน้ำแรงดันสูงไปหมุนกังหันไอน้ำ (Turbine) แล้วก็จะไปหมุนเพลาข้อเหวี่ยงทำให้ใบจักรหมุนได้อีกที
ซึ่งกว่าน้ำจะเดือดต้องรอเวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว
ภาพโมเดลต้นฉบับก่อนใส่ข้อความ
http://nabeck.web.fc2.com/mfh04.htm
พวกสาวๆห้องเครื่องเปิดนิตยสารทำนายดวงชะตากัน ชิโระจังลองถามดูว่า ราศีเมถุนของเธอเป็นยังไงบ้าง
พบว่าอยู่ลำดับที่ 12 คือดวงซวยสุดๆ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้น้ำ ว่าแล้วก็โดนลูกหลงจากกลุ่มปืนใหญ่ยิงใส่เข้าให้
พอเห็นคำทำนายแม่นแบบนี้จึงชวนชิโระจังเล่นแบบทดสอบจิตวิทยาต่อ แต่ชิโระจังไม่เอาก็เลยไปชวนรินจังเล่นแทน
ทางทามะจังและเมจังก็อยู่ระหว่างถูกสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่กรมฯ
ทามะจังจำอะไรตอนที่คลั่งแล้วขึ้นไปยิงปืนไม่ได้เลย
ส่วนทางเมจังก็ปลอบใจว่านึกไม่ออกก็ไม่ต้องฝืนหรอกถ้าเป็นตัวเธอเองก็ยิงแหลกเหมือนกัน
(เดี๋ยวๆ อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานสิเมจัง)
ที่โรงพยาบาลครูฝึกฟุรุโชก็ได้สติแล้วและก็ถูกสอบปากคำเช่นกัน ซึ่งทางนี้แตกต่างออกไปคือตอนที่สั่งยิงฮาเระคาเสะจำได้หมดว่าทำอะไรลงไป
แต่ว่าไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้ทำแบบนั้น
ระหว่างนั้นมาชิโมะพี่สาวของชิโระจังก็เข้ามาคุยต่อและเรียกครูฝึกว่าฟุรุโชเซมไป
มาชิโมะนำบันทึกข้อมูลของซารุชิมะมาให้ดู แต่ว่าบันทึกช่วงที่เกิดการปะทะกันนั้นถูกลบออกไป ไม่สามารถกู้คืนได้
จากที่ครูฝึกฟุรุโชลองอ่านดูแล้วข้อมูลได้หายไปตั้งแต่เวลา 13:20 น.
ทางครูฝึกถามถึงฮาเระคาเสะว่าปลอดภัยดีมั้ย มาชิโมะบอกว่าเพราะกัปตัน เลยทำให้ทุกคนบนเรือปลอดภัยดี
ครูฝึกฟุรุโชวก็ตัดพ้อตัวเองว่าทั้งๆที่สั่งยิงเองแท้ๆแต่กลับไม่เข้าใจว่าตัวเองทำแบบนั้นทำไม
ระหว่างนี้ปู้อำนวยการก็ส่งข้อความแจ้งมาชิโมะว่าทางโรงเรียนโทวไมพบตำแหน่งของมุซาชิแล้ว มาชิโมะจึงขอตัวไปก่อน
กลับมาที่ฮาเระคาเสะ มี่จังใส่ชุดว่ายน้ำของโยโกสุกะ แต่ดันตัวเล็กไปหน่อย
ระหว่างทางเจอพี่น้องฝ่ายสหโภชณ์พอทักทายแต่กลับถูกหลบหน้าเหมือมปกปิดอะไรบางอย่าง
หลังจากการสอบปากคำทามะจังเสร็จ พวกเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเดี๋ยวทางโเรียนจะแจ้งบทลงโทษไปเองแต่ไม่ต้องกังวล
เพราะไม่ได้มีความเสียหายร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นคงจะแค่โดนว่ากล่าวตักเตือนมิเกะจึงเข้าไปให้กำลังใจทามะจัง
