วันก่อนได้รับ แผ่นพับโฆษณาที่ไปรษณีย์ของ Sulwhasoo เกี่ยวกับโปรโมชั่นในเดือนพฤษภาคม หน้าตาเป็นอย่างนี้
มีข้อความด้านใน ดังต่อไปนี้
เมื่อวาน (04/05/59) จึงนำแผ่นพับฉบับนี้ ไปที่ เคาน์เตอร์ของ Sulwhasoo ที่สาขาพารากอน เพราะปกติเวลาได้แผ่นพับจากแบรนด์อื่น ๆ ที่มีการทำการตลาดในลักษณะนี้ ก็จะไปรับมาลองใช้ บางทีเจอพนักงานขายเก่ง ๆ คุยกันไปคุยกันมา นอกจากรับตัวทดลองแล้ว ก็ซื้อซะเลย ถ้าถูกใจหรือโดนใจ ก็ซื้อยกเซท เมื่อวานนี้ก็เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ตามปกติ เวลาเกือบ ๆ สามทุ่ม พบ พนักงานขาย ของ Sulwhasoo สองคน เป็นหญิงหนึ่ง และเพศที่ 3 หนึ่ง เราก็ยื่นแผ่นพับ และ แจ้งความประสงค์ว่าจะมาขอรับตัวทดลอง พนักงานทั้งสองคนมองหน้าเรา จิกตา ยิ้มมุมปาก เสมือนหนึ่งว่า พวกขอของฟรีมาอีกแล้ว หรือหน้าตาแบบนี้ไปเก็บแผ่นพับนี้มาจากที่ไหนหรือเปล่า พร้อมบอกว่า เราเข้าใจผิด ต้องมีการซื้อ ตามสิทธิที่ 1 หรือ 2 ก่อน จึงจะสามารถรับสิทธิที่ 3
เราก้มลงอ่านแผ่นพับอีกครั้ง ในแผ่นพับระบุว่า "สิทธิพิเศษ 3 เพียงนำ Privilege Program May 2016 ฉบับนี้ มาแสดง ณ เคาน์เตอร์โซลวาซูทุกสาขา รับทันที Sulwhasoo VIP Evenfair Perfecting Cushion ขนาด 5 กรัม มูลค่า 500 บาท (สินค้ามีจำนวนจำกัด)" เราก็แจ้งกับพนักงาน โดยพนักงานยังยืนยันว่า ไม่ใช่ ต้องซื้อสินค้าเท่านั้น ความรู้สึกเราในตอนนั้น เรารู้สึกว่า แค่มารับตัวทดลอง ทำไมจึงถูกมองเหมือนมาขอข้าวใครกิน หรือพวกไร้การศึกษาอ่านหนังสือไม่แตก ทั้ง ๆ ที่ในแผ่นพับก็เขียนออกจะชัดเจนเสียขนาดนั้น
ถ้าพนักงานบอกเราว่า ของหมด แต่มีให้ลองที่หน้าเคาน์เตอร์จะลองไหม ยังจะดีเสียกว่า อวจนภาษาที่แสดงออกมา แม้จะไม่ได้พูดจาหยาบคาย แต่ก็ไม่ได้ทำท่าต้อนรับ ทั้ง ๆ ที่เราเป็นลูกค้าเก่า เป็นสมาชิก Sulwhasoo มันทำให้เราคิดถึงเวลาไปซื้อเครื่องสำอางค์ในต่างประเทศ ยกตัวอย่าง เช่น sephora ในอเมริกา เวลาที่พวก tester หมด เค้าจะไปหยิบตลับเปล่ามาใส่ tester ที่ใช้ในร้านให้เรา จะเอาจำนวนกี่ปั๊ม กี่แบรนด์ ก็ได้ หรืออย่างใน selfridges เวลาที่ซื้อเครื่องสำอางค์แม้เพียงชิ้นเดียว แถม tester กันแบบใช้ไปได้หลายเดือน เพราะการตลาดของแบรนด์เครื่องสำอางค์ นอกจากลูกค้าจะต้องพอใจในคุณภาพของสินค้าแล้ว ยังต้องพอใจคุณภาพบริการ ด้วย
เดินทางมาหลายประเทศ สื่อสารได้มากกว่าหนึ่งภาษา ไม่เคยคิดว่า จะต้องกลายเป็นพวกอ่านภาษาไทยไม่แตกฉาน น่าเสียดาย ที่กลยุทธ์การตลาดของ Sulwhasoo ที่หวังให้ลูกค้าเก่า เดินไปที่เคาน์เตอร์ เกิดการซื้อซ้ำ กลับกลายเป็นการสูญเสียลูกค้าเก่าไป อย่างจดจำไว้ในใจไม่ลืม เขียนไว้ เพราะไม่อยากให้คนอื่น ๆ ต้องเสียเวลา และเสียความรู้สึกเหมือนที่เราโดน
ปล. 5 กรัม นี่ กระจิ๊ด กระจ้อยร่อย มากนะ ใช้วัน หรือสองวันก็หมด ไม่ได้ ก็มีความสามารถซื้อตลับปกติเอง แต่ขอยืนยันว่าจะไม่ซื้อแบรนด์นี้ จากนี้และตลอดไป
