ทางผู้อำนวยการได้อ่านรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรือครูฝึกโทไมกับมุซาชิ
พบว่าทางด้านเรือครูฝึกโทไมไม่สามารถทำอะไรมุซาชิได้ทั้งที่เป็นเรือสมัยใหม่
แถมระบบอิเล็กทรอนิกส์กับอาวุธนำวิถีเองก็ใช้การไม่ได้ด้วย
ทางมุซาชิเองก็ยังเหลือเชื้อเพลิงและยุทโธปกรณ์ถึง 80% เลย
ระหว่างนั้นก็มีรายงานเรือที่ขาดการติดต่อเพิ่มเติม รวมถึงแอดมิรัล กราฟ ชเปของทางเยอรมันด้วย
(แล้วทีตอนก่อนๆดันเรียกแบบไม่เต็มไอ้เราก็นึกว่าทีมงานอนิตั้งชื่อใหม่ให้เป็นลำใหม่ไปเลยซะอีก)
จนตอนนี้เหลือเรือที่ยังติดต่อได้และยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่คือ
หน้าที่ส่งกำลังบำรุง มามิยะ, อาคาชิ, คาซาฮายะ
หน้าที่คุ้มกัน อากิคาเสะ,ฮามะคาเสะ, ไมคาเสะ
หน้าที่ลาดตระเวณ นาการะ, ฮาเระคาเสะ, อุระคาเสะ, ฮากิคาเสะ, ทานิคาเสะ
ส่วนเรือที่ยังจอดอยู่ในอู่คือ ยามาชิโระ, คากะ, อาคากิ, อิบูกิ, อิโคมะ
*ตรงนี้ไม่แน่ใจว่า อาคากิกับคากะถูกสร้างเป็นเรือประเภทไหน ในสงครามใช้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินก็จริง
แต่ทีแรกญี่ปุ่นตั้งใจว่าจะสร้างให้เป็นเรือประจัญบานครับ
ถ้าจะใช้เรือพวกนี้ก็ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือนในการออกตามหามุซาชิและเรือลำอื่นๆ ถึงใช้เรือพิฆาตก็ต้องใช้เวลา 3 เดือน
ดังนั้นเรือที่อยู่ใกล้กับมุซาชิที่สุดก็มีแต่ฮาเระคาเสะเท่านั้น
===ตัดเข้า OP===
ทางด้านมุซาชิก็กำลังแล่นหนีไป กัปตันไมค์ เอ้ย มิเกะที่ชนโขดหินตอนที่แล้วปลอดภัยดี สคิปเปอร์(เจ็ทสกี) เองก็เช่นกันทีแรกนึกว่าจะพังแล้ว
ก็เลยรีบขับกลับฮาเระคาเสะ พลางคิดถึงตอนที่ถูกชิโระจังดุ ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะจะเป็นกัปตันจริงๆ
พอกลับขึ้นฮาเระคาเสะคนที่มารับก็คือรินจัง เห็นว่ามิเกะตัวเปียกอยู่เลยให้ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย
ส่วนบนสะพาน เมื่อรินจังไม่อยู่ก็เลยให้ซาโต้จังมาถือท้ายแทน
จริงๆเธอควรจะเป็นคนถือท้ายมานานแล้วครับ เพราะมีตำแหน่งเป็นหนักงานเดินเรือ ปล่อยให้ต้นหนมาถือท้ายตั้งนาน
*บางคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าต้นหนต้องคอยขับเรือ ไม่ใช่นะครับ
คนที่คอบควบคุมพังงานี่คือคนถือท้าย