ระหว่างนั้นก็พบรินจังนั่งกอดเข่าอยู่ พอเข้าไปถามก็ทำให้รู้ว่าหลังจากเล่นแบบทดสอบจิตวิทยาแล้วพบว่ารินจังเป็นพวกซีเรียสและโลเล
ซึ่งรินจังคิดว่าก็จริงเพราะตั้งแต่เด็กๆเจออะไรน่ากลัวก็เอาแต่หนีตลอด
พอได้มาเห็นทะเลก็รู้สึกชอบทะเล ที่อยากเป็น Blue Mermaid เพราะถ้าอยู่ในทะเลจะได้ไม่มีที่ให้หนีอีก
แต่พอมาทำหน้าที่ถือท้ายก็ดันบังคับเรือหนีทั้งลำเลย
มิเกะจังบอกว่ามันก็ไม่ได้แย่เสมอไป ที่เรารอดจากการสู้รบมาได้ถึง 3 ครั้งเพราะรินจังเป็นคนพาหนี
บางทีนี่อาจเป้นความสามารถเฉพาะตัวของรินจังก็ได้
ทามะจังมาให้มินามิซังตรวจว่ามีไข้หรือไม่เพราะตอนที่คลั่งถูกมี่จังโยนลงทะเลไป
ก็โชคดีที่ไม่มีไข้ ระหว่างนั้นเมจังเล่นกับเจ้าหนูเจ้าปัญหาที่ถูกขังไว้ในกล่องอยู่ มินามิซังเลยห้ามไว้เพราะมันลอยมากับทะเลอาจจะมีเชื้อโรคติดมาได้
เมจังถามว่าไอ้ที่เก็บไว้เนี่ยคงไม่ได้เอามาไว้ผ่าพิสูจน์อะไรหรอกนะ
มินามิซังก็เลยยิ้มหวานให้....
แต่จังหวะนั้นเองนาฬิกาดิจิตอลของมินามิซังเกิดรวนขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ มินามิซังจึงจ้องมองเจ้าหนูตัวนั้นราวกับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกัน
ทางด้านครูฝึกโทวไมเดินทางมาเจอมุซาชิแล้วแต่ทันใดนั้นเองมุซาชิกลับหันปากกระบอกปืน 46cm แล้วซัลโวใส่ เรือของโทวไมเฉยเลย
*มุซาชิหมุนป้อมเร็วเวอร์มากครับ ตามข้อมูลแล้วป้อมใหญ่ขนาดนี้หมุนได้ราวๆ 2 องศาต่อวินาที นี่พี่แกเล่นหมุน 90 องศาในเวลาไม่กี่วิฯเฉยเลย
อาจจะเพราะมีระบบอัตโนมัติต่างๆติดตั้งเสริมเข้าไปเพื่อในนักเรียนฝึกเดินเรือได้สะดวกยิ่งขึ้น
เรือ 4 ของกองเรือโทวไมถูกยิงทำให้เครื่องยนต์หยุดทำงานไป 1 ลำ
มุซาชิเริ่มปรับมุมสูงปืนใหญ่และโหลดกระสุนเพื่อยิงนัดต่อไปอีกครั้ง ทางโทวไมพยายามส่งสัญญานไฟแต่ก็ไม่มีการตอบกลับ
รอง ผอ.ของโทวไมคิดว่านักเรียนอาจจะเข้าใจผิดว่ามาโจมตีก็ได้ เลยประกาศออกลำโพงให้ได้ยิน
แต่ว่าไม่เป็นผล แม้มุซาชิจะยังโหลดกระสุนปืนหลักไม่เสร็จแต่ก็หันปืนรอง 15.5cm มายิงใส่แทน
แม้จะไม่แรงเท่าปืนหลักแต่ก็ทำให้น้ำเข้าเรือได้
ทางโทวไมพยายามหาวิธีหยุดมุซาชิ ก็เลยคิดว่าจะยิงด้านข้างให้เป็นรูเมื่อน้ำเข้าแล้วเรือจะได้เอียง ปืนใหญ่จะได้ทำการยิงลำบากขึ้น
จึงได้สั่งยิงตอร์ปิโดออกไปจากช่อง VLS
ซึ่งไอ้ตอร์ปิโดที่ว่านี่มันคือ ASROC ครับ ปกติแล้วจะเอาไว้ปราบเรือดำน้ำ
เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่ใต้น้ำ มีส่วนที่เป็นจรวดขับดันติดกับตอร์ปิโดเพื่อยิงในระยะไกล เมื่อร่อนไปจนได้ระยะแล้วจะปลดส่วนขับดันทิ้งแล้วใช้ร่มช่วยลดความเร็วจะได้ไม่กระแทกน้ำแรงเกินไป
