คือเราก็ไม่ได้จะดูถูกการศึกษาประเทศตัวเองนะ เราแค่จะยกตัวอย่างความจริงบางส่วนให้ฟัง คือประเทศไทยเน้นเรียนไปวันๆยิ่งหนักยิ่งดี คือคนเรามันจะใช้ชีวิตแบบเอาแต่เรียนๆเรียนเยอะๆวันละหลายๆชั่วโมง ท่องจำหนังสือเป็นสิบๆเล่มแล้วเอามาสอบ
เด็กมันจะไม่เครียดตายหรอคะ เวลาเรียนก็ห้ามเสียงดังห้ามเถียงห้ามคุยกันเวลาที่อาจารย์สอน ถ้าเป็นวัยประถมบางที่พูดปุ๊บก็ถูกตี ขนาดให้นั่งทำงานที่สั่งยังห้ามส่งเสียงห้ามลุกเดินไปมา ห้ามนู้นห้ามนี้ คืออย่างที่ตปท.อะค่ะเขาสอนให้เด็กมีความรู้แล้วสามารถเถียงครูได้ ครูกะนักเรียนเหมือนเพื่อนกันด้วยซ้ำค่ะปรึกษาได้ทุกเรื่อง เด็กก็กล้าที่จะยกมือตอบ อย่างที่เราเห็นกันในหนังนั่นแหละค่ะเด็กมันกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง มีความมั่นใจสูง อย่างวิชาที่นู่นก็จะมีพวกให้เรียนช่างไม้ ประดิษฐ์ของหัดเลื่อยไม้ตอกตะปูเอง มีคาบว่างให้นั่งเคลียร์งานค้าง งานเสร็จก็เดินกลับบ้านสบายใจ บางคนโตๆหน่อยก็ไปหางานพิเศษทำ เพราะที่นู่นส่วนมากที่เราเห็นจะเรียนตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงบ่ายสองงี้ค่ะ เวลาว่างเขาเยอะแต่เขาก็รู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ มันดูเป็นระเบียบด้วยแล้วก็เป็นอิสระด้วย อย่างการบ้านบางทีที่นู่นก็จะให้เป็นโปรเจคใหญ่ๆสักโปรเจคนึงให้เวลาไปจับกลุ่มช่วยกันทำให้ออกมาดีที่สุด อย่างเวลาเด็กที่นู่นทำหนังสั้นอะค่ะ เขาก็ทำเต็มที่ภาพออกมาสวยตัดต่ออย่างดี ใส่เอฟเฟคซาวด์แทรคพร้อม เปรียบเทียบกับของไทย คิดว่าคงเป็นเพราะเด็กไม่ค่อยมีเวลาค่ะ หรือไม่ก็ใช้เวลาว่างเที่ยวเล่นซะมากกว่า เพราะเวลาพักของที่นี่ค่อนข้างน้อยมาก แล้วเมื่อถึงคราวได้พัก เด็กก็จะขี้เกียจเพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว งานส่วนมากอาจารย์บางคนก็จะให้เยอะให้ทุกครั้งที่ถึงคาบเรียนของแก เด็กก็นั่งปั่นงานงกๆไป ยิ่งบางรร.มีหลายๆวิชา ก็จะมีการบ้านแต่ละวิชาแต่ละอาจารย์เลยค่ะคิดเอาละกันงานคงกองเป็นภูเขา เด็กก็แทบจะหาเวลาว่างไม่ได้ และยากที่จะสนุกกับการเรียน เพราะต้องตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวมาเคารพธงชาติก่อนแปดโมงที่รร.ทุกวัน บางคนอยู่ไกลต่างอำเภอต้องนั่งรถออกมาจากที่นู้น(รร.อยู่ในเมือง)ตั้งแต่ตีห้า กว่าจะกลับถึงบ้านอาบน้ำกินข้าวเตรียมชุดนักเรียนรองเท้าถุงเท้าจัดตารางสอน เคลียร์งานค้างอีก บางคนเคลียร์ถึงตีสองตีสาม พักผ่อนไม่เพียงพอ ตื่นเช้าขึ้นมาสมองก็เบลอ ทำไปบ่อยๆสมองจะเสื่อมได้นะคะ พอไม่รู้สึกสดชื่นเด็กก็จะเรียนไม่รู้เรื่อง สมองรวน พากันมาหลับในห้องเรียนกันเป็นแถว เห็นแล้วสงสารค่ะ และสงสัยด้วย ทำไมเราไม่เดินตามประเทศที่เค้าเจริญกว่าเราล่ะคะ?? เด็กที่นู้นเค้าฉลาดเพราะอะไรทำไมมีความมั่นใจในตัวเองสูงกว่าเด็กไทย