อย่างนี้เรียกว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดที่หลอกลวงของ Sulwhasoo หรือเปล่า
มีข้อความด้านใน ดังต่อไปนี้
เมื่อวาน (04/05/59) จึงนำแผ่นพับฉบับนี้ ไปที่ เคาน์เตอร์ของ Sulwhasoo ที่สาขาพารากอน เพราะปกติเวลาได้แผ่นพับจากแบรนด์อื่น ๆ ที่มีการทำการตลาดในลักษณะนี้ ก็จะไปรับมาลองใช้ บางทีเจอพนักงานขายเก่ง ๆ คุยกันไปคุยกันมา นอกจากรับตัวทดลองแล้ว ก็ซื้อซะเลย ถ้าถูกใจหรือโดนใจ ก็ซื้อยกเซท เมื่อวานนี้ก็เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ตามปกติ เวลาเกือบ ๆ สามทุ่ม พบ พนักงานขาย ของ Sulwhasoo สองคน เป็นหญิงหนึ่ง และเพศที่ 3 หนึ่ง เราก็ยื่นแผ่นพับ และ แจ้งความประสงค์ว่าจะมาขอรับตัวทดลอง พนักงานทั้งสองคนมองหน้าเรา จิกตา ยิ้มมุมปาก เสมือนหนึ่งว่า พวกขอของฟรีมาอีกแล้ว หรือหน้าตาแบบนี้ไปเก็บแผ่นพับนี้มาจากที่ไหนหรือเปล่า พร้อมบอกว่า เราเข้าใจผิด ต้องมีการซื้อ ตามสิทธิที่ 1 หรือ 2 ก่อน จึงจะสามารถรับสิทธิที่ 3
เราก้มลงอ่านแผ่นพับอีกครั้ง ในแผ่นพับระบุว่า "สิทธิพิเศษ 3 เพียงนำ Privilege Program May 2016 ฉบับนี้ มาแสดง ณ เคาน์เตอร์โซลวาซูทุกสาขา รับทันที Sulwhasoo VIP Evenfair Perfecting Cushion ขนาด 5 กรัม มูลค่า 500 บาท (สินค้ามีจำนวนจำกัด)" เราก็แจ้งกับพนักงาน โดยพนักงานยังยืนยันว่า ไม่ใช่ ต้องซื้อสินค้าเท่านั้น ความรู้สึกเราในตอนนั้น เรารู้สึกว่า แค่มารับตัวทดลอง ทำไมจึงถูกมองเหมือนมาขอข้าวใครกิน หรือพวกไร้การศึกษาอ่านหนังสือไม่แตก ทั้ง ๆ ที่ในแผ่นพับก็เขียนออกจะชัดเจนเสียขนาดนั้น
ถ้าพนักงานบอกเราว่า ของหมด แต่มีให้ลองที่หน้าเคาน์เตอร์จะลองไหม ยังจะดีเสียกว่า อวจนภาษาที่แสดงออกมา แม้จะไม่ได้พูดจาหยาบคาย แต่ก็ไม่ได้ทำท่าต้อนรับ ทั้ง ๆ ที่เราเป็นลูกค้าเก่า เป็นสมาชิก Sulwhasoo มันทำให้เราคิดถึงเวลาไปซื้อเครื่องสำอางค์ในต่างประเทศ ยกตัวอย่าง เช่น sephora ในอเมริกา เวลาที่พวก tester หมด เค้าจะไปหยิบตลับเปล่ามาใส่ tester ที่ใช้ในร้านให้เรา จะเอาจำนวนกี่ปั๊ม กี่แบรนด์ ก็ได้ หรืออย่างใน selfridges เวลาที่ซื้อเครื่องสำอางค์แม้เพียงชิ้นเดียว แถม tester กันแบบใช้ไปได้หลายเดือน เพราะการตลาดของแบรนด์เครื่องสำอางค์ นอกจากลูกค้าจะต้องพอใจในคุณภาพของสินค้าแล้ว ยังต้องพอใจคุณภาพบริการ ด้วย
เดินทางมาหลายประเทศ สื่อสารได้มากกว่าหนึ่งภาษา ไม่เคยคิดว่า จะต้องกลายเป็นพวกอ่านภาษาไทยไม่แตกฉาน น่าเสียดาย ที่กลยุทธ์การตลาดของ Sulwhasoo ที่หวังให้ลูกค้าเก่า เดินไปที่เคาน์เตอร์ เกิดการซื้อซ้ำ กลับกลายเป็นการสูญเสียลูกค้าเก่าไป อย่างจดจำไว้ในใจไม่ลืม เขียนไว้ เพราะไม่อยากให้คนอื่น ๆ ต้องเสียเวลา และเสียความรู้สึกเหมือนที่เราโดน
ปล. 5 กรัม นี่ กระจิ๊ด กระจ้อยร่อย มากนะ ใช้วัน หรือสองวันก็หมด ไม่ได้ ก็มีความสามารถซื้อตลับปกติเอง แต่ขอยืนยันว่าจะไม่ซื้อแบรนด์นี้ จากนี้และตลอดไป