คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คนไทยถูกหลอก เพราะไอ้ข้อความที่แชร์มาแบบผิดๆนี่ล่ะ
เนื้อทุเรียนหมอนทองสุก
100 กรัม ให้พลังงาน 163 kcal ประกอบไปด้วย
- คาร์โบไฮเดรต 31.2 กรัม
- โปรตีน 2.1 กรัม
- ไขมัน 3.3 กรัม
- น้ำ 62.5 กรัม
- สารอาหารอื่นๆ 0.9 กรัม
แอปเปิ้ลแดง
100 กรัม ให้พลังงาน 52 kcal
ถามจริงเหอะ โลกนี้มันมีอะไรที่กินแล้วไม่อ้วนเหรอ??? ถ้ากินแล้วไม่อ้วนเลยก็คือของที่กินไปเราย่อยไม่ได้
เพราะถ้าย่อยได้มันเอาไปเป็นพลังงานได้หมดล่ะ และถ้าพลังงานที่ย่อยไปใช้ไม่หมด ก็สะสมเป็นความอ้วนได้อยู่ดี
ไอ้คำพวกนี้ก็หลอกทั้งนั้น
1. ช่วยฆ่าเชื้อ จากกำมะถันในเนื้อเป็นเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ ถ่ายพยาธิ
=> กำมะถันใช้เป็นเหมือนยาปฏิชีวนะได้??? ถ้าได้จริงไม่เอาไปสกัดเป็นยา ถ้ามันจริงป่านนี้ฝรั่งเอาไปทำยาหมดแล้ว มันไม่รอให้คนไทยมาเจอหรอก
2. ช่วยเผาผลาญ จากความร้อนของกำมะถัน จึงทำให้ลดความอ้วน
=> มันจะร้อนแค่ไหนเชียว ถ้าตรรกะแบบนี้กินน้ำร้อนก็ลดความอ้วนได้สิ
3. ช่วยระบาย จากกากที่เป็นเส้นใยยุ่บยั่บในเนื้อช่วยขัดล้างลำไส้
=> อันนี้ไม่ต้องทุเรียน ผลไม้ส่วนใหญ่มีไฟเบอร์เยอะอยู่แล้ว กินอะไรก็ได้หมดล่ะ
4.มีสารแอนตี้ออกซเด้นซ์และวิตามินอีสูง จะช่วยป้องกันและรักษา มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ลดไขมัน ลดคลอเรสเตอรอล ต้านความแก่
=> แอนตี้ออกซิเด้นซ์ ผักผลไม้อื่นๆก็มี ตัวที่มีเยอะที่สุดก็ไม่ใช่ทุเรียนนะ
ส่วนวิตามินอีสูง น้ำมันปาร์มก็สูงนะวิตามินอี อะไรที่มันมีวิตามินอีสูง มันจะมาพร้อมกับไขมัน เพราะวิตามินอีมันอยู่ในไขมันเท่านั้น
เนื้อทุเรียนหมอนทองสุก
100 กรัม ให้พลังงาน 163 kcal ประกอบไปด้วย
- คาร์โบไฮเดรต 31.2 กรัม
- โปรตีน 2.1 กรัม
- ไขมัน 3.3 กรัม
- น้ำ 62.5 กรัม
- สารอาหารอื่นๆ 0.9 กรัม
แอปเปิ้ลแดง
100 กรัม ให้พลังงาน 52 kcal
ถามจริงเหอะ โลกนี้มันมีอะไรที่กินแล้วไม่อ้วนเหรอ??? ถ้ากินแล้วไม่อ้วนเลยก็คือของที่กินไปเราย่อยไม่ได้
เพราะถ้าย่อยได้มันเอาไปเป็นพลังงานได้หมดล่ะ และถ้าพลังงานที่ย่อยไปใช้ไม่หมด ก็สะสมเป็นความอ้วนได้อยู่ดี
ไอ้คำพวกนี้ก็หลอกทั้งนั้น
1. ช่วยฆ่าเชื้อ จากกำมะถันในเนื้อเป็นเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ ถ่ายพยาธิ
=> กำมะถันใช้เป็นเหมือนยาปฏิชีวนะได้??? ถ้าได้จริงไม่เอาไปสกัดเป็นยา ถ้ามันจริงป่านนี้ฝรั่งเอาไปทำยาหมดแล้ว มันไม่รอให้คนไทยมาเจอหรอก
