Lofoten in Winter: ย่ำหิมะริมชายหาดทรายขาว นอนพักบ้านชาวประมง ชมวิวฟยอร์ด ดูยอดภูเขา และฟินให้สุดกับการเฝ้ารอถ่ายรูปกับแสงเหนือ
(คำโปรยข้างบนนี่สรุปหมดแล้วนะครับทั้งทริป ไม่ต้องอ่านที่เหลือแล้วก็ได้)
ขอตั้งชื่อภาษาอังกฤษนิดนึง
Lofoten in Winter: An Arctic Adventure and The Northern Lights Hunt in a Winter Wonderland.
สวัสดีครับทุกท่าน ผมก็เหมือนหลายคนในนี้ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดตามอ่านกระทู้เรื่องเล่าจากสมาชิกท่านอื่นๆเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวต่างๆ เอาเป็นว่าถ้าอยากหาข้อมูลท่องเที่ยวภาษาไทยนะ ผมพิมพ์ชื่อสถานที่ที่สนใจ ร่วมกับคำว่า pantip ส่วนใหญ่ จริงๆก็ทั้งหมดหละ ต้องเจอว่ามีกระทู้ในพันทิพเล่าเรื่องเกี่ยวกับสถานที่นั้นแล้วทั้งนั้น (คนไทยเที่ยวไม่แพ้ชาติใดในโลก 555)
---ความเดิมตอนที่แล้ว (หะ?? ได้ข่าวว่านี่โพสแรกไม่ช่ายหรา ความเดิมมาได้ไง )
จากปีที่แล้วผมกับเพื่อนๆไปเที่ยวตามหาแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์กันมา ซึ่งโชคดีมากได้เห็นแสงเหนือเป็นครั้งแรกวันที่ 17 มีนาคม 2558 มีทั้งความประทับใจ และมีสิ่งที่ค้างคาใจถึงทุกวันนี้คือ วันนั้นเป็นวันที่แสงเหนือแรงสุดในรอบ 10 ปี สำนักข่าว CNN, BBC รายงานข่าวกันใหญ่โต เนื่องจากโอกาสเกิดอย่างนี้มันยากมาก โอกาสที่ว่าคือมีคนเห็นและถ่ายภาพแสงเหนือกันได้ไกลลงมาจากเขตขั้วโลกถึงฝรั่งเศส อังกฤษ นิวยอร์กด้านเหนือๆ หรือทางซีกโลกใต้ก็เห็นแสงใต้ไกลจากขั้วโลกใต้ถึงในออสเตรเลียตอนใต้ นิวซีแลนด์
แต่ แต่ ครับ ทั้งที่คืนนั้นพวกเราเห็นแสงเหนือด้วยตาเปล่าตั้งแต่หัวค่ำเขียวเข้มมากๆ ด้วยความที่เป็นมือใหม่หัดดูแสงเหนือครับคิดว่าจะเห็นอย่างนี้ทั้งคืน ต่างคนก็ไปอาบน้ำ เตรียมอาหาร นัดกันว่าจะออกไปหาที่มืดๆนอกหมู่บ้านถ่ายรูปแสงเหนือกันสักสี่ห้าทุ่ม ผมแต่งตัวเสร็จก่อนก็ออกมารอที่หน้าบ้านพัก ประมาณสามทุ่มกว่าช่วงนั้นนี่แสงเขียวเข้มเป็นเส้นโค้งข้ามหัวพาดผ่านทั้งท้องฟ้า มีเส้นแสงพุ่งทิ่มลงจากฟ้าประหนึ่งว่าแสงตกใส่หน้าตอนที่ผมแหงนหน้ามอง ผมตื่นเต้นมากอะตอนนั้นทั้งอยากจะถ่ายภาพแสงเหนือให้ได้ ทั้งอยากที่จะจ้องมองแสงเหนือให้เต็มตา (แต่มีเสียงในหัวผมบอกว่า เมื่อไรสมาชิกจะพร้อมซักทีเนี่ย รอนานแล้วนะเฟร้ย) กว่าสมาชิกจะพร้อมกันทั้งหมดและขับรถออกไปหาสถานที่ฟ้ามืดประกฎว่าแสงเหนือเริ่มจางไปแล้ว