ส่วนต้นหนนั้นจริงๆแล้วต้องมีหน้าที่หาตำแหน่ง กำหนดเส้นทางเดินเรือ นำข้อมูลที่ได้มาเสนอกัปตันว่าควรจะต้องเดินเรืออย่างไร
แต่กลายเป็นว่าในอนิเมให้เป็นหน้าที่ของโคโคะจังแทน อาจจะด้วยเรื่องที่ว่าเดี๋ยวบนสะพานคนมันจะเยอะไป จะได้เอาไว้ให้ตัวละครเด่นๆออกกันเท่านั้นก็ได้ครับ ไม่งั้นตัวละครมันมาอัดกันในสะพานเยอะแน่
ซาโต้จังเองก็มีสำเนียงการพูดอีกแบบผมไม่แน่ใจเป็นสำเนียงของทางไหน และมีการลงท้ายคำพูดด้วยโซนะอีกด้วย
พอต้นเรือถามถึงตำแหน่งตอนนี้ก็
เพราะตอนที่หนีเอาแต่โกบแน่บไม่สนทิศทาง ไปทางไหนก็ไม่รู้ พอให้ยาม sector ทั้ง 2 และมัจจิหาบริเวณโดยรอบก็ไม่พบอะไร
แถมเรดาห์ โซนาร์ วิทยุก็ใช้การไม่ได้อีก เนื่องจากสัญญานถูกรบกวนแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นอยู่ก็ไม่ทันสังเกตว่ามีหนูผีตัวใหม่ขึ้นมาบนเรือแล้ว
ชิโระจังให้มัจจิใช้ดาราศาสตร์ในการนำทาง
หลังจากนั้นยาม sector ทั้งสอง สามารถระบุพิกัดได้แล้วคือ
35 องศา15 ลิปดา 29 ฟิลิปดา เหนือ
136 องศา 4 ลิปดา 35 ฟิลิปดา ตะวันออก
เมื่อนำโคโคะจังนำไปตรวจสอบก็พบว่าอยู่ที่
ที่ห้องอาบน้ำก็เป็นเวลาอาบน้ำของพวกที่ห้องเครื่องพอดี ทุกคนสงสัยว่ากัปตันลงมาทำอะไร
มารอนจังเห็นว่ากัปตันเปียกโชกมาเลยสั่งให้ทุกคนรีบๆเข้าไปอาบน้ำ อาจจะมีเรื่องด่วนอะไรมาก็ได้
รวมถึงชวนมี่จังกับรินจังเข้ามาอาบด้วยกัน
ทางด้านพวกลุงๆของกรมสนับสนุนความปลอดภัยทางทะเลก็ประชุมเรื่องของมุซาชิว่าจะจัดการยังไงดี
เมื่ออาวุธนำวิถีใช้ไม่ได้ก็เอาปืน 18 นิ้วที่ทัดเทียมกันมาสู้ดีมั้ย
ก็เลยมีการพูดถึงยามาโตะ และชินาโนะ
ชินาโนะเป็นเรือลำดับที่ 3 ในชั้นยามาโตะ ภายหลังทางญี่ปุ่นเปลี่ยนมาสร้างเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินแทน เพราะมีประสิทธิภาพในการรบมากกว่า
แต่ดูจากบทพูดแล้วในโลกนี้ชินาโนะน่าจะถูกสร้างมาเป็นเรือประจัญบานแบบเดียวกับยามาโตะและมุซาชิโดยมีปืน 18 นิ้วเช่นกัน
เรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ
และอีกลำที่ถูกพูดถึงคือเรือประจัญบานชั้นคี
เป็นเรือที่ญี่ปุ่นออกแบบไว้ในโครงการ กองเรือ 8-8 คือ เรือประจัญบาน 8 ลำ และเรือลาดตระเวณประจัญบาน 8 ลำ
แต่เนื่องจากสนธิสัญญานาวิกวอชิงตันที่จำกัดไม่ให้สร้างเรือขนาดใหญ่เกินไป โดยต้องมีระวางขับน้ำไม่เกิน 35,000 ตัน
และบรรทุกปืนใหญ่ห้ามเกิน 16 นิ้ว