เมื่อลงน้ำแล้วตอร์ปิโดจะค้นหาเป้าหมายด้วยระบบโซนาร์ที่อยู่ในตัว
ASROC
แท่นยิงอาวุธนำวิถีแนวดิ่ง Mk-41 VLS ( Vertical Launching System ) 32 ท่อยิง
ติดตั้งที่ด้านหน้าของหอบังคับการ หลังปืน 5 นิ้วที่หัวเรือ
ตอร์ปิโดเข้าเป้าทุกลูก แต่ไม่สามารถเจาะเกราะที่หนานรกของมุซาชิที่หนาถึง 410 mm ได้
อาจเป็นเพราะเป็นลูกซ้อมด้วยเลยไม่แรงพอแม้จะเข้าทุกนัดก็ตาม
---------------------------------
กลับมาที่ฮาเระคาเสะ มิเกะจังจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้กับมี่จัง ทั้งเตรียมเค้กและปักเทียนให้เป่า เดี๋ยวนะนั่นมันงานวันเกิดแล้ว
มี่จังรู้สึกซาบซึ้ง และกล่าวว่าฮาเระคาเสะเป็นเรือที่ไร้ระเบียบ เหลาะแหละ กัปตันก็วางตัวไม่สมเป็นกัปตัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเรือที่มีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถึงจะเป็นเรือเล็กๆแต่ก็อยู่อย่างอบอุ่น เหมือนปราสาทสตาร์เคินบูร์ก
โคโคะจังบอกเปรียบเทียบเข้าใจยากไป มี่จังเลยบอกเหมือนไส้กรอกนูเรมเบิร์กที่เป็นไส้กรอกชิ้นเล็กแต่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นแทน
พอมีคนถามมี่จังถึงเรื่องที่ว่าทำไมใช้คำว่าวาชิซึ่งเป็นคำสรรพนามที่มีแต่คนสูงวัยใช้กันเรียกตัวเอง
มี่จังเลยบอกจำมาจากในหนัง คาดว่าเป็นหนังนักเลงสมัยก่อน เพราะแบบนี้เองเลยทำให้มี่จังเวลาองค์ลงจะพูดจาแบบนักเลงๆ
และทางสึกุจังก็ได้รับโทรเลขจากโรงเรียนแจ้งถึงพิกัดของมุซาชิ เนื่องจากได้ขาดการติดต่อกับโรงเรียนโทวไมไปจึงได้ร้องขอให้ฮาเระคาเสะที่อยู่ใกล้ที่สุด(?) ไปในพื้นที่แล้วรายงานสถานการณ์มา
มิเกะจังจึงสั่งให้ฮาเระคาเสะออกเรือทันที
*ต่อ
l l
[Spoil] High School Fleet (hai-furi) ตอนที่ 5
กำลังทำภารกิจค้นหามุซาชิอยู่เพราะได้รับวิทยุขอความช่วยเหลือมา
เรือธงของโรงเรียนโทวไมชื่อว่าอาโอสึกิ หน้าตาคงมีต้นแบบมาจากเรือพิฆาตชั้นอากิสึกิ
เรือครูฝึกโรงเรียนโทวไม
เรือพิฆาตชั้นอากิสึกิ
http://www.seaforces.org/marint/Japan-Maritime-Self-Defense-Force/Destroyer/Akizuki-class.htm
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทางเรือตรวจการณ์ได้ส่งข้อความมาว่าพบมุซาชิแล้วที่พิกัด 19.41 องศาเหนือ, 145.0 องศาตะวันออก
หรือถ้าเขียนหนวยย่อยด้วยก็ 19 องศา 24 ลิปดา 36.0 ฟิลิปดา เหนือ, 145 องศา ตะวันออก
ซึ่งค่อนข้างห่างจากจุดที่ฮาเระคาเสะแวะโอเชี่ยนมอลมากเลยนะครับ...