ทำไมคนที่มีไอคิวสูงที่สุดอย่างไอสไตน์ถึงอยู่ที่นู้นล่ะคะ นักวิทยาศาสตร์เก่งๆที่นู่นที่เค้าเคยไปสำรวจดาวอื่นนอกโลกมาแล้วทำไมเค้าถึงฉลาดกันล่ะค่ะ ลองคิดดูค่ะ คือเข้าใจว่าใช้ระบบนี้มาแต่สมัยก่อนกันแล้ว แต่นี่ไม่ใช่สมัยก่อนนี่คะ นี่ยุคไหนแล้ว ลองเดินตามประเทศที่เค้าสำเร็จแล้วเจริญแล้วเถอะค่ะ เดินตามวิถีเก่าๆที่ทำเพราะเค้าเคยกันมานาน บอกเลยค่ะอยู่ยังไงก็อยู่อย่างงั้นแหละเจริญยากค่ะ คือมีช่วงนึงค่ะที่เหมือนกระทรวงศึกษาธิการจะเปลี่ยนลดเวลาเรียนเหลือแค่ถึงบ่ายสอง คือตอนนั้นดีใจมากค่ะ คิดว่าในที่สุดประเทศไทยก็ตาสว่างสักที ที่ไหนได้นโยบายนี้กลับไม่ถูกใช้หรือใช้แค่บางรร.อันนี้ไม่แน่ใจค่ะนานแล้ว55555 ขอเถอะค่ะลองคิดดูดีดีว่าทำแบบไหนแล้วประเทศจะเจริญเด็กไทยจะฉลาดประชาชนจะมีความสุข เปลี่ยนเถอะค่ะเพื่อคนที่คุณรัก55555 ถ้าลองเรียนเหมือนระบบตปท.ก็ลองดูสักปีสองปีว่ามันจะดีขึ้นมั้ย แรกๆอาจจะเละนิดๆเพราะเราอาจไม่เคยชินกับการมีเวลาว่างและเรียนแบบอิสระขนาดนั้น แต่เชื่อเถอะค่ะเมื่อทุกอย่างเข้าที่ เด็กจะหายเครียดสนุกกับการไปรร.มากขึ้น และประเทศจะก้าวหน้าเพราะจะมีคนฉลาดๆเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
ติชมได้ไม่ว่านะคะ นี่คือความเห็นส่วนตัวเราค่ะอยากจะแชร์และระบายให้ทุกคนได้รู้และร่วมกันแสดงความคิดเห็นในแง่ของทุกคนด้วย ขอบคุณที่เปิดกระทู้นี้อ่านนะคะ ถ้าแชร์ต่อได้จะดีมาก ถือเป็นปัญหาสังคมอย่างนึงเลย ขอบคุณทุกคนที่กดเข้ามาอ่านนะ👏😉
การศึกษาไทยเมื่อเทียบกับของต่างประเทศ📚 จะเป็นยังไงไปดูกัน👇
เด็กมันจะไม่เครียดตายหรอคะ เวลาเรียนก็ห้ามเสียงดังห้ามเถียงห้ามคุยกันเวลาที่อาจารย์สอน ถ้าเป็นวัยประถมบางที่พูดปุ๊บก็ถูกตี ขนาดให้นั่งทำงานที่สั่งยังห้ามส่งเสียงห้ามลุกเดินไปมา ห้ามนู้นห้ามนี้ คืออย่างที่ตปท.อะค่ะเขาสอนให้เด็กมีความรู้แล้วสามารถเถียงครูได้ ครูกะนักเรียนเหมือนเพื่อนกันด้วยซ้ำค่ะปรึกษาได้ทุกเรื่อง เด็กก็กล้าที่จะยกมือตอบ อย่างที่เราเห็นกันในหนังนั่นแหละค่ะเด็กมันกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง มีความมั่นใจสูง อย่างวิชาที่นู่นก็จะมีพวกให้เรียนช่างไม้ ประดิษฐ์ของหัดเลื่อยไม้ตอกตะปูเอง มีคาบว่างให้นั่งเคลียร์งานค้าง งานเสร็จก็เดินกลับบ้านสบายใจ บางคนโตๆหน่อยก็ไปหางานพิเศษทำ เพราะที่นู่นส่วนมากที่เราเห็นจะเรียนตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงบ่ายสองงี้ค่ะ เวลาว่างเขาเยอะแต่เขาก็รู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ มันดูเป็นระเบียบด้วยแล้วก็เป็นอิสระด้วย อย่างการบ้านบางทีที่นู่นก็จะให้เป็นโปรเจคใหญ่ๆสักโปรเจคนึงให้เวลาไปจับกลุ่มช่วยกันทำให้ออกมาดีที่สุด อย่างเวลาเด็กที่นู่นทำหนังสั้นอะค่ะ เขาก็ทำเต็มที่ภาพออกมาสวยตัดต่ออย่างดี