เรือประจัญบานชั้นคี ที่คาดว่ามีระวางขับน้ำ 41,900 ตัน และติดปืน 16 นิ้ว 5 ป้อม เลยต้องยกเลิกการสร้างไป
แต่ในอนิเมน่าจะไม่มีสนธิสัญญาตัวนี้ ทำให้สร้างได้สำเร็จ
เพียงแต่อยู่ที่ท่าเรือซาเซโบะ การจะเดินทางไปถึงมุซาชิต้องใช้เวลานานเลยเป็นอันตกไป
ที่ห้องอาบน้ำเป็นโอกาสดีที่พวกมารอนจังจะคุยกับกัปตันเลยถามถึงสถานการณ์ข้างนอกว่าเป็นยังไงบ้าง
ส่วนคุโระจังก็พูดเหน็บว่าถ้ามิเกะยังเป็นกัปตันอยู่แบบนี้เดี๋ยวก็ได้ทิ้งเรือไปอีก ไม่คิดว่ามีใครเหมาะจะเป็นกัปตันมากกว่าเหรอ
(แน่นอนว่าเธออวยชิโระจังอยู่)
แต่แล้วก็โดนมารอนจังดุเข้าให้
ด้านนอกฝ่ายป้องกันความเสียหายพบว่ามีรูโหว่ทางหัวเรือและมีน้ำมันรั่วซึมออกมาเล็กน้อย
หลังจากอาบน้ำเสร็จ คุโระจังก็ยังตามมาเหน็บต่อว่าก่อนจะห่วงเรื่องคนอื่น (มุซาชิ) ให้ดูแลเรือตัวเองให้ดีก่อนดีกว่า
มี่จังบอกว่า กัปตันของมุซาชิคงเหมือนกัปตันของเธอ เวลามีเรื่องไม่สบายใจก็จะไม่แสดงออกมาเพราะเดี๋ยวจะทำให้ลูกเรือรู้สึกแย่ไปด้วย
มิเกะบอกว่าตัวเองคงเป็นกัปตันแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ
แต่มี่จังก็ให้กำลังใจ เพราะได้มิเกะช่วยไว้เลยทำให้ยังมีชีวิตอยู่
รินจังเองก็ด้วยที่ได้คุยกันก่อนหน้านี้ทำให้รินจังกล้าเผชิญหน้ากับความกลัวได้
ทางมินามิซังส่องกล้องและเหมือนจะพบอะไรบางอย่างเข้า
สึกุจังมาที่สะพานเพื่อแจ้งว่าตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเจอสัญญานรบกวนทำให้ระบบต่างๆใช้การไม่ได้ก็เลยใช้ดาวน์ซิ่งหาดูว่าสัญญานรบกวนมาจากทางไหน
และก็พบว่าต้นกำเนินมาจากห้องพยาบาลเมื่อเปิดเข้าไปก็พบมินามิซังทำหน้าหลอนกำลังจะลงมีดกับเจ้าหนูพอดี
ทันใดนั้นก็มีหนูตัวใหม่เข้ามาอีก อิโซโรคุเลยวิ่งไล่จับ วุ่นไปหมด
หลังจากที่อิโซโรคุจับหนูได้ ระบบต่างๆก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
มินามิซังก็บอกห้ามแตะต้องเพราะมันไม่ใช่หนูธรรมดาแต่เป็นหนูที่มีการดัดแปลงพันธุกรรมและเป็นพาหะของเชื้อไวรัส
มีผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หยุดทำงาน
จากตัวอย่างเลือดของทามะจังเองก็พบไวรัสแบบเดียวกันนี้ด้วย ทำให้รู้ว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้คลุ้มคลั่งขึ้นมา
*ในภาพเสกลไม่ได้เพี้ยนนะครับ แต่มินามิซังตัวเล็กมาก เพราะสูงแค่ 143 ซ.ม.