==ตัดเข้า OP==
มาทางฮาเระคาเสะ ทุกคนอยู่ระหว่างพักผ่อน
มัจจิก็เล่นพาราเซลอยู่คงใช้เจ็ทสกีลากไป
คนอื่นๆก็เปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำ ไปโดดน้ำเล่นบ้าง เล่นกันบนดาดฟ้าบ้าง
บางคนก็ใช้ชุดที่โรงเรียนแจก แต่บางคนก็ใช้ของส่วนตัว
ผมว่าถ้าเป็นเรือลำอื่นคงไม่ให้แต่เพราะกัปตันของเราไม่ได้เจ้าระเบียบอะไรมากนักล่ะมั้ง
ทางชิโระจังก็เตือนให้ทุกคนวอร์อมร่างกายก่อนลงน้ำ
แต่มิเกะนี่ยิ่งกว่า กะจะถอดเสื้อโดดน้ำทั้งชุดชั้นในเลย ชิโระจังต้องรีบห้ามไว้
เนื่องจากว่าทางกรมฯ จำเป็นต้องสอบปากคำทามะจังที่ขึ้นไปยิงปืนใส่เรือในตอนที่แล้ว ทำให้ต้องรอจนกว่าการสอบปากคำจะเสร็จสิ้น
และอีกเหตุผลสำคัญที่ยังไม่กลับโรงเรียนคือ น้ำยังไม่เดือดครับ
มารอนจังก็ง่วนอยู่กับการทำให้น้ำเดือดเลยไม่ไปเล่นกับคนอื่นๆ
(แต่ความจริงเจ้าตัวชอบอยู่ในห้องเครื่องมากกว่าอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ต้องทำหน้าที่ก็คงนอนเล่นในห้องเครื่องนั่นแหละ)
เพราะว่าเรือยุค WWII เนี่ยใช้เครื่องยนต์กังหันไอน้ำ ต้องรอให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงทำน้ำในถังเดือดก่อน เพื่อส่งไอความร้อนและไอน้ำแรงดันสูงไปหมุนกังหันไอน้ำ (Turbine) แล้วก็จะไปหมุนเพลาข้อเหวี่ยงทำให้ใบจักรหมุนได้อีกที
ซึ่งกว่าน้ำจะเดือดต้องรอเวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว
ภาพโมเดลต้นฉบับก่อนใส่ข้อความ
http://nabeck.web.fc2.com/mfh04.htm
พวกสาวๆห้องเครื่องเปิดนิตยสารทำนายดวงชะตากัน ชิโระจังลองถามดูว่า ราศีเมถุนของเธอเป็นยังไงบ้าง
พบว่าอยู่ลำดับที่ 12 คือดวงซวยสุดๆ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้น้ำ ว่าแล้วก็โดนลูกหลงจากกลุ่มปืนใหญ่ยิงใส่เข้าให้
พอเห็นคำทำนายแม่นแบบนี้จึงชวนชิโระจังเล่นแบบทดสอบจิตวิทยาต่อ แต่ชิโระจังไม่เอาก็เลยไปชวนรินจังเล่นแทน
ทางทามะจังและเมจังก็อยู่ระหว่างถูกสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่กรมฯ
ทามะจังจำอะไรตอนที่คลั่งแล้วขึ้นไปยิงปืนไม่ได้เลย
ส่วนทางเมจังก็ปลอบใจว่านึกไม่ออกก็ไม่ต้องฝืนหรอกถ้าเป็นตัวเธอเองก็ยิงแหลกเหมือนกัน
(เดี๋ยวๆ อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานสิเมจัง)
ที่โรงพยาบาลครูฝึกฟุรุโชก็ได้สติแล้วและก็ถูกสอบปากคำเช่นกัน ซึ่งทางนี้แตกต่างออกไปคือตอนที่สั่งยิงฮาเระคาเสะจำได้หมดว่าทำอะไรลงไป
แต่ว่าไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้ทำแบบนั้น
ระหว่างนั้นมาชิโมะพี่สาวของชิโระจังก็เข้ามาคุยต่อและเรียกครูฝึกว่าฟุรุโชเซมไป
มาชิโมะนำบันทึกข้อมูลของซารุชิมะมาให้ดู แต่ว่าบันทึกช่วงที่เกิดการปะทะกันนั้นถูกลบออกไป ไม่สามารถกู้คืนได้
จากที่ครูฝึกฟุรุโชลองอ่านดูแล้วข้อมูลได้หายไปตั้งแต่เวลา 13:20 น.
