GHost Detective File 2-15 พิธีกรรมสยองขวัญ

เช้าวันจันทร์ 1สัปดาห์ก่อนสอบ วันนี้ดาวมาโรงเรียนแต่เช้าผิดกับอาทิตย์ก่อนที่มีจอมตื่นสายมาค้างด้วย ทำให้วันนี้เธอรู้สึกเหมือนกลับมาเป็นนักเรียนดีเด่นอีกครั้งหนึ่ง รอยยิ้ม สายตาที่นักเรียนคนอื่นๆที่เห็นเธอปั่นจักรยานมาโรงเรียนในวันนี้

มันมากเกินไปรึเปล่า

รถเก๋งสีดำคันหรูจอดอยู่หน้าโรงเรียน พร้อมกับชายหนุ่มรูปหล่อ ที่กำลังยืนพิงรถของตัวเอง ประหนึ่งว่าเท่ห์เต็มที

(อีตาบ้านั้นมาทำอะไรหน้าโรงเรียนเนี้ย)

ดาวรีบปรี้เข้าไปหาภูทันที เพราะว่าเขามารอเธอหน้าโรงเรียนแบบเป็นจุดสนใจมากเกินไป

"นี่นายมาทำอะไรที่นี่ยะ" ดาวขึ้นเสียงใส่ ด้วยอารมย์โกรธปนเขิน ที่สายตานักเรียนคนอื่นๆมองมา

"พอดีเมื่อวานลืมของน่ะ" ภูยืนถุงผ้าให้ดาว

"อะไรเนี้ย" แต่เธอก็หยิบแล้วเปิดดู

"วันนี้ ฉันต้องไปคุยกับปู่หลง คนที่คุณพ่อของครูพิลาวรรณบอกว่ารู้จักเรื่องราวของโรงเรียนเมื่อวานน่ะ ฉันก็เลยวานเธอช่วยไปเปลี่ยนแบต กล้องที่ติดไว้ให้หน่อย" ภูบอกเหตุผลของตัวเอง นั่นทำให้ดาวมีท่าทีอ่อนลง

"ก็ได้ แล้วจะให้เปลี่ยนยังไงล่ะ"

"หาโอกาศไปเปลี่ยนตอนที่ยังไม่เลิกเรียน ส่วนของตึกรับรอง ฉันเปลี่ยนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว" ถึงภูจะบอกแบบนั้น แต่เมื่อดาวลองนับดูมันก็เยอะอยู่ดี

"เดี๋ยวนะ ถ้าฉันโดนแบบพี่เจี๊ยบเมื่อวานจะทำไง" ดาวถามเพราะนึกถึงเรื่องที่หมอเจี๊ยบโดนผีหลอกที่ตึกรับรอง จนทำให้เธอแอบหวั่นๆ

"อย่างเธอนี่ใครจะทำอะไร ถ้ากลัวมากก็หลอกใครให้ไปเป็นเพื่อนซักคนก็ได้" ดาวถึงกับหัวเสียแล้วสะบัดหน้าเดินเข้าโรงเรียนไป

"ระวังตัวด้วยนะ" ดาวถึงกับชะงักครู่หนึ่ง เพื่อฟังให้แน่ใจว่าเสียงที่แผ่วเบานั้นเป็นเพราะเะอหูแว่วไปเองหรือเปล่า แต่เมื่อเธอหันมา ภูก็ขับรถออกไปแล้ว สายตาของดาวดูผิดหวังลึกๆ อาจจะเป็นเพราะเธอคาดหวังว่าภูจะเป็นห่วงเธอบ้าง

และเช่นเดียวกับสายตาอีกคู่หนึ่ง ที่เห็นดาวคุยกับชายหนุ่มที่เธอบอกว่าไม่คิดอะไรด้วยท่าทางพ่อแง่แม่.งอนสุดฤทธิ์ มลชักไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ที่ดาวบอกไว้ แต่ก้ได้แต่เก็บมันไว้ข้างใน ก่อนที่จะเดินเข้าไปทักทาย

เพื่อนสนิทของเธอ

......................................