การค้นพบที่ยิ่งใหญ่นี้มิเกะก็เลยยกให้อิโซโรคุเอายศพลเรือเอกไปเลย
ทามะจังเพิ่ม "ได" ให้ ก็เลยเอาเป็นจอมพลเรือเลยละกัน
โคโคะจังก็สงสัยว่าเสนอชื่อแมวให้เป็นจอมพลจะไม่เป็นไรเหรอ
ส่วนชิโระจังก็บอกว่าก่อนจะสนใจเรื่องนั้น ไอ้เรื่องสำคัญแบบนี้มันต้องรายงานโรงเรียนก่อนสิ
ขณะนั้นมัจจิสังเกตเห็นทุ่นระเบิดข้างหน้าทำให้ฮาเระคาเสะโดนระเบิดไป 1 ลูก
ช่วงรุ่งสางขณะอยู่กลางดงทุ่นระเบิดก็มีหมอกลงมาอีกทำให้ฮาเระคาเสะแล่นไปไหนไม่ได้
มาริโควจิซังตรวจสอบจากโซนาร์พบว่าไม่ได้มีแค่ชนิดที่ลอยบนผิวน้ำ
แต่ยังมีทั้งแบบทอดประจำที่ (Moored mines)
ทุ่นระเบิดลึก (Captor mines)
และทุ่นระเบิดแบบวางติดกับพื้นทะเล (ฺBottom mines)
1, 2 - ทุ่นระเบิดชนิดลอยตามกระแสน้ํา (Drifting mines)
3, 4 - ทุ่นระเบิดทอดประจำที่ (Moored mines)
5 - ทุ่นระเบิดแบบวางติดกับพื้นท้องทะเล (ฺBottom mines)
6,7 - ทุ่นระเบิดลึก (Captor mines)
แบบทุ่นระเบิดทอดประจำที่นั้น ตัวทุ่นระเบิดจะสามารถลอยน้ำอยู่บนผิวน้ำได้
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจะสังเกตเห็นได้ง่าย เลยต้องทำให้อยู่ต่ำกว่าผิวน้ำหน่อยโดยการใช้สวดยึดเข้ากับเครื่องถ่วง (Anchor)
ระดับความลึกก็ปรับตามความยาวของลวดเอา
*ภาพประกอบจากตำราหลักสูตรกวาดทุ่นระเบิดสัญญาบัตร แผนกการทุ่นระเบิด กองฝึกการอาวุธ กองการฝึก กองเรือยุทธการ
ทุ่นระเบิดลึก เป็นทรงแคปซูลมี homing Torpedo อยู่ข้างในครับ เอาไว้สำหรับต่อต้านเรือดำน้ำ
เมื่อโซนาร์ตรวจจับได้ก็จะยิงตอร์ปิโดแบบติดตามออกไป
http://www.navweaps.com/Weapons/WAMUS_Mines.php
ทุ่นระเบิดแบบวางติดกับพื้นท้องทะเล เป็นทุ่นระเบิดที่ออกแบบมาให้ไม่มีกำลังลอย
วางอยู่บนพื้นท้องทะเล ข้อดีของทุ่นระเบิดประเภทนี้คือตรวจพบได้ยากและสามารถบรรจุดินระเบิดได้จำนวนมากกว่า
-แบบอิทธิพล จะเกิดการระเบิด เมื่อระบบตรวจจับ( SENSORS )ของทุ่น ฯ
สามารถตรวจวัดค่าอิทธิพล( SIGNATURES ) ต่าง ๆ เช่นเสียง ความดัน และแม่เหล็กได้ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนด
-แบบควบคุม จะทำการระเบิดเมื่อได้รับสัญญาณกระตุ้นจากหน่วยควบคุมระยะไกล
โดยอาจผ่านทางสายสัญญาณใต้น้ำ ( UNDERWATER CABLE) หรือสัญญาณเสียงใต้น้ำ ( UNDERWATER ACOUSTIC )
ทุ่นระเบิดประเภทนี้เหมาะในการป้องกันท่าเรือหรือพื้นที่สำคัญเฉพาะแห่ง
