EP3/1
(จากการเปิดเทอมแค่ 3 วันผมรู้สึกมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นทั้งดีและไม่ดีสลับกันไป แต่คืนนั้นมันยังไม่จบ เพราะมีเบอร์ประหลาดโทรมาที่มือถือของผม)
(เสียงโทรศัพท์)
"ฮโหลครับ" ผมรับสายด้วยเสียงที่กำลังหลับอยู่
"สวัสดีครับน้องแบงค์ นี่พี่มายด์ ประธานสีแดงนะครับ" เสียงปลายทาง
“พี่มายด์ ประธานสีแดง” ผมรีบดีดตัวขึ้นมานั่งจากที่นอนด้วยความตกใจ แอะ!! พี่เขาโทรมาทำไมกัน เรายังไม่เคยรู้จักกันเลยนะ
“พอดีพี่มีเรื่องจะถามครับ เห็นเราสนิทกับน้องเปรียว” พี่มายด์ประธานสีแดงถามผม
“ครับ ก็สนิทครับ” ผมตอบกลับไป พี่เขามีเรื่องอะไรกับไอ้เปรียวกันนะ
“น้องเปรียวเขามีแฟนหรือยังครับ” พี่มายด์ถามมาแบบผมตั้งตัวไม่ทัน
“เออ..” ผมอ้ำอึ้งๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไร แต่อีกอย่างมันมีแฟนไหม ผมก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้
“ถามไปทำไมอะครับพี่” ผมถามพี่มายด์กลับไป
“อ่อ พี่ถามดูหน่ะครับ” พี่มายด์ตอบอ้ำๆอึ้งๆ อย่าบอกนะว่าแอบชอบไอ้เปรียว หุหุ เป็นเกย์หรอเนี่ยประธานสี แต่เดี๋ยวนะเราก็เป็นไม่ใช่หรือไง แกล้งถามดีกว่า
“พี่ชอบเปรียวหรือครับ” ผมถามไปด้วยเสียงนิ่งๆ
“อ่อ คือ พี่เห็นน้องเขาน่ารักดีหน่ะครับ” หู้ยยย พี่มายด์ตอบมา ฟินจุง ทำไม่มีคนมาบอกชอบผมแบบนี้บ้างนะ
“ตกลงน้องเปรียวมีแฟนไหมครับ” พี่มายด์ยังคงถามอยู่
“ผมไม่แน่ใจอะครับพี่ เอาไว้ผมจะถามมันให้นะ” ผมตอบกลับไป
“ขอบคุณมากนะครับน้องแบงค์ แต่อย่าบอกเปรียวนะว่าพี่เป็นคนถาม”
“ทำไมละครับ”
“พี่ยังไม่กล้าอะ อีกอย่างพี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าน้องเปรียวจะชอบผู้ชายหรือเปล่า”
“อ่อ ได้ครับพี่” หลังจากจบบทสนทนาในคืนนั้น ทำให้ผมต้องกลับเอามานั่งคิดเหมือนกัน เราเองก็ชอบดรีมแต่เราก็ไม่เคยได้แสดงหรือบอกให้เขารู้ อีกอย่างเขาอาจจะไม่ได้ชอบผู้ชายก็ได้ แต่ถึงเขาจะชอบเขาก็มีคนที่เขาคุยๆด้วยอยู่แล้ว เห้อออออ ทำไมชีวิตของแบงค์กี้ถึงได้ลำบากยากเข็ญขนาดนี้!!