ในตอนบ่าย ที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ภูยืนรอครูพิลาวรรณ ซึ่งเะอเป็นคนนัดภูมาคุยกับปู่หลง คนใกล้ชิดปู่ของเธอ ที่น่าจะรู้เรื่องในตระกูลนรินทร์ปกเกล้าที่เหลืออยู่ ไม่นานนัก ครูพิลาวรรณก็มาถึงพร้อมกับกระเช้ารังนก ทั้งสองคนทักทายกันตามปกติ แต่ก็คงจะมีแต่ครูพิลาวรรณเท่านั้นที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ เพราะหลังจากที่ภูไปช่วยเธอในเหตุการณ์ที่เธอไปนอนที่ตึกเรียน เธอก็เริ่มรู้สึกแปลกๆกับภูอย่างบอกไม่ถูก ทำให้วันนี้เธอแต่งตัวมาอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ

ที่ห้องพิเศษห้องหนึ่งของแผนกอายุรกรรม ลูกหลานของปู่หลงคนสนิทของครอบครัวนรินทร์ปกเกล้าให้การตอนรับครูพิลาวรรณเป็นอย่างดี จนภูรู้สึกแปลกใจซ้ำยังได้ยินคุณป้าคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกของปู่หลงเรียกเธอว่าคุณหนูด้วย

หลังจากทักทายปราศรัยกันพอสมควร ครูพิลาวรรณจึงแจ้งว่าอยากถามเกี่ยวกับที่ดินของตระกูลเธอที่ปู่หลงน่าจะรู้ ซึ่งเมื่อรู้แบบนั้นคุณปู่จึงให้ลูกหลานที่เฝ้าไข้ออกไปก่อน ทำให้ในห้องเหลือแ่ปู่ ภู และครูพิลาวรรณสามคน

ภูไม่ได้บอกถึงสาเหตุที่มาถาม เพราะเขาต้องการให้คนรู้เรื่องในโรงเรียนน้อยที่สุดด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง และเพื่อให้ไม่เป็นที่น่าสงสัยภูต้องรับสมอ้างว่าเป็นแฟนกับครูพิลาวรรณ คุณหนูของตระกูล เพื่อให้มีเหตุผลมากพอที่จะอยู่ฟังเรื่องของตระกูลนี้ด้วย

จากที่ปู่หลงเล่า พ่อของปู่นั้นเป็นข้าเก่าของคุณหลวงนรินทร์ปกเกล้า ทำให้ปู่และลุกของคุณหลวง หรือก็คือปู่ของครูพิลาวรรณนั้นเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เล็กๆ อันที่จริงครอบครัวของคุรหลวงนั้นเป็นครูดนตรี ซึ่งพี่ชายของคุณหลวงนั้นได้สืบทอดวิชาดนตรีจากผู้เป็นพ่อ จนได้รับบรรดาศักดิ์เป็นท่านขุน ส่วนคุณหลวงนั้นเป็นลูกชายคนเล็ก ได้ศึกษาที่โรงเรียนกฏหมายของกระทรวงยุติธรรม ประกอบกับได้แต่งงานกับบุตรีของผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวง จึงมาลงหลักปักฐานที่บ้านที่ครูพิลาวรรณอยู่ในปัจจุบัน ครั้นผลัดแผ่นดินและเกิดเศรษฐกิจตกต่ำ พี่ชายของคุณหลวงถูกดุล ทำให้ตั้งแต่นั้นความสัมพันธ์ระหว่างคุณหลวงกับพี่ชายต่างห่างเหิญ เพราะคุณหลวงเจริญในหน้าที่การงานในขณะที่พี่ชายต้องให้ออกจากราชการมากินสมบัติเก่าที่พอมี