http://www.navy.mil/navydata/policy/vision/vis02/vpp02-ch3r.html
ตัวอย่างการทำงานของทุ่นฯ ที่ใช้การระเบิดจากอิทธิพลความดัน
*ภาพประกอบจากตำราหลักสูตรกวาดทุ่นระเบิดสัญญาบัตร แผนกการทุ่นระเบิด กองฝึกการอาวุธ กองการฝึก กองเรือยุทธการ
[Spoil] High School Fleet (Hai-Furi) ตอนที่ 6 - วิกฤตการณ์กลางดงทุ่นระเบิด
พบว่าทางด้านเรือครูฝึกโทไมไม่สามารถทำอะไรมุซาชิได้ทั้งที่เป็นเรือสมัยใหม่
แถมระบบอิเล็กทรอนิกส์กับอาวุธนำวิถีเองก็ใช้การไม่ได้ด้วย
ทางมุซาชิเองก็ยังเหลือเชื้อเพลิงและยุทโธปกรณ์ถึง 80% เลย
ระหว่างนั้นก็มีรายงานเรือที่ขาดการติดต่อเพิ่มเติม รวมถึงแอดมิรัล กราฟ ชเปของทางเยอรมันด้วย
(แล้วทีตอนก่อนๆดันเรียกแบบไม่เต็มไอ้เราก็นึกว่าทีมงานอนิตั้งชื่อใหม่ให้เป็นลำใหม่ไปเลยซะอีก)
จนตอนนี้เหลือเรือที่ยังติดต่อได้และยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่คือ
หน้าที่ส่งกำลังบำรุง มามิยะ, อาคาชิ, คาซาฮายะ
หน้าที่คุ้มกัน อากิคาเสะ,ฮามะคาเสะ, ไมคาเสะ
หน้าที่ลาดตระเวณ นาการะ, ฮาเระคาเสะ, อุระคาเสะ, ฮากิคาเสะ, ทานิคาเสะ
ส่วนเรือที่ยังจอดอยู่ในอู่คือ ยามาชิโระ, คากะ, อาคากิ, อิบูกิ, อิโคมะ
*ตรงนี้ไม่แน่ใจว่า อาคากิกับคากะถูกสร้างเป็นเรือประเภทไหน ในสงครามใช้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินก็จริง
แต่ทีแรกญี่ปุ่นตั้งใจว่าจะสร้างให้เป็นเรือประจัญบานครับ
ถ้าจะใช้เรือพวกนี้ก็ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือนในการออกตามหามุซาชิและเรือลำอื่นๆ ถึงใช้เรือพิฆาตก็ต้องใช้เวลา 3 เดือน
ดังนั้นเรือที่อยู่ใกล้กับมุซาชิที่สุดก็มีแต่ฮาเระคาเสะเท่านั้น
===ตัดเข้า OP===
ทางด้านมุซาชิก็กำลังแล่นหนีไป กัปตันไมค์ เอ้ย มิเกะที่ชนโขดหินตอนที่แล้วปลอดภัยดี สคิปเปอร์(เจ็ทสกี) เองก็เช่นกันทีแรกนึกว่าจะพังแล้ว
ก็เลยรีบขับกลับฮาเระคาเสะ พลางคิดถึงตอนที่ถูกชิโระจังดุ ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะจะเป็นกัปตันจริงๆ
พอกลับขึ้นฮาเระคาเสะคนที่มารับก็คือรินจัง เห็นว่ามิเกะตัวเปียกอยู่เลยให้ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย
ส่วนบนสะพาน เมื่อรินจังไม่อยู่ก็เลยให้ซาโต้จังมาถือท้ายแทน
จริงๆเธอควรจะเป็นคนถือท้ายมานานแล้วครับ เพราะมีตำแหน่งเป็นหนักงานเดินเรือ ปล่อยให้ต้นหนมาถือท้ายตั้งนาน
*บางคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าต้นหนต้องคอยขับเรือ ไม่ใช่นะครับ