เช้าวันใหม่ วันนี้จะเจอเรื่องอะไรอีกไหมนะ ผมรีบแต่งตัวเพื่อเตรียมไปเรียนวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ใช่แล้วอีกวันเดียวก็จะได้หยุดแล้วอีกอย่างวันเสาร์นี้ผมมีเดทกับดรีม เอ้ย!! ไม่ใช่เดทสิ เพราะเขาแค่ชวนไปร้านหนังสือในเมืองเท่านั้นเอง แต่เพียงแค่ก้าวออกจากประตูบ้าน
(เสียงแตรรถจักรยานยนต์)
“เร็วๆดิ” เสียงไอ้เปรียวตะโกน ผมงงๆ แต่ก็รีบวิ่งไปที่มัน
“วันนี้เมิงมารับกูเหรอ” ผมถามมัน
“เออ ดิ ขึ้นมาเร็วๆ” ไอ้เปรียวเร่งผม ผมก็งงนิดๆ แล้วก็ซ้อนท้ายมันไปเรียน วันนี้ผมก็ต้องใส่หมวกกันนอคสีชมพูหวานแหว๋วของมันอีกตามเคย จนมาถึงโรงเรียนในระหว่างที่กำลังเอารถจอด คุณหญิงลูซี่วิ่งมาแต่ไกล
“หวาน จัง” ลูซี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เซ็กซี่
“หวานไรวะ” ไอ้เปรียวถอดหมวกกันนอคเสร็จแล้วหันมาถาม
“แหมๆ เป็นแฟนกันอยู่เหรอ อิจฉาอะ ไปรับไปส่งกันทุกวันเลย” ลูซี่พูดถามแบบสำนวนนักสืบ
“เห้ย ไม่ใช่” ผมรีบตอบปฏิเสธไป แล้วรีบถอดหมวกกันนอคสีชมพูออก
“ถูกต้อง เราไม่ใช่แฟนกันหรอก” ไอ้เปรียวพูดต่อจากผมแล้วก็เอามือมาโอบที่ไหล่ผม
“เมิงจะทำอะไร” ผมกระซิบไปถามไอ้เปรียว
“แต่เราเป็นผัวเมียกันไงละจ่ะ” ไอ้เปรียวตอบแบบกวนทรีนไป
“กรี๊ดดดดด ฟินมากคะ” ลูซี่ตะโกนกรี๊ด พูดจบแล้ววิ่งไป
“เดี๋ยวลูซี่ เดี๋ยว มันไม่ใช่” ผมรีบตะโกนกลับไป แต่นางไม่ฟังเลย ผมสะบัดมือไอ้เปรียวออก
“อะไรของเมิงนี่” ผมถามมันไปด้วยหน้าตาซีเรียส
“อะไร เมิงคิดมากเหรอ” ไอ้เปรียวตอบกลับมา แต่ผมก็เงียบๆ
“ขำๆน่า ไปเรียนกันดีกว่า” ไอ้เปรียวพูดต่อหลังจากเห็นผมเงียบ แล้วเราก็เดินไปเข้าห้องเรียนด้วยกัน แต่แล้วทุกสายตาก็ดูแปลกไป ทำไมละ ทำไมมีแต่คนมอง ทำไมกันสายตาทุกคนถึงมองมาที่เราละ จนเราเดินมานั่งที่ของเรา แล้วดรีมก็หันมากระซิบถามเรา
“นี่ๆ พวกนายสองคนเป็นแฟนกันเหรอ” ดรีมถามผมกับเปรียวแบบกระซิบ
“ฮ่าๆ” ไอ้เปรียวขำออกมาเสียงดัง
“ที่รักจ๋า เมื่อคืนเค้ากอดอุ่นไหม” ไอ้เปรียวพูดเสียงดังทั่วห้อง แถมเอามือมาโอบไหล่ผมอีก ไอ้เปรียวเมิงเล่นอะไรเนี่ยคนเข้าใจผิดหมดแล้ว
(เสียงเพื่อนๆในห้องวิ๊ดวิ้วแซวกันใหญ่)
“มันไม่ใช่แบบนั้น เดี๋ยวมันไม่ใช่” ผมรีบแก้ตัวออกไปเสียงดังๆ แต่เสียงแซวแซ่ดๆ มันกลบเสียงผมหมดเลย ผมรู้สึกเขินและอายมาก รีบวิ่งออกไปตั้งหลักข้างนอกมาแบบไม่รู้ตัว ห่ะ!! นี่เราวิ่งมาทำไม แบบนี้คนอื่นเขาก็คิดเลยสิว่าเป็นเรื่องจริง ตายๆแล้ว ไม่นานไอ้เปรียวก็วิ่งตามผมมา