สรุปคืนนั้นมีผมใช้กล้อง action cam ถ่ายภาพแสงเหนือคืนที่แรงสุดๆนั้นได้อยู่ 7-8 ภาพอยู่คนเดียว (ที่จริงมีถ่ายติดด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือกันด้วยเพราะแสงเขียวเข้มมาก ซึ่งก่อนมามีแต่คนบอกว่าโทรศัพท์มือถือถ่ายแสงเหนือไม่ติด แต่นี่เป็นโอกาสหายากจริงๆ ผมไม่อยากจะนับรวมเลย 55)
และนั่นก็คือเรื่องที่ค้างคาใจให้กลับมาตามล่าถ่ายภาพแสงเหนือกันอีก แต่พอผมเปรยว่าจะกลับมาไอซ์แลนด์อีกก็จะได้ยินเสียงคนข้างๆบอกว่า “แกจะไม่ไปที่อื่นบ้างหรือไง จะไปแต่ไอซ์แลนด์เหรอ” ฮ่าๆ เป็นโจทย์ที่ท้าทายนัก ผมเลยต้องมองหาสถานที่ดูแสงเหนือที่อื่นบ้าง จากแผนที่ในกูเกิ้ล ผมก็กวาดสายตาจากเกาะไอซ์แลนด์มาทางขวาทางประเทศแถวแสกนดิเนเวียอื่นๆ ชื่อเมืองที่ดังๆเรื่องดูแสงเหนืออยู่แล้วก็ Tromsø (ทรูมเซอ – พยายามอ่านแบบนอร์วีเจี้ยน) เป็นเมืองทางเหนือประเทศนอร์เวย์ ขยับเข้ามาในพื้นทวีปอีกก็ Abisko (อาบิสโก) เป็นหมู่บ้านหนึ่งในประเทศสวีเดนใกล้ชายแดนนอร์เวย์ และก็แถว Lapland ในประเทศฟินแลนด์ แต่ก็มีสถานที่หนึ่งที่ผลจากการกูเกิ้ลหาดูภาพแสงเหนือมักจะเห็นภาพถ่ายแสงเหนือจากสถานที่นี้พร้อมกับวิวแลนด์สเคปสวยๆ นั่นคือ Lofoten จนทำให้ต้องมาพิมพ์กูเกิ้ลด้วยคำว่า Lofoten แล้วดูรูปภาพ หรือบางทีก็กูเกิ้ลคำว่า Lofoten northern lights แล้วดูผลการค้นแบบ Images หรือ รูปภาพ โอ้โห ภาพวิวนี่ตรงสเป็คผมเลย เท่านั้นแหละผมก็ตัดสินใจเลยว่าจะไปที่นี่ จากนั้นก็แจ้งสมาชิกที่จะไปด้วยกันให้ทราบว่าผมจะไป Lofoten ปีหน้านะ ไม่ต้องแปลกใจครับ ทุกคนที่ได้ยินจะ งง มันคือที่ไหน ผมก็แคปเจอร์ภาพที่ค้นจากกูเกิ้ลให้ดู ทุกคนก็เออๆ แล้วแต่งึง (เหอๆ) ทุกวันนี้หลังจากไปแล้วกลับมาแล้ว ยัง งง กันอยู่เลยว่าไปที่ไหนกันมาบ้าง ฮ่าๆ ผมนี่นึกถึงประโยค “Life is about courage and going into the unknown” จากหนัง ‘The Secret Life of Walter Mitty’ เลยทีเดียว แต่กรณีเพื่อนผมนี่ยังคง still unknown ever after ฮ่าๆ