ทางครูฝึกถามถึงฮาเระคาเสะว่าปลอดภัยดีมั้ย มาชิโมะบอกว่าเพราะกัปตัน เลยทำให้ทุกคนบนเรือปลอดภัยดี
ครูฝึกฟุรุโชวก็ตัดพ้อตัวเองว่าทั้งๆที่สั่งยิงเองแท้ๆแต่กลับไม่เข้าใจว่าตัวเองทำแบบนั้นทำไม
ระหว่างนี้ปู้อำนวยการก็ส่งข้อความแจ้งมาชิโมะว่าทางโรงเรียนโทวไมพบตำแหน่งของมุซาชิแล้ว มาชิโมะจึงขอตัวไปก่อน
กลับมาที่ฮาเระคาเสะ มี่จังใส่ชุดว่ายน้ำของโยโกสุกะ แต่ดันตัวเล็กไปหน่อย
ระหว่างทางเจอพี่น้องฝ่ายสหโภชณ์พอทักทายแต่กลับถูกหลบหน้าเหมือมปกปิดอะไรบางอย่าง
หลังจากการสอบปากคำทามะจังเสร็จ พวกเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเดี๋ยวทางโเรียนจะแจ้งบทลงโทษไปเองแต่ไม่ต้องกังวล
เพราะไม่ได้มีความเสียหายร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นคงจะแค่โดนว่ากล่าวตักเตือนมิเกะจึงเข้าไปให้กำลังใจทามะจัง
ระหว่างนั้นก็พบรินจังนั่งกอดเข่าอยู่ พอเข้าไปถามก็ทำให้รู้ว่าหลังจากเล่นแบบทดสอบจิตวิทยาแล้วพบว่ารินจังเป็นพวกซีเรียสและโลเล
ซึ่งรินจังคิดว่าก็จริงเพราะตั้งแต่เด็กๆเจออะไรน่ากลัวก็เอาแต่หนีตลอด
พอได้มาเห็นทะเลก็รู้สึกชอบทะเล ที่อยากเป็น Blue Mermaid เพราะถ้าอยู่ในทะเลจะได้ไม่มีที่ให้หนีอีก
แต่พอมาทำหน้าที่ถือท้ายก็ดันบังคับเรือหนีทั้งลำเลย
มิเกะจังบอกว่ามันก็ไม่ได้แย่เสมอไป ที่เรารอดจากการสู้รบมาได้ถึง 3 ครั้งเพราะรินจังเป็นคนพาหนี
บางทีนี่อาจเป้นความสามารถเฉพาะตัวของรินจังก็ได้
ทามะจังมาให้มินามิซังตรวจว่ามีไข้หรือไม่เพราะตอนที่คลั่งถูกมี่จังโยนลงทะเลไป
ก็โชคดีที่ไม่มีไข้ ระหว่างนั้นเมจังเล่นกับเจ้าหนูเจ้าปัญหาที่ถูกขังไว้ในกล่องอยู่ มินามิซังเลยห้ามไว้เพราะมันลอยมากับทะเลอาจจะมีเชื้อโรคติดมาได้
เมจังถามว่าไอ้ที่เก็บไว้เนี่ยคงไม่ได้เอามาไว้ผ่าพิสูจน์อะไรหรอกนะ
มินามิซังก็เลยยิ้มหวานให้....