(บทสนทนาระหว่างเปรียวกับแบงค์)
“เมิงเป็นไรวะ” ไอ้เปรียวถาม
“เมิงเล่นไรของวะ” ผมตอบไปด้วยเสียงโกรธและโมโห
“นี่เมิงโกรธเหรอที่กูเล่นแบบนี้”
“เมิงยังจะมาถามอีก คนอื่นเข้าใจผิดหมดแล้ว”
“ขำๆ น่า เมิงจะคิดมากทำไม”
“ก็เมิงไม่คิดไง ถ้าเกิดกูเป็นจริงๆ มันจะยังเป็นเรื่องขำๆอยู่ไหมวะ” ผมตะโกนออกไป เห้ยยนี่เราพูดอะไรไปวะเนี่ย ตอนนั้นผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“ถ้าเมิงเป็น ... หมายถึงถ้าเมิงเป็นเกย์เหรอ” ไอ้เปรียวถามมาด้วยความสงสัย
ผมอ้ำอึ้ง ตอบไม่ถูกรีบเดินหนีไปแต่ไอ้เปรียวดันจับข้อมือผมไว้แล้วดึงตัวผมผลักไปที่กำแพงพร้อมเอามือข้างที่เหลือมาท้าวกำแพงไว้
“ถ้าเมิงเป็น กูจะจีบเมิง” ทุกอย่างตอนนี้เงียบไปหมดแล้วอยู่ๆผมก็นึกถึงเพลง Talk Love
จากซีรี่ส์เรื่อง Descendant Of The Sun
(ขออนุญาตเอาเพลงจากซีรี่ส์อื่นมาประกอบนะครับ)
และตอนนั้นเอง
“แบงค์ เปรียว ครูมาแล้ว” เสียงเพื่อนในห้องตะโกนมาส่งสัญญาณให้ผมและไอ้เปรียว เราทั้งคู่ต่างหยุดเหตุการณ์ต่อจากนั้นและกลับเข้าห้องเรียนไป
ติดตาม EP3/2 เร็วๆนี้ (ระหว่างรออย่าลืมไปฟังเพลงเพิ่มความอินนะครับ อิอิ)
(เกย์) เรื่องที่ฉันยังไม่ได้ตั้งชื่อ EP3/1
(จากการเปิดเทอมแค่ 3 วันผมรู้สึกมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นทั้งดีและไม่ดีสลับกันไป แต่คืนนั้นมันยังไม่จบ เพราะมีเบอร์ประหลาดโทรมาที่มือถือของผม)
(เสียงโทรศัพท์)
"ฮโหลครับ" ผมรับสายด้วยเสียงที่กำลังหลับอยู่
"สวัสดีครับน้องแบงค์ นี่พี่มายด์ ประธานสีแดงนะครับ" เสียงปลายทาง
“พี่มายด์ ประธานสีแดง” ผมรีบดีดตัวขึ้นมานั่งจากที่นอนด้วยความตกใจ แอะ!! พี่เขาโทรมาทำไมกัน เรายังไม่เคยรู้จักกันเลยนะ
“พอดีพี่มีเรื่องจะถามครับ เห็นเราสนิทกับน้องเปรียว” พี่มายด์ประธานสีแดงถามผม
“ครับ ก็สนิทครับ” ผมตอบกลับไป พี่เขามีเรื่องอะไรกับไอ้เปรียวกันนะ
“น้องเปรียวเขามีแฟนหรือยังครับ” พี่มายด์ถามมาแบบผมตั้งตัวไม่ทัน
“เออ..” ผมอ้ำอึ้งๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไร แต่อีกอย่างมันมีแฟนไหม ผมก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้
“ถามไปทำไมอะครับพี่” ผมถามพี่มายด์กลับไป