***ก่อนอ่านต่อ เชิญรับวุ้นแปลภาษาครับ เหอๆ
ประเด็นใคร่รู้อย่างหนึ่งของการไปในที่ที่ไม่รู้จักซึ่งในทริป Lofoten นี้ด้วย คือ ชื่อเมือง ชื่อหมู่บ้านนั้นอ่านว่าอย่างไรบ้างเนื่องจากมีอักษรในภาษานอร์วีเจี้ยน อย่าง Æ (อา), Å (โอ), และ Ø (เออ)ที่ไม่มีในอักษรภาษาอังกฤษที่เราคุ้นเคย เช่น เมืองศูนย์กลางของ Lofoten ชื่อว่า Svolvær (สโววา) หมู่บ้านเก่าแก่แห่งแรกในหมู่เกาะนี้ชื่อหมู่บ้าน Kabelvåg (คาเบลโวก) ซึ่งติดกับ สโววา และมีโบสถ์ประจำ Lofoten ชื่อ Vågan Church (โวกัน เชิร์ช) หมู่บ้านชาวประมงน่ารักๆที่ยังทำประมงจริงจังและเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชื่อ Henningsvær (เฮนนิงสวา) หรือหมู่บ้านที่ชาวบ้านเขาภูมิใจว่าเป็นชื่อหมู่บ้านสั้นที่สุดในโลก ชื่อหมู่บ้าน Å (โอ) ซึ่งอยู่สุดแหลมปลายติ่งด้านล่างของหมู่เกาะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้ใช้ประโยชน์ทั้งตอนสอบถามเส้นทาง หรือตอนที่เจ้าของบ้านพัก และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองถามเราว่าจะไปไหนบ้าง หรือไปไหนมาบ้าง พอบอกชื่อถูก แหม่ทุกอย่างก็ราบรื่น เจ้าหน้าที่ ตม. ขาออกที่นอร์เวย์ถามผมว่าไปไหนมาบ้าง ผมบอกไปโลโฟเทนมา งิ แกยิ้มเลย คงดีใจมีคนมาเที่ยว และยังบอกก่อนกลับว่าให้มาเที่ยวอีกนะ (คิดในใจ ค่าอาหาร ที่พักแพง วีซ่าก็ได้จำนวนวันตามแผนเที่ยวเป๊ะ ให้มาใหม่คงจิยากอยู่ แล้วยังมีเสียงจากหน่วยเหนือที่บ้านว่า “แกจะไปแต่นอร์เวย์หรือไง ไม่ไปที่อื่นบ้างหรือ” จบๆ ไปที่อื่น)
เพิ่มเติม øya (เออยะ) หมายถึง เกาะ เมื่อต่อท้าย Moskenes เป็น Moskenesøya ก็หมายถึงเกาะ Moskenes นั่นเอง ***
จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ Lofoten และสถานที่น่าสนใจต่างๆ ใน Lofoten และยิ่งหาข้อมูลยิ่งพบว่าที่หมู่เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในหมู่ช่างภาพแนวแลนด์สเคป ช่างภาพมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ช่างภาพมือรางวัลต่างๆ หลายคนมีจัดทัวร์ถ่ายภาพ(photo workshop tour) ที่ Lofoten เป็นหนึ่งในตารางทัวร์ประจำปี แนะนำลองชมภาพในเว็บเหล่านี้ดูครับ www.lofotentours.com, danielkordan.com/workshops/ และ www.colorsoflofoten.com เป็นตัวอย่างบางส่วนซึ่งผมก็ใช้ไอเดียบางอย่างเป็นแนวทางเลือกสถานที่พักและมุมถ่ายภาพของมืออาชีพ จนสรุปออกมาเป็นแผนเดินทางด้านล่างครับ (มี ตัวอย่างคลิป Lofoten ในฤดูหนาวแนะนำให้ชมครับ
https://www.youtube.com/watch?v=DFGpwXVFo24
https://vimeo.com/125690823 )
ส่วนเวบไซท์ทีเป็นทางการสำหรับข้อมูลการท่องเที่ยวใน Lofoten ก็
http://www.lofoten.info/en
[CR] ......