คนที่คอบควบคุมพังงานี่คือคนถือท้าย
ส่วนต้นหนนั้นจริงๆแล้วต้องมีหน้าที่หาตำแหน่ง กำหนดเส้นทางเดินเรือ นำข้อมูลที่ได้มาเสนอกัปตันว่าควรจะต้องเดินเรืออย่างไร
แต่กลายเป็นว่าในอนิเมให้เป็นหน้าที่ของโคโคะจังแทน อาจจะด้วยเรื่องที่ว่าเดี๋ยวบนสะพานคนมันจะเยอะไป จะได้เอาไว้ให้ตัวละครเด่นๆออกกันเท่านั้นก็ได้ครับ ไม่งั้นตัวละครมันมาอัดกันในสะพานเยอะแน่
ซาโต้จังเองก็มีสำเนียงการพูดอีกแบบผมไม่แน่ใจเป็นสำเนียงของทางไหน และมีการลงท้ายคำพูดด้วยโซนะอีกด้วย
พอต้นเรือถามถึงตำแหน่งตอนนี้ก็
เพราะตอนที่หนีเอาแต่โกบแน่บไม่สนทิศทาง ไปทางไหนก็ไม่รู้ พอให้ยาม sector ทั้ง 2 และมัจจิหาบริเวณโดยรอบก็ไม่พบอะไร
แถมเรดาห์ โซนาร์ วิทยุก็ใช้การไม่ได้อีก เนื่องจากสัญญานถูกรบกวนแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นอยู่ก็ไม่ทันสังเกตว่ามีหนูผีตัวใหม่ขึ้นมาบนเรือแล้ว
ชิโระจังให้มัจจิใช้ดาราศาสตร์ในการนำทาง
หลังจากนั้นยาม sector ทั้งสอง สามารถระบุพิกัดได้แล้วคือ
35 องศา15 ลิปดา 29 ฟิลิปดา เหนือ
136 องศา 4 ลิปดา 35 ฟิลิปดา ตะวันออก
เมื่อนำโคโคะจังนำไปตรวจสอบก็พบว่าอยู่ที่
ที่ห้องอาบน้ำก็เป็นเวลาอาบน้ำของพวกที่ห้องเครื่องพอดี ทุกคนสงสัยว่ากัปตันลงมาทำอะไร
มารอนจังเห็นว่ากัปตันเปียกโชกมาเลยสั่งให้ทุกคนรีบๆเข้าไปอาบน้ำ อาจจะมีเรื่องด่วนอะไรมาก็ได้
รวมถึงชวนมี่จังกับรินจังเข้ามาอาบด้วยกัน
ทางด้านพวกลุงๆของกรมสนับสนุนความปลอดภัยทางทะเลก็ประชุมเรื่องของมุซาชิว่าจะจัดการยังไงดี
เมื่ออาวุธนำวิถีใช้ไม่ได้ก็เอาปืน 18 นิ้วที่ทัดเทียมกันมาสู้ดีมั้ย
ก็เลยมีการพูดถึงยามาโตะ และชินาโนะ
ชินาโนะเป็นเรือลำดับที่ 3 ในชั้นยามาโตะ ภายหลังทางญี่ปุ่นเปลี่ยนมาสร้างเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินแทน เพราะมีประสิทธิภาพในการรบมากกว่า
แต่ดูจากบทพูดแล้วในโลกนี้ชินาโนะน่าจะถูกสร้างมาเป็นเรือประจัญบานแบบเดียวกับยามาโตะและมุซาชิโดยมีปืน 18 นิ้วเช่นกัน
เรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ
และอีกลำที่ถูกพูดถึงคือเรือประจัญบานชั้นคี
เป็นเรือที่ญี่ปุ่นออกแบบไว้ในโครงการ กองเรือ 8-8 คือ เรือประจัญบาน 8 ลำ และเรือลาดตระเวณประจัญบาน 8 ลำ
แต่เนื่องจากสนธิสัญญานาวิกวอชิงตันที่จำกัดไม่ให้สร้างเรือขนาดใหญ่เกินไป โดยต้องมีระวางขับน้ำไม่เกิน 35,000 ตัน