“อ่อ พี่ถามดูหน่ะครับ” พี่มายด์ตอบอ้ำๆอึ้งๆ อย่าบอกนะว่าแอบชอบไอ้เปรียว หุหุ เป็นเกย์หรอเนี่ยประธานสี แต่เดี๋ยวนะเราก็เป็นไม่ใช่หรือไง แกล้งถามดีกว่า
“พี่ชอบเปรียวหรือครับ” ผมถามไปด้วยเสียงนิ่งๆ
“อ่อ คือ พี่เห็นน้องเขาน่ารักดีหน่ะครับ” หู้ยยย พี่มายด์ตอบมา ฟินจุง ทำไม่มีคนมาบอกชอบผมแบบนี้บ้างนะ
“ตกลงน้องเปรียวมีแฟนไหมครับ” พี่มายด์ยังคงถามอยู่
“ผมไม่แน่ใจอะครับพี่ เอาไว้ผมจะถามมันให้นะ” ผมตอบกลับไป
“ขอบคุณมากนะครับน้องแบงค์ แต่อย่าบอกเปรียวนะว่าพี่เป็นคนถาม”
“ทำไมละครับ”
“พี่ยังไม่กล้าอะ อีกอย่างพี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าน้องเปรียวจะชอบผู้ชายหรือเปล่า”
“อ่อ ได้ครับพี่” หลังจากจบบทสนทนาในคืนนั้น ทำให้ผมต้องกลับเอามานั่งคิดเหมือนกัน เราเองก็ชอบดรีมแต่เราก็ไม่เคยได้แสดงหรือบอกให้เขารู้ อีกอย่างเขาอาจจะไม่ได้ชอบผู้ชายก็ได้ แต่ถึงเขาจะชอบเขาก็มีคนที่เขาคุยๆด้วยอยู่แล้ว เห้อออออ ทำไมชีวิตของแบงค์กี้ถึงได้ลำบากยากเข็ญขนาดนี้!!
เช้าวันใหม่ วันนี้จะเจอเรื่องอะไรอีกไหมนะ ผมรีบแต่งตัวเพื่อเตรียมไปเรียนวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ใช่แล้วอีกวันเดียวก็จะได้หยุดแล้วอีกอย่างวันเสาร์นี้ผมมีเดทกับดรีม เอ้ย!! ไม่ใช่เดทสิ เพราะเขาแค่ชวนไปร้านหนังสือในเมืองเท่านั้นเอง แต่เพียงแค่ก้าวออกจากประตูบ้าน
(เสียงแตรรถจักรยานยนต์)
“เร็วๆดิ” เสียงไอ้เปรียวตะโกน ผมงงๆ แต่ก็รีบวิ่งไปที่มัน
“วันนี้เมิงมารับกูเหรอ” ผมถามมัน
“เออ ดิ ขึ้นมาเร็วๆ” ไอ้เปรียวเร่งผม ผมก็งงนิดๆ แล้วก็ซ้อนท้ายมันไปเรียน วันนี้ผมก็ต้องใส่หมวกกันนอคสีชมพูหวานแหว๋วของมันอีกตามเคย จนมาถึงโรงเรียนในระหว่างที่กำลังเอารถจอด คุณหญิงลูซี่วิ่งมาแต่ไกล
“หวาน จัง” ลูซี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เซ็กซี่
“หวานไรวะ” ไอ้เปรียวถอดหมวกกันนอคเสร็จแล้วหันมาถาม
“แหมๆ เป็นแฟนกันอยู่เหรอ อิจฉาอะ ไปรับไปส่งกันทุกวันเลย” ลูซี่พูดถามแบบสำนวนนักสืบ
“เห้ย ไม่ใช่” ผมรีบตอบปฏิเสธไป แล้วรีบถอดหมวกกันนอคสีชมพูออก
“ถูกต้อง เราไม่ใช่แฟนกันหรอก” ไอ้เปรียวพูดต่อจากผมแล้วก็เอามือมาโอบที่ไหล่ผม
“เมิงจะทำอะไร” ผมกระซิบไปถามไอ้เปรียว
“แต่เราเป็นผัวเมียกันไงละจ่ะ” ไอ้เปรียวตอบแบบกวนทรีนไป
“กรี๊ดดดดด ฟินมากคะ” ลูซี่ตะโกนกรี๊ด พูดจบแล้ววิ่งไป