(คำโปรยข้างบนนี่สรุปหมดแล้วนะครับทั้งทริป ไม่ต้องอ่านที่เหลือแล้วก็ได้)
ขอตั้งชื่อภาษาอังกฤษนิดนึง
Lofoten in Winter: An Arctic Adventure and The Northern Lights Hunt in a Winter Wonderland.
สวัสดีครับทุกท่าน ผมก็เหมือนหลายคนในนี้ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดตามอ่านกระทู้เรื่องเล่าจากสมาชิกท่านอื่นๆเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวต่างๆ เอาเป็นว่าถ้าอยากหาข้อมูลท่องเที่ยวภาษาไทยนะ ผมพิมพ์ชื่อสถานที่ที่สนใจ ร่วมกับคำว่า pantip ส่วนใหญ่ จริงๆก็ทั้งหมดหละ ต้องเจอว่ามีกระทู้ในพันทิพเล่าเรื่องเกี่ยวกับสถานที่นั้นแล้วทั้งนั้น (คนไทยเที่ยวไม่แพ้ชาติใดในโลก 555)
---ความเดิมตอนที่แล้ว (หะ?? ได้ข่าวว่านี่โพสแรกไม่ช่ายหรา ความเดิมมาได้ไง )
จากปีที่แล้วผมกับเพื่อนๆไปเที่ยวตามหาแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์กันมา ซึ่งโชคดีมากได้เห็นแสงเหนือเป็นครั้งแรกวันที่ 17 มีนาคม 2558 มีทั้งความประทับใจ และมีสิ่งที่ค้างคาใจถึงทุกวันนี้คือ วันนั้นเป็นวันที่แสงเหนือแรงสุดในรอบ 10 ปี สำนักข่าว CNN, BBC รายงานข่าวกันใหญ่โต เนื่องจากโอกาสเกิดอย่างนี้มันยากมาก โอกาสที่ว่าคือมีคนเห็นและถ่ายภาพแสงเหนือกันได้ไกลลงมาจากเขตขั้วโลกถึงฝรั่งเศส อังกฤษ นิวยอร์กด้านเหนือๆ หรือทางซีกโลกใต้ก็เห็นแสงใต้ไกลจากขั้วโลกใต้ถึงในออสเตรเลียตอนใต้ นิวซีแลนด์
แต่ แต่ ครับ ทั้งที่คืนนั้นพวกเราเห็นแสงเหนือด้วยตาเปล่าตั้งแต่หัวค่ำเขียวเข้มมากๆ ด้วยความที่เป็นมือใหม่หัดดูแสงเหนือครับคิดว่าจะเห็นอย่างนี้ทั้งคืน ต่างคนก็ไปอาบน้ำ เตรียมอาหาร นัดกันว่าจะออกไปหาที่มืดๆนอกหมู่บ้านถ่ายรูปแสงเหนือกันสักสี่ห้าทุ่ม ผมแต่งตัวเสร็จก่อนก็ออกมารอที่หน้าบ้านพัก ประมาณสามทุ่มกว่าช่วงนั้นนี่แสงเขียวเข้มเป็นเส้นโค้งข้ามหัวพาดผ่านทั้งท้องฟ้า มีเส้นแสงพุ่งทิ่มลงจากฟ้าประหนึ่งว่าแสงตกใส่หน้าตอนที่ผมแหงนหน้ามอง ผมตื่นเต้นมากอะตอนนั้นทั้งอยากจะถ่ายภาพแสงเหนือให้ได้ ทั้งอยากที่จะจ้องมองแสงเหนือให้เต็มตา (แต่มีเสียงในหัวผมบอกว่า เมื่อไรสมาชิกจะพร้อมซักทีเนี่ย รอนานแล้วนะเฟร้ย) กว่าสมาชิกจะพร้อมกันทั้งหมดและขับรถออกไปหาสถานที่ฟ้ามืดประกฎว่าแสงเหนือเริ่มจางไปแล้ว สรุปคืนนั้นมีผมใช้กล้อง action cam ถ่ายภาพแสงเหนือคืนที่แรงสุดๆนั้นได้อยู่ 7-8 ภาพอยู่คนเดียว (ที่จริงมีถ่ายติดด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือกันด้วยเพราะแสงเขียวเข้มมาก ซึ่งก่อนมามีแต่คนบอกว่าโทรศัพท์มือถือถ่ายแสงเหนือไม่ติด แต่นี่เป็นโอกาสหายากจริงๆ ผมไม่อยากจะนับรวมเลย 55)