และบรรทุกปืนใหญ่ห้ามเกิน 16 นิ้ว
เรือประจัญบานชั้นคี ที่คาดว่ามีระวางขับน้ำ 41,900 ตัน และติดปืน 16 นิ้ว 5 ป้อม เลยต้องยกเลิกการสร้างไป
แต่ในอนิเมน่าจะไม่มีสนธิสัญญาตัวนี้ ทำให้สร้างได้สำเร็จ
เพียงแต่อยู่ที่ท่าเรือซาเซโบะ การจะเดินทางไปถึงมุซาชิต้องใช้เวลานานเลยเป็นอันตกไป
ที่ห้องอาบน้ำเป็นโอกาสดีที่พวกมารอนจังจะคุยกับกัปตันเลยถามถึงสถานการณ์ข้างนอกว่าเป็นยังไงบ้าง
ส่วนคุโระจังก็พูดเหน็บว่าถ้ามิเกะยังเป็นกัปตันอยู่แบบนี้เดี๋ยวก็ได้ทิ้งเรือไปอีก ไม่คิดว่ามีใครเหมาะจะเป็นกัปตันมากกว่าเหรอ
(แน่นอนว่าเธออวยชิโระจังอยู่)
แต่แล้วก็โดนมารอนจังดุเข้าให้
ด้านนอกฝ่ายป้องกันความเสียหายพบว่ามีรูโหว่ทางหัวเรือและมีน้ำมันรั่วซึมออกมาเล็กน้อย
หลังจากอาบน้ำเสร็จ คุโระจังก็ยังตามมาเหน็บต่อว่าก่อนจะห่วงเรื่องคนอื่น (มุซาชิ) ให้ดูแลเรือตัวเองให้ดีก่อนดีกว่า
มี่จังบอกว่า กัปตันของมุซาชิคงเหมือนกัปตันของเธอ เวลามีเรื่องไม่สบายใจก็จะไม่แสดงออกมาเพราะเดี๋ยวจะทำให้ลูกเรือรู้สึกแย่ไปด้วย
มิเกะบอกว่าตัวเองคงเป็นกัปตันแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ
แต่มี่จังก็ให้กำลังใจ เพราะได้มิเกะช่วยไว้เลยทำให้ยังมีชีวิตอยู่
รินจังเองก็ด้วยที่ได้คุยกันก่อนหน้านี้ทำให้รินจังกล้าเผชิญหน้ากับความกลัวได้
ทางมินามิซังส่องกล้องและเหมือนจะพบอะไรบางอย่างเข้า
สึกุจังมาที่สะพานเพื่อแจ้งว่าตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเจอสัญญานรบกวนทำให้ระบบต่างๆใช้การไม่ได้ก็เลยใช้ดาวน์ซิ่งหาดูว่าสัญญานรบกวนมาจากทางไหน
และก็พบว่าต้นกำเนินมาจากห้องพยาบาลเมื่อเปิดเข้าไปก็พบมินามิซังทำหน้าหลอนกำลังจะลงมีดกับเจ้าหนูพอดี
ทันใดนั้นก็มีหนูตัวใหม่เข้ามาอีก อิโซโรคุเลยวิ่งไล่จับ วุ่นไปหมด
หลังจากที่อิโซโรคุจับหนูได้ ระบบต่างๆก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
มินามิซังก็บอกห้ามแตะต้องเพราะมันไม่ใช่หนูธรรมดาแต่เป็นหนูที่มีการดัดแปลงพันธุกรรมและเป็นพาหะของเชื้อไวรัส
มีผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หยุดทำงาน
จากตัวอย่างเลือดของทามะจังเองก็พบไวรัสแบบเดียวกันนี้ด้วย ทำให้รู้ว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้คลุ้มคลั่งขึ้นมา
*ในภาพเสกลไม่ได้เพี้ยนนะครับ แต่มินามิซังตัวเล็กมาก เพราะสูงแค่ 143 ซ.ม.