แต่จังหวะนั้นเองนาฬิกาดิจิตอลของมินามิซังเกิดรวนขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ มินามิซังจึงจ้องมองเจ้าหนูตัวนั้นราวกับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกัน
ทางด้านครูฝึกโทวไมเดินทางมาเจอมุซาชิแล้วแต่ทันใดนั้นเองมุซาชิกลับหันปากกระบอกปืน 46cm แล้วซัลโวใส่ เรือของโทวไมเฉยเลย
*มุซาชิหมุนป้อมเร็วเวอร์มากครับ ตามข้อมูลแล้วป้อมใหญ่ขนาดนี้หมุนได้ราวๆ 2 องศาต่อวินาที นี่พี่แกเล่นหมุน 90 องศาในเวลาไม่กี่วิฯเฉยเลย
อาจจะเพราะมีระบบอัตโนมัติต่างๆติดตั้งเสริมเข้าไปเพื่อในนักเรียนฝึกเดินเรือได้สะดวกยิ่งขึ้น
เรือ 4 ของกองเรือโทวไมถูกยิงทำให้เครื่องยนต์หยุดทำงานไป 1 ลำ
มุซาชิเริ่มปรับมุมสูงปืนใหญ่และโหลดกระสุนเพื่อยิงนัดต่อไปอีกครั้ง ทางโทวไมพยายามส่งสัญญานไฟแต่ก็ไม่มีการตอบกลับ
รอง ผอ.ของโทวไมคิดว่านักเรียนอาจจะเข้าใจผิดว่ามาโจมตีก็ได้ เลยประกาศออกลำโพงให้ได้ยิน
แต่ว่าไม่เป็นผล แม้มุซาชิจะยังโหลดกระสุนปืนหลักไม่เสร็จแต่ก็หันปืนรอง 15.5cm มายิงใส่แทน
แม้จะไม่แรงเท่าปืนหลักแต่ก็ทำให้น้ำเข้าเรือได้
ทางโทวไมพยายามหาวิธีหยุดมุซาชิ ก็เลยคิดว่าจะยิงด้านข้างให้เป็นรูเมื่อน้ำเข้าแล้วเรือจะได้เอียง ปืนใหญ่จะได้ทำการยิงลำบากขึ้น
จึงได้สั่งยิงตอร์ปิโดออกไปจากช่อง VLS
ซึ่งไอ้ตอร์ปิโดที่ว่านี่มันคือ ASROC ครับ ปกติแล้วจะเอาไว้ปราบเรือดำน้ำ
เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่ใต้น้ำ มีส่วนที่เป็นจรวดขับดันติดกับตอร์ปิโดเพื่อยิงในระยะไกล เมื่อร่อนไปจนได้ระยะแล้วจะปลดส่วนขับดันทิ้งแล้วใช้ร่มช่วยลดความเร็วจะได้ไม่กระแทกน้ำแรงเกินไป
เมื่อลงน้ำแล้วตอร์ปิโดจะค้นหาเป้าหมายด้วยระบบโซนาร์ที่อยู่ในตัว
ASROC
แท่นยิงอาวุธนำวิถีแนวดิ่ง Mk-41 VLS ( Vertical Launching System ) 32 ท่อยิง
ติดตั้งที่ด้านหน้าของหอบังคับการ หลังปืน 5 นิ้วที่หัวเรือ
ตอร์ปิโดเข้าเป้าทุกลูก แต่ไม่สามารถเจาะเกราะที่หนานรกของมุซาชิที่หนาถึง 410 mm ได้
อาจเป็นเพราะเป็นลูกซ้อมด้วยเลยไม่แรงพอแม้จะเข้าทุกนัดก็ตาม
---------------------------------
กลับมาที่ฮาเระคาเสะ มิเกะจังจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้กับมี่จัง ทั้งเตรียมเค้กและปักเทียนให้เป่า เดี๋ยวนะนั่นมันงานวันเกิดแล้ว
มี่จังรู้สึกซาบซึ้ง และกล่าวว่าฮาเระคาเสะเป็นเรือที่ไร้ระเบียบ เหลาะแหละ กัปตันก็วางตัวไม่สมเป็นกัปตัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเรือที่มีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถึงจะเป็นเรือเล็กๆแต่ก็อยู่อย่างอบอุ่น เหมือนปราสาทสตาร์เคินบูร์ก
โคโคะจังบอกเปรียบเทียบเข้าใจยากไป มี่จังเลยบอกเหมือนไส้กรอกนูเรมเบิร์กที่เป็นไส้กรอกชิ้นเล็กแต่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นแทน
พอมีคนถามมี่จังถึงเรื่องที่ว่าทำไมใช้คำว่าวาชิซึ่งเป็นคำสรรพนามที่มีแต่คนสูงวัยใช้กันเรียกตัวเอง
มี่จังเลยบอกจำมาจากในหนัง คาดว่าเป็นหนังนักเลงสมัยก่อน เพราะแบบนี้เองเลยทำให้มี่จังเวลาองค์ลงจะพูดจาแบบนักเลงๆ
และทางสึกุจังก็ได้รับโทรเลขจากโรงเรียนแจ้งถึงพิกัดของมุซาชิ เนื่องจากได้ขาดการติดต่อกับโรงเรียนโทวไมไปจึงได้ร้องขอให้ฮาเระคาเสะที่อยู่ใกล้ที่สุด(?) ไปในพื้นที่แล้วรายงานสถานการณ์มา
มิเกะจังจึงสั่งให้ฮาเระคาเสะออกเรือทันที
*ต่อ
l l