สวัสดีค่ะเจ้าของกระทู้เรียบนจบไม่นานทำงานมา 1ปี อยากจะขอแชร์ประสบการณ์ด้านสายสถาปัต ซึ่งสถาปัตตั้งแต่สอบเข้าและเรียนก็มีความหนัก สอบเข้าคนสมัครเป็น 100รับ 30คนเสียค่าติวกวดวิชาหลายหมื่นเพราะไม่มีหลักสูตรในการเรียนมอปลายสำหรับสอบ pat4 ระหว่างเรียนก็ไม่ง่ายเลยหนักมากค่ะระหว่างทางมีคนลาออก ดร๊อป เบนสายหรือเป็นซึมเศร้า กว่าจะจบมาไม่ง่าย เจ้าของกระทู้ได้ทำงานบอแห่งหนึ่งพนักงานหลักร้อยใช้ภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์ สอบใช้ทักษะรวมกัน2 รอบ เงินเดือน20k+นิดๆ ไม่มีโอที งานหนักมากค่ะเข้างานตั้งแต่เช้า08.00-17.30 เจ้าของกระทู้ไม่เคยไปสายเลยบางทีไปก่อนเพื่อเคลียร์งานก็มีเพราะความรับผิดชอบมันค้ำคอ แต่งานบางทีลากไปสี่ทุ่มถึงตีสองและสาม เช้ามาก็เข้างานปกติบางวันเอางานไปทำเสาร์อาทิตย์ ก็ไม่ได้วันหยุดเพิ่ม เพราะตังงานเยอะมาก เจ้าของกระทู้เป็นแค่เลเวลจูเนียร์ ผ่านโ)รมาถืองานสามโปรเจคได้ บางทีคนที่ระดับหัวหน้าคิดอะไรออกมาsketchด้วยดินสอ 17.00แต่17.30คือเวลาเลิกงาน จูเนียร์ต้องเคลียร์งานให้เสร็จถึงดึๆแต่หัวหน้ากลับตรงเวลา เคลียร์แบบก่อสร้างคนเดียวเป็น 100แผ่น ยิ่งโปรเจคpitching แต่ละบริษัทประมูลแข่งกันไม่มีค่าแบบ ทำให้ต้องการประหยัดเงินมากจะมาใช้จูเนียร์ทำแบบซึ่งเวลนี้ยังไม่มีประสบการณ์ในการออกแบบอาคารที่หลากหลายแต่ก็กดดดันเพื่อให้ได้งานมาแลัส่งน้องintern มาช่วยงาน1 คน แต่ตอนไปพรีเซนต์หัวหน้าคือคนพรีงาน ที่ไม่ใช้เวลสูงทำโปรเจคpitching เพราะต้องการให้ไปทำเจคที่ได้เงินมากว่า เป็นการลดทอนงานสถาปัตยกรรม เจ้าของทำงานแล้วไม่มีความสุขเลยค่ะเครียดความฝันที่อยากเป็นสถาปนิกตั้งแต่เด็กหมดสิ้นไป อยากทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่สถาปนิกเลยตั้สินใจลาออกไปตายเอาดาบหน้า ซึ่งต้องเลือกระหว่างหาทุนเรียนต่อหหรือทำงาสถาปนิกต่างประเทศ ซึงเจ้าของกระทู้ก็เลือกอย่างหลังส่งไปหลายสิบที่ ติดต่อมาไม่กี่ที่แค่ได้สัมก็ดีใจแล้ว เลยได้ทำบอกลางแห่งหนึ่งต่างประเทศคนเข้าออกงานตรงเวลาหลังจากนั้นคือโอที คนให้ความสำคัญกับแบบมีการทำงานเป็นระบบอาจจะมีข้อเสียบ้าง แต่อย่างน้อยแบบสถาปัตยกรรมมีคุณค่ายิงคนsketchแบบด้วยดินสอไวๆหรือดีเทลต่างๆ ซึ่งพอรุ่นถัดๆไปที่จบมาแล้วทำงานก็คงเผชิญปัญหาเดียวกับเจ้าของกระทู้ไม่จบไม่สิ้น เพราะได้คุยกับเพื่อนรุ่นเดียวกันก็ค้นพบว่าไม่ต่างจากเดิม
ขอแชร์มุมมองของความสิ้นหวังในสายออกแบบขอสถาปนิกจบใหม่