จนกระทั่งพี่ชายของคุณหลวงเสีย ประกอบกับท่านขุนไม่มีลูก ทำให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณหลวง แต่เนื่องจากขณะนั้นบ้านเดิมอยู่ห่างไกล คุณหลวงจึงปล่อยทิ้งไว้ จวบจนเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลสมัยนั้นได้ขอรับบริจาคที่ดินไปสร้างโรงเรียน คุณหลวงจึงยกที่ดินของตระกูลให้ ทำให้โรงเรียนได้รับชื่อตามผู้บริจาคคือ โรงเรียนนรินทร์ปกเกล้า แต่พอพยายามถามถึงเรื่องแปลกๆต่างๆคุณปู่ก็บอกว่าไม่รู้หรือจำไม่ค่อยได้ ทำให้ครูพิลาวรรณและภูถึงกับจนปัญญาเพราะคิดว่าคุรปู่คงไม่ทราบจริงๆ

"ได้ยินว่าคุณพ่อมีน้องชายเหรอครับ" จู่ๆภูก็ถามเรื่องนี้ ซึ่งแม่แต่ครูพิลาวรรณก็นึกไม่ถึง

"เรื่องนั้นสินะ" เหมือนว่าคุรปู่จะทราบ ซึ่งเรื่องนี้แม้แต่ครูพิลาวรรณก้ไม่ทราบ เพราะพ่อของเธอก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้

"รู้สึกว่าจะมีข่าวลือแปลกๆเกี่ยวกับโรงเรียนนะ ว่าห้ามไปนอนค้างหรืออะไรนี่แหละ คุณหนูเล็กตอนนั้นเค้าก็อยากพิสูจน์ จึงแอบไปค้างที่โรงเรียน ตอนนั้นที่บ้านตามหากันวุ่นวาย กว่าจะเจอศพก็สามวันแล้ว"

"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ"ครูพิลาวรรณถึงกับตกใจที่ได้ยิน

"ใช่แล้วล่ะ ศพลอยในสระน้ำ สภาพแทบจำไม่ได้เลย เนื้อตัวยุ่ยหมดแล้ว ทำให้คุณผู้หญิงถึงกับเป็นลมไปเลย จากนั้นมา ก้ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย จากนั้นโรงเรียนก็ได้ปิดข่าวลือเรื่องห้ามนอนค้างในโรงเรียนให้นักเรียนรู้ ป้องกันไม่ให้มีคนมาลองของอีก" เรื่องเล่าของปู่ทำให้ภูรู้สึกถึงจุดเกี่ยวข้องบางอย่าง แต่เขาก็ยังไม่อยากพูดอะไรออกมา

"มีตัวเงินตัวทองด้วยเหรอครับ" ภูสงสัย

"มีสิ เมื่อก่อนแถวนั้นเป็นท้องไร่ท้องสวนนะ จะมีมันก็ไม่แปลกหรอก" คุณปู่ตอบ

ก่อนจะลากลับ ปู่หลงยังบอกภูอีกว่าถ้าวันไหนคุณปู่ออกจากโรงพยาบาล อยากให้ภูลองไปเยี่ยมปู่ที่บ้านอีกที

"คุณครูว่ามันแปลกๆรึเปล่าครับ" ภูถามครูพิลาวรรณขณะที่ทั้งคู่กำลังรอลิฟท์อยู่

"อะไรเหรอคะ"ครูพิลาวรรณถาม ซึ่งภูก็ยังลังเลอยู่ที่จะบอกเพราะว่าไม่รู้ว่าครุพิลาวรรณจะเข้าใจหรือเปล่า

"ไม่คิดว่ามันจะบังเอิญไปหน่อยเหรอครับ ที่สองคดี เวลาห่างกันหลายปี ก็พบศพในสภาพที่ไม่ต่างกันเลย " ข้อสงสัยของภูทำให้ครูพิลาวรรณเริ่มรู้สึกกลัว

...........................................