และนั่นก็คือเรื่องที่ค้างคาใจให้กลับมาตามล่าถ่ายภาพแสงเหนือกันอีก แต่พอผมเปรยว่าจะกลับมาไอซ์แลนด์อีกก็จะได้ยินเสียงคนข้างๆบอกว่า “แกจะไม่ไปที่อื่นบ้างหรือไง จะไปแต่ไอซ์แลนด์เหรอ” ฮ่าๆ เป็นโจทย์ที่ท้าทายนัก ผมเลยต้องมองหาสถานที่ดูแสงเหนือที่อื่นบ้าง จากแผนที่ในกูเกิ้ล ผมก็กวาดสายตาจากเกาะไอซ์แลนด์มาทางขวาทางประเทศแถวแสกนดิเนเวียอื่นๆ ชื่อเมืองที่ดังๆเรื่องดูแสงเหนืออยู่แล้วก็ Tromsø (ทรูมเซอ – พยายามอ่านแบบนอร์วีเจี้ยน) เป็นเมืองทางเหนือประเทศนอร์เวย์ ขยับเข้ามาในพื้นทวีปอีกก็ Abisko (อาบิสโก) เป็นหมู่บ้านหนึ่งในประเทศสวีเดนใกล้ชายแดนนอร์เวย์ และก็แถว Lapland ในประเทศฟินแลนด์ แต่ก็มีสถานที่หนึ่งที่ผลจากการกูเกิ้ลหาดูภาพแสงเหนือมักจะเห็นภาพถ่ายแสงเหนือจากสถานที่นี้พร้อมกับวิวแลนด์สเคปสวยๆ นั่นคือ Lofoten จนทำให้ต้องมาพิมพ์กูเกิ้ลด้วยคำว่า Lofoten แล้วดูรูปภาพ หรือบางทีก็กูเกิ้ลคำว่า Lofoten northern lights แล้วดูผลการค้นแบบ Images หรือ รูปภาพ โอ้โห ภาพวิวนี่ตรงสเป็คผมเลย เท่านั้นแหละผมก็ตัดสินใจเลยว่าจะไปที่นี่ จากนั้นก็แจ้งสมาชิกที่จะไปด้วยกันให้ทราบว่าผมจะไป Lofoten ปีหน้านะ ไม่ต้องแปลกใจครับ ทุกคนที่ได้ยินจะ งง มันคือที่ไหน ผมก็แคปเจอร์ภาพที่ค้นจากกูเกิ้ลให้ดู ทุกคนก็เออๆ แล้วแต่งึง (เหอๆ) ทุกวันนี้หลังจากไปแล้วกลับมาแล้ว ยัง งง กันอยู่เลยว่าไปที่ไหนกันมาบ้าง ฮ่าๆ ผมนี่นึกถึงประโยค “Life is about courage and going into the unknown” จากหนัง ‘The Secret Life of Walter Mitty’ เลยทีเดียว แต่กรณีเพื่อนผมนี่ยังคง still unknown ever after ฮ่าๆ
***ก่อนอ่านต่อ เชิญรับวุ้นแปลภาษาครับ เหอๆ
ประเด็นใคร่รู้อย่างหนึ่งของการไปในที่ที่ไม่รู้จักซึ่งในทริป Lofoten นี้ด้วย คือ ชื่อเมือง ชื่อหมู่บ้านนั้นอ่านว่าอย่างไรบ้างเนื่องจากมีอักษรในภาษานอร์วีเจี้ยน อย่าง Æ (อา), Å (โอ), และ Ø (เออ)ที่ไม่มีในอักษรภาษาอังกฤษที่เราคุ้นเคย เช่น เมืองศูนย์กลางของ Lofoten