ใส่เอฟเฟคซาวด์แทรคพร้อม เปรียบเทียบกับของไทย คิดว่าคงเป็นเพราะเด็กไม่ค่อยมีเวลาค่ะ หรือไม่ก็ใช้เวลาว่างเที่ยวเล่นซะมากกว่า เพราะเวลาพักของที่นี่ค่อนข้างน้อยมาก แล้วเมื่อถึงคราวได้พัก เด็กก็จะขี้เกียจเพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว งานส่วนมากอาจารย์บางคนก็จะให้เยอะให้ทุกครั้งที่ถึงคาบเรียนของแก เด็กก็นั่งปั่นงานงกๆไป ยิ่งบางรร.มีหลายๆวิชา ก็จะมีการบ้านแต่ละวิชาแต่ละอาจารย์เลยค่ะคิดเอาละกันงานคงกองเป็นภูเขา เด็กก็แทบจะหาเวลาว่างไม่ได้ และยากที่จะสนุกกับการเรียน เพราะต้องตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวมาเคารพธงชาติก่อนแปดโมงที่รร.ทุกวัน บางคนอยู่ไกลต่างอำเภอต้องนั่งรถออกมาจากที่นู้น(รร.อยู่ในเมือง)ตั้งแต่ตีห้า กว่าจะกลับถึงบ้านอาบน้ำกินข้าวเตรียมชุดนักเรียนรองเท้าถุงเท้าจัดตารางสอน เคลียร์งานค้างอีก บางคนเคลียร์ถึงตีสองตีสาม พักผ่อนไม่เพียงพอ ตื่นเช้าขึ้นมาสมองก็เบลอ ทำไปบ่อยๆสมองจะเสื่อมได้นะคะ พอไม่รู้สึกสดชื่นเด็กก็จะเรียนไม่รู้เรื่อง สมองรวน พากันมาหลับในห้องเรียนกันเป็นแถว เห็นแล้วสงสารค่ะ และสงสัยด้วย ทำไมเราไม่เดินตามประเทศที่เค้าเจริญกว่าเราล่ะคะ?? เด็กที่นู้นเค้าฉลาดเพราะอะไรทำไมมีความมั่นใจในตัวเองสูงกว่าเด็กไทย ทำไมคนที่มีไอคิวสูงที่สุดอย่างไอสไตน์ถึงอยู่ที่นู้นล่ะคะ นักวิทยาศาสตร์เก่งๆที่นู่นที่เค้าเคยไปสำรวจดาวอื่นนอกโลกมาแล้วทำไมเค้าถึงฉลาดกันล่ะค่ะ ลองคิดดูค่ะ คือเข้าใจว่าใช้ระบบนี้มาแต่สมัยก่อนกันแล้ว แต่นี่ไม่ใช่สมัยก่อนนี่คะ นี่ยุคไหนแล้ว ลองเดินตามประเทศที่เค้าสำเร็จแล้วเจริญแล้วเถอะค่ะ เดินตามวิถีเก่าๆที่ทำเพราะเค้าเคยกันมานาน บอกเลยค่ะอยู่ยังไงก็อยู่อย่างงั้นแหละเจริญยากค่ะ คือมีช่วงนึงค่ะที่เหมือนกระทรวงศึกษาธิการจะเปลี่ยนลดเวลาเรียนเหลือแค่ถึงบ่ายสอง คือตอนนั้นดีใจมากค่ะ คิดว่าในที่สุดประเทศไทยก็ตาสว่างสักที ที่ไหนได้นโยบายนี้กลับไม่ถูกใช้หรือใช้แค่บางรร.อันนี้ไม่แน่ใจค่ะนานแล้ว55555 ขอเถอะค่ะลองคิดดูดีดีว่าทำแบบไหนแล้วประเทศจะเจริญเด็กไทยจะฉลาดประชาชนจะมีความสุข เปลี่ยนเถอะค่ะเพื่อคนที่คุณรัก55555 ถ้าลองเรียนเหมือนระบบตปท.ก็ลองดูสักปีสองปีว่ามันจะดีขึ้นมั้ย แรกๆอาจจะเละนิดๆเพราะเราอาจไม่เคยชินกับการมีเวลาว่างและเรียนแบบอิสระขนาดนั้น แต่เชื่อเถอะค่ะเมื่อทุกอย่างเข้าที่ เด็กจะหายเครียดสนุกกับการไปรร.มากขึ้น และประเทศจะก้าวหน้าเพราะจะมีคนฉลาดๆเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
ติชมได้ไม่ว่านะคะ นี่คือความเห็นส่วนตัวเราค่ะอยากจะแชร์และระบายให้ทุกคนได้รู้และร่วมกันแสดงความคิดเห็นในแง่ของทุกคนด้วย ขอบคุณที่เปิดกระทู้นี้อ่านนะคะ ถ้าแชร์ต่อได้จะดีมาก ถือเป็นปัญหาสังคมอย่างนึงเลย ขอบคุณทุกคนที่กดเข้ามาอ่านนะ👏😉