“เดี๋ยวลูซี่ เดี๋ยว มันไม่ใช่” ผมรีบตะโกนกลับไป แต่นางไม่ฟังเลย ผมสะบัดมือไอ้เปรียวออก
“อะไรของเมิงนี่” ผมถามมันไปด้วยหน้าตาซีเรียส
“อะไร เมิงคิดมากเหรอ” ไอ้เปรียวตอบกลับมา แต่ผมก็เงียบๆ
“ขำๆน่า ไปเรียนกันดีกว่า” ไอ้เปรียวพูดต่อหลังจากเห็นผมเงียบ แล้วเราก็เดินไปเข้าห้องเรียนด้วยกัน แต่แล้วทุกสายตาก็ดูแปลกไป ทำไมละ ทำไมมีแต่คนมอง ทำไมกันสายตาทุกคนถึงมองมาที่เราละ จนเราเดินมานั่งที่ของเรา แล้วดรีมก็หันมากระซิบถามเรา
“นี่ๆ พวกนายสองคนเป็นแฟนกันเหรอ” ดรีมถามผมกับเปรียวแบบกระซิบ
“ฮ่าๆ” ไอ้เปรียวขำออกมาเสียงดัง
“ที่รักจ๋า เมื่อคืนเค้ากอดอุ่นไหม” ไอ้เปรียวพูดเสียงดังทั่วห้อง แถมเอามือมาโอบไหล่ผมอีก ไอ้เปรียวเมิงเล่นอะไรเนี่ยคนเข้าใจผิดหมดแล้ว
(เสียงเพื่อนๆในห้องวิ๊ดวิ้วแซวกันใหญ่)
“มันไม่ใช่แบบนั้น เดี๋ยวมันไม่ใช่” ผมรีบแก้ตัวออกไปเสียงดังๆ แต่เสียงแซวแซ่ดๆ มันกลบเสียงผมหมดเลย ผมรู้สึกเขินและอายมาก รีบวิ่งออกไปตั้งหลักข้างนอกมาแบบไม่รู้ตัว ห่ะ!! นี่เราวิ่งมาทำไม แบบนี้คนอื่นเขาก็คิดเลยสิว่าเป็นเรื่องจริง ตายๆแล้ว ไม่นานไอ้เปรียวก็วิ่งตามผมมา
(บทสนทนาระหว่างเปรียวกับแบงค์)
“เมิงเป็นไรวะ” ไอ้เปรียวถาม
“เมิงเล่นไรของวะ” ผมตอบไปด้วยเสียงโกรธและโมโห
“นี่เมิงโกรธเหรอที่กูเล่นแบบนี้”
“เมิงยังจะมาถามอีก คนอื่นเข้าใจผิดหมดแล้ว”
“ขำๆ น่า เมิงจะคิดมากทำไม”
“ก็เมิงไม่คิดไง ถ้าเกิดกูเป็นจริงๆ มันจะยังเป็นเรื่องขำๆอยู่ไหมวะ” ผมตะโกนออกไป เห้ยยนี่เราพูดอะไรไปวะเนี่ย ตอนนั้นผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“ถ้าเมิงเป็น ... หมายถึงถ้าเมิงเป็นเกย์เหรอ” ไอ้เปรียวถามมาด้วยความสงสัย
ผมอ้ำอึ้ง ตอบไม่ถูกรีบเดินหนีไปแต่ไอ้เปรียวดันจับข้อมือผมไว้แล้วดึงตัวผมผลักไปที่กำแพงพร้อมเอามือข้างที่เหลือมาท้าวกำแพงไว้
“ถ้าเมิงเป็น กูจะจีบเมิง” ทุกอย่างตอนนี้เงียบไปหมดแล้วอยู่ๆผมก็นึกถึงเพลง Talk Love
จากซีรี่ส์เรื่อง Descendant Of The Sun
(ขออนุญาตเอาเพลงจากซีรี่ส์อื่นมาประกอบนะครับ)
และตอนนั้นเอง
“แบงค์ เปรียว ครูมาแล้ว” เสียงเพื่อนในห้องตะโกนมาส่งสัญญาณให้ผมและไอ้เปรียว เราทั้งคู่ต่างหยุดเหตุการณ์ต่อจากนั้นและกลับเข้าห้องเรียนไป
ติดตาม EP3/2 เร็วๆนี้ (ระหว่างรออย่าลืมไปฟังเพลงเพิ่มความอินนะครับ อิอิ)