การค้นพบที่ยิ่งใหญ่นี้มิเกะก็เลยยกให้อิโซโรคุเอายศพลเรือเอกไปเลย
ทามะจังเพิ่ม "ได" ให้ ก็เลยเอาเป็นจอมพลเรือเลยละกัน
โคโคะจังก็สงสัยว่าเสนอชื่อแมวให้เป็นจอมพลจะไม่เป็นไรเหรอ
ส่วนชิโระจังก็บอกว่าก่อนจะสนใจเรื่องนั้น ไอ้เรื่องสำคัญแบบนี้มันต้องรายงานโรงเรียนก่อนสิ
ขณะนั้นมัจจิสังเกตเห็นทุ่นระเบิดข้างหน้าทำให้ฮาเระคาเสะโดนระเบิดไป 1 ลูก
ช่วงรุ่งสางขณะอยู่กลางดงทุ่นระเบิดก็มีหมอกลงมาอีกทำให้ฮาเระคาเสะแล่นไปไหนไม่ได้
มาริโควจิซังตรวจสอบจากโซนาร์พบว่าไม่ได้มีแค่ชนิดที่ลอยบนผิวน้ำ
แต่ยังมีทั้งแบบทอดประจำที่ (Moored mines)
ทุ่นระเบิดลึก (Captor mines)
และทุ่นระเบิดแบบวางติดกับพื้นทะเล (ฺBottom mines)
1, 2 - ทุ่นระเบิดชนิดลอยตามกระแสน้ํา (Drifting mines)
3, 4 - ทุ่นระเบิดทอดประจำที่ (Moored mines)
5 - ทุ่นระเบิดแบบวางติดกับพื้นท้องทะเล (ฺBottom mines)
6,7 - ทุ่นระเบิดลึก (Captor mines)
แบบทุ่นระเบิดทอดประจำที่นั้น ตัวทุ่นระเบิดจะสามารถลอยน้ำอยู่บนผิวน้ำได้
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจะสังเกตเห็นได้ง่าย เลยต้องทำให้อยู่ต่ำกว่าผิวน้ำหน่อยโดยการใช้สวดยึดเข้ากับเครื่องถ่วง (Anchor)
ระดับความลึกก็ปรับตามความยาวของลวดเอา
*ภาพประกอบจากตำราหลักสูตรกวาดทุ่นระเบิดสัญญาบัตร แผนกการทุ่นระเบิด กองฝึกการอาวุธ กองการฝึก กองเรือยุทธการ
ทุ่นระเบิดลึก เป็นทรงแคปซูลมี homing Torpedo อยู่ข้างในครับ เอาไว้สำหรับต่อต้านเรือดำน้ำ
เมื่อโซนาร์ตรวจจับได้ก็จะยิงตอร์ปิโดแบบติดตามออกไป
http://www.navweaps.com/Weapons/WAMUS_Mines.php
ทุ่นระเบิดแบบวางติดกับพื้นท้องทะเล เป็นทุ่นระเบิดที่ออกแบบมาให้ไม่มีกำลังลอย
วางอยู่บนพื้นท้องทะเล ข้อดีของทุ่นระเบิดประเภทนี้คือตรวจพบได้ยากและสามารถบรรจุดินระเบิดได้จำนวนมากกว่า
-แบบอิทธิพล จะเกิดการระเบิด เมื่อระบบตรวจจับ( SENSORS )ของทุ่น ฯ
สามารถตรวจวัดค่าอิทธิพล( SIGNATURES ) ต่าง ๆ เช่นเสียง ความดัน และแม่เหล็กได้ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนด
-แบบควบคุม จะทำการระเบิดเมื่อได้รับสัญญาณกระตุ้นจากหน่วยควบคุมระยะไกล
โดยอาจผ่านทางสายสัญญาณใต้น้ำ ( UNDERWATER CABLE) หรือสัญญาณเสียงใต้น้ำ ( UNDERWATER ACOUSTIC )
ทุ่นระเบิดประเภทนี้เหมาะในการป้องกันท่าเรือหรือพื้นที่สำคัญเฉพาะแห่ง
http://www.navy.mil/navydata/policy/vision/vis02/vpp02-ch3r.html
ตัวอย่างการทำงานของทุ่นฯ ที่ใช้การระเบิดจากอิทธิพลความดัน
*ภาพประกอบจากตำราหลักสูตรกวาดทุ่นระเบิดสัญญาบัตร แผนกการทุ่นระเบิด กองฝึกการอาวุธ กองการฝึก กองเรือยุทธการ