เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 ที่สถานีตำรวจภูธรเเมืองนนทบุรี ได้มีนายพิทักษ์พงษ์หรือนภดล อดีต นรต.รุ่น 31 และชุดปราบปรายาเสพติดให้โทษของสถานีตำรวจแห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลายสำนักในกรณีที่ตนเองกับพวกรวม 7คนตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันบุกรุกและข่มขู่จากอดีตเพื่อนรักชื่อย่อ “บ” ชวนร่วมทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ  โดยมีสถานที่ตั้งเป็นร้านกาแฟ



ต่อมานายพิทักษ์พงษ์ ก็ขอแยกตัวออกจากบริษัทเพราะมีปัญหาเรื่องตัวเลขรายรับที่ไม่ลงตัว มีการทำธุรกรรมที่นอกเหนือข้อตกลงและหมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย หลังจากแยกตัวออกมาแล้ว ต่อมาได้มีการนัดเจรจาพูดคุยเคลียร์ปัญหากันที่บริษัท ซึ่งเป็นร้านกาแฟดังกล่าว โดยมีการนัดหมายทางไลน์ชัดเจน
ในวันนัดนายพิทักษ์พงษ์และภรรยาซึ่งก็คือทีมงานที่เคยร่วมงานกับนาย "บ" และพวกอีก 5  คน ก็เป็นคนในบริษัทดังกล่าวได้มาพบนาย “บ” ปรากฏว่านาย "บ" ไม่มาตามนัดแต่ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรีว่าในวันเวลาดังกล่าวนายพิทักพงษ์กับพวกได้บุกรุกและข่มขู่ อีกทั้งไปออกสื่อกล่าวหาว่า ตนกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ ทำให้ตนและพวกเสื่อมเสียชื่อเสียง



ในวันนี้นายพิทักษ์พงษ์พร้อมกับพวกรวม 7 คนได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอต่อสู้คดีต่อไปตามกฎหมายจนถึงที่สุดโดยยืนยันว่าตนกับพวกไม่ได้กระทำผิดความผิดตามข่าวและตามที่นาย "บ" ร้องทุกข์ และจะใช้สิทธิดำเนินคดีกลับนาย "บ" ต่อไป โดยให้สื่อมวลชนได้รับรู้ปัญหาที่ทำให้ตนเสียหายโดยไม่มีมูลความจริง