ก่อนเลิกเรียน ดาววิ่งวุ่นไปเปลี่ยนแบตกล้องตามสถานที่ต่างๆ แม้จะไม่ครบเพราะบางที่ก็ไม่อยากเข้าไปจริงๆเช่นบริเวณต้นไทร จนดาวแทบจะขาลาก

"ดาว วันนี้แกว่างรึเปล่า" ดาวแหงนหน้ามาขณะที่กำลังฟุบโต๊ะอยู่

"มลแกเองเหรอมีอะไร" ดาวตอบด้วยท่าทางเพลียๆ

"ก็ที่บอกว่าจะไปติวกันไง" มลทวงสัญยา ซึ่งดาวก็นั่งนึกซักพักก็นึกได้ว่าเมื่อคืนได้บอกมลไปแบบนั้นจริงๆ

"แล้วมิ้นล่ะ" ไม่ทันที่มลจะตอบมิ้นก็เดินเข้ามาพอดี

"วันนี้ฉันไม่ว่างน่ะ แกไปติวกันสองคนก่อนละกัน" คำพูดของมิ้นทำให้มลรู้สึกแปลกใจ เพราะมลยังไม่ได้ชวนมิ้นเลย

"ใช่ๆมิ้นมันไม่ว่างน่ะ วันนี้เราคงไปติวกันสองคนล่ะนะ" มลพูดจากตะกุกตะกัก ซึ่งมิ้นก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

"อืมๆ ไง ถ้าจะไปข้างนอก แกก็ไปรับฉันด้วยล่ะ" คำตอบของดาวทำให้มลยิ้มขึ้นมา แต่รอยยิ้มก็อยู่ได้ไม่นาน

"น้องอิงดาว พี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้มั้ยคะ" เสียงของนักเรียนสาวท่าทางน่ารักเรียกดาวอยู่หน้าประตู

"นั่นพี่อุ๊ใช่มั้ยคะ" ดาวไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่ออุ๊เหยื่อคนหนึ่งในคดี ที่ต้องพักที่โรงพยาบาลเป็นสัปดาห์ ตอนนั้นกลับมาเรียนแล้ว และตอนนี้ยังขอคุยเรื่องอะไรบางอย่างกับเธออีก

เมื่อเห็นดาวลุกไปหารุ่นพี่ที่มาเรียกดาว มลถึงกับยืนนิ่งและกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว ส่วนมิ้นที่ดูอย่างห่าง ก็เบือนหน้าแล้วกลับบ้านในทันที

................................................

ติชมกันได้ครับ บางคำที่พิมพ์ผิด เพราะแป้นผิมไม่ค่อยดี กดชิพไม่ลง ยังไงก็ขออภัยด้วยครับ

file 1 เหงา ตั้งแต่ตอนแรก http://ppantip.com/topic/34830541

file 2-1 http://ppantip.com/topic/34973254

file 2-2 http://ppantip.com/topic/34986577

file 2-3 http://ppantip.com/topic/34998149

file 2-4 http://ppantip.com/topic/35006186

file 2-5 http://ppantip.com/topic/35014982

file 2-6 http://ppantip.com/topic/35027231

file 2-7 http://ppantip.com/topic/35052016

file 2-8 http://ppantip.com/topic/35060989

file 2-9 http://ppantip.com/topic/35069737

file 2-10 http://ppantip.com/topic/35083926

file 2-11 http://ppantip.com/topic/35090371

file 2-12 http://ppantip.com/topic/35098552

file 2-13 http://ppantip.com/topic/35109804

file 2-14 http://ppantip.com/topic/35118251

ป.ล.คือช่วงนี้มันอาจจะวายหน่อย แต่มันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องต่อๆไป ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้นะครับ

ตอนต่อไป http://ppantip.com/topic/35137869
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่