2. ช่วยเผาผลาญ จากความร้อนของกำมะถัน จึงทำให้ลดความอ้วน
=> มันจะร้อนแค่ไหนเชียว ถ้าตรรกะแบบนี้กินน้ำร้อนก็ลดความอ้วนได้สิ
3. ช่วยระบาย จากกากที่เป็นเส้นใยยุ่บยั่บในเนื้อช่วยขัดล้างลำไส้
=> อันนี้ไม่ต้องทุเรียน ผลไม้ส่วนใหญ่มีไฟเบอร์เยอะอยู่แล้ว กินอะไรก็ได้หมดล่ะ
4.มีสารแอนตี้ออกซเด้นซ์และวิตามินอีสูง จะช่วยป้องกันและรักษา มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ลดไขมัน ลดคลอเรสเตอรอล ต้านความแก่
=> แอนตี้ออกซิเด้นซ์ ผักผลไม้อื่นๆก็มี ตัวที่มีเยอะที่สุดก็ไม่ใช่ทุเรียนนะ
ส่วนวิตามินอีสูง น้ำมันปาร์มก็สูงนะวิตามินอี อะไรที่มันมีวิตามินอีสูง มันจะมาพร้อมกับไขมัน เพราะวิตามินอีมันอยู่ในไขมันเท่านั้น
สมาชิกหมายเลข 1872836 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 816188 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1863843 ถูกใจ, jevaisbien ถูกใจ, Black Eyed Peas ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1266091 ถูกใจ, hamuhamoo ถูกใจ, โลมาเรืองแสง ถูกใจ, ZeiZeR ถูกใจ, onsecondthoughts ถูกใจรวมถึงอีก 25 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
คนไทยถูกหลอกว่ากินทุเรียนแล้วอ้วน จริงหรอ
คนไทยถูกหลอก ว่ากินทุเรียนแล้วอ้วน กินทุเรียนแล้วเป็นเบาหวาน
แต่มีงานวิจัยทั้งไทยและเมืองนอกรองรับว่า ทุเรียนคือราชาแห่งผลไม้
เพียงแต่รัฐบาลไม่มีเงินงบประมาณไปโฆษณาแข่งกับแอปเปิ้ลหรือผลไม้นอก
สรรพคุณของทุเรียน
1. ช่วยฆ่าเชื้อ จากกำมะถันในเนื้อเป็นเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ ถ่ายพยาธิ
2. ช่วยเผาผลาญ จากความร้อนของกำมะถัน จึงทำให้ลดความอ้วน
3. ช่วยระบาย จากกากที่เป็นเส้นใยยุ่บยั่บในเนื้อช่วยขัดล้างลำไส้
4.มีสารแอนตี้ออกซเด้นซ์และวิตามินอีสูง จะช่วยป้องกันและรักษา มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ลดไขมัน ลดคลอเรสเตอรอล ต้านความแก่
วิธีกินทุเรียน
เริ่มกินหลังตื่นนอนตอนเช้า ช่วงเวลา 5.00-7.00 น
กินครั้งละไม่เกิน 2-3 พู เท่ากับ 4-6 เม็ด หรือเกือบครึ่งลูกกินได้ทุกพันธุ์
หลังจากนั้นก็ให้ ดื่มน้ำอุ่นตาม คำแนะนำควร งดอาหารเช้าของวันนั้นๆ
และกินติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน เพราะความร้อนจากสารกำมะถันและเส้นใยในทุเรียนจะไปชวยชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆภายในลำไส้และยังช่วยให้ร่างกายสดชื่นอีกด้วย อาจกิน 2 พูแทนข้าวมื้อเย็นได้