ชื่อว่า Svolvær (สโววา) หมู่บ้านเก่าแก่แห่งแรกในหมู่เกาะนี้ชื่อหมู่บ้าน Kabelvåg (คาเบลโวก) ซึ่งติดกับ สโววา และมีโบสถ์ประจำ Lofoten ชื่อ Vågan Church (โวกัน เชิร์ช) หมู่บ้านชาวประมงน่ารักๆที่ยังทำประมงจริงจังและเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชื่อ Henningsvær (เฮนนิงสวา) หรือหมู่บ้านที่ชาวบ้านเขาภูมิใจว่าเป็นชื่อหมู่บ้านสั้นที่สุดในโลก ชื่อหมู่บ้าน Å (โอ) ซึ่งอยู่สุดแหลมปลายติ่งด้านล่างของหมู่เกาะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้ใช้ประโยชน์ทั้งตอนสอบถามเส้นทาง หรือตอนที่เจ้าของบ้านพัก และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองถามเราว่าจะไปไหนบ้าง หรือไปไหนมาบ้าง พอบอกชื่อถูก แหม่ทุกอย่างก็ราบรื่น เจ้าหน้าที่ ตม. ขาออกที่นอร์เวย์ถามผมว่าไปไหนมาบ้าง ผมบอกไปโลโฟเทนมา งิ แกยิ้มเลย คงดีใจมีคนมาเที่ยว และยังบอกก่อนกลับว่าให้มาเที่ยวอีกนะ (คิดในใจ ค่าอาหาร ที่พักแพง วีซ่าก็ได้จำนวนวันตามแผนเที่ยวเป๊ะ ให้มาใหม่คงจิยากอยู่ แล้วยังมีเสียงจากหน่วยเหนือที่บ้านว่า “แกจะไปแต่นอร์เวย์หรือไง ไม่ไปที่อื่นบ้างหรือ” จบๆ ไปที่อื่น)
เพิ่มเติม øya (เออยะ) หมายถึง เกาะ เมื่อต่อท้าย Moskenes เป็น Moskenesøya ก็หมายถึงเกาะ Moskenes นั่นเอง ***
จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ Lofoten และสถานที่น่าสนใจต่างๆ ใน Lofoten และยิ่งหาข้อมูลยิ่งพบว่าที่หมู่เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในหมู่ช่างภาพแนวแลนด์สเคป ช่างภาพมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ช่างภาพมือรางวัลต่างๆ หลายคนมีจัดทัวร์ถ่ายภาพ(photo workshop tour) ที่ Lofoten เป็นหนึ่งในตารางทัวร์ประจำปี แนะนำลองชมภาพในเว็บเหล่านี้ดูครับ www.lofotentours.com, danielkordan.com/workshops/ และ www.colorsoflofoten.com เป็นตัวอย่างบางส่วนซึ่งผมก็ใช้ไอเดียบางอย่างเป็นแนวทางเลือกสถานที่พักและมุมถ่ายภาพของมืออาชีพ จนสรุปออกมาเป็นแผนเดินทางด้านล่างครับ (มี ตัวอย่างคลิป Lofoten ในฤดูหนาวแนะนำให้ชมครับ
https://www.youtube.com/watch?v=DFGpwXVFo24
https://vimeo.com/125690823 )
ส่วนเวบไซท์ทีเป็นทางการสำหรับข้อมูลการท่องเที่ยวใน Lofoten ก็ http://www.lofoten.info/en